มองพม่า : ขุมทองแห่ง AEC
มองพม่า: ขุมทองแห่งAEC โดย พันเอกศนิโรจน์ ธรรมยศ Master of International Relations (with merit), Victoria University of Wellington, New Zealand ลงพิมพ์ในนิตยสาร เส้นทางนักขายฉบับเดือน พฤษภาคม 2556
สาธารณรัฐสหภาพเมียนม่าร์ หรือพม่า (เดิมในภาษาอังกฤษเรียกชาวพม่าว่าBamarหรือบาหม่า)มีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์โลกมาตั้งแต่สมัยโบราณในสมัยเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของไทยนั้นพม่านับเป็นมหาอำนาจแห่ง"อุษาคเนย์" (ไมเคิลไรท์ นักประวัติศาสตร์และไทยคดีศึกษาชาวอังกฤษเป็นผู้กำหนดคำว่า"อุษาคเนย์"ขึ้นมาแทนคำว่า"เอเชียอาคเนย์"หรือ"เอเชียตะวันออกเฉียงใต้"ซึ่งมีคำว่า"เอเชีย"ที่เป็นคำในภาษาอังกฤษเพื่อให้เป็นคำในภาษาไทยแท้ๆโดยอุษาคเนย์มีอาณาเขตตั้งแต่พม่าไปจนจรดฟิลิปปินส์และจากเวียดนามไปจรดอินโดนีเซีย) อาณาจักรพม่าแผ่ขยายอาณาเขตไปทั่วทิศานุทิศโดยเฉพาะในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง (Bayinnaung)หรือที่ออกเสียงพระนามตามสำเนียงพม่าว่าบาเยนองมีความหมายว่า พระเชษฐาธิราชมีพระนามเต็มว่า บาเยนองจอเดงนรธา(ไทยออกเสียงเป็นบุเรงนองกะยอดินนรธา)แปลว่าพระเชษฐาธิราชผู้ทรงกฤษดาภิหาร พระองค์ได้แผ่ขยายอาณาจักรไปอย่างกว้างขวางจนได้รับสมญานามว่า "ผู้ชนะสิบทิศ"ซึ่งการแผ่ขยายอาณาเขตของพม่าได้ส่งผลให้เกิดการรบพุ่งกับกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่"สงครามเมืองเชียงกราน"เรื่อยมาจนถึงสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย มาจนถึงวันนี้พม่าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจาก"อุ้งมือเผด็จการทหาร"มาสู่"ย่างก้าวแห่งประชาธิปไตย"มหาอำนาจหลายประเทศเช่นสหรัฐฯ จีน รัสเซีย อินเดียอังกฤษ สหภาพยุโรป เกาหลีใต้รวมถึงชาติอาเซียนอื่นๆทั้งอินโดนีเซีย สิงคโปร์มาเลเซีย ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนบ้านอย่างประเทศไทยต่างก็มุ่งหน้าสู่พม่าเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ จนกระทั่งทำให้พม่ากลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนจากทั่วโลกจนอาจกล่าวได้ว่าเป็น"ขุมทอง"ในภูมิภาคอาเซียนแห่งนี้ดังจะเห็นได้จากเมื่อไม่นานมานี้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นก็ได้เดินทางไปเยือนพม่าและประกาศที่จะพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังรวมถึงมหาอำนาจอย่างเช่นสหรัฐฯที่มีการเยือนของผู้นำระดับสูงตั้งแต่ประธานาธิบดีบารัคโอบาม่าเมื่อวันที่ 19พฤศจิกายนพ.ศ.2555จนถึงนางฮิลลารี่คลินตัน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศและเมื่อวันที่ 20พฤษภาคมพ.ศ.2556ที่ผ่านมาประธานาธิบดีเต็ง เส่งก็เดินทางไปเยือนกรุงวอชิงตันและได้พบกับประธานาธิบดีบารัคโอบาม่า ผู้ซึ่งกล่าวในสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า "..สหรัฐฯคาดการณ์ที่จะเพิ่มการค้าและการลงทุนในพม่า.." ส่วนไทยเราเองก็ประกาศที่จะเข้าไปพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายเพื่อเป็นเส้นทางเชื่อมต่อมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิคเข้าด้วยกัน การเข้ามาของชาติมหาอำนาจในช่วงแรกนั้นได้เปลี่ยนธรรมชาติทางการเมืองของพม่าที่โลกตะวันตกมองว่าติดอยู่ใน "วังวน"ของการเป็นกลุ่มประเทศอักษะแห่งความชั่วร้ายเคียงข้างอิหร่านและเกาหลีเหนือและยิ่งการเข้ามาของมหาอำนาจมากขึ้นก็ยิ่งทำให้บทบาทด้านการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศของพม่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันรัฐบาลพม่าก็พยายามปฏิรุูปทางการเมืองอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ในช่วงปลายปีพม่าก็จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และในปีพ.ศ.2557 พม่าจะดำรงตำแหน่งเป็นประธานอาเซียนและเป็นเจ้าภาพในการประชุมสุดยอดอาเซียนอีกด้วย ในขณะที่สหภาพยุโรปก็ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อพม่าทั้งหมดยกเว้นเฉพาะการขายอาวุธไปเรียบร้อยแล้วแม้สหภาพยุโรปจะแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธและมุสลิมในรัฐยะไข่อยู่บ้างก็ตาม ส่วนสิงคโปร์ก็ลงนามในสนธิสัญญาจำนวน5ฉบับเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและการท่องเที่ยวรวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์กลางระหว่างประเทศขององค์กรวิสาหกิจสิงคโปร์ซึ่งจะทำให้การค้าขายของนักลงทุนสิงคโปร์ในพม่าสะดวกมากยิ่งขึ้นซึ่งในห้วงเวลาที่ผ่านมาสิงคโปร์นับเป็นผู้ลงทุนด้านอุตสาหกรรมโรงแรมรายใหญ่ที่สุดในย่างกุ้ง นิตยสาร"ไทม์"ฉบับวันที่3มิถุนายนพ.ศ.2556ได้นำเสนอบทความเรื่องเส้นทางวิบากของพม่า (TheScramble for Burma) สรุปได้ว่่าพม่ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นการเติบโตแบบที่เรียกว่า"เหนือจินตนาการ"นักลงทุนจากทั่วทุกสารทิศต่างมุ่งหน้าสู่พม่าเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีริค สมิดท์ ผู้บริหารของกูเกิลและจอร์ชโซรอสพ่อมดทางการเงินที่ยิ่งใหญ่ของโลกก็ได้เดินทางไปพม่าเพื่อเตรียมนำเม็ดเงินจำนวนมหาศาลไปลงทุน ในขณะที่โฮเวิร์ด ชูลซ์ซีอีโอของสตาร์บัคส์แบรนด์กาแฟดังระดับโลกก็เปิดเผยว่าได้เตรียมเปิดดำเนินการในพม่าอีกไม่นานนี้นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจอย่างเช่นเคเอฟซี,ไฮเนเก้น,คาลส์เบอร์ก,เป็ปซี่,โคคาโคล่า และฟอร์ด บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ต่างก็เตรียมการเข้าไปลงทุนในพม่าเช่นเดียวกัน โดยปกติการเติบโตหรือขยายตัวในลักษณะเช่นนี้จะต้องอาศัยระยะเวลานับสิบปีแต่สำหรับพม่าแล้วทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นในห้วงเวลาเพียงไม่ถึงสองปีในเวลาแต่ละเดือนเราจะสังเกตุเห็นว่าพม่าเติบโตและขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนหลายฝ่ายมองว่าสิ่งเหล่านี้จะพลิกผันให้พม่าก้าวขึ้นมาสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในไม่ช้า อย่างไรก็ตามเส้นทางไปสู่ความสำเร็จของพม่านั้นมิใช่จะโรยด้วยดอกกุหลาบนิตยสาร "ไทม์"ระบุว่าพม่ายังคงขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการลงทุนทั้งนี้ด้วยระยะเวลาการเติบโตที่กระชั้นชิดมากทำให้พม่าขาดแคลนผู้บริหารระดับกลางเนื่องจากภาคธุรกิจไม่สามารถผลิตหรือพัฒนาบุคคลากรระดับนี้ขึ้นมารองรับธุรกิจต่างๆที่กำลังเปิดสาขาขึ้นเป็นดอกเห็ดได้ทันเวลา ส่วนแรงงานที่มีอยู่ก็ล้วนแต่เป็นแรงงานไร้ฝีมือขาดทักษะแม้จะมีค่าแรงที่ต่ำมากในระดับ16- 20 บาทต่อวันก็จริงนอกจากนี้พม่ายังขาดแคลนอาคารสำนักงานและอาคารที่อยู่อาศัยที่แม้กำลังทำการก่อสร้างกันอย่างฉุกละหุกอยู่ในขณะนี้แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จส่งผลให้ราคาสำหรับอาคารชุดสำนักงานและอาคารที่พักอาศัยในย่างกุ้งมีราคาสูงเทียบเท่ากับราคาที่พักในนครนิวยอร์คเลยทีเดียว นอกจากนี้พม่ายังคงติดอยู่ใน"กับดับแห่งอำนาจ"แม้จะมีความพยายามในการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ประชาธิปไตยอย่างมากก็ตามแต่กลุ่มอำนาจเก่าตลอดจนกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ก็ยังคงไม่เลิกรามือในการจำกัดอำนาจและผลประโยชน์ของตนลงง่ายๆ รัฐธรรมนูญของประเทศฉบับปีพ.ศ.2551ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ด้วยการจัดสรรที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรและสภาชนชาติให้กับทหารเป็นสัดส่วนที่สูงมากในขณะที่กฏหมายการลงทุนก็กำลังอยู่ระหว่างการร่างกฏหมายลูกที่ยังคงคลุมเครือและไม่ชัดเจนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด แม้จะมีการอนุญาตให้นักลงทุนจากต่างชาติสามารถลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรมได้100%ก็ตามแต่การค้าปลีกและโลจิสติกส์ก็ยังไม่เปิดโอกาสให้สามารถกระทำได้นอกจากนี้พม่ายังมีปัญหาชนกลุ่มน้อยที่แม้จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นส่วนใหญ่แล้วแต่ความหวาดระแวงระหว่างเชื้อชาติยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงรวมถึงปัญหาชาวพุทธและมุสลิมในรัฐยะไข่และปัญหาการคอร์รัปชั่นที่รอการแก้ไขอย่างเร่งด่วนอีกด้วย เส้นทางไปสู่ความมั่งคั่งของพม่านับจากนี้ไปจึงถือว่ายังคงเป็นเส้นทางวิบากที่เต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการอย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจังเพราะความสำเร็จของพม่านั้นหมายรวมถึงความสำเร็จของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยในอนาคตเช่นกัน
Create Date : 10 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 10 สิงหาคม 2556 12:28:15 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1724 Pageviews. |
|
|