พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
หวานปนห้าวกำลังดี ‘เอม’ สาวศิลปกรรม ดาว ม.ธุรกิจบัณฑิตย์



ทันทีที่ 'สวัสดีแคมปัส' ไปถึงมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพื่อพบกับดาวมหาวิทยาลัยปีล่าสุด ก็พบกับสาวหน้าหวาน ท่าทางทะมัดทะแมง มือหิ้วกระดานวาดรูป เดินยิ้มเข้ามาทักทาย ก่อนจะแนะนำตัวกับเรา ไม่ผิดหรอก เธอคนนี้แหละดาวมหาวิทยาลัย ซึ่งบุคลิกนอกจากแตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นอยู่ไม่น้อยแล้ว ความน่าสนใจของเธอคือการเรียนสายอาชีพก่อนจะมาเป็นเฟรชชี่ที่นี่

น้องเอม นางสาวศุกลนิจ เมทางสุเวช นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาคอมพิวเตอร์กราฟฟิก คณะศิลปกรรมศาสตร์ ดาวมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ปีล่าสุด เล่าว่า การเข้าประกวดดาวมหาวิทยาลัยนั้น มาจากการที่พี่ๆ เสนอชื่อเธอตั้งแต่ระดับสาขา ก่อนจะเป็นตัวแทนคณะเข้าไปประกวดในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งต้องฝึกและปรับเปลี่ยนบุคลิกเยอะมาก เพราะความจริงแล้วเป็นคนห้าวๆ การเดินก็จะดูไม่สวยงาม จึงใช้เวลาฝึกซ้อมนานพอสมควร ต่างกับการแสดงความสามารถบนเวที ซึ่งใช้ความสามารถด้านการเต้นโคฟเวอร์ กิจกรรมที่รักและผูกพันมากว่า 2 ปี ตั้งแต่ยังเรียนวิทยาลัยสยามบริหารธุรกิจ สะพานใหม่

"ตอนเรียนอยู่วิทยาลัย จะมีกลุ่มและชมรมที่เต้นกันอยู่แล้ว จนวันหนึ่งเพื่อนก็ชวนให้ลองไปเต้นดู พอเราลองเต้นก็รู้สึกมีความสุข จากเป็นคนไม่กล้าแสดงออก ก็ซ้อมกับทีมไปแข่งตามงานต่างๆ หลายงาน ได้รางวัลชนะเลิศ สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน จนทางโรงเรียนทำสถานที่ซ้อมให้โดยเฉพาะ เหมือนเราเป็นตัวของตัวเองมากเมื่อได้เต้น เวลาเต้นก็มักจะเต้นโคฟเวอร์ผู้ชาย เพราะด้วยบุคลิกของเราที่ดูห้าวๆ จึงได้นำมาใช้เป็นความสามารถพิเศษบนเวทีประกวดดาว-เดือนด้วย แต่ที่น่าเสียดายคือตอนนี้หยุดการเต้นโคฟเวอร์กับทีมเพื่อนแล้ว เพราะคุณพ่อต้องการจะเรียนในระดับมหาวิทยาลัยและมีเวลาพักผ่อนเต็มที่"

ดาว ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ บอกว่า ในการประกวดก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ เพราะคนที่เข้าประกวดก็ดูน่ารักกันทุกคน ยิ่งบุคลิกของเราเป็นแบบนี้ด้วย แต่พอผลประกาศออกมาก็รู้สึกดีใจ หลังจากนั้นก็มีคนเข้าทักอยู่บ่อยถึง แม้บางทีเราอาจไม่รู้จัก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้เราได้มีเพื่อนและรู้จักคนมากขึ้น

ส่วนการต่อยอดในสายประกวดนั้น น้องเอม บอกว่า ก็มีพี่ๆ บางคนมาชวนให้ลองไปสมัครดู แต่คิดว่าตัวเองไม่ถนัดกับด้านนี้ ถ้าเป็นการแสดงออกในด้านอื่นๆ ก็ไม่แน่ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีถ่ายซีรี่ย์ซึ่งยังไม่ออนแอร์ รวมทั้งงานพิธีกรด้วย

สำหรับด้านการเรียน ซึ่งน้องเอมเรียนสายอาชีพและเรียนด้านกราฟฟิกมาโดยตรง การเลือกเข้าคณะนี้จึงสามารถตอบโจทย์และต่อยอดได้เป็นอย่างดี เธอบอกว่า ส่วนตัวชอบทางด้านนี้มาตั้งแต่ก่อนเข้าไปเรียนในวิทยาลัยแล้ว พอเรียนแล้วก็รู้สึกว่ามันใช่ เกรดเฉลี่ยก็อยู่ในระดับที่ดี จึงเลือกเรียนด้านนี้ ส่วนเหตุที่เลือก ม.ธุรกิจบัณฑิตย์เพราะมีพี่ๆ แนะนำ รวมทั้งใกล้กับที่บ้านด้วย โดยเมื่อเรียนจบแล้วคุณพ่อก็อยากให้ไปช่วยธุรกิจส่วนตัวของที่บ้าน ซึ่งก็เปิดร้านคอมพิวเตอร์และรับทำงานทางด้านคอมพิวเตอร์อยู่แล้วด้วย

"การที่เราจบสายอาชีพมา ทำให้เรามีพื้นฐานการปฏิบัติที่ค่อนข้างแน่น การเริ่มเรียนในมหาวิทยาลัยช่วงแรก แม้คนที่ไม่ได้เรียนสายอาชีพมาก็สามารถเรียนรู้ใหม่ได้ เพราะที่นี่เค้าเริ่มใหม่ตั้งแต่แรก เราก็ได้ประโยชน์จากตรงนี้ไป ส่วนการเรียนภาคปฏิบัติเราก็ต้องใช้ความมานะ พยายามมากกว่าคนอื่นๆ อยู่บ้าง ล่าสุดหลังจากสอบมิดเทอมไป เราก็สามารถทำคะแนนผ่านทุกวิชา อยากให้คนที่เรียนสายอาชีพมาอย่าท้อ อย่าไปแคร์บางคำพูดที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี แต่เชื่อเถอะว่าการที่เราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก สักวันมันต้องออกมาดี แล้วเราก็จะมีความสุขกับมันเอง"

เมื่อคุยถึงเรื่องพี่น้อง น้องเอม เล่าว่า เธอมีฝาแฝดน้องชื่อแอม ซึ่งไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ตั้งแต่เรียนระดับวิทยาลัยก็ทำกิจกรรมเต้นโคฟเวอร์ด้วยกัน พอมาเรียนก็มาเรียนคณะและสาขาเดียวกัน แต่โชคร้ายที่ชื่อเธอกับน้องซึ่งอยู่ติดกันนั้น ถูกปรับให้เรียนคนละกลุ่มพอดิบพอดี แต่ถึงอย่างไรก็ยังมาเรียนและกลับพร้อมกันอยู่ดี วันไหนใครที่มีเรียนเช้า อีกคนก็จะมาแต่เช้าด้วยเช่นกัน และต้องกลับพร้อมกัน

"การมีฝาแฝดมีข้อดีตรงที่เวลาไปไหนก็จะมีเพื่อนไปตลอด ไม่ต้องไปไหนมาไหนคนเดียวซึ่งค่อนข้างอันตราย เวลามีปัญหาก็สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง รู้ใจกัน ถึงแม้นิสัยอาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว เช่น ความชอบ หรือบุคลิกที่เราไม่เหมือนกัน คือแต่งตัวหรือตัดผมต่างกัน ส่วนข้อเสียนั้น ก็มีอยู่บ้างเมื่อเราอยู่ด้วยกันตลอด จึงทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่มักจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่นานก็กลับมาคุยกันดีเหมือนเดิมได้"

เมื่อถามถึงความสุขของน้องเอม เธอบอกว่า นอกจากการได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ รวมถึงการเต้นด้วยแล้ว คือการได้มีกิจกรรมร่วมกันหรืออยู่กับเพื่อนๆ ในกลุ่ม ส่วนความคาดหวังด้านการเรียนนั้น ก็จะพยายามทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำงาน และสามารถดูแลครอบครัวได้

"ไม่จำเป็นต้องไปคำนึงถึงผลหรอกว่ามันจะเป็นอย่างไร จะสำเร็จมั้ย แค่ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด เต็มที่กับมัน ไม่รู้สึกเสียดายเมื่อมองย้อนกลับมา และไม่ปล่อยชีวิตให้หมดไปวันๆ ก็พอ"

โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์





Create Date : 29 กันยายน 2555
Last Update : 29 กันยายน 2555 2:04:24 น. 0 comments
Counter : 2595 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.