ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการนำคะแนนแบบทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต มา เป็นส่วนหนึ่งในการประเมินและเลื่อนวิทยฐานะไม่ก่อให้เกิดความยุติกรรมกับครูว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา (ก.ค.ศ.) ยังไม่ได้ยกเลิกหลักเกณฑ์การ ประเมินแบบเดิม ถือว่าครูยังไม่เสียสิทธิและเสียโอกาส อย่างไรก็ตาม แต่ละปีรัฐบาลลงทุนเรื่องบุคลากรที่เป็นเงินเดือนและเงินวิทยฐานะสูงมาก โดยปี 2555 ใช้งบประมาณสำหรับเงิน วิทยฐานะ 30,000 ล้านบาท และแต่ละปีต้องใช้ งบฯจัดสอบโอเน็ต 600 ล้านบาท แต่เมื่อดูผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กกลับไม่สูงขึ้นตามงบฯที่ลงทุน จึงต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านความรับผิดชอบต่อผลการเรียนของเด็ก โดยผูกเงื่อนไขของการประเมินวิทยฐานะของครูกับผลที่เกิดขึ้นกับตัวนักเรียนโดยใช้คะแนนโอเน็ตซึ่งเป็นเครื่องมือ

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีครู คศ.2 ที่รอการประเมินวิทยฐานะ 159,907 ราย จึงต้องหาทางให้ครูเหล่านี้ได้เติบโตบนความสามารถของตัวเอง โดยการใช้คะแนนโอเน็ตให้เกิดประโยชน์ ส่วนที่มองว่าครูที่สอนในพื้นที่ห่างไกล และมีตัวป้อนเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งนั้น เราคิดกันอยู่ว่ากลุ่มอาจต้องพิจารณาเรื่องพัฒนาการที่เกิดขึ้นกับตัวนักเรียน เช่น ปีต่อไปครูทำให้เด็ก มีคะแนนสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ก็จะถือเป็นผลงาน ที่นำไปสู่ความก้าวหน้าของครูได้.