|
มองตาก็รู้ว่าตับเริ่มอ่อนแอ - มีก้อนไขมันสีขาวหรือเหลืองคล้ายสิวตรงเปลือกตา
การมีก้อนไขมันบริเวณเปลือกตาแสดงว่าภายในร่างกายมีไขมันในเลือดสูงมาก จนตับไม่สามารถกำจัดได้หมด ถึงแม้คุณไม่อ้วนเลยก็ตาม ไขมันส่วนเกินจึงปรากฎให้เห็นบริเวณดังกล่าวแต่ไม่รู้สึกเจ็บ บางรายอาจมีจุดสีเหลืองเล็กๆ กระจายข้างในเปลือกตาด้วย หากปล่อยทิ้งไว้ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคไขมันเกาะตับ หรือภาวะที่มีไตรกลีเซอไรด์สะสมภายในเซลล์ตับหากมีอาการอักเสบร่วมด้วยอาจนำไปสู่โรคตับแข็งได้ นอกจากนี้ยังต้องระวังโรคเบาหวานอีกด้วย
สำหรับวิธีดูแลตนเองในเบื้องต้น ต้องลดการบริโภคแป้ง ของทอด และของหวานลง หันมาบริโภคปลา อาหารนึ่ง ผัก และผลไม้แทน แต่ถ้าก้อนไขมันยังไม่หายหรือเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุ 40 ขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์
- ขี้ตาแฉะหลังจากตื่นนอนตอนเช้า
สันนิษฐานว่ากำลังร้อนใน ความจริงแล้วอาการร้อนในมีอยู่หลายลักษณะ เช่น ปากเป็นแผล ท้องผูก ถ่ายลำบาก และครั่นเนื้อครั่นตัว แต่ถ้ามีขี้ตาแฉะมาก แสดงว่าตับของคุณกำลังร้อนเกินไป ตามปกติแล้วความร้อนในร่างกายเกิดจากการเผาผลาญอาหารที่กล้ามเนื้อและตับ ดังนั้นเลือดซึ่งอยู่ในตับจึงร้อนกว่าอวัยวะอื่นๆ หากเรารับประทานไขมันและน้ำตาล เข้าไปมากๆ จะยิ่งเป็นการเพิ่มอุณหภูมิในเลือดให้สูงขึ้นจนแสดงออกมาเป็นอาการดังกล่าว
เราสามารถช่วยตับลดความร้อนโดยการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น เช่น กล้วย ถั่วเขียว เต้าหู้ แตงกวา ส้ม สาลี่ ฟักทอง แตงโม มะเขือเทศ คึ่นฉ่าย สับปะรด ผักกาดหอม ฟัก น้ำมะพร้าวและน้ำเก็กฮวยต้มแบบเข้มข้น พร้อมกับหลีกเลี่ยง ข้าวเหนียว พริก ขิง กระเทียม ลำใย ทุเรียน อาหารทอด ย่างและรมควัน
- ขอบตาดำคล้ำ
การที่ขอบตาดำ อาจเป็นเพราะมีสารพิษ เช่น แอลกอออล์ สารกันบูด สารปรุงรส ยาฆ่าแมลง ฯลฯ สะสมอยู่ในตับมากจนกำจัดไม่ทัน สารแปลกปลอมดังกล่าวจึงเข้าไปสะสมจนขัดขวางการไหลเวียนของเลือดบริเวณเบ้าตา นอกจากนี้การบริโภคเนื้อสัตว์ แป้งและน้ำตาลมากไปยังส่งผลให้เลือดเป็นกรดและมีสีดำคล้ำ พอเลือดไหลเวียนไปยังบริเวณดังกล่าวจึงทำให้ขอบตาดำได้
ดังนั้นจึงควรช่วยตับล้างพิษและฟื้นฟูเซลล์ตับด้วยการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยอนุมูลอิสระอย่างวิตามินอี เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน ผักคะน้า และผักขม วิตามินซี เช่น ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะเขือเทศ และบรอกโคลี และกลูตาไทโอน เช่น ถั่วเหลือง นม ไข่ กระเทียม เห็ด ดอกกะหล่ำ และเนื้อปลา อย่างไรก็ตามควรดื่มน้ำสะอาดมากๆ เพื่อช่วยร่างกายขับของเสีย ลดการบริโภคเนื้อสัตว์และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยตับให้ซ่อมแซมตัวเอง สังเกตุอาการผิดปกติของไตผ่านปัสสาวะ - ปัสสาวะเป็นฟองมากกว่าปกติ
ทุกคนเวลาปัสสาวะจะมีฟองสีขาวคล้ายฟองสบู่เกิดขึ้นสักพักแล้วจะหายไป แต่ถ้าฟองนั้นมีปริมาณมาก ไม่ยุบตัว และถ่ายในลักษณะนี้ติดต่อกันหลายวัน แสดงว่าไตเริ่มทำงานมีปัญหา หากปัสสาวะมีสีแดง สีชาหรือสีคล้ายน้ำล้างเนื้อร่วมด้วย ยิ่งเป็นการยืนยันว่าเรามีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นไตอักเสบ มีนิ่วในไต ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือมีเนื้องอกในทางเดินปัสสาวะ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาอาจทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรัง จึงควรปรึกษาแพทย์ทันที
- อย่าละเลยอาการปวดหลัง
อาการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ แตกต่างจากอาการปวดในกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคไตดังนี้ คือรู้สึกปวดที่เอวหรือชายโครงด้านหลัง มักปวดร้าวไปที่ท้องน้อย ขาอ่อน หัวเหน่า อวัยวะเพศ และอาจมีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง ไร้เรี่ยวแรง เวียนศรีษะ หน้ามืดตาลาย และเบื่ออาหาร ซึ่งการปวดในบริเวณดังกล่าว อาจเกิดจากการอักเสบที่กรวยไตซึ่งต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
| |