Maquilapolis ‘ฉันทนา’ทำหนัง



Maquilapolis
‘ฉันทนา’ทำหนัง

พล พะยาบ
คอลัมน์ run way , way มีนาคม 2550


ณ เมืองติฮัวนา ประเทศเม็กซิโก

คาร์เมนเป็นลูกจ้างในโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าข้ามชาติยี่ห้อหนึ่งเป็นเวลากว่า 6 ปี แล้ว เธออาศัยอยู่ในเพิงพักซึ่งประกอบขึ้นด้วยชิ้นส่วนประตูโรงรถเก่าๆ ในย่านที่ไม่มีแม้กระทั่งท่อระบายน้ำและไฟฟ้า ทั้งยังทุกข์ทรมานด้วยโรคไตเพราะพิษสารตะกั่วที่เธอได้รับจากการทำงานมาตลอดหลายปี

วันหนึ่งโรงงานย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอินโดนีเซีย คาร์เมนตกงานโดยไม่ทันตั้งตัว ตามกฎหมายแรงงานของเม็กซิโก เจ้าของธุรกิจต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายหรือปิดกิจการ แต่เพราะกฎหมายไม่เข้มงวด ธุรกิจดังกล่าวจึงพยายามหลบเลี่ยงลอยนวล ไม่ยอมจ่ายเงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างที่โดนลอยแพ

หลังจากต่อสู้เรียกร้องยาวนาน คาร์เมนและเพื่อนคนงานได้รับเงินชดเชยคนละ 2,000-2,500 ดอลลาร์ มากกว่าอัตราปกติที่อยู่ราวๆ 300-400 ดอลลาร์ หลายเท่าตัว

ลัวร์เดส สาวโรงงานแห่งติฮัวนาอีกคนหนึ่ง และเพื่อนบ้านของเธอ ป่วยเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อันเป็นผลมาจากขยะพิษที่ถูกปล่อยทิ้งไว้บนที่สูงเหนือชุมชน หลังจากโรงงานแปรสภาพแบตเตอรี่ปิดตัวลงด้วยคดีด้านสิ่งแวดล้อม

เจ้าของกิจการชาวอเมริกันหนีการจับกุมข้ามพรมแดนไปยังซาน ดิเอโก ทิ้งอาคารที่รายล้อมด้วยขยะพิษทั้งสารตะกั่ว สารหนู และแคดเมียม รวมกันกว่า 23,000 เมตริกตัน ไว้เบื้องหลัง ขยะพิษเหล่านี้ไหลลงไปยังย่านชุมชนจนทำให้มีคนเจ็บป่วยจำนวนมาก

ลัวร์เดสซึ่งกลายมาเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและพรรคพวก ใช้เวลาหลายปีกดดันให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกบังคับให้เจ้าของกิจการเข้ามาจัดการสารพิษให้หมด ในที่สุด สหรัฐและเม็กซิโกลงนามในข้อตกลงจัดการขยะพิษร่วมกัน โดยกระบวนการต่างๆ กำลังเดินหน้าอยู่ในขณะนี้

*เรื่องราวการต่อสู้ของ 2 สาวโรงงานแห่งติฮัวนาผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโลกาภิวัตน์และข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(NAFTA) เป็นเรื่องจริงที่อยู่ในภาพยนตร์สารคดีความยาว 60 นาที ปี 2006 เรื่อง Maquilapolis(City of Factories) ผลงานกำกับฯร่วมกันของ วิคกี้ ฟูนารี และเซอร์จิโอ เดอ ลา ตอร์เร

ลักษณะพิเศษของหนังสารคดีเรื่องนี้คือ นี่ไม่ใช่การถ่ายทอดเรื่องราวชะตากรรมของใครบางคนผ่านมุมมองของนักสร้างหนัง แต่ผู้ที่ประสบชะตากรรมนั้นเป็นคนถ่ายทอดเรื่องราวตามแนวทางของตนเอง

วิธีที่ผู้กำกับฯทั้งสองเลือกใช้นับว่าแหกขนบการทำหนังสารคดีโดยสิ้นเชิง พวกเขาจัดเวิร์คช้อปให้สาวโรงงานในติฮัวนา 14 คน ที่เข้าร่วมโครงการได้รู้จักทุกๆ ขั้นตอน-วิธีการในกระบวนการผลิตภาพยนตร์สารคดี ตั้งแต่การวางแผน เขียนบท ถ่ายทำ จากนั้นจึงมอบกล้องวิดีโอ 2 ตัว ให้ผู้เข้าอบรมกลับไป “ทำหนัง” ของแต่ละคนในติฮัวนา ก่อนจะนำกลับมาส่งให้ 2 ผู้กำกับฯคัดเลือก รวบรวม ตัดต่อ ออกมาเป็นหนังในที่สุด

โดยโจทย์สำคัญสำหรับหนังเรื่องนี้คือ เป็นเรื่องราวของชนชั้นแรงงานเม็กซิกันที่หลั่งไหลเข้าไปอยู่ในชุมชนโรงงานข้ามชาติ ต้องเผชิญกับสภาพความยากลำบาก ไร้ที่อยู่อาศัย ค่าจ้างต่ำ การละเมิดแรงงาน ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นเสมือนปากเสียงของสาวโรงงานชาวติฮัวนาอย่างแท้จริง

เมืองโรงงานติฮัวนา คือหนึ่งในแหล่ง “มากีลาโดรา”(maquiladora) หรือโรงงานต่างชาติ(ส่วนใหญ่คือบริษัทอเมริกัน) ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตตามพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ตั้งแต่ทศวรรษ 60 มีจุดประสงค์คือนำเข้าวัตถุดิบปลอดภาษีมาประกอบเป็นสินค้าส่งกลับไปยังประเทศแม่ ภายใต้เงื่อนไขเอื้อประโยชน์มากมาย ทั้งแรงงานราคาถูก การบังคับใช้กฎหมายแรงงานและกฎหมายสิ่งแวดล้อมหละหลวม

ติฮัวนาเป็นเมืองแรกๆ ที่ถูกแปรสภาพเป็นเมืองโรงงานของสหรัฐ อัตราการเติบโตพุ่งสูงจนน่าหวาดหวั่น ชาวเม็กซิกันพากันทิ้งถิ่นฐานไร่นาหลั่งไหลมาขายแรงงาน เมื่อข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(NAFTA) มีผลบังคับใช้ในปี 1994 เมืองโรงงานยิ่งขยายตัวแบบฉุดไม่อยู่ เพาะพันธุ์ไปทั่วประเทศและทั่วภูมิภาคอเมริกาใต้ เฉพาะที่ติฮัวนา สภาพเมืองไม่พอรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของคนงานตกต่ำย่ำแย่ ยังไม่พูดถึงการถูกกดขี่จากบรรดาโรงงาน

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเกิดขึ้นในปี 2001 วิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้โรงงานทยอยปิดกิจการ บ้างย้ายฐานการผลิตไปยังเอเชียซึ่งค่าแรงถูกกว่า คนเม็กซิกันจำนวนมากกลายเป็นคนว่างงาน นั่นยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าชะตากรรมของผู้คนที่นี่ขาดไร้หลักประกันใดๆ ในระยะยาว ชีวิตของพวกเขาและเธอถูกพันธนาการไว้กับระบบเศรษฐกิจโลกที่มีประเทศนายทุนอย่างสหรัฐคอยชักใย

Maquilapolis ซึ่งนำเสนอเรื่องราวจริงของสาวโรงงานที่ลุกขึ้นต่อสู้กับความอยุติธรรม จึงไม่ใช่เพียงสะท้อนชะตากรรมของบรรดาแรงงานอย่างเข้าถึงเท่านั้น แต่ยังช่วยปลอบและปลุกให้ทุกคนอย่ายอมตกเป็นเหยื่ออยู่ฝ่ายเดียว

หนังไม่มีกำหนดฉายตามโรงภาพยนตร์ แต่เดินสายฉายทางโทรทัศน์ เทศกาลหนัง ตามชุมชน องค์กร หรือสถาบันต่างๆ พร้อมกับรณรงค์ให้สังคมหันมาใส่ใจกับปัญหาโลกาภิวัตน์ ความไม่ชอบธรรมในสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผลเสียของการค้าเสรี โดยมีนักเคลื่อนไหวทั้งจากสหรัฐและเม็กซิโก สื่อมวลชน รวมทั้งสาวโรงงานร่วมเดินสายไปพร้อมกับหนังด้วย

เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าเอาใจช่วยอย่างยิ่ง




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2550
15 comments
Last Update : 10 ตุลาคม 2550 21:32:54 น.
Counter : 838 Pageviews.

 

วันนี้อ่านในมติชนเห็นด่า Borat ซะเสียหนังเลยนะครับ

จากตอนแรกว่าอยากดู กลายเป็นอยู่ในลิสต์รายชื่อหนังที่"ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้"ไปเลย

 

โดย: jonykeano 10 มิถุนายน 2550 11:25:06 น.  

 

ตามไปอ่าน borat มาด้วย
ตกลงเป็นหนังตลกเหยียดเชื้อชาติหรือนี่

 

โดย: ทะเลอาบแสงจันทร์ 10 มิถุนายน 2550 13:39:28 น.  

 

ข้อเสียของระบบทุนนิยม+การค้าเสรี คือ
การมุ่งหาแต่ประโยชน์ หวังแค่ผลกำไร โดยไม่สนใจผลกระทบทางสังคม

ปล.ได้อ่านเรื่อง Borat แล้วเหมือนกันค่ะ หนังแบบนี้เข้าชิงรางวัลได้งัยอ่า
คือมีคนดูล้นหลามไม่ว่า แต่ไม่น่าจะถึงกับได้รางวัล

 

โดย: G IP: 203.113.76.72 10 มิถุนายน 2550 21:14:01 น.  

 


วิธีการทำหนังน่าสนใจมากๆเลยอ่ะ
มันเรียลลิตี้ดี

ปล.
ขอตามไปอ่าน โบรัก เอ๊ยย โบราต สีดำด้วยคน

 

โดย: LunarLilies* 10 มิถุนายน 2550 22:22:11 น.  

 

รู้จักเมืองติฮัวน่าครั้งแรกจากเรื่อง traffic ตอนนั้นเกี่ยวกับยาเสพติด และในเรื่องนี้เกี่ยวกับสารหนูสารตะกั่ว... ช่างเป็นเมือง(คนที่อยู่ในเมือง)ที่น่าเห็นใจจริงๆ

( ชื่อกรุ๊ปใหม่เก๋มั่กๆค่ะ )

 

โดย: renton_renton 12 มิถุนายน 2550 12:42:22 น.  

 


บอสคับ
ขอคำแนะนำเรื่อง พลอย ให้เป้กับจีหน่อยจิ
นะๆๆ สปอยล์ให้ฟังหน่อย พลีสสส



ปล.
เพลงประกอบเค้าเพราะดีเนาะ

 

โดย: LunarLilies* 13 มิถุนายน 2550 12:50:57 น.  

 


บอสคับ
ขอคำแนะนำเรื่อง พลอย ให้เป้กับจีหน่อยจิ
นะๆๆ สปอยล์ให้ฟังหน่อย พลีสสส



ปล.
เพลงประกอบเค้าเพราะดีเนาะ

 

โดย: LunarLilies* 13 มิถุนายน 2550 12:51:54 น.  

 

^
^
พี่เป้เป็นไร เข้าบล็อคบอสแล้วมือสั่นนนเหรอ

ใช่ๆๆ เพลงประกอบเพราะดี จีชอบบบ
...อย่าให้ใครเค้าเป็นเจ้าชีวิตเธอนะคนดี เพราะเราเกิดมาในโลกแห่งเสรี...

+++++++
ถ้าเราชอบตลก 69 กะ มนต์รักทรานซิสเตอร์
แต่รู้สึกเอ๋อๆกับ เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล และ คำพิพากษาของมหาสมุทร
แล้วเราจะเอายังงัยกะ"พลอย"ดีอ่ะคะบอสสส

 

โดย: G IP: 203.113.76.71 13 มิถุนายน 2550 21:35:55 น.  

 

พลอยน่ บางประโยคในหนัง ยังกะก๊อปมาจาก Chungkng Express

ไอ้เรื่องความรักกับวันหมดอายุน่ะ - - ให้ตายเถอะ ลอกมาเป้งๆ เลยง่ะ

เอ๊ะ หรือ Chungking ไปลอกเรื่องอื่นมาอีก?

 

โดย: ดาริกามณี 14 มิถุนายน 2550 16:12:11 น.  

 

^
^
เรื่องอาหารกระป๋อง ได้ยินแล้วนึกถึงฉงชิ่งเหมือนกันครับ
คิดซะว่าตัวละครเคยดูหนังเรื่องนั้นแล้วกัน

ตอบเป้กับจี

ขอโทษที่ตอบช้า
ถ้าจีเอ๋อๆ กับ "เรื่องรัก" และ "คำพิพากษา" เรื่องนี้ก็คงเอ๋อเหมือนกัน
หนังยังอืดเอื่อยอ้อยอิ่งตามสไตล์เป็นเอก
เนื้อเรื่องอาจจะดูเข้าใจไม่ยาก แต่ก็มีส่วนให้ฉงนสงสัย ไปจนถึงต้องขบคิดว่าอะไรเป็นอะไรแน่..พอสมควร

โดยรวมแล้วเราค่อนไปทางผิดหวัง
ถ้า "คำพิพากษา" คือหนัง "แบบเป็นเอก" ที่ลงตัวมาก หลังจากแทงกั๊กใน "เรื่องรัก"
"พลอย" คือก้าวที่แม้ไม่ถอยหลัง แต่ก็เทียบไม่ได้กับ "คำพิพากษา"

ตั้งแต่กลางเรื่องค่อนข้างน่าเบื่อ (ขณะที่ "คำพิพากษา" เราไม่รู้สึกเบื่อเลย)
ที่ไม่ชอบมากๆ คือการออกทะเลไปกับเหตุการณ์อาชญากรรม
จนคิดว่าผู้กำกับฯคนนี้นึกอะไรไม่ออกก็ใส่อาชญากรรมไว้ก่อน
คิดอะไรที่เนียนกว่านี้ไม่เป็น

สรุปว่าชอบหนังเรื่องนี้ประมาณชั่วโมงแรก และ 5 นาทีสุดท้าย

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 14 มิถุนายน 2550 20:02:56 น.  

 

^
^
สรุปว่าน่าจะไปดู โดยประมาณชั่วโมงแรกต้องทนแข็งใจไม่ให้หลับ
แล้วก้อเตรียมรับความสับสนใน 5 นาทีสุดท้าย 555++

ขอบคุณนะคะ สำหรับคำแนะนำ

 

โดย: G IP: 203.113.76.9 14 มิถุนายน 2550 22:43:04 น.  

 


ขอบคุณคับบอส



งั้นสงสัยหนูคงต้องบายแล้วอ่ะ พลอยเนี่ย
แหะๆ เพราะแบบว่า
ขนาดคำพิพากษาของมหาสมุทรที่บอสบอกว่าไม่รู้สึกเบื่ออ่ะ
หนูยังอึดอัด อัดอั้น แทบจะกัดลิ้นกลั้นใจตายในโรง
จริงๆสงสัยมันคงเป็นเพราะว่าหนูคงพยายามจะทำความเข้าใจกับมันมากจนเกินไป
แต่ด้วยความที่ด้อยประสบการณ์ด้านการดูหนังดีๆ
ก็เลยไม่ประสบความสำเร็จ เดินออกจากโรงไปด้วยความเอ๋อแบบจี

นั่นขนาดทั้งๆที่รักอาซาโน่ใจแทบขาดนะ ยังมึนซะ
แล้วเรื่องนี้ยังต้องมาดูอนันดาเล่นเลิฟซีนกะหญิงอื่นแบบยาวนานอีก
แอร๊ยยยย ทนดูไม่ด๊ายยยยยยยย (เพราะความตาร้อน) คริๆๆ


 

โดย: LunarLilies* 15 มิถุนายน 2550 8:02:19 น.  

 

ไปอ่านทู้พันทิปมา ฮ่ามั่กๆ มีคนบอกว่า
"ทั้งเรื่องอนันดาออกมาทำหล่ออยู่หน่อยนึง เสร็จปุ๊บ ก็ไปดึ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

มันน่าดูอิตรงอนันดาดึ๊บๆๆๆๆๆๆเนี่ยแหละ
555555555++++++

ปล.บอสสสสสส ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ

 

โดย: G IP: 203.113.76.7 15 มิถุนายน 2550 20:57:51 น.  

 

I's following K'Wayakon kha.

Let me read every blog na ka.

So interesting kha:)

 

โดย: CSULB@FineArt 17 มิถุนายน 2550 4:34:29 น.  

 

^
^
ยินดีครับ

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 17 มิถุนายน 2550 14:03:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน
ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549

..............................








พญาอินทรี




ศราทร @ wordpress
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แค่เพียงรู้สึกสุขใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.