ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไทย เมาแบบเลยเถิดแบบนี้ไหวไหม?

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไทย เมาแบบเลยเถิดแบบนี้ไหวไหม?

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

คิดว่าหลายๆ คนคงจะรู้จัก ฟูลมูนปาร์ตี้ เป็นอย่างดี ซึ่งต้องบอกเลยว่าปาร์ตี้แบบนี้เป็นอะไรที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นอย่างมาก เพราะมันให้ความสนุกเหมือนกับงาน สปริง เบรด (Spring Break) และ มาดิ กราส์ (Mardi Gras) ของต่างประเทศ ที่ให้นักท่องเที่ยวมาสนุกสนานปลดปล่อยกันได้อย่างเต็มที่นั่นเอง แต่อะไรที่ปาร์ตี้หนักเกินไปมันก็เป็นอะไรที่ไม่สมควร เพราะคุณอยาจจะตื่นขึ้นมานอนอยู่บนชายหาดแบบมึนๆ หรือของหายได้ถ้าไม่ระวัง ซึ่งวันนี้ทาง Men.MThai เราจะขอนำเสนอ ความสนุกจนเลิยเถิด ของนักท่องเที่ยวในงาน ฟูลมูนปาร์ตี้ ในประเทศไทยให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน เผื่อเพื่อนๆ ที่วางแผนที่จะไปสนุกกับ ฟูลมูนปาร์ตี้ ในอนาคตจะได้เพลาะๆ และควบคุมตัวเองได้ ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นคนในภาพที่ทางเราได้เอามานำเสนอเป็นแน่ๆ

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

ทำความรู้จักกับงาน ฟูลมูนปาร์ตี้ กันซะหน่อย
ฟูลมูนปาร์ตี้ เป็นงานฉลองบนชายหาด จัดขึ้นที่หาดริ้น เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทุกๆ คืนที่พระจันทร์เต็มดวง โดยงานฉลองมีจุดเริ่มต้นมาจากการจัดงานเลี้ยงส่งขอบคุณให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวประมาณ 20-30 คนเมื่อ พ.ศ. 2528 ที่ดิสโกเทคซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดนัก ต่อมาฟูลมูนปาร์ตี้ก็เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วจากการบอกต่อกันไปปากต่อปาก จนกระทั่งปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมถึง 20,000-30,000 คนต่อครั้ง บาร์ทุกร้านที่อยู่บนชายหาดของหาดริ้นจะยังคงเปิดอยู่และเล่นเพลงประเภทอาร์แอนด์บี เฮาส์ และเร็กเก้ หลังจากพระอาทิตย์ตก และงานฉลองจะจัดต่อเนื่องไปจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นของวันใหม่ ฟูลมูนปาร์ตี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยวจำนวนมากในเอเชีย การเข้าร่วมงานนั้นไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ในปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้พยายามที่จะเพิ่มความถี่ของงานฉลอง เช่นจัดในคืนที่พระจันทร์ครึ่งดวง (Half Moon Party) หรือในคืนเดือนมืด (Black Moon Party) อีกด้วย

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไทย

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไทย

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไทย

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไทย

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไท

รวมภาพ ฟูลมูนปาร์ตี้ ประเทศไทย




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2557   
Last Update : 22 ตุลาคม 2557 8:43:02 น.   
Counter : 2053 Pageviews.  

จุดชมวิวภูทอก ทะเลหมอกกลางแม่น้ำโขง จ.เลย

คนส่วนใหญ่อาจจะประทับใจกับความสงบของเชียงคาน แต่วันนี้ Travel MThai ขอไปชมทะเลหมอกอีกหนึ่งแห่งของภาคอีสาน คือ “จุดชมวิวภูทอก” ตั้งอยู่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย สถานที่นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสปุยของทะเลหมอกได้อย่างใกล้ชิดแบบสุดๆ 

จุดชมวิวภูทอก ทะเลหมอกกลางแม่น้ำโขง จ.เลย

E12860548-7ภาพ : hunter8217 

ถ้าหากมองในระยะไกลเบื้องหน้าจะเห็นวิวทะเลหมอกขาวโพลนตัดกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ ซึ่งนอกจากวิวของทะเลหมอกแล้วยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิว 360 องศา แบบพาโนราม่าของเมืองเชียงคานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแก่งคุดคู้และลำน้ำโขง ด้วยภูแห่งนี้มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ทำให้ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณภูสวยบริบูรณ์ด้วยธรรมชาติสร้างสรรค์ ในช่วงเวลาการชมทะเลหมอก คือในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาว ที่ให้คุณได้สัมผัสอากาศหนาวได้อีกด้วย

1404264596-002-oภาพ : คุณชานมชงเอง //pantip.com/topic/32269760

การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงคานใช้ทางหลวงหมายเลข 211 ไปทาง อ.ปากชม เมื่อผ่านทางแยกเข้าแก่งคุดคู้ จะพบทางแยกขวามือ ปากทางมีป้ายสถานีโทรคมนาคม เชียงคาน สู่เส้นทางขึ้นยอดภูทอก ส่วนใหญ่จะให้นักท่องเที่ยว จอดรถไว้ที่ปากทางขึ้น ภูทอก และให้ใช้บริการรถ สาธารณะ ที่ทางอำเภอเชียงคานได้จัดไว้ ค่าโดยสารประมาณคนละ 60 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวสำนักงานเลย (ททท.) โทร.0 4281 1480 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โทร.0-7648-1900-2

1404264644-003-oภาพ : คุณชานมชงเอง //pantip.com/topic/32269760

1404264627-00211-o
ภาพ : คุณชานมชงเอง //pantip.com/topic/32269760

543335144
ภาพ : sapaipae.weebly.com/

ภูทอก

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย /  //pantip.com/topic/32269760




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2557   
Last Update : 21 ตุลาคม 2557 8:40:31 น.   
Counter : 1714 Pageviews.  

ประสบการณ์ใหม่สำหรับคนอยากโต้คลื่น “Flow House Bangkok”

อยากเจอคลื่นไม่จำเป็นต้องไปทะเล โฟลวเฮาส์ แบงค์คอก (Flow House Bangkok) นำบรรยากาศความเป็นทะเลไว้ที่ใจกลางกรุงเทพฯ แล้ว ให้คุณสัมผัสบรรยากาศที่อบอวนไปด้วยกลิ่นอายของทะเล เสียงคลื่นเบาๆ จิบน้ำเย็นฉ่ำ และพาร่างกายเข้าสู่ห่วงบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบ ไม่มีขีดจำกัด ทั้งวันและยามค่ำคืน

ประสบการณ์ใหม่สำหรับคนอยากโต้คลื่น “Flow House Bangkok”

ประสบการณ์ใหม่สำหรับคนอยากโต้คลื่น

โฟลวเฮาส์ แบงค์คอก เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2553 เมื่อคุณพิพ (อนุตร จาติกวนิช) และคุณเจ (เจ บุนนาค) สองหุ้นส่วนได้มาคุยกันและคิดกันว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองศูนย์กลางที่มีบรรยากาศที่ดี แต่ขาดกีฬากลางแจ้งที่สนุก และมันส์สถานที่ที่ทั้งผู้ใหญ่ วัยรุ่น เด็กๆ จะไปนั่งชิว พบปะพูดคุยพร้อมสนุกกัน เพราะส่วนมากคนกรุงเทพฯ จะใช้เวลาว่างตามร้านอาหาร โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่พักผ่อนในร่มทั้งนั้น และคนเยอะวุ่นวาย

คุณพิพ จึงได้สังเกตจากลูกของท่านเองว่าเด็กๆ ได้แต่ใช้เวลาว่างไปกับการดูหนัง เล่นคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน (อ๊ะ! อย่าเข้าใจผิด เรารักเทคโนโลยีนะ เพียงแต่บางทีเราควรจะวางมันลงแล้วหยิบบอร์ดขึ้นมาเฮฮาบบ้าง) ซึ่งระหว่างที่คุณพิพอยู่ที่แคลิฟอเนีย (สหรัฐอเมริกา) ท่าได้เห็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ทุกคนออกไปสนุก ออกไปทำกิจกรรมร่วมกัน นั่นก็คือ โฟลวไรเดอร์ จากบริษัท เวฟลอช กีฬาที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยที่ไม่มีขีดจำกัดสามารถเล่นได้ทั้งปี หลังจากนั้นไม่นาน คุณพิพและคุณเจก็ได้นำเอาโฟลวไรเดอร์เข้ามาเผยแพร่ในประเทศไยเป็นเจ้าแรก

ดังนั้นไม่มีข้อสงสัยเลยว่ากีฬาโฟลวไรเดอร์ เป็นกีฬาที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัย แต่เราต้องการให้โฟลวเฮาส์ เป็นมากกว่าแค่กีฬาหรือแค่สวนน้ำเท่านั้น แต่เรายังต้องการสร้างบรรยากาศขึ้นมาทันทีใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ให้เป็นสถานที่ที่ไม่ใช่แค่นักเล่นกีฬาทางน้ำหน้าใหม่หรือหน้าเก่าที่อยากมา ลองสัมผัสการโต้คลื่นเท่านั้น แต่เราต้องการเป็นสถานที่ที่ครอบครัว และเพื่อนสามารถมาสนุก มาพักผ่อน และผ่อนคลายในบรรยากาศของทะเลได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนไปกับอาหารและเครื่อง ดื่มหลากหลาย ครบรส

ประสบการณ์ใหม่สำหรับคนอยากโต้คลื่น

ถ้านึกถึงโฟลวเฮาส์ แบงค์คอกเราคือ Beach club ที่คุณไม่ต้องเป็นสมาชิก เรายินดีต้อนรับและบริการอย่างเต็มที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน ไม่ใช่ แค่นักโต้คลื่นมือเก๋า คนที่เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม มือใหม่หรือมือโปร เล่นครั้งแรกหรือยังไม่เคยเล่น ไม่ต้องลังเลใจ ที่นี่เป็นที่สำหรับทุกทุกคนที่ต้องการพักผ่อน นั่งชิว และได้สัมผัสบรรยากาศทะเลแบบใกล้ชิด

พร้อมสนุกไปกับเราหรือยังทุกคน ?? คลื่น สายน้ำ หาดทราย บรรยากาศเย็นสบาย ชวนครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือคนที่ไม่มีคู่ก็ยังได้ คนรักกีฬาแนวใหม่ หรือคนที่เล่นกีฬาไม่เป็น วันที่แสนร้อนและแสนวุ่นวาย เหนื่อยกับการทำงานเต็มที่ทิ้งงานไม่ได้ก็หิ้วงานมาด้วยซะเลย อย่ามัวแต่ลังเลใจ เรามีพร้อมบรรยากาศแสนสบายไว้ให้คุณ ผ่อนคลายไปกับคลื่นน้ำ สายลมแสงแดด อาหารแสนอร่อยที่รสชาติคุ้น เคย เครื่องดื่มที่ทำให้สดใหม่อยู่เสมอ บรรยากาศที่คุณหาในกรุงเทพฯ ไม่ได้ แต่ที่นี้ มีไว้สำหรับคุณ  ถ้าคุณเป็น อีกคนที่อยู่กรุงเทพฯ แต่กำลังวางแผนจะออกเดินทางไปทะเลต่างจังหวัดด้วยเวลาที่จำกัด ลองคิดดูใหม่อีกครั้งเรานำบรรยากาศทะเลเต็มรูปแบบมาไว้สำหรับคุณแล้วที่นี้ โฟลวเฮาส์ แบงค์คอก

ประสบการณ์ใหม่สำหรับคนอยากโต้คลื่น
สนุกไปกับโฟลวไรเดอร์ และอื่นอีกมากมายได้แก่
Plunge pool สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมเล่นกีฬามันส์ๆ หรือแค่อยากเล่นน้ำชิวๆ ร้านอาหารที่โดดเด่นได้ด้วยสไตล์ที่แตกต่าง ให้คุณสามารถเลือกสรร รสชาติที่คุ้นเคยทั้งอาหารไทยและเทศ คอลเทลที่ทำใหม่และสดอยู่ตลอด ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ ซึ่งคุณสามารถเลือกนั่งชิลได้ทั้งบรรยากาศ indoor และ outdoor

Sport bar เรามี่ทั้งโต๊ะ pool เกมปาเป้า และเกมอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งอีเวนท์และปาร์ตี้สำหรับลูกค้าตั้งแต่ 10 ถึง 1,000 คน มาพร้อมกับระบบแสงสีเสียงและดีเจชั้นนำเต็มรูปแบบ ฟรี Wi-Fi ทั่วบริเวณโฟลวเฮาส์ แบงค์คอก

ประสบการณ์ใหม่สำหรับคนอยากโต้คลื่น

ประสบการณ์ใหม่สำหรับคนอยากโต้คลื่น “Flow House Bangkok”

โฟลวเฮาส์ แบงค์คอกกลายเป็นสถานที่สำคัญที่น่าสนใจของกรุงเทพฯ และเป็นกิจกรรมที่ท้ายทายที่ต้องทำ สำหรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ กีฬาโฟลวไรเดอร์ เป็นกีฬาที่ตื่นเต้นให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศของทะเลอย่างแท้จริง ณ โครงการเอ-สแคว สุขุมวิท 26 ก่อนถึงถนนพระรามสี่ ไม่ไกลจากห้างเอ็มโพเรียม ฉะนั้นเราจึงเป็นสถานที่สุดมันส์ที่อยู่ใจกลางเมือง และเดินทางมาง่ายไม่ว่าด้วยรถส่วนตัวหรือรถขนส่งสาธารณะ

ค่าบริการ 750 บาทต่อชั่วโมง ราคานี้รวมอุปกรณ์ทุกชนิดรวมทั้งครูฝึกสอน สิ่งที่คุณต้องนำมามีแค่ชุดว่ายน้ำตัวเก่ง แต่ถ้าไม่มี? ไม่เป็นไร เพราะเรามีร้านริป เคริ์ล เปิดให้บริการ ณ โฟลวเฮาส์ ให้คุณได้เลือกซื้อชุดสำหรับเล่นโต้คลื่น หรือเสื้อผ้าสไตล์ทะเล๊ ทะเล….แต่ถ้าคุณไม่ได้อยากจะมาเล่นโต้คลื่น แค่อยากมานั่งชิว ย้ำอีกครั้งไม่มีปัญหาใครใครก็มาได้เลย ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการเข้าชม

Flow House Bangkok เปิดให้บริการ (เกือบ) 24 ชั่วโมง ทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืน
วันจันทร์-ศุกร์      10.00 – 24.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์    8.00-24.00 น.


//travel.mthai.com/blog/98918.html




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2557   
Last Update : 16 ตุลาคม 2557 8:35:20 น.   
Counter : 1230 Pageviews.  

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

เที่ยว นั่น นี่ โน่น มาก็มาก แต่จะว่าไปเรายังไม่ค่อยได้พาไปเที่ยววัดกันสักเท่าไหร่ ทั้งๆที่เมืองไทยเป็น “เมืองพุทธ” วันนี้เราจะพาเที่ยววัดธรรมดาทั่วไปก็ใช่ที่ งานนี้ขอคัดมาแบบเน้นๆ เอาที่สวย เริ่ด เจิดสุดรับรองว่า งานนี้ตื่นตากับความงาม ถึงขนาดที่ว่าถ้าได้ไปจนครบ คุณต้องรักการเข้าวัดและลืมที่เที่ยวแบบอื่นๆไปเลยทีเดียว

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

1. วัดพระศรีอารย์ อุโบสถทองคำร้อยล้าน จังหวัดราชบุรี

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

ชมความงามวัด Unseen ที่แรกกันที่ ราชบุรี กับ อุโบสถทองคำร้อยล้าน วัดพระศรีอารย์  ความสวยงามของวัดแห่งนี้ อยู่ที่ตัวโบสถ์ ซึ่งเป็นพระอุโบสถตกแต่งด้วยงานปูนปั้นสีทองทั้งหลัง เหลืองอร่ามมองเห็นได้แต่ไกล  สวยงามด้วยศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นจิตรกรรมเรื่องพระมหาชนก ทศชาติพระเจ้าห้าพระองค์  ตัวอุโบสถทองคำหลังนี้ใช้เวลาในการสร้างนานถึง 37 ปี  ด้วยแรงศรัทธาจากชาวบ้านล้วนๆ โดยมีมูลค่าในการจัดสร้างรวมกว่า  “ร้อยล้านบาท” ประกอบกับตัวโบสถ์สีทองทำให้ใครๆ พากันเรียกขานโบสถ์แห่งนี้ว่า  “อุโบสถทองคำร้อยล้าน”

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดสวยที่สุดในไทย

ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานปางมารวิชัย ศิลปะพม่า สร้างด้วยหยกขาวทั้งองค์ที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศพม่า นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปคู่วัด คือ พระศรีอารย์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่พิมพ์พระศรีอารย์ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ มีตาลปัตรอยู่ด้านหน้าองค์พระพุทธรูป จีวรจับกลีบคล้ายพระพุทธลักษณะสมัยคันธาระ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนเคารพกราบไหว้ นอกจากนี้ที่ประตูโบสถ์ก็ทำมาจากไม้ยมหอมทั้งต้น แกะสลักลวดลายพุทธประวัติ ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ และสวยงามมาก
ที่ตั้ง : หมู่ 6 บ้านเลือก ตำบล บ้านเลือก อำเภอ โพธาราม จังหวัด ราชบุรี 70120
การเดินทาง : ใช้ถนนเพชรเกษมประมาณ กม. ที่ 74 บริเวณบ้านเลือกมีทางแยกขวามือ (ถ้ามาจากราชบุรีทางแยกอยู่ซ้ายมือ เลยแยกบางแพไปประมาณ 500 เมตร)

2. วัดถ้ำเขาวง วัดไม้เก่าแก่ท่ามกลางภูเขาหินปูน จังหวัดอุทัยธานี

10 วัดที่สวยที่สุดในไทย

วัดสวย แปลกตา ลำดับถัดไป ที่เราอยากให้คุณหาโอกาสไปเยี่ยมชมให้ได้ คือ “วัดถ้ำเขาวง” หากมองจากภาพถ่ายเชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า เป็นรีสอร์ทสวยๆ ที่ไหนสักแห่ง แต่ความจริงแล้วที่นี่คือ “วัด” โดยวัดแห่งนี้เป็นอาคาร 4 ชั้น ออกแบบลักษณะเรือนไทย ยกใต้ถุน แบ่งสัดส่วนการใช้งานเป็น 4 ส่วน คือ ใต้ถุนเป็นลานเอนกประสงค์และร้านขายของ , ชั้นที่ 2 เป็นวิหาร , ชั้นที่ 3 เป็นกุฏิ และ ชั้นที่ 4 จะเป็นโบสถ์สร้างด้วยไม้สัก และไม้มะค่า มีความงดงามมาก บริเวณโดยรอบก็มีการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม ร่มรื่น มีฉากหลังเป็นเขาหินปูนสูงตระหง่าน บริเวณด้านหน้ามีสวนไม้ดัด และบ่อน้ำซึ่งมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ห่างจากตัววัดไปทางด้านหลังจะมีถ้ำอยู่ประมาณ 7-8 ถ้ำ บางถ้ำเป็นที่นั่งวิปัสสนาสำหรับพระภิกษุ บางถ้ำเป็นถ้ำค้างคาว และบางถ้ำก็มีหินงอกหินย้อยให้ชมกัน ระหว่างทางเดินที่จะขึ้นไปชมถ้ำ จะผ่านน้ำตกเทียมที่ดูเข้ากับบรรยากาศ เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้ จะรู้สึกปลอดโปร่ง ทั้งจากใจที่สงบจากการทำบุญ และจากกายที่ได้พักผ่อนเหมือนมาตากอากาศในรีสอร์ท

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

ที่ตั้ง : เชิงเขาวง ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
การเดินทาง : จากตัวเมืองอุทัยธานี มุ่งหน้าสู่ตำบลบ้านไร่ ห่างจากอำเภอไปราว 12 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3011 ผ่านทางโค้งศาลเจ้าพ่อเขารักแล้วมาตัดกับสามแยกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เขาวง ประมาณ 8 กิโลเมตรถึงทางแยกเข้าไปอีก 300 เมตร ทางค่อนข้างจะลาดชันขึ้นทีละน้อย เส้นทางอ้อมโค้งเป็นหน้าผาต้องไต่ไปตามซอกเขา

3. วัดสันป่ายางหลวง วัดสวยล้านนากลางป่าคอนกรีต จังหวัดลำพูน

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

ถัดมาเราไปดูวัดสวยสไตล์ล้านนาท่ามกลางป่าคอนกรีต ของจังหวัดลำพูนกันบ้าง โดยไปกันที่วัด “สันป่ายางหลวง” วัดนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยเชื่อกันว่าเป็นวัดแห่งแรกของอาณาจักรล้านนา ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้ภายในวัด มีสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ศิลปะทางล้านนามากมาย ไม่ว่าจะเป็น “วิหารพระโขงเขียว” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง หรือจะเป็น “พระวิหารพุทธอัญญรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย” มณฑปทรงล้านนา ที่ใช้ประดิษฐานพระพุทธเมตไตรจำลองจากพุทธคยา ฯลฯ การตกแต่งนอกจากจะใช้ศิลปะสไตล์ล้านนาแล้ว ยังมีการสอดแทรกคติความเชื่อทางศาสนาลงไปในการก่อสร้างอีกด้วย

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดสวยที่สึดในเมืองไทย10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย

นอกจากการก่อสร้างที่มีความสวยงามแปลกตาในสไตล์ล้านนาแล้ว ความงามของพระพุทธรูปหินหยกขาวปางปรินิพพาน, มณฑปพระเขี้ยวแก้วซึ้งเป็นพระเขี้ยวแก้วของพระมหาสารีบุตร, พระเขียวโขง, พระพุทธรูปแก้วขาวของเก่าเมืองลำพูน รวมทั้งพระเครื่องสกุลหริภุญชัยซึ่งอยู่ภายในวัดแห่งนี้ ก็เป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพากันมาสักการะ และเยี่ยมชมไม่อย่างขาดสาย
ที่ตั้ง :  หมู่บ้านสันป่ายางหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
การเดินทาง :  จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านดอนเมือง รังสิต แยกซ้ายตรงกิโลเมตรที่ 32 ผ่านจังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท เข้าจังหวัดนครสวรรค์ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 11 เข้าจังหวัดลำพูน รวมระยะทาง 670 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง

4. พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดสวยเหมือนอยู่ในแดนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล จ.ร้อยเอ็ด ความสวยแปลกตาของพระมหาเจดีย์แห่งนี้ คือ การผสมผสานระหว่างองค์พระปฐมเจดีย์ ศิลปะของภาคกลาง และพระธาตุพนม ศิลปะของภาคอีสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จากภายนอกตัวอาคารเป็นพื้นสีขาวตกแต่งลวดลายด้วยสีทองเหลืองอร่าม ดูวิจิตรตระการตา บริเวณโดยรอบรายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ ภายในองค์พระมหาเจดีย์ ตกแต่งอย่างสวยงามเหมือนอยู่บนวิมานแดนสวรรค์ มีรูปปั้นเทพ และเทพธิดา ไปจนสวนสวยอยู่โดยรอบ ใช้งบประมาณในการสร้างรวมแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย 10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

ที่ตั้ง : ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด
การเดินทาง : จากตัวเมืองร้อยเอ็ด ใช้เส้นทาง ร้อยเอ็ด – โพนทอง – หนองพอก ระยะทาง 62 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 2044 และ 2136 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงอำเภอหนองพอกต่อไปยังบ้านท่าสะอาด ตำบลผาน้ำย้อย และขึ้นเขาเขียวไปอีก 5 กม. ก็จะถึงวัดเจดีย์ชัยมงคลสถานที่ตั้งของ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล

5. วัดถ้ำเสือ ชมความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุด จังหวัดกาญจนบุรี

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

วัดสวย แปลกตา ลำดับถัดไป เราไปกันที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กับวัดสวยขนาดใหญ่ “วัดถ้ำเสือ” ความสวยงามสะดุดตาของวัดนี้ เริ่มกันตั้งแต่ องค์พระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ไม่ได้มีดีแค่ขนาดเท่านั้น ความสวยงามขององค์พระที่ประดับตกแต่งด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนพากันหลั่งไหลเข้ามาชื่นชมความงามไม่ขาดสาย และเมื่อเดินเข้าไปภายในวัดจะพบกับความวิจิตรของศิลปะแบบไทยๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุโบสถวัด ทรงจตุรมุข มีซุ้มเสมารอบ 8 ทิศ, ลวดลายปูนปั้นพระพุทธประวัติสวยงามทุกด้านของผนังภายในอุโบสถ, พระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท เจดีย์ทรงสวย รูปร่างแปลกตา ภายในมีทั้งสิ้น 9 ชั้น ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้หากมองลงมาจากบริเวณด้านบนในช่วงหน้าทำนา จะมองเห็นทุ่งนาข้าวสวยงามสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย 10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย

ที่ตั้ง : ต.ม่วงชุม อำเภอท่าม่วง กาญจนบุรี
การเดินทาง : วัดถ้ำเสืออยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลองประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลองแล้วจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายอีกประมาณ 200 เมตร

6. วัดป่าสว่างบุญ เจดีย์ทองคำ 500 ยอด จังหวัดสระบุรี

10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย

ลำดับถัดไปเราไปชมความงามของมหาเจดีย์ราย 500 ยอดที่ วัดป่าสว่างบุญ จ.สระบุรี ที่วัดนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงในเรื่องของความสงบ ทำให้มีผู้คนมาปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมากแล้ว ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมที่สวยงามก็เป็นอีกหนึ่งที่ทำให้ชื่อเสียงขจรขจายไปไกลอีกด้วย โดยความเด่นเรื่องความงามของวัดแห่งนี้อยู่ที่ พระมหาเจดีย์ 500 ยอด มีชื่อเต็มว่า “พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ” ซึ่งประกอบไปด้วย “เจดีย์ประธานองค์ใหญ่” อยู่ตรงกลาง และมีองค์เจดีย์รายองค์เล็กตั้งลดหลั่นกันลงมาอยู่รอบๆทิศ ตัวองค์เจดีย์เป็นปูนปั้นเคลือบสีทองทั้งหมดทุกองค์ ด้านในประดับกระจกทับทิม และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศเนปาล, อินเดีย และศรีลังกา มาบรรจุในพระมหาเจดีย์ครบทั้ง 500 ยอด รวมทั้งได้นำพระบรมสารีริกธาตุ และวัตถุมงคลของมีค่ามาบรรจุอยู่ในพระเจดีย์องค์ประธานอีกด้วย

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย

ที่ตั้ง : หมู่ 7 บ้านคลองไผ่ ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
การเดินทาง : ใช้เส้นทาง สระบุรี-นครนายก จาก อ.แก่งคอย ไปประมาณ 15 กิโลเมตร พอถึงตำบลชะอม เลี้ยวซ้ายไปเส้นทางเที่ยวน้ำตกโกรกอีดก ตรง เข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่ทางขวามือ มีป้ายบอกชัดเจน

7. วัดท่าซุง ชมความงามวิหารแก้วอันเลื่องชื่อ จังหวัดอุทัยธานี  

10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย

วัดท่าซุง วัดขึ้นชื่อเรื่องความงามของจังหวัดอุทัยธานี แม้วัดแห่งนี้จะเป็นวัดเก่า แต่ก็ได้มีการบูรณะเรื่อยมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีการสร้างอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้นจากในอดีตมากมาย เช่น พระอุโบสถใหม่ ภายในประดับ และ ตกแต่งอย่างวิจิตร บานหน้าต่าง และประตูด้านในเขียนภาพเทวดาโดยจิตรกรฝีมือดี บริเวณโดยรอบสร้างกำแพงแก้ว มีรูปหล่อหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3 เท่า อยู่มุมกำแพงด้านหน้า มณฑป และพระวิหารแก้วที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง และศพของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อย ไฮไลท์ความงามของที่นี่ต้องยกให้วิหารแก้ว ซึ่งสร้างด้วยโมเสกสีขาวใส มองดูเหมือนแก้ววาววับอยุ่ภายในสวยแปลกตา นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปพระพุทธชินราชจำลอง ซึ่งมีความงดงามเป็นพระประทานในวิหารอีกด้วย

10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย 10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย

ที่ตั้ง : เลขที่ 60 หมู่ 1 บ้านท่าซุง ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
การเดินทาง : จากกรุงเทพเข้าสู่ป้ายต้อนรับจังหวัดอุทัยธานี วิ่งตรงตามถนนเข้าเมืองมาจนสุดทาง ก็จะเจอสามแยกมีป้ายแหล่ง ท่องเที่ยวที่ชี้บอกทางไปวัดท่าซุงเอาไว้ให้็เลี้ยวซ้ายเข้ามาตามทางหลวงสาย 3265 ถึงแยกไฟแดง ถัดมาก็เลี้ยว ขวาตามป้ายอำเภอ มโนรมย์ขับตามป้ายบอกทางไปวัดท่าซุงซึ่งจะมีบอกอยู่เป็นระยะ

8. วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ พุทธคยาจำลอง จังหวัดนครสวรรค์    

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

วัดสวยแปลกตา ลำดับถัดไปเราไปกันที่ จังหวัดนครสวรรค์ กับ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ซึ่งเป็นวัดในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ความสวยงามแปลกตาของวัดแห่งนี้ คือการสร้างวัดเป็นรูปเรือหลวงบนยอดเขา ซึ่งสื่อความหมายถึง พาหนะที่จะช่วยให้พ้นห้วงกิเลส ภายในวัดประดิษฐานเจดีย์ศรีพุทธคยา ซึ่งจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยาจากประเทศอินเดีย ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมทรงกรวย ส่วนยอดเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น ซึ่งมีความสวยงามดูแปลกตา บริเวณรอบๆ เจดีย์จะมีพระพุทธรูปปางประทับยืน และประทับนั่งอยู่ทั่วไป บริเวณชั้นบนสุดยังเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุอีกด้วย นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งก่อสร้างที่มีความหมายเป็นมงคลอีกหลายอย่าง อาทิ มณฑปเรือนแก้ว สถาปัตยกรรมประยุกต์ไทยอินเดีย มุงและกั้นด้วยกระจกสีชาทั้งหมด เป็นที่ประดิษฐานพระประวัติศาสตร์ ห้องพระไตรปิฎก ชั้นบนสุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ฯลฯ

10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย 10 วัดที่สวยทีสุดในเมืองไทย

ที่ตั้ง : บ้านเขาโคกเผ่น ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก นครสวรรค์
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เดินทางมุ่งหน้า อ.ตาคลี นครสวรรค์ ถึงกองบินสี่ เจอแยกไปหัวหวาย (ทางหลวงแผ่นดิน 3329) เลี้ยวซ้าย ขับรถไปเรื่อย ๆ จะเจอสี่แยกตัดกันกับเส้นตากฟ้า-ท่าตะโก ให้ตรงเข้าไป ขับรถผ่านหมู่บ้านทาง รพช. มีป้ายบอกตลอดทางจะเห็นภูเขาอยู่ด้านหน้าประมาณห้า กม.จากแยกก็จะถึงวัด

9. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร วัดแบบโบสถ์คริสถ์หนึ่งเดียวในไทย จังหวัดอยุธยา

10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย

เคยเห็นวัดสร้างสไตล์โบสถ์คริสต์กันมั้ย  ถ้ายังไม่เคยเห็นเราจะพาไปชมกันได้ที่ “วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร” จ.อยุธยา วัดนี้สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบโบสถ์ฝรั่งเป็นศิลปะแบบโกธิค (Gothic) ภายในประดิษฐาน “พระพุทธนฤมลธรรโมภาส” เป็นพระประธานออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ โดยลักษณะที่ผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยม และศิลปะแบบตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายสามัญชน นอกจากนี้ บริเวณฐานชุกชีก็มีลักษณะเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนแบบโบสถ์ และฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าของพระประธานนั้น เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ ๕ ที่ประดับด้วยกระจกสี มองดูมีความสวยงามแปลกตามาก

10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย

ที่ตั้ง : เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน ตำบลบ้านเลน  อำเภอบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา
การเดินทาง : ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศใต้คนละฝั่งกับพระราชวังบางปะอิน มาจากกรุงเทพฯ ตามถนนพหลโยธิน จะมีทางแยกซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 35 ไปพระราชวังบางปะอินเป็นระยะทางอีก 7 กิโลเมตร

10. วัดเกริ่นกฐิน วัดสวยจากศรัธาประชาชน จังหวัดลพบุรี

10 วัดที่สวยที่สุดในโลก

วัดสวยแปลกตาในเมืองไทย ลำดับสุดท้ายที่เราจะพาคุณๆไปชมในวันนี้ ไปกันที่  “วัดเกริ่นกฐิน” จังหวัดลพบุรี วัดแห่งนี้จัดเป็นวัดเก่าคู่บ้านคู่เมืองลพบุรีมาช้านาน แต่เดิมชื่อเสียงของที่นี่เป็นวัดที่จำพรรษาของเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงพ่อเพี้ยน” ต่อมาผู้คนที่นับถือองค์หลวงพ่อก็ได้เข้ามาช่วยกันทำบุญและบูรณะวัดให้มีความสวยงาม จนชื่อเสียงเรื่องความงามเริ่มเป็นที่ประจักษ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิหารหลวงพ่อปาน วิหารแก้วที่มีความวิจิตรสวยงามภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อปาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ของวัด, เจดีย์สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระสังฆราชประทานให้ไว้ ตัววิหารออกแบบสวยงามมีการประดับตกแต่งทั้งภายในและภายนอก พร้อมทั้งมีการยกฉัตรทองคำอีกด้วย

10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

ที่ตั้ง : บ้านเกริ่นกฐิน ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
การเดินทาง : เส้นทาง ถนน สายบางงา บ้านหมี่ (ทางหลวงหมายเลข 3028) กม ที่ 8(ข้าง ร.ร.บ้านชีวิทยา) มีทางแยกเข้า ระยะทางประมาณ 5 กม. กมที่ 11(ตรงข้าม อบต.บ้านชี) มีทางเข้าระยะทาง 3 กม. เส้นทางเลียบคลองส่งน้ำ ชัยนาท- ป่าสัก แยกริมคลองส่งน้ำ ขวา 16 (R16) (ใกล้หมู่บ้านหนองทรายขาว) ตรงไป 7 กม ก็จะเห็นวัดเกริ่นกฐิน

ขอบคุณภาพจาก  prame9   //picpost.mthai.com/view/76192

ที่มา  //www.painaidii.com/diary/diary-detail/001523/lang/th/




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2557   
Last Update : 15 ตุลาคม 2557 8:58:36 น.   
Counter : 2795 Pageviews.  

เที่ยวอำเภอสะเมิง ไปเก็บสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากไร่

อำเภอสะเมิง คืออำเภอที่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่อำเภอสะเมิง เป็นแหล่งปลูกพันธุ์ไม้เมืองหนาวและสตรอว์เบอร์รีแหล่งสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอสะเมิงยังได้รับการขนาน นามให้เป็น “เมืองหลวงของสตรอว์เบอร์รี” อีกด้วย

เที่ยวอำเภอสะเมิง ไปเก็บสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากไร่

สะเมิง

ในทุกๆ ช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนเมษายนของทุกๆปี สตรอว์เบอร์รีในอำเภอสะเมิงจะเริ่มสุกโดยสตรอเบอร์รีแก่จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีชมพูจนถึงสีแดง ดังนั้นในช่วงเวลานี้ของทุกๆปีทางอำเภอสะเมิง จะมีการจัดเทศกาลสตรอว์เบอร์รีและของดีอำเภอสะเมิง ซึ่งในทุกๆ ปีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอสะเมิงและเยี่ยมชมไร่สตรอว์เบอร์รี ภายในอำเภอสะเมิงกันอย่างไม่ขาดสาย

ความสุขที่สัมผัสได้-ที่-ไร่สตรอเบอร์รี่ไผ่สีทอง_13

สำหรับคนที่มีโอกาสมาท่องเที่ยวอำเภอสะเมิง และกำลังมองหาของดีของอร่อยประจำอำเภอสะเมิง แน่นอนว่าต้องไม่พลาดโอกาสไปหาซื้อสตรอว์เบอร์รีลูกสีแดงสดๆจากไร่ ผลไม้เมืองหนาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของดีประจำอำเภอสะ เมิง โดยเฉพาะถ้ามีโอกาสเดินทางมาเที่ยวอำเภอสะเมิงในช่วงเทศกาลสตรอว์เบอร์รีและของดีอำเภอสะเมิง แน่นอนว่าคุณจะมีโอกาสได้เลือกซื้อสตรอว์เบอร์รีสดๆจากไร่ในราคาย่อมเยาว์อีกด้วย

p58-1

ข้อมูลเกี่ยวกับ อำเภอสะเมิง

อำเภอสะเมิง อยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากอำเภอเมืองเชียงใหม่เพียง 52 กิโลเมตร สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก ทั้งโดยรถยนต์และรถโดยสาร ยกเว้นหากต้องการขึ้นม่อนอังเกตุ ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น หรือติดต่อผู้ชำนาญการในพื้นที่จะปลอดภัยกว่า เปิดให้ขึ้นชมตั้งเดือนธันวาคม-เมษายน

ว่าที่สะเมิง

การเดินทางไป อำเภอสะเมิง

จากอำเภอเมืองเชียงใหม่ สามารถเข้าถึงได้ 2 ทาง คือ ทางแม่ริม-สะเมิง ตามทางหลวงหมายเลข 1196 ระยะทาง 52 กิโลเมตร และทางอำเภอหางดง ตามทางหลวงหมายเลข 1269 ระยะทาง 44 กิโลเมตร ซึ่งทางจะคดเคี้ยวมากกว่า

หากไปทางเส้นแม่ริม-สะเมิง สามารถแวะท่องเที่ยวศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ทางเดียวกันทางไปม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมขณะนี้ ไล่เรื่อยไปจนถึงปางช้างแม่สา ฟาร์มงูแม่สา น้ำตกแม่สา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิดิ์ ฯลฯ

มีรถโดยสารสายเชียงใหม่-สะเมิง และเชียงใหม่-ปอแก้ว ออกจากสถานีขนส่งช้างเผือกให้บริการ

สถานที่พัก อำเภอสะเมิง

ไร่นก ภูผา มีบ้านพัก 5 หลัง ราคา 400-1500 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า) เต็นท์หลังละ 250 บาท น่าเต็นท์ไปเอง คิด ๖๐ บาท ต่อคนค่าเข้าไร่สตรอเบอร์รี่ 10 บาท ค่าขับรถบักกีรอบละ 100 บาท ประมาณ 20 นาที โทรศัพท์ 08 1603 9800, 0 5337 8414-5

ไร่วงศ์วาน มีบ้านพักเรือนไม้ขัดแตะ ติดไร่สตรอเบอร์รี่ โทรศัพท์ 08 5712 0901

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

หากอยู่ในตัวอำเภอสะเมิง สามารถหาร้านอาหารได้โดยง่าย มีร้านอาหารตามสั่งให้เลือกหลายร้านแถบตลาดเทศบาลตำบลสะเมิงได้ แต่หากไปนอนในไร่สตรอเบอร์รี่ ห้ามพลาดชิมน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นสดๆ รสชาติเยี่ยม

วัดพระบรมธาตุดอยผาสัม

ฟาร์มงูแม่สา

น้ำตกตาดหมอก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม เครือข่ายกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรม อำเภอสะเมิง โทรศัพท์ 08 4555 7470 อีเมล jutirat_ann@hotmail.com เว็บไซต์ //ann1tour.blogspot.com


View Larger Map

ข้อมูลและภาพ : เฟสบุ๊ค At.Samoeng / chiangmaitouring.com / strawberrychiangmai.com
เรียบเรียงโดย Travel MThai




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2557   
Last Update : 14 ตุลาคม 2557 8:33:20 น.   
Counter : 2081 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]