Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 
20 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 

วิจิตรศิลป์บนผืนผ้าไทย 4 ภาค

เชื่อกันมั้ยค่ะว่า ผ้าทอไทยลวดลายวิจิตรตระการตา ฝรั่งเห็นฝรั่งยังทึ่ง  โดยเฉพาะผ้าโบราณ ที่แม่ช่างแม่ครูได้ถักทอไว้


การจะถักทอให้เส้นไหมเรียงร้อย เป็นลวดลายวิจิตรทุกอณูผ้าโรงงานผ้าชั้นนำของฝรั่งยังทำไม่ได้ 


คนที่ดูผ้าเป็นเค้าจะรู้ค่ะว่ายาก   แม้แต่เจ้าของโรงงานทอผ้าฝรั่งมาเห็นยังงง ว่าทำได้ยังไง???


เครื่องจักร I ยังทำไม่ได้เลย.....   แต่ปู่ย่าตายายของเราทำได้ด้วยหูกไม้เจ้าค่ะ


      


  ผ้ายก 



เป็นผ้าไหมที่ทอยกลายในตัว โดยใช้เส้นพุ่งพิเศษเป็นดิ้นเงินดิ้นทอง ทอกันแพร่หลายในภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน


และภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อของ “ไหมพุมเรียง” 


      


ผ้ายกลำพูน


ผ้าไหมลายนี้มาจากจังหวัดลำพูนที่ทำขึ้นมาเพื่อให้พันรอบเอวเป็นผ้าถุงที่เรียกว่า “นานาง” ซึ่งใช้สวมใส่ประเพณีในราชวงศ์สยาม


รูปแบบนี้มีใช้มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาในศตวรรษที่ 14 ในระหว่างการทอผ้านี้จะใช้ทั้งไหม และทองมาทอร่วมกัน


      


ผ้ายกพุมเรียง


ใช้เป็นผ้าถุงจับจีบรอบเอวในยุคศตวรรษที่ 14 ที่เรียกว่า “นานาง” ผ้าไหมที่ทำขึ้นมาจากตำบลภูมิเรียง จังหวัดสุราษฏร์ธานี


ทอด้วยไหมสีทองหรือเงิน เป็นสีพื้น ซึ่งทำให้มองดูแล้วโดดเด่นมีความรู้สึกที่มีค่า ลวดลายสลับซับซ้อนที่ทำขึ้นนั้นใช้สัดส่วนของเส้นไหมน้อยลง


.      


ผ้ายกเมืองนคร


ผ้าไหมลายนี้มาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ทำขึ้นมาเพื่อให้พันรอบเอวเป็นผ้าถุงที่เรียกว่า “นานาง” ซึ่งใช้สีทองทอเป็นลายดอก


เป็นรูปแบบโบราณ เทคนิคในการออกแบบขอบด้านล่างเป็นทรงกรวย และมีรายละเอียดที่ซับซ้อนและปราณีต
  ผ้าจก 


เป็นผ้าที่ใช้วิธีการเก็บและทอเช่นเดียวกับผ้าขิด แต่มีการทำลวดลายด้วยการเพิ่มเส้นพุ่งพิเศษเข้าไปเป็นช่วงๆไม่ติดต่อกัน


ทำให้สามารสลับสีและลวดลายได้ต่างๆกัน ลักษณะผ้าจึงมีสีสันและลวดลายมากกว่าผ้าที่มีการทำขิด


แหล่งผลิตผ้าจกที่มีชื่อเสียง ได้แก่ สุโขทัย เชียงใหม่ ราชบุรี อุตรดิตถ์ 


ผ้าที่มีการทำขิดหรือจกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เช่น ผ้ากาบบัว ซึ่งเป็นผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี 


      


ผ้าตีนจกลาวครั่ง       

ผ้าซิ่นตีนจกลาวครั่งที่เห็นนางแบบสวมใส่อยู่นั้นมาจากคนลาวครั่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี ภาคกลางของประเทศ ซึ่งลักษณะของผ้าตีนจกลาวครั่ง


จะเต็มไปด้วยสีสันลวดลายทรงเรขาคณิตผ้าไหมตีนจกลาวครั่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเนื้อผ้าที่ใช้กรรมวิธีแบบจก


      


ผ้าตีนจกไทยวน


แสดงลักษณะดั้งเดิมของผ้าตีนจกไทยวนจากหมู่บ้านคูบัว จังหวัดราชุบรี สีที่โดดเด่นจะเป็นโทนสีแดงเข้ม


สลับด้วยสีของเส้นไหมแนวนอน เช่น สีขาว, เหลือง,ส้ม และดำ ทำให้เป็นผ้าลายตีนจกที่สวยงาม


      


ผ้าตีนจกลาวพรวน


ผ้าไหมตีนจกจากลาวพรวนที่ทำกันในจังหวัดอุตรดิตถ์ และสุโขทัยเป็นผ้าไหมตีนจกที่ทอขึ้นด้วยความประณีต ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญอย่างมาก


บริเวณด้านบนของผืนผ้าใช้จะใช้ทอด้วยไหมสีดำ และแดง ในขณะที่เนื้อผ้าส่วนใหญ่จะทอกลับไป-มา ที่เรียกทางเทคนิคว่า “ยกมัก” 


บริเวณส่วนปลายผ้าไหมจะทำเป็นลวดลายเรียกว่าจก โดยใช้ไหมสีเหลืองทอง


      


ผ้าตีนจกไทยวน


เป็นลายผ้าที่จัดทำขึ้นของคนเมือง กลุ่มไทวน จังหวัดเชียงใหม่ ผ้าซิ่นตีนจกตกแต่งไปด้วยลวดลายแบบต่างๆ


ไหมที่ใช้ทอจะใช้ทอผสมผสานกับสีทอง-เงิน ผ้าไหมลายนี้จะใช้งานพิธีทางศาสนา ลักษณะพิเศษของผ้าลายนี้จะทอเป็นลวดกราฟฟิค


โดยแนวนอนจะทอเป็นแถบๆตัดกับสีพื้นสีแดง


 ผ้าแพรวา 


เป็นผ้าทอที่มีลักษณะลวดลายผสมกันระหว่างลายขิดและจกบนผืนผ้า “แพรวา” หมายถึง ผ้าที่มีความยาวประมาณวา เพื่อใช้เป็นสไบ


แพรวาเป็นผ้าซึ่งใช้ในงานพิธีต่างๆ ตามวัฒนธรรมของชาวภูไท เอกลักษณ์ดั้งเดิมจะมีสีแดงเป็นพื้น


ปัจจุบันได้มีการดัดแปลงลักษณะของผืนผ้าทั้งความกว้างและความยาวและใช้สีสันตามสมัยนิยม


      


ผ้าแพรวา

เป็นผ้าไหมจากปีนัง คนภูไทจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ทอขึ้นเรียกว่าผ้าไหมแพรวา ซึ่งใช้เป็นผ้าคลุมไหล่ โดยอาศัยเทคนิคผสมผสานกัน 3 รูปแบบ


ในผืนผ้าที่ทำขึ้นเป็นลายผ้าทรงเรขาคณิต ผ้าไหมแพรวาที่มีคุณภาพจะมีความแตกต่างกันในแต่ละส่วน


สีของเส้นไหมที่ใช้เป็นสีส้ม, ดำ และสีขาว ซึ่งจะติดกับสีแดงที่เป็นสีสันของผ้า 


 ผ้ามัดหมี่ 

มีกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การมัดหมี่แพร่หลายทั่วไปทั้งภาคกลางและภาคเหนือ ส่วนใหญ่ผ้ามัดหมี่จะมัดเฉพาะเส้นไหมพุ่ง


ผ้ามัดหมี่ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ผ้าหางกระรอก ผ้าโฮล ผ้าปูมผ้ามัดหมี่ แบ่งได้ 2 ชนิด คือ ผ้า 2 ตะกอ และผ้า 3 ตะกอ


มีลักษณะผ้าเนื้อแน่นและด้านหน้าเงางามกว่าด้านหลัง 


      


ผ้ามัดหมี่อีสานเหนือ


ผ้าไหมมัดหมี่เป็นลายผ้าที่ทำขึ้นแตกต่างกันไป ไหมเส้นยืนจะย้อมสีด้วยสีโทนเข้ม เป็นลายผ้าของคนไทยทางภาคอีสานเหนือ


ลวดลายที่เฉพาะเป็นพวกสัตว์ป่าขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพพื้นที่


       


ผ้ามัดหมี่อีสานใต้


เป็นผ้าไหมของคนอีสานใต้ ซึ่งสีส่วนใหญ่ออกโทนเข้มดำ ด้วยลายรูปทรงเขาคณิต ลักษณะของการทอเป็นลายมัดหมี่


ลวดลายที่ทำขึ้นอยู่บนพื้นฐานของธรรมชาติในท้องถิ่นนั้น เป็นลายต้นไม้ หรือลายที่ออกแบบทางสถาปนิกเป็นคนขี่ม้า เป็นต้น
 


      


ผ้าเบี่ยงขิด


ผ้าสไบไหมหรือผ้าเบี่ยง(ผ้าพาดบ่า) เป็นผ้าไหมที่ทำขึ้นของคนภูไทที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุดรธานี และร้อยเอ็ด

ลักษณะลายผ้าเป็นรูปทรงเรขาคณิตโดยทำเป็นแถบคู่ขนานกัน คุณภาพที่ดีที่สุดของผ้าสไบที่ออกแบบมานั้นจะไม่มีการทำซ้ำกัน


       


ผ้าไหมเกาะหรือล้วง


เป็นลายผ้าไหมที่ทอจากคนไทยลือที่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ เช่น จังหวัดน่าน และพะเยา ลักษณะลายผ้า เรียกว่า ลายน้ำไหล


ซึ่งหมายถึงเป็นลักษณะของสายน้ำไหล ลวดลายเรียบง่าย แต่ทำได้ยากยิ่ง


ทำด้วยเทคนิคพิเศษที่สืบทอดกันมา ซึ่งอาศัยเวลานานการทำลวดลายโดยจะมีแถบลายแคบๆ บริเวณกึ่งกลางของผ้า


     


 


ผ้าไหมพื้น  


เป็นผ้าไหมที่ทอลายขัดโดยใช้เส้นยืน และเส้นพุ่มธรรมดาตลอดกันทั้งผืน ผ้าที่ออกมาจะเป็นผ้าสีพื้นเรียบ

ไม่มีลายโดยใช้เส้นยืนและเส้นพุ่งเป็นสีเดียวกันหรือใช้สีต่างกันก็ได้ เป็นผ้าที่นิยมใช้กันทั่วไป ซึ่งผ้าไหมไทยที่ส่งออกต่างประเทศ 













 

Create Date : 20 สิงหาคม 2554
2 comments
Last Update : 20 สิงหาคม 2554 19:32:45 น.
Counter : 3781 Pageviews.

 

very interesting...good job

 

โดย: kk IP: 91.62.193.193 18 สิงหาคม 2555 6:27:52 น.  

 

very interesting...good job

 

โดย: kk IP: 91.62.193.193 18 สิงหาคม 2555 6:27:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.