ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

วันนี้ Travel MThai ขอพาสมาชิกมิตรรัก ไปเที่ยวชมเหมืองลิกไนต์ที่ แม่เมาะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและน่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง โดยเหมืองแม่เมาะนั้นเป็นแหล่งถ่านหิน ซึ่งค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2460 มีปริมาณมากถึง 630 ล้านตัน และถ่านหินมีอายุเก่าแก่ประมาณ 40 ล้านปี ที่พื้นที่เหมืองทั้งหมดเป็นของกรมป่าไม้ มีประมาณ 20,000 ไร่ สามารถใช้ได้อีกประมาณ 50 ปี บริเวณเหมืองมีโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินชนิดนี้เป็นเชื้อเพลิงตั้งอยู่หลายโรง

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณรอบเหมืองแม่เมาะนั้น นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจะได้พบกับจุดท่องเที่ยวที่สำคัญๆมากมาย โดยจุดแรกที่อยากแนะนำให้ไปชมก็คือ พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (เหมืองแม่เมาะ) พิพิธภัณฑ์ที่ช่วยให้ความรู้ทางธรณีวิทยาบริเวณเหมืองแม่เมาะ รวมทั้งประวัติความเป็นมาของเหมืองและเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า นำเสนอผ่านภาพยนตร์ 3 มิติ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เปิดบริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์ เปิดให้เข้าชมวันละ 4 รอบ เวลา 09.00 น., 10.30 น., 13.00 น. และ 14.30 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 5425 4950-5

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

จุดท่องเที่ยวต่อมา ก็คือ สวนพฤกษชาติ เป็นพื้นที่ที่ได้รับการปรับปรุงจากที่ทิ้งดินให้กลายเป็นสวนสาธารณะประดับ ด้วยพรรณไม้สวยงาม ภายในสวนยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 ผู้ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สงวนแหล่งถ่าน หินที่แม่เมาะ

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

หลังจากนั้นขอแนะนำว่าต้องไม่พลาดโอกาสไปเยือน จุดชมวิวและทุ่งบัวตอง เป็นภูเขาเทียมที่เกิดจากการนำดินในบ่อเหมืองมากองเก็บไว้ โดยบนยอดดอยมี สวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม อีกทั้งเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันร่มรื่น และทุ่งบัวตองซึ่งบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

สุดท้ายไม่พลาดไปสนุกสุดเหวี่ยงกันที่ ลานสไลเดอร์ เป็นลานพื้นหญ้าที่เทลาดลงสู่บริเวณสนามกอล์ฟ อยู่บริเวณหน้าอาคารจุดชมวิวของสวนพฤกษชาติ นักท่องเที่ยวสามารถนำกล่องหรือแผ่นรองสไลด์ลงตามลานพื้นหญ้า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด สามารถเช่าแผ่นรองลื่นได้บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

นอกจากกิจกรรมท่องเที่ยวที่ น่าสนใจแล้วนั้น บริเวณเหมืองมีบ้านพักรับรองของ กฟผ. แบบบังกะโล จำนวน 14 ห้อง ราคา 600 บาท และแบบห้องพักจำนวน 20 ห้อง ราคา 400 บาท สนามซ้อมกอล์ฟ สนามกอล์ฟ ขนาด 18 หลุม และสโมสร สอบถามได้ที่ ฝ่าย ประชาสัมพันธ์โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โทร. 0 5425 4994 ดูรายละเอียดได้ที่ //maemohmine.egat.co.th หรือ https://www.facebook.com/pages/Maemoh-EGAT/242463369124466

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

การเดินทางโดยรถยนต์ ใช้ถนนสายลำปาง – เด่นชัย เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประมาณ 26 กิโลเมตร หรือเช่ารถสองแถวบริเวณตลาดบริบูรณ์ในตัวเมือง หรือที่สี่ แยกร้านขายยาไทยโอสถ ถนนทิพวรรณ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

เที่ยวเหมือง แม่เมาะ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ จังหวัดลำปาง

ข้อมูลและภาพ : Maemoh EGAT / travel.thaiza.com
เรียบเรียงโดย Travel MThai




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2556 20:49:14 น.   
Counter : 1987 Pageviews.  

Samsung Galaxy Grand 2 มาแล้ว จอใหญ่ขึ้น สเปคแรงขึ้น!

ข่าวนี้น่าจะถูกใจคนที่กำลังมองหามือถือจอใหญ่เครื่องใหม่ซักเครื่องนะครับ โดย Samsung ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Grand 2 อย่างเป็นทางการแล้ว!

samsung-galaxy-grand-2

ใครที่ประทับใจกับ Samsung Galaxy Grand สมาร์ทโฟนจอยักษ์ สเปคกำลังดี ในราคาไม่แพงมาก มาคราวนี้ Samsung ได้เปิดตัว Galaxy Grand 2 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับสเปคแรงขึ้น หน้าจอใหญ่ขึ้นและคมขึ้น กับดีไซน์ตามสไตล์ของ Samsung โดยมีสเปคดังนี้เลยครับ

สเปค Samsung Galaxy Grand 2

- หน้าจอ 5.25 นิ้วใหญ่ขึ้นกว่าเดิม, 720p
- CPU Snapdragon 200 Quad-Core 1.2GHz (จากเดิมเป็น Dual-Core)
- RAM 1.5GB
- หน่วยความจำ 8GB เพิ่มได้ด้วย MicroSD สูงสุด 64GB
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลพร้อม Auto Focus, LED Flash
- กล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล
- รัน Android 4.3 Jelly Bean
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi a/b/g/n, BT4.0, GPS + Glonass, USB 2.0
- มีเซ็นเซอร์ Proximity, Accelerometer, Compass, Light, Hall Sensor
- มาพร้อมแอพฯ พิเศษจาก Samsung เช่น ChatON, Samsung Hub, S Health, Group Play, S Travel, S Translator, Samsung Link, Story Album
- บาง 8.9 มม.
- น้ำหนัก 163 กรัม
- แบตเตอรี่เยอะขึ้นเป็น 2600mAh
- รองรับ 2 ซิม

รุ่นนี้เรียกได้ว่ามาพร้อมกับสเปคดีขึ้นทุกด้านเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นจอที่ใหญ่ขึ้น, ระบบประมวลผลแรงขึ้น, แบตเตอรี่เยอะขึ้น, และมาพร้อม Android 4.3 Jelly Bean จากโรงงานเลย

Samsung Galaxy Grand 2 จะมีสีให้เลือกในเบื้องต้นคือสีขาวนะครับ ส่วนในบางประเทศอาจจะมีสีดำ และชมพูให้เลือก ส่วนราคาและวันวางจำหน่ายนั้น ยังไม่ประกาศออกมาครับ (เชื่อว่าราคาน่าจะหมื่นนิดๆ เหมือนเดิมแหละ ^^)

Untitled-2 Untitled-3 Untitled-4 Untitled-5

source: androidauthority


//tech.mthai.com/mobile-tablet/android/33644.html




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2556 20:45:32 น.   
Counter : 1465 Pageviews.  

จริงหรือไม่? LG G Flex สามารถลบรอยขีดข่วนบนตัวเครื่องได้เอง คลิปด้านใน!?

หลังจากที่ LG เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ชื่อว่า LG G Flex ที่โฆษณาจุดเด่นกว่าเป็นมือถือที่มีหน้าจอโค้งงอยืดหยุ่นได้ และที่สำคัญ มือถือรุ่นนี้มีฝาหลังที่สามารถรักษาตัวเองได้ เมื่อเกิดรอยขีดข่วน หรือ Self-Healing โดยวันนี้เรามีคลิปวีดีโอทดสอบให้ดูว่าเจ้า G Flex นี้จะสามารถลบรอยขีดข่วนที่ฝาหลังได้จริงตามที่โฆษณาหรือไม่ ดูได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ


จากคลิปของยูสเซอร์ MKBHD ใน YouTube ที่ได้นำเจ้า LG G Flex มาทดสอบ และรีวิว เขาได้นำมือถือเครื่องนี้มาทดสอบในคุณสมบัติเด่นที่สุดของมือถือเครื่องนี้ คือเรื่องการซ่อมแซมฝาหลังได้เองเมื่อเกิดรอยขีดข่วน และเรื่องความยืดหยุ่นของหน้าจอ ผลก็เป็นดังคลิปวีดีโอด้านบนครับ ซึ่งสามารถลบรอยขีดข่วนเบาๆ ได้ภายในไม่กี่นาที โดยผู้ทดสอบได้ใช้สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป เช่น การใส่มือถือไว้กับกุญแจ รวมไปถึงการเอามีดมาขีดที่ตัวเครื่อง

ผลที่ได้ปรากฏว่า คุณสมบัติการซ่อมแซมตัวเองของ G Flex ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิด้วยครับ กล่าวคือตัวเครื่องจะซ่อมแซมตัวเองได้ดีในอุณภูมิที่ค่อนข้างร้อน

ส่วนความยืดหยุ่นของหน้าจอ จากที่ผู้ทดสอบทดลองกดทับหน้าจอที่โค้งงอ ให้แบนราบไปกับโต๊ะ หลังจากยกมือขึ้น หน้าจอก็จะกลับสู่ปกติ และใช้ได้ได้ไม่มีปัญหา ซึ่งตามสเปคแล้วบอกว่าหน้าจอนี้สามารถทนแรงกดทับได้สูงสุด 40 กก. ซึ่งก็น่าจะเพียงพอต่อการนั่งทับหน้าจอนั่นเอง

ดูไปแล้ว LG  G Flex เครื่องนี้ก็น่าสนใจมากทีเดียวนะครับ ใครจำสเปคไม่ได้ คลิ๊กดูได้ที่นี่ เลยครับ

1

source: androidauthority


//tech.mthai.com/mobile-tablet/android/33567.html





 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2556 10:52:16 น.   
Counter : 1245 Pageviews.  

เดินช็อปเพลินๆ ที่ ถนนฅนเดิน จังหวัดเชียงใหม่

ถนนฅนเดิน ค่ำคืนแห่งศิลปะและการจับจ่ายอย่างสบายกระเป๋าที่หลังประตูท่าแพ

เดินช็อปเพลินๆ ที่ ถนนฅนเดิน จังหวัดเชียงใหม่

เวลาอยากได้เสื้อสักตัว ถ้าไม่ไปห้างสรรพสินค้าก็ต้องยกให้ตลาดนัดจตุจักเป็นผู้จัดการ เดินกันอยู่ไม่กี่ที่แบบนี้ เริ่มเบื่อแล้วหรือยัง ถ้างั้นลองออกไปเปิดหูเปิดตากับแหล่งช็อปหน้าเก่า แต่ได้อารมณ์แปลกใหม่อย่างแน่นอนกับเราเลยดีกว่า

งานนี้ เราได้พาคุณมาช็อปปิ้งไกลกันถึงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแหล่งกระเป๋าฉีก ณ ที่นี้ ไม่ใช่สารพันกาดหรือตลาดแต่อย่างใด เพราะนี่เป็น ถนนฅนเดิน ที่นักท่องเที่ยวจะได้เดินซื้อของพื้นบ้าน พร้อมชมบรรยากาศสวยๆ ของบ้านเรือน และมิตรไมตรีของจาวเจียงใหม่

ในยุคสมัยที่คนเมืองเริ่มเบื่อความ ศิวิไลย การจัดถนนคนเดิน ซึ่งเป็นแหล่งช็อปแหล่งชิมในแบบบ้านๆ เริ่มกระจายตัวไปทั่วทั้งประเทศ โดยมีจังหวัดใหญ่อย่างเชียงใหม่ เป็นจังหวัดแรกที่ได้จัดโครงการถนนฅนเดินขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความพร้อมในหลายๆ ด้าน

ถนนฅนเดิน ของชาวเชียงใหม่เริ่มต้น ที่ ถนนท่าแพ เพราะเป็นแหล่งดังที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดถนนคนเดินก็อยู่ที่ความต้องการส่งเสริมการท่อง เที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ และต้องการให้ประชาชนได้มีโอกาสออกกำลัง ด้วยการเดิน พร้อมทั้งสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน

สำหรับ ถนนคนเดิน ของวันอาทิตย์ ตั้งจะอยู่บริเวณตั้งแต่หลังประตูท่าแพ ไปทางด้านถนนราชดำเนิน ถึงแยกกลางเวียง เลยไปถึงหน้าวัดพระสิงห์ โดยสี่แยกกลางเวียง จะมีทางซ้ายตรงไปยังวัดเจดีย์หลวง ส่วนทางขวาก็จะมีข้าวของวางขายยาวไปจนถึงเยื้องๆ หน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ รวมความยาวถนนแล้วก็ประมาณหนึ่งกิโลเมตรครึ่ง

ส่วน ถนนคนเดิน วันเสาร์นั้น จะตั้งอยู่บนถนนวัวลาย ถนนที่ขึ้นชื่อว่า เป็นถนนสายเครื่องเงินย่านเก่าแก่ของจังหวัด ซึ่งอยู่เยื้องๆ กับประตูเชียงใหม่ ยาวไปจนเกือบสุดถนน โดยรวมๆ แล้วน่าจะยาวประมาณหนึ่ง กิโลเมตร

เดินช็อปเพลินๆ ที่ ถนนฅนเดิน จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับการเดินช้อปแบบเพลินๆ ในครั้งนี้ เราขอเริ่มต้นกันในช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น จากบริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เดินมาสักนิด เมื่อคุณได้เห็นสองข้างทางของช่วงปลายถนนก็จะรู้สึกเหมือนนี่ คือ สวรรค์ของเหล่าผู้หิวโซ ไข่ปลาหมึกทอด ลูกชิ้นปลานึ่ง ขนมจีนสารพัดน้ำยา ขนมหวานเครื่องเพียบ น้ำดื่มสมุนไพรหลากชนิด ต่างส่งกลิ่นเย้ายวนให้นักท่องเที่ยวต้องซื้อติดมือกันสักถุงสองถุง เพื่อรองท้องขณะเดินช็อป

เดินมาได้หน่อยจะเจอสารพัดร้านขาย ของที่ระลึก ในแบบที่มีทั้งแบกะดินและตั้งโต๊ะ ร้านที่ดูเหมือนจะมีเยอะตลอดทางและได้รับความนิยมจากสาวๆ อย่างล้นหลามก็คือ ร้านขายกำไลไม้ ที่มีหลากหลายขนาดและหลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร กำไลไม้ทรงกลมแบบใหญ่ๆ ที่ลงลวดรายดอกไม้สีสดใสดูจะขายดีมาก จนพี่คนขายต้องคอยเติมกำไลลวดรายใหม่ให้เต็มแผงอยู่ตลอด ส่วนเรื่องของราคาก็ไม่แพงเหมือนของในเมืองหลวง โดยมีตั้งแต่ 10-80 บาท แถมเมื่อซื้อเยอะๆ คุณพี่คนขายก็พร้อมใจกันลดราคาให้อีกด้วย

นอกจาก ร้านขายกำไลแล้ว อีกแผงที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ ร้านขายของทำมือของเหล่านักศึกษา ที่มีทั้งโพสต์การ์ด เสื้อยืดเพ้นต์ลาย พวงกุญแจ กระเป๋า และสมุดฉีก ที่ทำกันแบบไม่เน้นผลกำไร เพราะคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ ขอเพียงได้สร้างความสุขใจให้กับนักท่องเที่ยว ดังนั้น สนนราคาค่าของแต่ละชิ้นจึงถูกแสนถูก และที่สำคัญ สิ่งของแต่ละอย่าง แต่ละชนิดก็มีเพียงชิ้นเดียวในโลก

เดินช็อปเพลินๆ ที่ ถนนฅนเดิน จังหวัดเชียงใหม่

ตลอดเส้นทางการช็อป คุณยังสามารถได้อิ่มเอมกับการแสดงของศิลปินอิสระตัวจริง ที่บางคนก็ออกมาแสดงดนตรี การร่ายรำ วาดรูป หรือแม้แต่เชิดหุ่น เพื่อหาประสบการณ์ หาโอกาสเติบใหญ่ และหาเงินค่าเทอมไปเข้าเรียน

เมื่อเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอทางสี่แยก ถ้าเดินไปทางขวามือ อาจเป็นถนนไม่ยาวเท่ากับเดินแยกไปทางซ้ายมือ แต่รับรองเลยว่า คุณจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบเบาบาง ที่นักท่องเที่ยวในแยกนี้เริ่มบางตาลง สินค้าที่วางขายเริ่มดูเป็นฝีมือของคนท้องถิ่นที่นำมาขายเองมากขึ้น กระโปรงพริ้วๆ เสื้อม่อฮ่อม เครื่องเงินสำหรับตกแต่งร่างกาย ชุดจานลายสวย ไปจนถึงภาพวาดงามๆ บนแผ่นเฟลม

เมื่อเดินเลือกสินค้าหลากหลายชนิด กันเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมเงยหน้าขึ้นมองความสวยงามของบ้านเมือง ที่ยังคงความดั่งเดิมไว้ หน้าต่างรุ่นลายคราม หลังคากับกาแล สายลมเย็นๆ และความคดโค้งของถนนเล็กๆ ช่างดูเข้ากับทิวเขาไกลๆ ช่วยทำให้การชิมช็อปที่ถนนฅนเดินแห่งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่และหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวควรมาเยือน

ความธรรมดาของร้านรวง รอยยิ้มของพ่อค้าแม่ขายมากกว่าพันคน จะทำให้การควักเงินในครั้งนี้ เปี่ยมด้วยความสุขมากกว่าครั้งไหน แค่ลองมาสักครั้งรับรองว่าจะติดใจจนไม่อยากจากลา

บทความน่าอ่านจาก //www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com

//www.emaginfo.com




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2556 10:51:13 น.   
Counter : 1440 Pageviews.  

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี ชมทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความอุดมสมบูรณ์ที่ควรค่าแก่การศึกษา

เราๆ ท่านๆ คงเคยได้ยินชื่อของ “หนองหาน” กันมานานนม แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่สับสนหรือยังไม่รู้ว่าในภาคอีสานของเรานี้ ก็มีทั้ง “หนองหาน” สถานที่สำคัญประจำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และ “หนองหาร” หนองน้ำใหญ่ที่มีตำนานผาแดงนางไอ่ และความเชื่อเรื่องพญานาค ใน จ.สกลนคร ที่ยังคงเล่าขานต่อเนื่องกันมา จนถึงทุกวันนี้

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

หนองหาน ที่เราจะพาไปเที่ยวคราวนี้ คือ ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใน อ.กุมภวาปี กับบางส่วนในพื้นที่ อ.ประจักษ์ศิลปาคมของ จ.อุดรธานี ความอุดมสมบูรณ์ของบึงหนองหานถือเป็นต้นแบบที่น่าสนใจต่อการศึกษาระบบ นิเวศน์วิทยา เพราะที่นี่ชัดเจนความสัมพันธ์ระหว่างพืชพรรณและสัตว์ กลับคืนมาเป็นผลิตผลให้ชาวบ้านได้เก็บเกี่ยวเลี้ยงชีพและหล่อเลี้ยงชุมชนจน เป็นภาพวิถีชีวิตของชาวหนองหานมานานปี กาลเวลาผ่านไปวิถีชาวบ้านกลายเป็นความงดงามตามธรรมชาติในยุคที่ผู้คนโหยหา สิ่งที่เลือนหาย ในขณะที่ความอุดมสมบูรณ์ของบึงหนองหานยังคงอยู่ วงจรชีวิตของ บัวแดง หรือ “บัวสาย” ที่บึงหนองหานจึงเป็นประจักษ์พยานถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ควรค่าแก่การศึกษา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบัวแดงที่บึงหนองหานจึงงอกงามทั่วท้องน้ำไปไกล สุดลูกหูลูกตานับเป็นหมื่นๆ ไร่ (นี่ยังไม่ถึงครึ่งของบึงเลยด้วยซ้ำ) เพื่อที่การชม ทุ่งทะเลบัวแดง แหล่งชมทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะได้เต็มอิ่มและเพลิดเพลินกว่าการนั่งเรือชมความงามอย่างเดียว

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

เรามาสัมผัส ทะเลบัวแดง หนองหานภุมภวาปี ตามคำบอกเล่าของคนที่มาก่อนเรา และหอบความประทับใจกลับไปบอกต่อ และด้วยความที่ได้รับการโปรโมทจากททท.ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแหล่ง ใหม่เริ่มจะคุ้นเคยในหมู่นักท่องเที่ยว ด้วยความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของดอกบัวที่ธรรมชาติรังสรรค์ เมื่อสีแดงอมชมพูของดอกบัวเบ่งบานขึ้นพร้อมๆ กัน ก็จะกลายเป็นภาพความงามอันวิจิตรสุดลูกลูกตาราวกับเนรมิตบนผืนผ้าใบ ขณะที่บรรยากาศโดยรอบบึงหนองหาน ก็สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำตาม ธรรมชาติด้วยพันธุ์ปลาน้ำจืด สายพันธุ์นกท้องถิ่น และพืชน้ำอีกจำนวนมากอันเป็นหัวใจของระบบนิเวศน์ที่หล่อเลี้ยง ทะเลบัวแดง และวิถีชุมชนให้ยั่งยืนจนถึงทุกวันนี้

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

หากเราเป็นคนต่างถิ่นที่หลงเข้าไปใน อำเภอกุมภวาปี ช่วงราวๆ กลางเดือน – ปลายเดือนธันวาคม ของทุกปี เราอาจพบเห็นชาวบ้านกลุ่มใหญ่ของ ต.บ้านเดียม มาออกันอยู่เนืองแน่นบึงหนองหาน ก็เพราะในช่วงนี้ของทุกปีจะเป็นช่วงใกล้เวลาที่บึงหนองหานจะเปิดบ้านต้อนรับ นักท่องเที่ยวที่หลั่งใหลกันมาล่องเรือชม “ทะเลบัวแดง” ชาวบ้านเขาจึงเตรียมความพร้อมบึงหนองหานด้วยการร่วมแรงร่วมใจระดมเก็บ สาหร่ายกลางพื้นที่นับหมื่นไร่ เพื่อให้ดอกบัวแดงโผล่พ้นน้ำเบ่งบานงดงามอวดนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ใน ช่วงปีใหม่ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นั่นเอง

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

ในช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม ของทุกปี ดอกบัวแดงในหนองหาน ซึ่งมีจำนวนมากจะงอกงามโผล่จากน้ำขึ้นมา โดยในเดือนตุลาคมบัวจะเริ่มแตกใบและเริ่มออกดอกตูมและบานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บัวจะออกดอกมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ และค่อยๆ ลดปริมาณลงในเดือนมีนาคม และเข้าสู่ช่วง “บัวเน่า” หรือช่วงที่บัวเก่าล้มตายกลายเป็นอาหารของบัวชุดใหม่ ช่วงนี้เองจะมี “บัวหลวง” เข้ามาผลัดเปลี่ยนให้ความงามที่ต่างออกไป แต่ชาวบ้านจะชอบใจเพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวผลลิตจากบัวไปขายสร้างรายได้กลับ สู่ครอบครัว ก่อนที่บัวแดงชุดใหม่จะรอวันเติบโตแผ่ใบโผล่พ้นน้ำพร้อมกับดอกตูมให้เราตั้ง ตารอตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ช่วงเวลานั้นเองที่ถือว่าสัญญาณแห่งทะเลบัวแดงฤดูกาลใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

การเดินทางไปชม ทะเลบัวแดง เพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจอย่างคุ้มค่าควรมีการวางแผนตั้งแต่การเดินทางและเวลาที่เหมาะสมในการชม ด้วยธรรมชาติของดอกบัวสาย หรือบัวแดง นั้นจะบานในช่วงเช้าตรู่จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาที่ดอกบัวบานสวยที่สุด หากเป็นคนท้องถิ่นอุดรนั้นจะรู้ดีว่าถ้าใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 45 นาทีก็จะถึงบ้านเดียม แต่คนต่างถิ่นที่กลัวว่าการเดินทางจะเป็นอุปสรรค ที่ต.บ้านเดียมเขาก็เตรียมโฮมสเตย์ไว้รอต้อนรับด้วยบรรยากาศและการดูแลแบบ ชาวบ้านแท้ๆ

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

การนั่งเรือชม ทะเลบัวแดง ที่นี่ต้องนับว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แม้จะมีเวลาให้ชมอย่างจำกัด (ราวๆ 45 นาที- 1 ชั่วโมงครึ่ง ตามแต่ประเภทของเรือที่เราเลือก) และหากดูเผินๆ เหมือนวิวรอบๆ ตัวจะมีแต่ดอกบัวสีแดงๆ แต่หากใช้หัวใจสัมผัสเพิ่มเติมจากสองตา จะเห็นความแตกต่างหลากหลายของบัวที่เติบโต เห็นนกกระสา นกกระยาง อ้อยอิ่งดิ่งขาละเลียดปลาในบึงอย่างไม่รีบร้อนเสมือนเป็นรังของมันเอง เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านเดียมที่ยังคงลอยเรือออกไปทำนา หาปลา ตัดอ้อย และหากเช่าเรือพิเศษที่มีบริการอาหารให้ทานบนเรือด้วยแล้วล่ะก็จะวิเศษสุดๆ เพราะเมนูรสแซ่บแบบอุดรทั้งส้มตำ ต้มยำปลาช่อน ตำไหลบัว จะยิ่งอร่อยขึ้นด้วยบรรยากาศที่หาจากบึงอื่นๆ อีกไม่ได้แล้วในตอนนี้

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

และเมื่อถึงช่วงเดือนมกราคม ของทุกปี ที่ดอกบัวบานชูช่อแตกกอเต็มบึง ทางจังหวัดอุดรธานี เขาจะจัดเทศกาล ทะเลบัวแดงบาน หนองหานกุมภวาปีขึ้นเป็นประจำ และในปีนี้ก็เช่นกัน โดยงานจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 11-13 มกราคม ด้วยกิจกรรมสนุกๆ มากมาย อาทิ การประกวดวาดภาพและภาพถ่ายทะเลบัวแดง, การประกวดวงดนตรีโปงลาง พร้อมร่วมกันสักการะพระมหาธาตุเทพจินดาหรือพระธาตุบ้านเดียม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองของชาวบ้านเดียมเพื่อความเป็นสิริมงคล และแถมท้ายให้เป็นพิเศษสำหรับคู่รักที่เตรียมจะเข้าพิธีวิวาห์ ที่ทะเลบัวแดงเขาเตรียมจะเนรมิตบึงตระการตาให้กลายเป็นสถานที่จัดงานสมรส หมู่ที่โรมแนติกไปด้วยสีแดงอมชมพูของดอกบัวที่รับรองความหวานไม่แพ้ที่ไหนๆ ในช่วงวันวาเลนไทน์ในเดือนกุมภาพันธ์นี้อีกด้วย

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี ห่างจากจังหวัดอุดรธานี ประมาณ 45 ก.ม. การเดินทางสามารถเดินทางจาก อ.เมืองอุดรธานี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี-กุมภวาปี) ถึงกิโลเมตรที่ 26 เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางห้วยสามพาด-อำเภอประจักษ์ศิลปาคม ประมาณ 18 กิโลเมตร นอกจากทะเลบัวแดงแล้วที่ อำเภอกุมภวาปี และสำหรับรถประจำทาง ก็สามารถนั่งรถทัวร์กรุงเทพ-อุดรธานี แล้วไปลงที่อำเภอกุมภวาปี หลังจากนั้นก็เหมารถสองแถวในอำเภอมาเที่ยวเทศกาลดอกบัวแดง ใครที่ต้องการค้างคืนก็สามารถติดต่อบ้านพักโฮมสเตย์จากชาวบ้านได้ตลอดเวลา เช่นกัน

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง    ภาพโดย คุณสุรพล สุภาวัฒนกุล

ลองได้ไปสัมผัส ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี กันดูสักครั้งแล้วจะเข้าใจว่า ทำไมตากล้องมือโปรทั้งหลายจึงรักที่จะมาถ่ายรูปกันนักหนา และทำไมใครที่เคยมาแล้วถึงอยากกลับมาใหม่ ถ้าไม่ใช่เพราะเสน่ห์อันเรียบง่ายของวิถีชาวบ้านเดียม ที่ซ่อนไว้ภายใต้กอบัว กว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้…

ขอบคุณภาพจาก thaifishing.net / ททท. / phototech-mag.com

บทความน่าอ่านจาก //www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com

www.emaginfo.com




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2556 11:04:49 น.   
Counter : 1752 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]