"มาสเตอร์การ์ด" เผยผลสำรวจ คนไทย 95% ออมเงินเพื่อการศึกษาของลูก มากสุดในเอเชียแปซิฟิก พบกว่าครึ่งหนึ่งมีการใช้จ่าย 11-30% ของรายได้ครัวเรือน เน้นส่งลูกเรียนพิเศษนอกหลักสูตร ส่วนมากด้านภาษาต่างประเทศ...
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2556 ผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ดเกี่ยวกับการให้ความสำคัญด้านการซื้อ หรือ MasterCard Survey on Consumer Purchasing Prioritie เปิดเผยว่า ผู้บริโภคไทยถึงร้อยละ 95 เก็บออมจากรายได้ของพวกเขา เพื่อการศึกษาของบุตรหลาน ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และพบว่า กว่าครึ่งหนึ่งของพ่อแม่ชาวไทยใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของเด็ก เป็นจำนวนร้อยละ 11-30 ของรายได้ครัวเรือน และเกือบ 9 ใน 10 ของผู้บริโภคชาวไทยส่งลูกเข้าชั้นเรียนพิเศษเพิ่มเติมนอกหลักสูตร เพื่อเป็นการลงทุนสำหรับอนาคตที่สดใสของเด็กๆ
จากตัวเลขผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคในประเทศไทยอยู่อันดับสูงสุดของภูมิภาค ทางด้านการออมเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อการศึกษาของลูก (95%) ตามมาติดๆ ด้วยผู้บริโภคในมาเลเซีย (94%) อินโดนีเซีย (83%) และสิงคโปร์ (83%)
นอกจากนี้ ผู้ปกครองชาวไทยเกือบ 9 ใน 10 คน ยังส่งบุตรหลานเข้าเรียนพิเศษนอกหลักสูตรเพิ่มเติม (89%) โดยส่วนมากจะเป็นการเรียนภาษาต่างประเทศ (49%) ดนตรี (42%) และกีฬา (40%) ส่วนในแง่ของการศึกษาระดับสูงนั้น การเข้ามหาวิทยาลัยภายในประเทศยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากพ่อแม่ชาวไทย (64%) โดยมีพ่อแม่เพียงบางส่วนเท่านั้นที่วางแผนจะส่งลูกไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ คิดเป็นร้อยละ 19 สำหรับพ่อแม่ที่คิดจะส่งลูกไปเรียนต่อในทวีปอเมริกา และร้อยละ 15 สำหรับทวีปยุโรป
นอกเหนือจากแผนการลงทุนทางด้านการศึกษาสำหรับลูกๆ แล้ว ยังมีชาวไทยที่เป็นผู้ใหญ่จำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มความรู้ความสามารถทางวิชาการให้แก่ตนเอง ผลการสำรวจพบว่าผู้เข้าร่วมในการวิจัยเกินกว่าครึ่ง (ร้อยละ 53) ให้ความสนใจในการเข้าร่วมหลักสูตรทางการศึกษาใน 1 ปีข้างหน้า โดยสัดส่วนผู้ที่สนใจเรียนแบบเต็มเวลา (full-time) นั้นเท่ากับการเรียนนอกเวลา (part-time)
ส่วนเหตุผลหลักที่ผลักดันให้ผู้บริโภคเหล่านี้ต้องการเพิ่มพูนความรู้มาก ที่สุด 3 ข้อได้แก่ ความต้องการในการศึกษาเพิ่มเติม (49%) หลักสูตรมีความเกี่ยวข้องกับอาชีพที่พวกเขาอยากทำ (35%) และเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง หรืองานอดิเรกของพวกเขา (17%)