พระพุทธศาสนา
Group Blog
 
All Blogs
 
ดี

ความฟุ้งซ่านของจิตคิดไปในแง่ต่างๆ ล้วนแล้วตั้งแต่เป็นเรื่องของสมุทัยคือกิเลสผลักดันออกมาให้คิด ความพอใจในสิ่งใดก็ผลักดันให้ชอบให้รักให้คิดให้กังวลวุ่นวายกับสิ่งนั้น ความไม่ชอบใจในสิ่งใด กิเลสประเภทไม่ชอบใจก็ผลักดันออกมาให้คิดให้กังวลวุ่นวายวกวนไปมาอยู่อย่างนั้นไม่แล้วไม่เลิก อยู่ตลอดเวลากับสิ่งนั้น จนเกิดความทุกข์ขึ้นมาภายในจิตใจ เพราะคิดสิ่งเหล่านี้มากเท่าไรก็ยิ่งเป็นความทุกข์มาก แต่ไม่คิดไม่สนใจที่จะระงับดับความคิดที่เป็นภัยนั้นแก่ตนเอง จึงทำให้ทุกข์มีความรุนแรงขึ้นและความฟุ้งของจิตก็ยิ่งฟุ้งไปเรื่อยๆ หากไม่หักห้าม
คนเราที่เป็นบ้าเป็นบอไปเพราะความคิดมากก็เพราะเหตุนี้เอง เมื่อระงับไม่ได้ ไม่มีทางระงับ ไม่รู้วิธีระงับมันเป็นบ้าไปได้ เช่น คนเสียใจมากๆ นี้ถึงกับเสียจริต มี ในครั้งพุทธกาลก็มี เช่น นางปฏาจาราเถรี ในกลางคืนนั้นก็คลอดบุตรอยู่ในป่า คลอดลูกอยู่ในป่าแล้วทีนี้สามีก็ไปหาใบไม้ตัดใบไม้มารอง ขึ้นไปบนจอมปลวก ก็พอดีงูเห่าตัวหนึ่งอยู่บนจอมปลวกเลยกัดสามีตายอยู่บนจอมปลวก ทีนี้ภรรยาก็ไม่ทราบจะทำไง ฝนก็ตกทั้งคืน ลูกที่ติดตามมาด้วยก็มีคนหนึ่ง แล้วลูกคนนี้ก็มาคลอดกลางทาง พอตื่นเช้ามาก็มาเห็นสามีตายแล้วตั้งแต่คืนนี้ นั่นอันหนึ่ง ร้องห่มร้องไห้ทำไงนะ หมดปัญญาแล้วก็เลยพาลูกไป จะมาเยี่ยมพ่อแม่
พอมาถึงแม่น้ำ ก็เลยให้ลูกชายคนหัวปีนั้น เอาลูกของตนที่ออกใหม่ๆ คลอดใหม่ๆ วางแบไว้กับนั้นแหละ แล้วให้ลูกชายนี่เฝ้าน้องว่างั้นเถอะ แม่จะลงหยั่งน้ำนี้ดูเพราะฝนตกทั้งคืน ไม่ทราบว่าจะลึกตื้นขนาดไหนน้ำในคลองนี้ แม่ก็เลยทดลองลงไปดูเสียก่อน ให้ลูกอยู่ทางฝั่งโน้น พอไปถึงกลางแม่น้ำก็มีเหยี่ยวบินโฉบลงมามันจะเอาเด็ก เหยี่ยวนั้นก็คงเป็นเหยี่ยวนกอินทรีย์หรืออะไรก็ไม่รู้ มันถึงจะเอาเด็กทั้งคน ลูกชายก็ยืนอยู่ที่นั่น พอมองเห็นเหยี่ยว แม่มองกลับไปทางลูก เห็นเหยี่ยวกำลังบินโฉบลงมา ก็เลยโบกไม้โบกมือบอกให้ไล่เหยี่ยว ทีนี้ลูกชายเข้าใจว่าแม่โบกมือให้ลงน้ำ ฟังว่าลูกเด็กคนนั้นเหยี่ยวเอาไปกินด้วยนะ โฉบลงมาเอาลูกไปกิน แล้วแม่ก็โบกไม้โบกมือ ลูกคนหัวปลีนั้นก็นึกว่าแม่เรียก ก็โดดลงมาในคลอง เลยจมน้ำตาย คว้าหาไม่เจอเลย นั่นตายสามคน เป็นบ้าไปเลย พอดีคนไปเจอเข้า เขาเลยพามาสำนักของพระพุทธเจ้า มันเป็นบ้าไปเลย ไม่ได้สติสตัง
มาถึงสำนักพระพุทธเจ้าแล้ว พอฟื้นสติขึ้น พระองค์ก็ประทานโอวาทพอได้สติขึ้นบ้าง ประทานหนักเข้าๆ เลยสำเร็จพระโสดาขึ้นในขณะนั้น แล้วขอบวชเป็นภิกษุณี แต่ตอนเปลือยตัวหมดนั้นอย่าพูดเลย นี่ในหนังสือท่านบอกไว้ ลืมนุ่งผ้าเลย ขนาดนั้นแหละ เปลือยหมด ลืมตัวจนขนาดนั้น นี่เพราะความทุกข์มาก ความคิดมาก มันเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น นี่ละอำนาจของความคิด ที่พาให้จิตเป็นต่างๆ จนเสียจริตไปก็ได้อย่างนี้
เพราะฉะนั้นอุบายวิธีการฝึกทางด้านจิตใจ จึงเป็นโอสถสำคัญที่จะระงับดับความคิดความฟุ้งซ่านอย่างนี้ได้ดี นอกจากนั้นยังรู้จักหักห้ามจิตในแง่ต่างๆ ซึ่งเห็นว่าเป็นของไม่ดีได้อีก ไม่ให้คิดซ้ำๆ ซากๆ ระมัดระวังรักษาความคิดของตนนั้น จิตก็พอยับยั้งตัวได้เมื่อมีสิ่งบังคับคือสติ หรือกำหนดธรรมบทใดบทหนึ่งเข้าแทนที่กับอารมณ์ที่เคยคิดอันไม่ดีนั้นเสีย มันจะคิดไปมากเพียงไร ก็ให้ตั้งสติกำกับบังคับไว้กับคำบริกรรมนั้นเพียงอันเดียว คำเดียว เช่น พุทโธๆ เป็นต้น ก็ระงับลงได้
ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาเทศน์อบรมฆราวาส
ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด


Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2564 18:03:32 น. 0 comments
Counter : 125 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 5378236
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ดี
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5378236's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.