เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี คืนมหัศจรรย์ ในสวนสัตว์เมืองล้านนา ตอนเหนือของประเทศไทย เข้าสู่ฤดูหนาวแบบเต็มตัวกันเสียที แม้ทางตอนล่าง และบางพื้นที่ของประเทศจะมีฝนตก แดดออก อากาศร้อนอบอ้าวอยู่ก็ตามที แต่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับนักท่องเที่ยวขาประจำอยู่แล้วใช่ไม๊!? ไม่นานมานี้ ทางทีมงาน Travel MThai ได้มีโอกาสร่วมทริปกับ “ตามรอยนักชิม” ไปตะลุยกันที่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเสาะหา ที่กิน เที่ยว มาฝากบรรดาสานุแฟนทั้งหลาย (ส่วนจะมีอะไรกันบ้าง โปรดติดตามกันต่อไป :D) และส่วนหนึ่งของการเดินทางในครั้งนี้ ได้มีโอกาสมาเยือนสวนสัตว์เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี กลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น หลังจากชื่อของสวนสัตว์มีเอี่ยวในทอล์คโชว์ เดี่ยว 9 ของพี่โน๊ต อุดม จากคำยอดฮิต “มูมู่” จนทำให้ใครหลายๆ คน อยากจะทราบความจริงแล้วว่า มันคืออะไรกันแน่? จึงต้องมาค้นหาคำตอบกัน และนักท่องเที่ยวเองจะได้รู้ว่า นอกจากคลายข้อสงสัยที่ว่าแล้ว สวนสัตว์แห่งนี้ยังมีอะไรอีกมากมาย ให้เรารู้จักกัน.. หนึ่งในโปรแกรมเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่ ก็คือ ไนท์ซาฟารี ใช่แล้วครับ! การเที่ยวชมบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ในยามค่ำคืน หลายคนก็สงสัยว่า มืดมองไม่เห็นสัตว์แบบเต็มตา มันจะไปสนุกยังไง? ก็เพราะการที่ไม่เห็นอะไรไม่ชัดนี่แหละ มันสร้างความตื่นเต้นให้กับเรา ต้องค่อยลุ้นตลอดว่าจะเจออะไรข้างหน้า! ก่อนเดินทาง มาทราบความเป็นมาของ สวนสัตว์ เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี เป็นหน่วยงานของรัฐบาล ที่ดำเนินงานโดยการกำกับดูแลของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) มีที่ตั้งในพื้นที่ตำบลแม่เหียะ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง และตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ นับรวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 819 ไร่ และห่างจากใจกลางเมืองเชียงใหม่เพียง ประมาณ 10 กิโลเมตร เท่านั้น เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี เมื่อแรกเริ่ม เปิดให้บริการในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2549 มุ่งเน้นการให้บริการในตอนเย็นจนถึงกลางคืน และจัดเป็นสวนสัตว์กลางคืนแห่งแรกในประเทศไทย แต่ในปัจจุบัน เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน ทั้งในเวลากลางวัน และในเวลากลางคืน และอาจนับได้ว่าเป็นสวนสัตว์กลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของไนท์ซาฟารีสิงคโปร์ นอกจากนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังเน้นในความเป็น Nature Theme Park ซึ่งจะแตกต่างจากสวนสัตว์ทั่วๆ ไป รวมทั้ง Safari ในแอฟริกา โดยเน้นในด้านธรรมชาติวิทยา ชีวิตสัตว์ป่าที่อยู่ในเอเชีย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ป่าได้อย่างใกล้ชิด หากเปรียบกับในแอฟริกา ก็ยังหาดูพฤติกรรมของสัตว์ป่าได้ยากกว่าที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากการได้ลิ้มรสความอบอุ่นจากการได้ชม และสัมผัสกับเหล่าสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ทั้งในยามบ่ายและยามค่ำคืน ด้วยรถลาก (Tram) เปิดโล่งขนาด 50 ที่นั่ง ซึ่งประดับด้วยลวดลายสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ของยีราฟ เสือโคร่ง หรือแม้กระทั่งสีขาวดำของลายม้าลาย ก็สร้างความสนุกตั้งแต่แรกเห็นได้ไม่น้อยแล้ว ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่รอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ แสง สี เสียง อันสวยงามของน้ำพุดนตรี (Musical Fountain & Water Screen) ที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในยามค่ำคืน การแสดง Safari Dancing การให้อาหารสัตว์อย่างใกล้ชิดในจุดต่างๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่ที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้พบกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมโดยเฉพาะการได้เห็น และให้อาหารยีราฟในระยะเพียงไม่ถึงหนึ่งเอื้อมมือ กิจกรรม Behind The Zoo สนุกสนานกับเหล่า Big Five ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เริ่มจากการอาบน้ำช้าง ให้อาหารฮิปโปโปเตมัส สัมผัสนอแรด ป้อนอาหารกระทิง และเพลิดเพลินกับการกินอาหารของยีราฟ อิ่มอร่อยกับอาหารหลากรสชาติจากเชฟมืออาชีพ พักผ่อนสบายๆ ท่ามกลางมวลหมู่พรรณไม้ ณ Chiang Mai Night Safari Resort อีกหนึ่งที่พักตากอากาศใกล้เมืองของเมืองเชียงใหม่ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสไม่รู้หน่าย ที่สำคัญเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังใจกว้างนำสัตว์ป่าหายากมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมตั้งแต่ยังไม่ได้ควักกระเป๋า เช่น สิงโตขาว สัตว์ป่าน่าเกรงขามที่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 200 ตัวในโลกเท่านั้น รวมทั้ง เสือขาว สัตว์ป่าหายากอีกชนิด ที่รอต้อนรับการมาเยือนของทุกผู้คนที่มีหัวใจรักธรรมชาติ ตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าเลยทีเดียว ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจใน เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี 1. กิจกรรมการนั่งรถชมสัตว์กลางคืน (Night safari) ความจริงแล้วกิจกรรมนี้ มีบริการในเวลากลางวันด้วยนะ เรียกว่า Day Safari หากนักท่องเที่ยวอยากจะสัมผัสบรรดาสัตว์ในยามค่ำคืน ก็มี Night Safari ให้บริการด้วยเช่นกัน เริ่มเปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.50 ถึง 22.00 น. รถจะออกทุกๆ 15 นาที โดยนักท่องเที่ยวจะต้องขึ้นรถลาก (Tram) เปิดโล่ง จำนวน 50 ที่นั่ง พร้อมด้วยมัคคุเทศก์ที่คอยบรรยายให้ความรู้ไปตลอดทาง ที่นี่ใครอยาดจะรู้ว่า “มูมู่” ในเดี่ยวของพี่โน๊ต พูดไว้เป็นยังไง ต้องไปหาคำตอบกันเอาเองนะจ๊ะ โดยจะเข้าไปใน Savanna Zone เป็นโซนแรก ซึ่งเป็นส่วนที่นำเสนอเกียวกับสัตว์ในเขตทุ่งหญ้าสะวันนา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด เช่น ยีราฟ ม้าลาย จิงโจ้แดง ฯลฯ จะเห็นได้ว่าเป็นส่วนที่นำเสนอประเภทสัตว์กินพืชส่วนใหญ่ ต่อจากนั้นไป Predator Zone เป็นโซนที่สอง สัมผัสกับสัตว์นักล่า เสือโคร่งขาว, สิงโต, ไฮยีน่าลายจุด ฯลฯ ในส่วนนี้น่าจะเรียกความตื่นเต้นให้กับคนดูได้ดีทีเดียว ทั้งสองโซน ใช้เวลาในการนั่งรถชมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่ง เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี จะปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเวลา 22.00 น. และมีรอบสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คือ - Savanna Zone เวลา 19.45 น. และเวลา 21.30 น. - Predator Zone เวลา 20.30 น. และเวลา 22.10 น. 2. การแสดงยามค่ำคืน - การแสดงช้างแสนรู้ การแสดงความสามารถที่น่ารักของ “น้องน้ำหวาน” ช้างแสนรู้ เวลาการแสดง 18.30 น.   (**งดการแสดงวันพฤหัสบดี**) - คาบาเร่ต์โชว์ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขอเสนอการแสดงที่ยอดเยี่ยมโดยนักแสดงของเรา ที่ให้ความบันเทิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างตระการตา 3. การแสดงของเสือโคร่งขาว และสิงโต การแสดงความสามารถของเสือโคร่งขาวและสิงโต ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการเต้นกังนัมสไตล์ กระโดดสูง กระโดดไกล เดินข้ามคน กระโดดทะลุมิติ กับลีลาของผู้ฝึกหรือ Tiger Man ที่ชำนาญ นำแสดงโดย “จัสติน” เสือขาวหิมะ, “เมสซี่” และ “มายา” เสือโคร่งขาว โดยจะจัดแสดงวันละ 2 รอบ คือ เวลา 17.30 น. และ 19.00 น. เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ระ 4. น้ำพุดนตรี และสื่อผสมบนม่านน้ำ เป็นน้ำพุดนตรี และสื่อผสมบนม่านน้ำ ที่มีขนาดใหญที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมัน มีความสูงกว่า 12 เมตร กว้าง 20 เมตร โดยน้ำพุดนตรี เปิดให้ชมการแสดงทุกวัน วันละ 2 รอบ ในเวลา 20.00 น. และ 21.10 น. รับรองว่า สวยงาม ยิ่งใหญ่ตระการตา อย่างแน่นอน! อัตราค่าเข้า ค่าบัตรเข้าชม ช่วงเวลากลางวัน Day Safari ทั้ง 2 โซน - คนไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท - ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 800 บาท เด็ก 400 บาท ค่าบัตรเข้าชม ช่วงเวลากลางคืน Night Safari ทั้ง 2 โซน พร้อมชมการแสดงน้ำพุดนตรี - คนไทย ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 125 บาท - ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 800 บาท เด็ก 400 บาท ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : สำนักงานเชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี 33 หมู่ 12 ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ 50230 โทรศัพท์ (053) 999000, โทรสาร (053) 999099 เว็บไซต์  www.chiangmainightsafari.com หรือ เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/chiangmainightsafarifanclub ขอบคุณข้อมูลและเอื้อเฟื้อสถานที่โดย สวนสัตว์ เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี เรียบเรียงโดย Travel MThai   Create Date : 01 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 1 มกราคม 2557 17:35:11 น.     Counter : 1854 Pageviews.   Share Tweet

Samsung ประกาศขาย Note 3 รุ่น LTE ม.ค.นี้, Grand 2 ก็มา! หลังจาก Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy Note 3 ในประเทศไทย ก็มีเสียงบ่นกันว่า “ทำไม่ได้ CPU ตัวเดียวกับต่างประเทศที่รองรับ 4G LTE แต่รองรับได้เพียงแค่ 3G เท่านั้น” ล่าสุด Samsung ประเทศไทยประกาศเตรียมส่ง Samsung Galaxy Note 3 รุ่น LTE ในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วผ่านทาง Twitter Account ของตนเอง โดยกำหนดจะวางจำหน่ายภายในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2557 นี้เลย ในราคา 24,900 บาท นอกจากนี้ Samsung ยังทวิตข้อความเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากจะมี Note 3 LTE วางจำหน่ายช่วงต้นปีแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็จะนำ Samsung Galaxy Grand 2 เข้ามาขายอีก ใครเล็งสองรุ่นนี้ไว้รอสอยได้เลยครับ //tech.mthai.com/mobile-tablet/android/34315.html   Create Date : 01 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 1 มกราคม 2557 17:30:59 น.     Counter : 1484 Pageviews.   Share Tweet

เรือธงมันต้องแบบนี้! LG G3 ยัดจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 2K CPU 8-Core!? เรียกได้ว่าถึงจะเป็นพี่น้องร่วมประเทศเดียวกันแต่ก็ไม่ยอมน้อยหน้ากันครับ สำหรับ LG และ Samsung ที่หลังจากมีข่าวหลุดว่า Samsung Galaxy S5 มือถือเรือธงรุ่นต่อไปของ Samsung ที่จะมีหน้าจอ 5.25 นิ้วและความละเอียดสูงระดับ 2K หรือมากกว่าระดับ HD ถึง 4 เท่า ล่าสุด LG ก็เตรียม LG G3 ที่มาพร้อมหน้าจอระดับ 2K เช่นเดียวกัน! แหล่งข่าวจากประเทศเกาหลีใต้รายงานว่า LG เริ่มผลิต next-gen flagship รุ่นท็อปของปีหน้า คือ LG G3 รุ่นต่อยอดความสำเร็จจาก LG G2 ที่กำลังฮ็อตมากในปัจจุบัน โดยทาง ZDNet Korea รายงานข้อมูลด้านสเปคของ G3 ว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความระเอียดสูงระดับ 2K 2560×1440 พิกเซล (เรียกอีกชื่อว่า Quad HD) มาพร้อมกล้องถ่ายภาพความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และใช้ CPU 8-Core แต่ใครที่สนใจซื้ออาจต้องรอนานหน่อยครับ เพราะ LG G3 มีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2014 นู้นเลย ปีหน้าดูเหมือนว่าจะเป็นปีแห่งสมาร์ทโฟนเรือธงหน้าจอระดับ 2K อย่างแท้จริงครับ เพราะหลายท่านชักจะเริ่มติดใจกับหน้าจอระดับ Full HD ขนาด iPhone 6 รุ่นต่อไปก็มีข่าวลือว่าจะมาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเช่นกัน หรือไม่แน่ Apple อาจหักปากกาเซียน ทำมือถือให้ยาวขึ้นไปอีก ก็เป็นได้ source: bgr //tech.mthai.com/mobile-tablet/android/34288.html   Create Date : 29 ธันวาคม 2556     0 comment Last Update : 29 ธันวาคม 2556 9:53:16 น.     Counter : 1502 Pageviews.   Share Tweet

สวนเปลือย นอร์เวย์ ประติมากรรมวัฎจักรแห่งชีวิต นอร์เวย์ ประเทศในเขตสแกนดิเนเวียน ดินแดนใกล้ขั้วโลกเหนืออันแสนจะหนาวเหน็บ แต่กลับมีมนต์เสน่ห์อันเย้ายวนชวน หลงใหล ประเทศนี้มีคนไทยไปอยู่ไม่น้อยเลย สวนเปลือย นอร์เวย์ ประติมากรรมวัฎจักรแห่งชีวิต เมืองหลวงของนอร์เวย์ คือ ออสโล อดีตเคยเป็นอาณานิคมของชาวไวกิ้งโบราณ ปัจจุบันเป็นแหล่งการค้าและเศรษฐกิจของนอร์เวย์ ที่สำคัญออสโลยังถือเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปอีกด้วย พิพิธภัณฑ์ระดับโลก แกลอรี่ชื่อดัง หรือสวนประติมากรรมเจ๋งๆ มีตั้งอยู่ที่ออสโลมากมาย แต่วันนี้จะพาไปเยือน “วิคเกอร์แลนด์ พาร์ค” ณ กรุงออสโล วิคเกอร์พาร์ค ตั้งอยู่ในเขตสวนสาธารณะฟรอกเนอร์ เป็นสวนที่จัดแสดงงานประติมากรรมมนุษย์เปลือย ในหลากหลายอิริยาบถทั้งนั่ง เดิน ยืน ทำกิจกรรมต่างๆ เป็นรูปแบบเสมือนจริง แต่เปลือยหมดไม่ว่าจะทั้งเด็กผู้ใหญ่ ชายหรือหญิง หนุ่มสาวหรือว่าแก่ชรา ประติมากรรมเหล่านี้ล้วนได้สิทธิ์เปลือยท้าพระอาทิตย์เที่ยงคืนกันถ้วนทั่วหน้า ประติมากรรมเหล่านี้ เป็นงานแกะจากหินแกรนิต บางส่วนเป็นงานหล่อด้วยสำริด สร้างสรรค์โดยศิลปินนามว่า กุสตาฟ วิคเกอร์แลนด์ ศิลปินชื่อดังชาวนอร์เวย์ เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ทิ้งไว้และ ณ ปัจจุบันสวนประติมากรรมนี้ก็ยังถือเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกด้วย การจัดวางงานแต่ละชิ้น ได้จัดแสดงไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วสวนอย่างมีเสน่ห์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินพักผ่อนหย่อนใจชมนกชมไม้ พร้อมชมงานศิลป์ชิ้นเอกเรื่อยไปตามรายทางได้อย่างเพลิดเพลิน จุดเด่นของสวนแห่งนี้เห็นทีจะเป็นเสาขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ เปลือยกำลังปีนป่าย มีความสูงของเสา 14 เมตร มีมนุษย์เปลือยปีนป่ายอยู่ 121 ร่าง แต่ละร่างพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปีนไปให้ได้สูงที่สุด เสานี้มีชื่อว่า “เสาโมโนลิท” ซึ่งเฉพาะเสานี้เพียงเสาเดียวใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี กุสตาฟได้สร้างสวนแห่งนี้โดยใส่จิตวิญญาณของชีวิตเข้าไป เขาต้องการสื่อให้เห็นถึงวัฎจักรแห่งชีวิต ที่จะมีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นวงล้อหมุนไปไร้จุดสิ้นสุด เหมือนว่ากุสตาฟมีเจตนาสอนธรรมในการใช้ชีวิต ในรูปแบบศิลปะตามสไตล์ที่เขาถนัด นั่นเอง หลายๆ คน วิจารณ์การที่ศิลปินสร้างสรรค์แนวนี้ออกมาว่า ลามก ส่อในทางเพศที่โจ่แจ้งเกินไป แต่พวกเขาลืมไปว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากธรรมชาติ แต่สิ่งที่มองเห็น และคิดว่าดีหรือไม่ดี นั่นเป็นสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้นมาเอง แต่สุดท้ายแล้ว กายของคนเราต้องล้วนสลายไป เหลือแต่นามประธรรม ที่มนุษย์กำหนดตนเองตอนยังมีชีวิต ให้ผู้คนรุ่นต่อไป ไว้จดจำเพียงเท่านั้น! View Larger Map ข้อมูลและภาพ : amusingplanet.com / pichappy / flickr.com เรียบเรียงโดย Travel MThai   Create Date : 29 ธันวาคม 2556     0 comment Last Update : 29 ธันวาคม 2556 9:50:03 น.     Counter : 2377 Pageviews.   Share Tweet

iOS ชนะ Android กระจาย จากยอดขายของขวัญปีใหม่! ช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาวของต่างประเทศ และเป็นช่วง Shopping ครั้งใหญ่ที่สุดของปีด้วย เพราะจะเป็นช่วงซื้อของขวัญปีใหม่กัน แต่ถ้าพูดถึงยอดขายอุปกรณ์ไอทีในช่วง Holiday Season นี้ ยอดขายของ Apple ดูเหมือนจะกินขาดทาง Android ถึง 5 เท่าตัวด้วยกัน! IBM Digital Analytics Benchmark เผยข้อมูลจากการสำรวจยอดขายร้านค้าออนไลน์ในสหรัฐกว่า 800 ร้านค้าในสหรัฐเกี่ยวกับการชอปปิ้งช่วงคริสต์มาสพบว่า อุปกรณ์ที่ใช้ iOS ทั้ง iPhone และ iPad ของ Apple นั้นกินส่วนแบ่งของสินค้าทั้งหมดไปถึง 23% ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ Android OS นั้นกินส่วนแบ่งอยู่ที่ 4.6% เท่านั้น เรียกได้ว่าหากกันร่วมๆ 5 เท่า! นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจเกี่ยวกับยอดเงินของผู้ซื้อที่ใช้จ่ายต่อคน พบกว่าผู้ที่ซื้อสินค้าของ Apple เฉลี่ยใช้จ่าย $93.94 ต่อคน หรือประมาณ 2,800 บาท ส่วนทางฝั่ง Android OS นั้นต่อคนจะซื้ออยู่ที่ประมาณ $48.10 หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,400 บาท เท่านั้น สรุปได้ว่าสินค้าของ Apple ยังคงเป็น Device อันดับต้นๆ ของคนสหรัฐในช่วงปีใหม่นี้นะครับ รวมไปถึงแต่ละคนยังค่อนข้างใช้จ่ายเงินมากกว่าด้วย (ใช่สิ ก็ของมันแพงกว่านี่ ^^) source: macrumors   Create Date : 28 ธันวาคม 2556     0 comment Last Update : 28 ธันวาคม 2556 10:38:08 น.     Counter : 1226 Pageviews.   Share Tweet