Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2557
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
26 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 

คนติดขนมขบเคี้ยว กับโรคไขมันพอกตับ

 

 


เพื่อนสาวร่างท้วม เดินหน้าเศร้า มาบอกเล่าว่ากำลังเป็น “โรคไขมันพอกตับ” ชื่อโรคแปลกหู ที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยิน เห็นเธอว่า ช่วงนี้หมอแนะให้ลดน้ำหนัก ลดทานแป้ง รวมถึงงดขนมขบเคี้ยวสุดโปรดปราน

โอ้ว! ขนมขบเคี้ยว ของโปรดของสาวเรา เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร หากทานเยอะเกินควร จะก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับตับได้จริงหรือ? เมื่อคำถามวนเวียนมากมายเช่นนี้ ต้องหาทางเคลียร์ให้กระจ่าง

เตือน! สาวติดขนมขบเคี้ยว โรคไขมันพอกตับ-มะเร็งมาเยือน

“ไขมันพอกตับ, ไขมันเกาะตับ, ตับอ้วน หรือ Fatty Liver เป็นภาษาชาวบ้านที่เรียกกัน ส่วนในทางการแพทย์จะเรียกว่า Nonalcoholic Fatty Liver Disease หรือ NAFLD ซึ่งหมายถึง ภาวะที่มีไขมันเข้าไปสะสมในเซลล์ตับมากเกินปกติ โดยที่คนผู้นั้นไม่ได้ดื่มสุรา” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงศิวะพร ไชยนุวัติ แห่งหน่วยทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลศิริราช แนะนำให้เรารู้จักกับโรคไขมันพอกตับอย่างเป็นทางการ

โรคนี้มิได้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส (Virus) หรือการดื่มสุรา

ทว่าเกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ไขมันของตับทำงานไม่สมบูรณ์

“โรคนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัส และคนไข้กลุ่มนี้จะต้องไม่ได้ดื่มสุราเกินปริมาณที่ถือว่าเหมาะสม นั่นคือ ผู้ชาย 2 ดริ้งค์ (drink) และผู้หญิง 1 ดริ้งค์ต่อวัน
(1ดริ้งค์ทางการแพทย์ = ปริมาณแอลกอฮอล์ ของเบียร์ 1 กระป๋อง, ไวน์ 1 แก้ว, เหล้าสี 1 เป็ก)

นั่นคือ หากเราดื่มสุราเกินปริมาณนี้ แล้วตรวจพบไขมันพอกตับ เราจะบอกคนไข้ไม่ได้ว่าเขาเป็นโรคไขมันพอกตับ เพราะความผิดปกตินั้นมันเกิดจากสุรา ส่วนสาเหตุหลักๆ ของโรคไขมันพอกตับนั้น เกิดจากการสังเคราะห์ไขมันในตับไม่สมบูรณ์ ทำให้ไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) เล็กๆ เข้าไปแทรกซึมอยู่ในตับมากกว่าปกติ”

ไขมันพอกตับแค่เริ่มแรก ปลายทางอาจถึงขั้นมะเร็งตับ

คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและตับให้ข้อมูลต่อว่า กลุ่มโรคไขมันพอกตับ มี 3 ระดับด้วยกัน คือ ระยะไขมันพอกตับหรือไขมันแทรกตับ ซึ่งหากปล่อยไว้นานก็จะกลายเป็นตับอักเสบ เมื่ออักเสบนานเข้าก็อาจเกิดภาวะตับแข็ง
(ปริมาณคนไข้ที่ดำเนินไปถึง ภาวะมะเร็งตับมีประมาณร้อยละ 3-5)

“โดยรวมแล้วโรคกลุ่ม NAFLD จะมีตั้งแต่ เริ่มแรกคือไขมันพอกตับ หรือ Fatty Liver ที่เราสามารถตรวจเจอได้เมื่อทำอัลตราซาวด์ (ultrasound) รังสีแพทย์จะเห็นตับเป็นสีขาวๆ เพราะมีไขมันแทรกตัวอยู่ แต่ถ้าเป็นนานเข้าหรือมีปัจจัยอื่นกระตุ้นหรือซ้ำเติมเข้ามา ก็อาจเกิดภาวะตับอักเสบจากไขมันพอกตับ หรือ steatohepatitis และหากเป็นไปนานๆ 10-20 ปี สุดท้ายแล้วก็อาจดำเนินไปถึงโรคตับแข็ง หรือที่เราเรียกว่า Cirrhosis ได้

ฉะนั้นแพทย์จึงมักบอกคนไข้ว่า ไขมันพอกตับเป็นแค่จุดเริ่มต้น การที่จะดำเนินไปเป็นตับอักเสบเรื้อรัง ในบ้านเราอาจไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ แต่เราก็ต้องเฝ้าระวัง เพราะหากเกิดการอักเสบเรื้อรังไปนานๆ ก็มีโอกาสตับแข็ง เราจึงไม่แปลกใจที่ในบางคนที่เป็นโรคเบาหวานมานาน สุดท้ายแล้วเป็นโรคตับแข็ง นั่นเพราะว่า คนที่เป็นโรคเบาหวาน ก็คือ กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดไขมันพอกตับ เขาก็อาจจะเกิดตับอักเสบนิดๆหน่อยๆ เรื้อรังไปนานๆ มาเจออีกทีก็เป็นตับแข็ง หรือถึงขั้นมะเร็งตับ จึงเป็นอีกคำอธิบายที่ว่า คนที่เป็นมะเร็งตับ บางทีไม่ได้กินเหล้า ไม่ได้เป็นไวรัสตับอักเสบซี ไวรัสตับอักเสบบี ทำไมถึงเป็นมะเร็ง ก็เพราะว่าเป็นไขมันพอกตับ”

โรคนี้จึงคล้ายกับภัยเงียบที่คุณหมอว่า บางครั้งก็แอบย่องเบา มาแทรกซ้อนกับโรคอื่นๆ จนทำให้ร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอ และมีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้น

“โรคนี้มันเหมือนกับภัยเงียบ ที่ส่งผลร้ายแรงได้ อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว เมื่อเป็นไขมันที่ตับ คุณต้องรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยเร็ว เพราะ ในกลุ่มคนที่เป็นโรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง หรือเบาหวาน เมื่อมีภาวะไขมันพอกตับร่วมไปกับการที่มีตับอักเสบ จะพบว่าคนไข้กลุ่มนี้มีอัตราการตายสูงกว่า คนไข้เบาหวาน ความดันสูงแต่ไม่มีภาวะตับอักเสบ”

ที่มา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการและ //www.never-age.com




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2557
0 comments
Last Update : 26 มิถุนายน 2557 10:10:42 น.
Counter : 2907 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.