Web Blog นี้เป็น Mirror Blog Site (เว็บสำรอง)
อ่านเว็บหลักได้ที่ ==> "คลิก - SmartMathsTutor.Blogspot"
-------------------------------------------------------------------------------------



SmartMathsTutor (กิ๊ก)
เน้นทริกการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการคิด
ติวคณิตให้เก่งคิด กับติวเตอร์กิ๊ก
วิธีสอนของกิ๊ก เหมาะสำหรับ ใครก็ได้ที่ต้องการเก่งคิด และ พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง...จนคิดเก่ง
เรียนเลขไม่น่าเบื่อ สอนสนุกเหมือนเล่นเกม
---------------------------------------------------------------------
        วิทยากรอิสระ(ติวเตอร์) รับบรรยาย ติว สอนคณิตศาสตร์ ผ่านโจทย์เชาวน์คณิต (GMAT, GRE) โจทย์ปัญหาเชาวน์ โจทย์พัฒนา IQ เกมปริศนา หรือ โจทย์พัฒนาศักยภาพบุคลากรระดับผู้บริหารในองค์กรทุกประเภท เพื่อพัฒนาวิธีเรียนรู้ และ วิธีคิดวิเคราะห์ ให้ผู้เรียนมีองค์ความรู้ของตนเอง มีตรรกะเชิงจินตนาการในการคิด มี mind map ในการจดจำแบบนักวิทยาศาสตร์ มีความคิดรวบยอดในการแก้ปัญหา เข้าใจปัญหาได้ตรงประเด็น และ แก้ปัญหาอย่างมีจินตนาการสร้างสรรค์นอกกรอบ เพราะ "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" และ "ความคิดสร้างสรรค์ เป็นพรสวรรค์ที่พัฒนาได้"

                                             1. Home - สารบัญบทเรียน        2. รู้จักกับกิ๊ก - ประวัติ                 3. รายละเอียดการติว      4. Concept วิธีสอน                                                           

         5. กิ๊กสอนอะไรได้บ้าง              6. บอกเล่าประสบการณ์สอน       7. คำติ-ชมจากผู้เรียน      8. อัตราค่าสอน และ เบอร์ติดต่อ

Last Update 30/December/2013
เว็บนี้แสดงผลได้ดีที่สุดในความละเอียดที่ 1,920 * 1,080 ด้วย Google Chrome Browser บนระบบปฏิบัติการ Window for Computer



Web Blog นี้เป็น Mirror Blog Site (เว็บสำรอง)
สนใจติว หรือ อ่านบทเรียนคณิตศาสตร์ได้ที่ 
==> "คลิก - SmartMathsTutor.Blogspot"
-------------------------------------------------------------------------------------

                                             1. Home - สารบัญบทเรียน        2. รู้จักกับกิ๊ก - ประวัติ                 3. รายละเอียดการติว      4. Concept วิธีสอน                                                           

         5. กิ๊กสอนอะไรได้บ้าง              6. บอกเล่าประสบการณ์สอน       7. คำติ-ชมจากผู้เรียน      8. อัตราค่าสอน และ เบอร์ติดต่อ


วิธีแยกตัวประกอบสมการกำลังสอง ฉบับ Real Concept - Advance -3

7.11 วิธีแยกตัวประกอบสมการกำลังสอง ฉบับ Real Concept -Advance - 3
-----------------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างที่ห้า




ขั้นแรก
          พิจารณาสัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X2 .......เป็นเลข 6 ซึ่งแยกตัวประกอบได้เป็น 2 คู่ คือ 6 * 1 และ 3 * 2 เพราะฉะนั้น


ขั้นที่สอง
          ดูที่สัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X0 ซึ่งคือ “+10” ให้หาเลข 2 จำนวนที่เมื่อนำมาคูณกันแล้วเท่ากับ “+10” มีกี่คู่ ตัวเลขใดบ้าง.....เขียนออกมาทั้งหมด ซึ่งมีสี่คู่ คือ (+5) * (+2), (-5) * (-2), (+10) * (+1) และ (-10) * (-1)

ขั้นที่สาม (สุดท้าย)

          ให้จับคู่ --คูณกัน-- ของสัมประสิทธิ์หน้าพจน์แรก กับ พจน์หลัง และใส่เครื่องหมาย “บวก” หรือ “ลบ” หน้าพจน์หลัง เพื่อให้บวกกันได้ผลลัพธ์เท่ากับ สัมประสิทธิ์หน้าพจน์กลาง ในตัวอย่างนี้ คือ “-19” ซึ่งสัมประสิทธิ์หน้าพจน์สุดท้ายเป็นบวก (+10) แสดงว่า เครื่องหมายของพจน์หลังต้องเป็น บวก, บวก หรือ ลบ, ลบ และเมื่อพิจารณาสัมประสิทธิ์หน้าพจน์กลางเป็นลบ แสดงว่า เครื่องหมายต้องเป็นลบทั้งคู่ คือ (-5) * (-2) และ (-10) * (-1) (ตัด (+5) * (+2) และ (+10) * (+1) ออก)


          ไม่ควรคิดทั้งหมดทุกคู่ เพราะจะใช้เวลามาก ควรใช้หลักวิเคราะห์ เพื่อคิดได้เร็วขึ้น คือ พิจารณาที่พจน์กลาง ซึ่งคือ -19 ซึ่งเกิดจากการบวกกันของผลคูณของแต่ละพจน์ดังรูป


          หากเราจับคู่ 6 * (-10) ผลลัพธ์เท่ากับ -60 ซึ่งมากกว่า -19 ไปมาก ดังนั้นเราจึงควรเปลี่ยนจาก -10 * -1 (พจน์หลังคู่ที่ 1) ไปใช้ -5 * -2 (พจน์หลังคู่ที่ 2) แทน จะดีกว่า

          และถ้าเราจับคู่ 6 * (-5) ผลลัพธ์เท่ากับ -30 ซึ่งก็เกิน -19 ไปเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรเปลี่ยนพจน์หน้าจาก 6 * 1 (พจน์หน้าคู่ที่ 1) ไปใช้ 3 * 2 (พจน์หน้าคู่ที่ 2) แทน จะเหมาะกว่า


          เราจะเห็นได้ว่า 3 * (-5) ผลลัพธ์เท่ากับ -15 ซึ่งใกล้เคียง -19


-----------------------------------------------------------------------------


ตัวอย่างที่หก

          ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นได้ชัดว่า พจน์กลาง คือ +80 ซึ่งเมื่อดูที่สัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X2 ซึ่งคือ +9 และ สัมประสิทธิ์หน้าพจน์สุดท้าย ซึ่งคือ -9 และเรารู้ว่า 9 * 9 = 81 ดังนั้นเมื่อพจน์กลาง คือ +80 เพราะฉะนั้นเราได้ว่า (+81) ต้องบวกกับ (-1) ถึงกลายเป็น +80




-----------------------------------------------------------------------------


ตัวอย่างที่เจ็ด



          ลองวิเคราะห์ตัวอย่างนี้.......... ขั้นแรก จะเห็นได้ว่า สัมประสิทธิ์หน้าพจน์แรก X2 คือ +10 ซึ่ง 5 * 2 = 10 หรือ 10 * 1 = 10,



          ขั้นที่สอง สัมประสิทธิ์หน้าพจน์สุดท้าย คือ -9 ซึ่ง 3 * 3 = 9 หรือ 9 * 1 = 9 และเครื่องหมายต้องเป็น บวก และ ลบ



          ขั้นสุดท้าย สัมประสิทธิ์หน้าพจน์กลาง คือ -43 ซึ่งเกิดจากการบวกกันของผลคูณของแต่ละพจน์ เรารู้ว่า 5 * 9 = 45 ซึ่งใกล้เคียงกับ -43 เพราะฉะนั้นเราได้ว่า พจน์ X2 เลข 10 ต้องใช้ 5 * 2 และ พจน์ X0 เลข -9 ต้องใช้ 9 * 1 โดยเครื่องหมาย บวก ลบ ที่จะใส่ในวงเล็บเราจะพิจารณาในขั้นสุดท้ายนี้






-----------------------------------------------------------------------------


ตัวอย่างที่แปด

          น้องลองฝึกคิดกันก่อนครับ............... อย่าเพิ่งเลื่อนลงไป
















          ตัวอย่างนี้ ขั้นแรก จะเห็นได้ว่า สัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X2 คือ +10 ซึ่ง 5 * 2 = 10 หรือ 10 * 1 = 10,




          ขั้นที่สอง สัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X0 คือ -9 ซึ่ง 3 * 3 ได้เท่ากับ 9 หรือ 9 * 1 ได้เท่ากับ 9 โดยเครื่องหมายต้องเป็น บวก และ ลบ ซึ่งเราจะพิจารณาในขั้นสุดท้าย



          ขั้นสุดท้าย สัมประสิทธิ์หน้าพจน์กลาง คือ +33 ซึ่งเกิดจากการบวกกันของผลคูณของแต่ละพจน์ เรารู้ว่า 3 * 10 = 30 เพราะฉะนั้นเราได้ว่า


-----------------------------------------------------------------------------


ตัวอย่างที่เก้า

วิธีออกแบบให้ง่าย เพื่อให้คิดได้เร็วขึ้น
คือ แยกตัวประกอบ ของพจน์แรก และ พจน์สุดท้าย แล้วจับคู่บวกกันให้เท่ากับพจน์กลาง



-----------------------------------------------------------------------------


ตัวอย่างที่สิบ


          ตัวอย่างนี้ น้องคงแยกตัวประกอบ โดยจับคู่ 4 * 6 = 24 ซึ่งใกล้เคียงพจน์กลาง -25 และพจน์สุดท้าย “+6” ส่วนพจน์กลาง คือ “-25” ดังนั้นเครื่องหมายต้องเป็น “-” ทั้งคู่


-----------------------------------------------------------------------------


ตัวอย่างที่สิบเอ็ด


          ตัวอย่างนี้คล้ายกับตัวอย่างที่สิบ และคำตอบที่ได้จะไม่เหมือนกัน แน่นอน ดังนั้นถ้าวางตัวเลขสลับตำแหน่ง คำตอบจะไม่ถูกต้อง



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สารบัญ : วิธีแยกตัวประกอบ




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 19 เมษายน 2556 15:08:04 น. 0 comments
Counter : 4328 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

smartmaths
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]





SmartMathsTutor (กิ๊ก)
$$ ---- Slogan ---- $$
"เน้นทริกการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการคิด"
เพราะความคิดสร้างสรรค์ คือ พรสวรรค์ที่พัฒนาได้
(ที่มา: สสส)



ติวคณิตให้เก่งคิด กับ ติวเตอร์กิ๊ก
ติว GMAT, GRE, เชาวน์คณิต คิดเลขเร็ว,
เกมปริศนาท้าไอคิว (IQ) ฯลฯ
เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ และ วิธีคิด ฯลฯ



==> กิ๊กชอบโจทย์เลข GMAT, GRE มาก เป็นโจทย์ที่สมบรูณ์แบบ เป็นคำถามที่ไม่กำกวม ออกแบบมาเพื่อวัดทักษะการแก้ปัญหา เพราะสามารถคิดแก้ปัญหาได้หลายวิธี (บางวิธีก็ช้า แต่วิธีที่เร็วที่สุด คือ วิธีที่ดีที่สุด) เหมาะที่จะคิดเป็นภาพ เหมาะที่จะฝึกให้เกิด Idea, จินตนาการสร้างสรรค์ และ ความคิดนอกกรอบ

==> โจทย์คณิตศาสตร์ GMAT, GRE สำหรับกิ๊ก มันคือ โจทย์เชาวน์คณิตที่เหมาะสำหรับพัฒนา I.Q., พัฒนาวิธีเรียนรู้, พัฒนาตรรกะ จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง



วิธีสอนของกิ๊ก

==> เน้นให้เข้าใจเลขระดับสูงเชิงจินตนาการ โดยยกตัวอย่าง จำลองสถานการณ์ ทำการทดลองเชิงปฎิบัติ จนผู้เรียนคิด สังเกต จดจำ และสรุปเป็นองค์ความรู้, ทฤษฎี, Concept ด้วยตนเองได้ ผู้เรียนจึงเข้าใจ เหมือนอย่างเจ้าของทฤษฎี และ ประยุกต์ใช้ทฤษฎี, Concept ได้อย่างมีจินตนาการสร้างสรรค์นอกกรอบ


“Common Sense is Not So Common.”
(โดย Voltaire - 1764)


“Imagination is more important
than knowledge.
”

(โดย Albert Einstein - 1931)




จุดประสงค์การสอนของกิ๊ก
แนวทางการสอน, Concept การสอน


1. สอนให้ผู้เรียนคิดแบบ Logic common sense
2. สอนให้ผู้เรียนรู้จักบริหารข้อมูล และสูตร(เครื่องมือ)ทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหา เพื่อประยุกต์ใช้กับการบริหารข้อมูลและเครื่องมือในการแก้ปัญหาทางธุรกิจ
3. สอนให้ผู้เรียนมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา
4. สอนให้ผู้เรียนออกแบบการแก้ปัญหาเป็น
5. สอนให้ผู้เรียนมีความคิดนอกกรอบในการแก้ปัญหา
6. สอนให้ผู้เรียนมีความคิดอย่างเป็นระบบ
7. ฝึกให้ผู้เรียนคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน
8. สอนให้ผู้เรียน คิดเชื่อมโยงคณิตศาสตร์(และสิ่งต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ ฯลฯ)เข้ากับชีวิตประจำวัน
9. แนะวิธีเรียนรู้ วิธีอ่านหนังสือ ฯลฯ เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการพัฒนาตนเอง




วิธีสอนของกิ๊ก เหมาะสำหรับ
ใครก็ได้ที่ต้องการเก่งคิด
และ
พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง...จนคิดเก่ง

เพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นพรสวรรค์ที่พัฒนาได้
(ที่มา: สสส)

-----------------------------------------

สอนอย่างไร...ก็เขียนอย่างนั้น

          ความรู้ที่กิ๊กแบ่งปันเขียนขึ้นจากประสบการณ์สอน ขอให้อ่านตามทุกบรรทัด คิดตามทุกประโยคเสมือนว่ากำลังฟังกิ๊กติว หยิบกระดาษขึ้นมาเขียน วาดรูป ตีตารางตามเหมือนเรียนอยู่ในห้อง โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐานคณิตศาสตร์ที่จำเป็นต้องฝึกฝนจนทำได้คล่องเหมือนการพูดคุย เช่น วิธีหา ห.ร.ม., ค.ร.น., เทคนิคการแยกตัวประกอบ, เซต ฯลฯ ให้นำโจทย์แบบฝึกหัดมาทำตามที่กิ๊กสอน ก็จะเข้าใจมากขึ้น

-----------------------------------------

ทำไมจึงอยากแชร์ความรู้

          ย้อนไปสมัยที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ อินเตอร์เน็ทยังไม่แพร่หลาย แหล่งข้อมูลความรู้ถูกรวบรวมอยู่ในรูปหนังสือเท่านั้น  สมัยนั้นกว่ากิ๊กจะหาหนังสือมาอ่าน เพื่อทำการบ้าน  เขียนเรียงความทำรายงาน  หรือ เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้นั้น  ก็ลำบาก เพราะกว่าจะเจอหนังสือที่อธิบายให้เราเข้าใจได้สักเล่ม ก็ใช้เวลาเลือกหนังสือ อ่านเนื้อหารวม 2 ชั่วโมง

          แต่ในยุคปัจจุบันนี้ สื่ออินเตอร์เน็ทรวมถึง Social Network มีบทบาทช่วยให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่าย  เราสามารถค้นข้อมูลผ่านโปรแกรมค้นหา (Search engine) ได้ทันที  ดังนั้นกิ๊กจึงตั้งใจที่จะแชร์ความรู้ เขียนบทเรียนคณิตศาสตร์ เล่าประสบการณ์ไว้ให้ทุกคนอ่าน เพื่อทุกคนจะได้เข้าถึงข้อมูลความรู้ และ ไม่เสียเวลาในการพัฒนาตัวเอง ขอบคุณครับ...กิ๊ก

Like Me...Facebook Page

Line ID : SmartMathsTutor

-----------------------------------------

เบอร์โทรติดต่อพี่กิ๊ก SmartMathsTutor
 
ยินดีเสมอครับ
SmartMathsTutor (กิ๊ก)



บทความน่าอ่าน เขียนขึ้นจากใจ

1. หมดอนาคต...หากไม่เตรียมตัวสอบ
2. ไม่มีคำว่าสาย…สำหรับคนที่อยากเก่ง
3. อ่านอะไร...พัฒนาทักษะทางภาษา

-----------------------------------------

        บทความที่ปรากฏทั้งหมดในบล็อกนี้ เป็นผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15 และ 27) หากท่านต้องการจะนำบทความในเชิงความรู้ส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ หรือ เพื่อการอ้างอิง โปรดให้ credit และ ใส่ link อ้างอิงตามความเหมาะสม

-----------------------------------------

   
New Comments
[Add smartmaths's blog to your web]