The Schoolgirl's Diary หนังของ‘คิม จอง อิล’



The Schoolgirl's Diary
หนังของ‘คิม จอง อิล’

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 27 พฤษภาคม 2550


ช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ข่าวใหญ่ที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากที่สุดไม่พ้นข่าวเกาหลีเหนือทดลองอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรก หลังจากหนึ่งปีก่อนหน้านั้น “อาณาจักรหลีกเร้น” บนคาบสมุทรเกาหลีเพิ่งประกาศให้โลกรับรู้ว่าตนเองมีนิวเคลียร์ในครอบครอง

เจอดอกนี้เข้า ทั้งสหรัฐ รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แม้แต่จีนซึ่งเป็นพันธมิตรกับโสมแดง ถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้า จ้องจะจัดการกับอาการดื้อดึงของเกาหลีเหนือ จนกลายเป็นวิกฤตนิวเคลียร์รอบใหม่จากที่ยืดเยื้อคาราคาซังบนโต๊ะเจรจามาตลอด กระทั่งในการเจรจา 6 ฝ่าย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือแบะท่าว่าจะยอมถอยเพื่อยุติปัญหา

ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับข่าวโสมแดงทดลองนุก มีข่าวเล็กๆ คนละอารมณ์เผยแพร่ในสื่อต่างประเทศว่า “ท่านผู้นำที่รัก” คิม จอง อิล เข้าไปเกี่ยวพันกับเด็กสาววัยเรียน ในทำนองว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุน “เธอ” อย่างเต็มตัว จนประสบความสำเร็จ เด่นดัง และกำลังจะโกอินเตอร์!

เด็กสาวที่ว่านี้ชื่อ Han nyeohaksaengeui ilgi หรือ The Schoolgirl's Diary หนึ่งในหนัง 2 เรื่อง ของเกาหลีเหนือที่สร้างในปี 2006 ซึ่งว่ากันว่า คิม จอง อิล ลงไปคลุกในขบวนการผลิตตั้งแต่ขั้นตอนร่างบทหนังเลยทีเดียว

ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือสร้างหนัง... นึกภาพตามอาจจะแปลกพอสมควร ผู้นำประเทศคอมมิวนิสต์ที่ร่ำๆ ว่าจะทดลองนิวเคลียร์ไยมีอารมณ์สุนทรีย์ไปทำหนัง แต่หากติดตามความเป็นมาเป็นไปของคิม จอง อิล มาตลอด จะพบว่าเป็นเรื่องไม่เกินความคาดหมายนัก เพราะคิม จอง อิล เป็นคนที่หลงใหลในมายาแห่งภาพยนตร์มาแต่ไหนแต่ไร

มีข่าวไม่ยืนยันว่าเขาเคยเขียนบทและกำกับหนังหลายเรื่อง และเป็นเจ้าของหอภาพยนตร์ที่มีหนังไม่น้อยกว่า 15,000 เรื่อง จากทั่วโลก ขณะที่ข่าวซึ่งยืนยันได้คือ ปี 1978 เขาอยู่เบื้องหลังการลักพาตัว ชิน ซาง อ็อก ผู้กำกับแถวหน้าชาวเกาหลีใต้ พร้อมภรรยาซึ่งเป็นนักแสดง เพื่อให้มาทำหนังโฆษณาชวนเชื่อรูปแบบใหม่ๆ หลังจากเห็นว่าผู้กำกับฯที่มีอยู่เดิมเอาแต่ทำหนังซ้ำซากตามหน้าที่ ไร้ความคิดสร้างสรรค์

สำหรับบันทึกของเด็กสาวนักเรียน หรือ The Schoolgirl's Diary สำนักข่าวของทางการเกาหลีเหนืออย่างเคซีเอ็นเอรายงานว่า คิม จอง อิล ใช้เวลาระหว่างการตรวจหน่วยทหารตามแนวหน้าในการทำสคริปต์และดูแลการผลิต กระทั่งเสร็จสมบูรณ์เป็นหนังความยาว 94 นาที ที่ถูกยกย่องว่าเป็น “งานชิ้นเอกแห่งยุคสมัย”

*หนังเล่าถึงเด็กสาววัยรุ่นชื่อ ซู-รียอน อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ในชนบท กับพ่อซึ่งเป็นนักวิจัย แม่ผู้เป็นบรรณารักษ์ของสถาบันวิทยาศาสตร์ ส่วนน้องสาวทอมบอยกำลังไปได้สวยกับการเป็นนักฟุตบอล

ซู-รียอนไม่มีความสุขนักที่โรงเรียน เธอมักจะมองเพื่อนนักเรียนคนอื่นโดยเปรียบเทียบกับตนเอง เช่น อยากมีสิ่งของเครื่องใช้ทัดเทียมเพื่อน อยากอยู่ในอพาร์ตเมนต์ในเมืองแทนที่จะเป็นบ้านหลังเล็กในชนบท เรียกได้ว่าเธอไม่พอใจกับสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวตนเองเท่าใดนัก

กระทั่งแม่ล้มป่วยลง ส่วนพ่อต้องทุ่มเททำงานเมื่อมองเห็นว่าความสำเร็จครั้งใหญ่ในงานวิจัยจะช่วยให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น ความทุกข์ยากลำบากเหล่านี้ทำให้ซู-รียอนคิดได้ว่าที่ผ่านมาเธอเห็นแก่ตัวเองมาตลอด เธอควรจะภาคภูมิใจและไว้ใจพ่อแม่ มีความสุขกับชีวิต กระทั่งสุดท้ายซู-รียอนเดินตามรอยเท้าพ่อของเธอด้วยการเป็นนักวิจัย

หนังกำกับโดย จาง อิน ฮัก ผู้กำกับฯวัย 65 ปี ส่วนบทซู-รียอนซึ่งเป็นศูนย์กลางของเรื่องรับบทโดย ปัก มิ ฮยาง นักแสดงสาววัย 18 ปี ที่เพิ่งได้รับบทนำเป็นครั้งแรก ออกฉายเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2006 และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ว่ากันว่ายอดขายตั๋วหนังเรื่องนี้สูงถึง 8 ล้านใบ หรือ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรโสมแดง 23 ล้านคน

ด้วยยอดขายตั๋วเท่านี้หากเป็นหนังเกาหลีใต้จะสามารถครองอันดับ 7 บนตารางหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล ตามหลังหนังดังอย่าง The Host(2006) The King and the Clown(2005) และ Taegukgi: The Brotherhood of War(2004) ที่ยืนสง่าอยู่หัวแถวเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าปีที่แล้วเกาหลีเหนือสร้างหนังเพียง 2 เรื่อง ขณะที่โรงภาพยนตร์ถูกห้ามฉายหนังต่างประเทศ

ความสำเร็จสูงสุดดังกล่าว บวกกับความแตกต่างจากหนังเกาหลีเหนือคลาสสิคเรื่องอื่นๆ เกิดไปเข้าตาผู้จัดจำหน่ายจากฝรั่งเศสที่ได้รู้จักหนังเรื่องนี้ในเทศกาลภาพยนตร์เปียงยาง(เทศกาลที่ฉายหนังจากทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐอเมริกากับเกาหลีใต้) จนต้องติดต่อขอซื้อไปฉายในฝรั่งเศส และถือเป็นหนังเกาหลีเหนือเรื่องแรกในรอบกว่าทศวรรษที่ส่งออกไปยุโรป

ทั้งนี้ ผู้จัดจำหน่ายยังหวังล่วงหน้าว่าเทศกาลหนังเมืองคานส์ในเดือนพฤษภาคมปี 2007 จะมีหนังเรื่องนี้ร่วมฉายด้วย (สุดท้ายหนังได้ฉายใน “ตลาดหนัง” ในเทศกาลเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา)

แล้ว “บันทึกของเด็กสาวนักเรียน” มีแง่มุมของการโฆษณาชวนเชื่ออย่างไร...

พิจารณาจากเค้าโครงเรื่องแล้ว หนังคงต้องการสื่อสารไปยังคนรุ่นใหม่ของเกาหลีเหนือให้เคารพในคนรุ่นพ่อแม่ เชื่อมั่นในคุณค่าของการอุทิศตนทำงานหนัก ใช้ชีวิตอย่างมีหลักเกณฑ์เพื่อสังคมส่วนรวม อันเป็นอุดมคติตามลัทธิจูเช่

ขณะเดียวกัน การที่บทหนัง(ซึ่งว่ากันว่า คิม จอง อิล เป็นต้นคิด) กำหนดให้ตัวละครพ่อเป็นนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หวังจะประสบความสำเร็จในงานวิจัยครั้งใหญ่เพื่อให้คนในครอบครัวมีความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยให้ (คนรุ่น) ลูกเฝ้ามองอย่างชื่นชม ยังสอดคล้องกับเกาหลีเหนือที่ท่านผู้นำคิม จอง อิล มุ่งหมายทดลองระเบิดนิวเคลียร์เพื่อไม่ให้ประเทศต้องถูกรุกราน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนชาวเกาหลีเหนือ

ความสำเร็จสูงสุดภายในประเทศของหนัง “บันทึกของเด็กสาวนักเรียน” อาจจะถือได้ว่าหนังทำหน้าที่ “กระบอกเสียงของรัฐ” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนการโกอินเตอร์ด้วยคำโฆษณาในเวทีนานาชาติว่าเป็น “ผลงานของคิม จอง อิล” บุรุษลึกลับที่เพิ่งทำให้โลกอกสั่นขวัญแขวน คงเป็นผลพลอยได้ที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน

และคงไม่มีใครคิดว่าเป็นแผนโปรโมตหนังของท่านผู้นำ



Create Date : 27 ตุลาคม 2550
Last Update : 27 ตุลาคม 2550 21:02:51 น. 21 comments
Counter : 2690 Pageviews.

 

ภาพ reuters

เอาบทความเรื่อง The Schoolgirl's Diary มาลง เพราะเมื่อวันที่ 2-4 ตุลาคม มีการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี โรห์ มู ฮุน ของเกาหลีใต้ กับ คิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่กรุงเปียงยาง ถือเป็นการพบปะครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ระหว่างผู้นำ 2 โสม

สาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ไม่มีอะไรเป็นมรรคผลมากนัก ขณะที่ในบ้านเราให้ความสนใจข่าวนี้เพียงแค่ gimmick ของข่าวที่ว่าทางเกาหลีใต้ได้มอบชุดโฮมเธียเตอร์ พร้อมดีวีดีหนังและซีรีส์ที่แสดงโดย ลี ยอง เอ เป็นของขวัญแด่ คิม จอง อิล เพราะรู้ว่า “ท่านผู้นำที่รัก” ปลื้มเธอเป็นพิเศษ

เชื่อว่าในแพ็คเกจของขวัญนี้ไม่ตกหล่นเรื่อง “แดจังกึม” เป็นแน่



โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 27 ตุลาคม 2550 เวลา:21:05:48 น.  

 
หนังที่ "ว่าจะ" ดูใน world film bkk # 5 (ใช้คำว่า "ว่าจะ" เพราะยังไม่ได้จัดโปรแกรมเป็นเรื่องเป็นราว)

MOSQUITO PROBLEM AND OTHER STORIES, THE **
2007 / Bulgaria / 111 min / Beta SP / Documentary

DEMENTED **
2006 / France / 95 min / 35mm / Drama

DALLAS AMONG US
2005 / Hungary / 93 min / 35mm / Drama

EGG **
2007 / Turkey / 97 min / 35mm / Drama

4 ELEMENTS
2006 / Netherlands / 89 min / 35mm / Documentary

BAND'S VISIT, THE **
2007 / Israel / 85 min / 35mm / Comedy,Drama

I SERVED THE KING OF ENGLAND
2006 / Czech Republic / 120 min / 35mm / Comedy,Romance,War / Q&A

HELP ME EROS **
2007 / Taiwan / 86 min / 35mm / Drama,Comedy / Q&A

MURMURING COAST **
2004 / Portugal / 120 min / 35mm / Drama

IMPORT EXPORT
2006 / Austria / 135 min / 35mm / Drama

THING WE DO WHEN WE FALL IN LOVE
2007 / Malaysia / 89 min / Bete SP / Drama

FALLEN **
2005 / Latvia / 90 min / 35mm / Drama / Q&A

4 MONTHS, 3 WEEKS AND 2 DAYS **
2007 / Romania / 113 min / 35mm / Drama

ALICE
2005 / Portugal / 102 in / 35mm / Drama

MAN FROM LONDON, THE
2007 / Hungary-France / 132 min / 35mm / Drama

(** เรื่องที่อยากดูมากๆ)


ว่าแต่ To Each His Cinema รวมหนังสั้นเกี่ยวกับ "ภาพยนตร์" โดยผู้กำกับฯหลายสิบคน ที่ เกรียงศักดิ์ ศิลากอง บอกในรายการช่อง 9 เมื่อคืนวาน ว่าฉายวันเสาร์ที่ 3 เวลาห้าโมง ทำไมไม่เห็นมีในโปรแกรมเลย
//imdb.com/title/tt0973844/


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 28 ตุลาคม 2550 เวลา:11:09:02 น.  

 
อยากดูหนังฝั่งเหนือมั่งจังครับ ผมไม่สนหรอกมันจะ prop หรือเปล่า อยากดูว่าเขาทำหนังแล้วออกมาแบบไหนมากกว่า (เพราะยังไงมันก็ต้อง prop อยู่แล้ว ห้าๆๆๆ)


โดย: nanoguy วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:14:40:17 น.  

 
ตอบ nanoguy
ผมก็อยากดูครับ


ได้คำตอบแล้วว่า To Each His Own Cinema (Chacun son Cinema) เปลี่ยนไปฉายวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย. รอบ 17.40 น.
ร้าน....... มีขายแล้ว แต่ควรต้องดูในโรงให้สมกับความเป็นมาของหนัง ฉลอง 60 ปี เทศกาลคานส์ฟิล์ม

29 ตุลาคม

THE MOSQUITO PROBLEM AND OTHER STORIES ★★★☆
สารคดีดูเพลินเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองเล็กๆ ในบัลแกเรีย นอกจากโรงงานนิวเคลียร์ร้าง กับตึกพรรคคอมมิวนิสต์ที่กลายเป็นโรงเลี้ยงสัตว์ สิ่งที่คอมมิวนิสต์ทิ้งไว้ที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือ ยุง
ชอบแง่มุมการเมืองกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เป็นแบ็คกราวน์ด (ช่วงเวลาที่โรงงานนิวเคลียร์ที่นี่ปิดน่าจะเป็นผลพวงจากเหตุ เชอร์โนบิล ปี 1986)
แย่ตรงที่ภาพหม่นมัวอย่างหนักจนตาลายแล้วเผลองีบไปหลายที (ฉายด้วย Beta SP)

DEMENTED ★★★★
ชอบมาก
ครอบครัวจิตป่วยกับเด็ก 10 ขวบ ที่รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวในโลก ฉากจบทรงพลังมาก แต่เสียดายไม่น่ามีภาพสุดท้าย


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:22:28:40 น.  

 
ชอบ DEMENTED มากๆ เหมือนกันครับ

Steve + Sky ก็ชอบเหมือนกัน แต่หนังมัน stylish เก๋ๆ น่ะครับ ผมว่าพี่อาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไร

ส่วน To Each His Own Cinema ก็อยากดูครับ แต่มันดันไปชนกับ Garden in Autumn ซึ่งมีแต่คนบอกว่า "ต้องดู"


โดย: merveillesxx วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:1:47:32 น.  

 
Demented ผมว่ามันเหมือน Hidden ไปหน่อย แหะๆๆ... ส่วนเด็กนั่นก็หน้าตายเกินเหตุ.. ทั้งๆที่แต่ละอย่างที่มันเห็นนี่โหดๆทั้งนั้น


โดย: nanoguy วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:3:02:48 น.  

 
ตอบ merveillesxx
Garden in Autumn "ต้องดู" เลยเหรอครับ
จองตั๋ว To Each... ไว้แล้วอ่ะ

ตอบ nanoguy
ระหว่างดูผมก็นึกถึง Hidden อยู่เรื่อยๆ เหมือนกัน
ตรงบ้านฟาร์มน่ะ ฉากคล้ายกัน ฟีลใกล้กัน


30 ตุลาคม

EGG ★★★☆
หนังตุรกีอารมณ์เนือยๆ เนิบๆ
ถึงโดยรวมจะดี แต่พล็อตคุ้นๆ สไตล์ซ้ำๆ ทำให้ประทับใจไม่มากนัก
น่าสนใจก็ตรง ไข่ นี่ล่ะ

4 ELEMENTS ★★★☆
หนังสารคดีจากเนเธอร์แลนด์ แต่ถ่ายทำใน 4 ประเทศ ที่ไม่ใช่เนเธอร์แลนด์ ตาม 4 เรื่องราว...ไฟ น้ำ ดิน อากาศ
ส่วนดีคือได้เห็นภาพที่ไม่เคยเห็น น่าทึ่งที่สุดคือตอนลงไปในเหมืองใต้ดิน
แต่ดูแล้วไม่มีอะไรติดใจหรือให้คิดต่อเลย แค่นำเสนอภาพชีวิตคน 4 กลุ่มที่ทำงานเกี่ยวพันกับธาตุทั้งสี่เท่านั้นเอง


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:22:10:35 น.  

 
Egg และ Phantom Love ทำผมตายไปเลย

แต่ Love Songs ก็เซอร์ไพรส์มากๆ


โดย: merveillesxx วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:3:50:02 น.  

 
วันนี้ดู Import Export ให้ A ครับ
หนังไม่แรง แต่หนักแน่น แต่ว่าน้ำหนักมันเอียงไปหน่อย คือตัวละครหญิงเด่นกว่าตัวละครชายเยอะไปหน่อย (ไม่รู้ผมคิดอยู่คนเดียวรึเปล่า หรือว่าเพราะนางเอกสวยเกินไป) แต่ถ่ายภาพเทพมาก


โดย: nanoguy วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:6:55:16 น.  

 
มาที่นี่ที่ไร กลับไปต้องดูหนังทุกที


โดย: ดาริกามณี วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:21:20:38 น.  

 
ตอบ merveillesxx
ชักเสียดาย Phantom Love ซะแล้ว

ตอบ nanoguy
import export ผมดูพรุ่งนี้ครับ

ตอบ ดาริกามณี
ยินดีครับ แวะมาบ่อยๆ นะ


วันที่ 31 ตุลาคม

THE BAND'S VISIT ★★★★
ชอบมากๆ
ลำพังพล็อตตำรวจอียิปต์หลงทางในอิสราเอลก็น่าสนใจแล้ว
หนังอาจจะ feel good ไปบ้าง แต่ผมชอบอารมณ์ประมาณนี้
ขำๆ นิ่งๆ ตัวละครหน้าตาย อาการผิดที่ผิดทาง สถานการณ์ชวนอมยิ้ม บทสนทนาเด็ดๆ มีฉากให้ซึมลึก
สุดท้ายเรื่องราวเบาๆ ก็มีแง่มุมชวนให้ขบคิดอยู่ไม่น้อย

I SERVED THE KING OF ENGLAND ★★★★☆
ตอนแรกเห็นภาพกับใบปิดไม่ค่อยอยากดูหนังเท่าไหร่ ประมาณว่าพีเรี้ยด..พีเรียด..
แต่พอดูแล้วปรากฏว่าชอบมากๆๆๆๆๆ
เป็นหัสนาฏกรรมฉากหน้าที่มีอารมณ์-รสชาติอีกมากมายอยู่เบื้องหลัง
อยากเขียนถึงยาวๆ แต่ดูรอบเดียวไม่พอ ต้องหาดูอีกสัก 1-2 รอบ เพราะมีรายละเอียดให้เก็บเกี่ยวอีกเยอะแยะ

ได้คุยกับผู้กำกับ Jiri Menzel ด้วย
เขาทักก่อนด้วยคำพูดว่า "you sit here?"
รีบตอบว่า yes ...แปลในใจได้ว่า เออสิ! ลุกเร็วๆ 555555
ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเป็นผู้กำกับฯ เรื่องของเรื่องคือผู้กำกับฯ กับคนของสถานทูต 3-4 คน มานั่งแถวหลังสุด พอคนที่จองตั๋วมาถึงก็ต้องเวนคืนกันวุ่นวาย

HELP ME EROS ★★★★
ชอบมากๆๆ
เป็นหนังที่น่าค้นหามากที่สุดที่ได้ดูในเทศกาล
โดนหลายฉาก แต่ที่โดนสุดสุดคือ ฉาก "วิ่งตรวจล็อตเตอรี่" ได้ทั้งอารมณ์และความหมายจริงๆ
ดีใจได้เจอ หลี่คังเซิง ตัวเป็นๆ


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:12:38 น.  

 
ชอบ Help Me Eros มากๆๆๆๆๆ เช่นกันครับ แต่ผมอินกับตัวละครสาวอ้วนมากกว่าพระเอกอีกนะ เธอน่าสงสารมากๆ ส่วนฉากบนดาดฟ้านี่ติดฉากแห่งปีแน่ๆ หลุยส์ วิตตอง และ ตลาดหุ้น โอ้วส์~

ส่วนอีกเรื่องวันนี้ดู Village People Radio Show ก็ได้ความรู้ใหม่ดี ประเทศไหนๆก็มองคอมมิวนิสต์เป็นตัวร้ายแบบเหมารวมทั้งนั้น (เฮ้อ.. ผลพวงของสตาลินแท้ๆ) แต่ไม่ชอบการนำเสนอเอาซะเลย...

เลยเสียดายที่ดันเลือกเรื่องนี้ ไม่เลือก I Served รอบ Q&A


โดย: nanoguy วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:42:58 น.  

 
Help Me Eros ผมเฉยๆอ่ะครับ แต่ที่ปลื้มคือที่ได้ถ่ายรูปกับ หลี่คังเซิงเนี่ยแหละ (วันนี้มาแบบดูดีเชียว) ต้องขอบคุณน้อง nanoguy ที่เป็นตากล้องให้

ส่วน Jiri Menzel ก็ขอลายเซ็นมา (ไม่อยากจะบอกเลยว่า ตอนดู Lark on String ของเขา เมื่อสองปีก่อนใน world film ผมหลับสนิท 555)

สรุป ผมเป้นพวกบ้าดาราครับ


โดย: merveillesxx วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:5:25:49 น.  

 
เสียดายไม่ได้ดู THE BAND'S VISIT


โดย: renton_renton วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:41:03 น.  

 
ตอบ nanoguy
Village People Radio Show ก็น่าสนใจครับ
ผมเคยดู The Last Communist แล้ว เลยอยากดูเรื่องนี้ด้วย

ตอบ merveillesxx
ผมก็อยากขอลายเซ็นนะ แต่เวลาเห็นคนรุมเยอะแล้วขี้เกียจรอ
ไว้ลองหาหนังเก่าของ Jiri Menzel มาดูบ้าง ยังไม่เคยดูสักเรื่อง

ตอบ renton
ไม่ต้องเสียดาย เดี๋ยวคงมีแผ่นออกมามั้ง


วันที่ 1 พฤศจิกายน

MURMURING COAST ★★★☆
หนังโปรตุเกสใช้ฉากหลังในโมซัมบิก แอฟริกา ย้อนไปประมาณปลายทศวรรษ 60 สมัยสงครามปลดแอกอาณานิคม
เกี่ยวกับหญิงสาวผิวขาวเมียทหารที่ถูกทิ้งไว้ตามลำพัง เพราะสามีไปปราบกบฏ
หนังดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สุด ทั้งที่เรื่องราวเอื้อมากๆ ใช้เวลานานกว่าจะเห็นทิศทางว่าหนังหันไปทางไหน
นางเอกแสดงโดย Beatriz Batarda บุคคลเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว กอปรกับดวงตาและใบหน้า ชวนให้นึกถึง คริสติน สก็อต โธมัส ที่สาวและสวยกว่า

IMPORT EXPORT ★★★★
ไม่รู้จะเขียนสั้นๆ ถึงหนังเรื่องนี้ยังไงดี
เอาเป็นว่านี่คือหนังที่ทำได้แน่น ดูแล้วอิ่ม แต่อิ่มด้วยความว่างโหวง โหยหา
และเหนื่อยที่ชีวิตต้องเดินทางอีกไกล...

THING WE DO WHEN WE FALL IN LOVE ★★★
อ่านพล็อตกับเห็นฉากแรกๆ แล้วนึกถึงหนังเกาหลี april snow
พอผ่านไปสัก 20 นาที กลับกลายเป็น twentynine palms
ตอนจบเปลี่ยนเป็นหนังเหงาเงียบ-ชีวิตคนเมือง แบบที่ฮิตๆ กัน
long take เป็นว่าเล่น ดูแล้วแปลกดี ไม่เคยดูหนังมาเลเซียแบบนี้ แต่โดยรวมค่อนไปทางเฉยๆ


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:57:27 น.  

 

Import / Export ผมเฉยๆครับ ต้องโทษภาพโปรโมตล่ะมั้งที่ดูเหวอมาก แต่ก็ชอบนะ

Things We Do ชอบ แต่น้อยกว่า Before We Fall In Love Again (แต่แอบขำฉากที่เดินไปง้อกันถึงทะเลทราย)

881 ชอบมาก หนังมันแร่ดๆ บ้าบอๆ ได้ใจมาก แค่ช่วงท้ายโมเลดราม่าไปหน่อย แต่ให้อภัย เพราะ ผกก. น่ารัก (ฮา)


โดย: merveillesxx วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:13:24 น.  

 
import export ::ชอบที่หนังพูดถึง คนงาน และ งานบริการ สารพัดรูปแบบ ปากกัดตีนถีบ ต่อสู้ ดิ้นรน

4 elements :: ชอบ.. ดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจ อยากทำหนัง...ฟังทันแต่ตอนที่ ผกก.บอกว่าตอนใต้ดินพูดถึง คนกับเครื่องจักร และตอนนักบินอวกาศพูดถึง คนที่รวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับเครื่องจักรเครื่องยนต์


โดย: renton_renton วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:58:34 น.  

 
ตอบ merveillesxx
Before We Fall In Love Again ผมไม่ได้ดู
ถ้าได้เห็นความเกี่ยวเนื่องกับเรื่อง Things (เนื้อหา+สไตล์) คงอินกับหนังมากขึ้น

ตอบ renton
อืม...ประเด็นเรื่องเครื่องจักรก็น่าคิด
ผมนึกถึงแต่ประเด็นว่ามนุษย์เอาชนะได้หมด แม้กระทั่งต้นกำเนิดของมนุษย์เอง


วันที่ 2 พฤศจิกายน

POSSIBLE LIVES ★★★★☆
หนังอาร์เจนตินาเกี่ยวกับภรรยาออกตามหาสามีที่หายตัวไป
หนังดีมาก ในบรรดาหนังประกวด 7 ใน 10 เรื่องที่ได้ดู ถ้าให้คะแนนแต่ละองค์ประกอบหนัง เรื่องนี้คงได้คะแนนรวมจากผมสูงที่สุด
ชอบที่หนังพูดถึงช่วงเวลายากลำบากเพียงช่วงสั้นๆ แต่ขยายให้ใหญ่และสร้างแรงสั่นสะเทือนได้รุนแรง
ดูแล้วนึกถึง XXY ที่ได้ดูในบางกอกฟิล์มที่ผ่านมา เป็นหนังจากอาร์เจนติน่าที่มีลักษณะคล้ายกัน แต่คงด้วยรื่องราวทำให้อินกับเรื่องนี้มากกว่า

TOKYO TOWER ★★★☆
หนังญี่ปุ่นว่าด้วยเรื่องราวผูกพันระหว่างแม่กับลูกที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาในช่วงเวลาที่แม่ป่วยหนัก
ทำได้ดีตามแนวทางของหนัง ดีที่ไม่ฟูมฟายเกินไป ใช้มุขตลกเป็นหลักในการเดินเรื่อง
พระเอกเป็นใครไม่รู้จัก ดูเท่ดี แต่ ทาคาโกะ มัตสึ เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนสาวน่ารักจาก april story แล้ว

FALLEN ★★★★
ตอนแรกนึกว่าจะเข้าใจยากกว่านี้ แต่ก็ยังเป็นหนังที่น่าค้นหาอยู่ดี
ต้นเรื่องพูดถึงพระเจ้ากับการฆ่าตัวตาย ตอนจบคนที่คิดว่าตายแล้วโผล่ออกมาจากโบสถ์ จะตีความเรื่องนี้ยังไงก็คงต้องเอี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา
ว่าแต่ชื่อหนังดั้งเดิมว่า Krisana นึกถึง พระกฤษณะ อวตารของ พระเจ้า ผู้สร้าง-ผู้ทำลายอีกองค์
ไม่รู้เกี่ยวอะไรกันหรือเปล่า หรือเป็นแค่ภาษาลัตเวีย


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:49:15 น.  

 

POSSIBLE LIVES ชอบมากเหมือนกันครับ แต่พี่ที่รู้จักบอกว่า ไม่ค่อยชอบ เพราะมันคล้ายๆ under the sand ของโอซง ซึ่งผมยังไม่เคยดู

TOKYO TOWER พระเอกชื่อ Joe Odagiri ครับ (เป็นสาเหตุที่ยอมทน 142 นาที ของผม 555) เค้าดังมากทีเดียวในญี่ปุ่น รู้สึกว่าที่เค้าพีคมากๆ คือเรื่อง Sway (ซึ่งผมซื้อแผ่นมาแล้ว ก็ยังไม่ได้ดูอีกล่ะ)

พรุ่งนี้ The Man From London อ่ะ กลัวมากกกกก ฮือออ (กลัวหลับ)


โดย: merveillesxx วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:59:45 น.  

 
พี่เรนตั้น (เอ๊ะ เราไม่เคยถามชื่อกันจริงๆเลยใช่มั้ย 55+) คนนั้นเค้าบอกเป็นผู้กำกับภาพหนิ 4 Elements น่ะ

วันนี้ในบอร์ดไบโอมีคนด่า Fallen ว่าเป็นหนังที่แย่ และ overrated ที่สุดในเทศกาล 5555+


โดย: nanoguy IP: 125.24.75.103 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:58:51 น.  

 
^
^
อ่า..ผกก.ภาพ..คับ.. ขอบใจจ้า

Fallen..ดูแล้วไม่เข้าใจไม่เก็ท
..ดู Phantom Love ที่ว่างงงงยังมีความสุขกว่า
เห็น ผกก.Fallen แล้วนึกถึง คาโพที 555+


โดย: renton_renton วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:14:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน
ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549

..............................








พญาอินทรี




ศราทร @ wordpress
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แค่เพียงรู้สึกสุขใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.