เปิดประตูสู่สวรรค์ ม่านรูดญี่ปุ่น มีทุกแนวทุกสไตล์เซ็กส์ที่เราต้องการ เปิดประตูสู่สวรรค์ ม่านรูดญี่ปุ่น มีทุกแนวทุกสไตล์เซ็กส์ที่เราต้องการ เคยสงสัยกันไหม ใน่ม่านรูดประเทศญี่ปุ่นมันมีดีอะไร ถึงได้ทำเงินจากการท่องเที่ยวเป็นหมื่นล้านต่อปีให้กับประเทศ ถ้าอยากรู้เราจะบอกให้ ก็เพราะว่า ม่านรูดญี่ปุ่น มันมีความแตกต่าง และมีความเฉพาะตัวของมันที่เรียกว่าหาสิ่งมาเลียนแบบได้ยากนั่นเองครับ วันนี้ทาง Men.MThai เราเลยจะขอนำเสนอความแปลก และสีสัน ม่านรูดญี่ปุ่น ให้เพื่อนๆ ได้เปิดประสบการณ์ และ เปิดความรู้ใหม่กัน ช่างภาพ Misty Keasler ได้เข้าใจถึงความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชายทั่วโลก ทีอยากจะรู้ว่า ในประเทศญี่ปุ่นมันมีดีอะไรถึงได้มีโรงแรมรักผุดขึ้นมามากอย่างกับดอกเห็ด โดยเธอได้เข้าไปถ่ายภาพเพื่อทำการเก็บข้อมูล ของความน่าตื่นตาตืนใจของโรงแรมสุดสยิวนี้มาให้เราได้ดูกัน ซึ่งเธอได้อธิบายว่า สิ่งที่ทำให้โรงแรมจำพวกนี้แปลกและโดดเด่นไปกว่าที่อื่นก็เพราะ มันจะมีธีม มีโทนห้อง ของมัน เพื่อสนองความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นความต้องการแบบ Fetish หรือ การจะเล่นสวมบทบาท เป็นตำรวจ พยาบาล ครู หรือ ในรถไฟก็ตาม เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กันว่า ในโลกแห่งความจริง ขืนเราทะลึ่งทำอะไรลงไป ข้อหาอนาจารล้วนๆ มันเลยมีการสร้างสถานที่แบบนี้ขึ้นมากนั่นเอง อีกทั้งธุรกิจโรงแรมรัก ม่านรูดญี่ปุ่น ยังเป็นสถานที่ที่เรียก และ ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเอง และเติมเต็มความอยากของตัวเองอีกด้วย ชิงช้าสวิงในตำนาน ใครชอบแบบบนม้าหมุนก็มีนะ มีสแตนให้ขึงด้วยอะ่ แนว BDSM ซาดิสม์ แบบ 50 Shades ก็มี จะชอบแบบขังกรงก็ไม่ว่ากันนะ อิกลู แบบชาวเอสกิโมก็เข้าท่า เห็นเป็นคิตตี้ แต่ก็ซาดิสม์ใช่ย่อยครับ นักเรียนนนนนน เคารพพพพพพ สถานีต่อไป สถานีแห่งความสยิว   Create Date : 09 มีนาคม 2558     0 comment Last Update : 9 มีนาคม 2558 22:58:55 น.     Counter : 1801 Pageviews.   Share Tweet

ไปดับร้อน ดำน้ำที่ หมู่เกาะง่าม ทะเลชุมพร หมู่เกาะง่าม หมู่เกาะที่มีจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดชุมพร โดยหมู่เกาะง่ามประกอบด้วย หินหลักง่าม หรือ หินแพ เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย และ เกาะหลักง่าม อยู่ห่างจากฝั่งโดยใช้เวลาเรือวิ่งราว 1 ชั่วโมง ปัจจุบันหมู่เกาะง่ามนั้นถือว่าเป็นจุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมจากเหล่านักดำน้ำทั่วโลก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามหน้าร้อนที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของจังหวัดชุมพรอีกด้วย ไปดับร้อน ดำน้ำที่ หมู่เกาะง่าม ทะเลชุมพร สำหรับจุดเด่นที่น่าสนใจของหมู่เกาะง่าม ก็คงหนีไม่พ้นหมู่ปะการังที่สวยงามรอบๆหมู่เกาะง่าม แม้ว่าทะเลแถบนี้แม้น้ำจะไม่ใสเหมือนแถบอันดามัน และไม่มีดงปะการังอ่อนสีสดมากเท่า แต่ก็รายล้อมด้วยดงปะการังดำที่หาชมได้ยากในจุดดำน้ำอื่นๆ นอกจากนี้แล้วทะเลชุมพรยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลและฝูงปลาจำนวนมาก นักดำน้ำมักพบปลากะพงแดง ปลากะมง ปลาข้างเหลืองฝูงใหญ่ๆ โฉบเฉี่ยวเวียนว่ายไปมาอยู่เนืองๆ ข้อมูลมาเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลชุมพร หากพักค้างคืนบนฝั่งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อใช้บริการนำเที่ยวหมู่เกาะทะเลชุมพร โดยบริษัททัวร์นำเที่ยว ทะเลชุมพร สามารถติดต่อกับทาง ซึ่งทางรีสอร์ทที่พักได้เลย  ซึ่งเรือที่ใช้จะเป็นเรือสปีดโบ้ท อัตรค่าบริการจะ ประมาณคนละ 800 บาท นำเที่ยวทะเลชุมพรเช่น เกาะมาตรา ดำน้ำเกาะหลักแรด เกาะละวะ เกาะง่ามใหญ่ และ เกาะลังกาจิว บริษัทนำเที่ยวให้บริการท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลชุมพรบ. สยามคาตามารัน //www.siamcatamarantours.com/ ติดต่อขอเช่าเรือนำเที่ยวกับทางอช. หมู่เกาะทะเลชุมพร ซึ่งจะคิดค่าบริการแบบเหมาลำ  จะเป็นเรือยนต์ลำใหญ่ นั่งได้ประมาณ 10 -15 คน ค่าบริการจะแตกต่างกันตามแต่ละจุดที่แวะดังนี้ หากต้องการพักค้างคืนบนเกาะมาตราเพื่อสัมผัสหาดทราย และน้ำทะเลใสอย่างใกล้ชิด ติดต่อที่พักของลุงขาว โทร 089 972 6440 ราคาจะอยู่ที่  800(4คนห้องน้ำรวม)  1200(10 คน ห้องน้ำรวม) 1500(6คน ห้องน้ำในตัว) ราคานี้จะไม่รวมอาหาร หากต้องการอาหารด้วยสามารถแจ้งคุณลุงได้ รสชาติอาหารที่นี่เยี่ยมระดับห้าดาวเลยค่ะ  ติดต่อเช่าเรือพี่บัวลอย ได้ค่ะ โทร 081 091 0661 บริการนำเที่ยวทะเลชุมพรพร้อมรับส่งจากฝั่ง ค้าง 1 คืน คิดราคา 3500 บาท หากต้องการไดร์หมึกคิด เที่ยวละ 500 บาท การเดินทาง 1.โดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) มุ่งหน้าสู่ จังหวัด ชุมพร เมื่อถึงสี่แยกปฐมพร เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวเมืองจังหวัดชุมพร จากตัวเมือง จังหวัดชุมพร ไปตามทางหลวงจังหวัด หมายเลข 4001 ระหว่างอำเภอเมืองกับปากน้ำชุมพร ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ก่อนจะถึงปากน้ำชุมพร จะพบสามแยกทางไปหาดทรายรี ให้เลี้ยวขวา เมื่อเลี้ยวขวาเข้ามาอีก 20 เมตร จะพบทางแยกให้เลี้ยวขวาอีกครั้งไปตามถนน รพช. สายบ้านมัทรี – หาดทรายรี ประมาณ 9 กิโลเมตร เลี้ยวขวา ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร 2 โดยรถประจำทาง จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ โดยสารรถสายกรุงเทพฯ – ชุมพร ระยะทาง 500 กิโลเมตร ถึงจังหวัดชุมพร และจาก จังหวัดชุมพร โดยสารรถสองแถวมายังอุทยานแห่งชาติ ระยะทาง 23 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถไฟ ใช้เวลา เดินทางประมาณ 8 – 9 ชั่วโมง แล้วแต่ประเภทของขบวนรถสามารถเลือกการเดินทางได้ ทั้งในเวลา กลางวัน และกลางคืน เนื่องจากมีขบวนรถหลายขบวนในแต่ละวัน โดยขึ้นรถไฟได้ที่สถานีกรุงเทพฯ และสถานี ธนบุรี 3.โดยเครื่องบิน ปัจจุบันจังหวัดชุมพรมีท่าอากาศยาน เพื่อรองรับการเดินทางทางอากาศโดยตั้งอยู่ที่อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ข้อมูลและภาพ : กลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานจังหวัดชุมพร เรียบเรียงโดย Travel MThai   Create Date : 08 มีนาคม 2558     1 comment Last Update : 8 มีนาคม 2558 13:39:23 น.     Counter : 1233 Pageviews.   Share Tweet

10 อันดับ สุดยอดประเทศท่องเที่ยวสำหรับเซ็กซ์ สถานที่ท่องเที่ยว กลุ่มคำที่แสดงถึงภาพความสวยงาม ของสถานที่อันโดดเด่นในแต่ละเขตแดน แต่ในอีกมุมหนึ่ง ทั่วทุกหนแห่ง ย่อมมีความดำมืดซ่อนไว้ travel.mthai.com กำลังพูดถึงการท่องเที่ยวสถานบริการทางเพศ ที่นักท่องเที่ยวต่างยกนิ้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 อันดับ สุดยอดประเทศท่องเที่ยวสำหรับเซ็กซ์ จะมีที่ไหนบ้าง และใครคือผู้ครองแชมป์ ตำแหน่งที่ไมน่าภูมิใจสักเท่าไร 10 อันดับ สุดยอดประเทศท่องเที่ยวสำหรับเซ็กซ์ 10. สาธารณรัฐโดมินิกัน ประเทศหมู่เกาะ แห่งทะเลแคริบเบียน ทวีปอเมริกากลาง ภูมิภาคนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการขายบริการอยู่แล้ว โดยโดมินิกัน มีผู้หญิงทำงานด้านนี้ ราว 60,000 – 100,000 คน 9. กัมพูชา แม้ประเทศกัมพูชา จะมีกฎหมายต่อต้านการค้าบริการทางเพศ แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้มีการลดลงเลย ที่น่าสลดกว่านั้น มีเด็กจำนวนมากถูกส่งไปทำงานด้านนี้ ที่หนักกว่านั้นบางราย พ่อแม่ส่งลูกตัวเองไปขายเพื่อเอาเงิน 8. เนเธอร์แลนด์ การค้าบริการทางเพศ ถือเป็นเรื่องถูกกฎหมายของประเทศนี้ โดยมีกรุงอัมสเตอร์ดัม เป็นจุดศูนย์กลาง เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องราตรี แต่มีเงื่อนไขว่าด้วยสถานที่บริการและคนที่ให้บริการต้องมีการป้องกันที่รัดกุม ปลอดภัย 7. เคนย่า ถือเป็นประเทศที่อันตรายสุดๆ เนื่องจากผู้ให้บริการส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ขาดความรู้และประสบการณ์ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศอื่นๆ ได้ 6. ฟิลิปปินส์ แม้การค้าบริการทางเพศ จะเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศฟิลิปปินส์ แต่ก็ยังมีให้เห็นตามปกติ ผู้หญิงที่ให้บริการกว่า 500,000 คน เริ่มจากการทำงานในบาร์ และเนื่องด้วยเป็นประเทศที่หลากหลายทางวัฒนธรรม ธุรกิจค้าบริการก็ยิ่งแพร่สะพัดมากขึ้น ขนาดที่ว่ามีนักท่องเที่ยว 40-60 % มาฟิลิปปินส์ เพื่อซื้อเซ็กซ์โดยเฉพาะเลยทีเดียว 5. โคลอมเบีย ดินแดนโคเคน แห่งอเมริกาใต้ นอกจากขึ้นชื่อเรื่องยาเสพติดแล้ว เรื่องการค้าบริการทางเพศ ก็ไม่เป็นสองรองใคร ยิ่งถ้าลูกค้าหน้าตาดี หุ่นล่ำ ด้วยแล้ว สาวๆ โคลัมเบียน ก็ยินดีลดราคาให้ด้วยนะ 4. อินโดนีเซีย การค้าเซ็กซ์ในอินโดนีเซีย ถือเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ทำให้เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวราตรี สามารถมองหาสาวบริการได้ตามสถานบริการได้อย่างตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีบริการเดลิเวอรี่ผ่านอินเตอร์เน็ต อีกด้วย 3. สเปน นอกจากจะเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามแล้ว เรื่องอย่างว่า ก็มีสถานที่ให้บริการอย่างล้นหลาม เพราะเป็นเรื่องถูกกฎหมาย โดยหญิงบริการส่วนมากมาจากอเมริกาใต้ อาจเพราะเคยตกเป็นเมืองขึ้นของสเปนมาก่อน 2. บราซิล บราซิล ขึ้นชื่อว่ามีประชากรหญิงที่งดงามติดอันดับโลก ทำให้การค้าบริการที่นี่ค่อนข้างมีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาเที่ยวเซ็กซ์ในบราซิลเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่สวยงาม และมีประเพณีครื้นเครงมากมาย 1. ประเทศไทย ไม่รู้จะภูมิใจกับตำแหน่งแชมป์ดีหรือไม่ ประเทศไทยเข้าวินมาเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนผู้ขายบริการกว่า 3 ล้านคนเนื่องจากมีสถานบันเทิงยามราตรีมากมายทั่วทุกหนแห่ง กฎหมายการค้าบริการทางเพศก็ยังคลุมเครือ ไม่ชัดเจน ทำให้นักเที่ยวเซ็กซ์ ต่างเสาะแสวงหาได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีสาวประเภทสองเยอะอีกด้วย ที่มา : www.therichest.com  ,  เรียบเรียงโดย : Travel MThai   Create Date : 06 มีนาคม 2558     0 comment Last Update : 6 มีนาคม 2558 22:54:22 น.     Counter : 1689 Pageviews.   Share Tweet

สวยจนตาค้าง กับ ชายหาดสุดมหัศจรรย์ รอบโลก โลกของเรา มีพื้นที่เป็นมหาสมุทรถึง 3 ใน 4 จึงไม่แปลกที่ในแต่ละทวีป จะมีชายหาด และสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลมากมาย เต็มไปด้วย ชายหาดสุดมหัศจรรย์ รอบโลก ที่รอการมาเยือนของทุกคน travel.mthai.com จึงขอพาทุกท่านไปประจักษ์กับชายหาดเล่านั้น ว่าจะสวยงาม แปลก แหวก และไม่ธรรมดาแค่ไหน โดยมาดูกันว่าจะมีชายหาดในประเทศไทยติดอยู่ด้วยอีกหรือไม่ ? สวยจนตาค้าง กับ ชายหาดสุดมหัศจรรย์ รอบโลก 1. ไวท์ฮาเว่น บีช , ออสเตรเลีย 2. ไพลอส นาวาริโน่ , กรีซ 3. ฟยอร์ด เบย์ , ทาบา , อียิปต์ 4. หาดหินอ่อน , เกาะทัสซอส , กรีซ 5. ซลัทนี รัท บีช , โบล ไอส์แลนด์ บรัค , โครเอเชีย 6. ลาส คอนชาส , เกาะลานซาโรเต้ , สเปน  7. ทารัว บีช , โคลอมเบีย 8. หาดทรายแดง , ปาราคัส , เปรู 9. เกาะหินงาม , สตูล , ไทยแลนด์ 10. อีเกรมนี บีช , เลฟคาด้า , กรีซ 11. อ่าวดักห์ลา ทะเลทรายบรรจบมหาสมุทร , โมร็อคโค 12. หาดกรวดสีดำ , เกาะคีออส , กรีซ 13. เกาะแห่งต้นสน , นิว คาลีโดเนีย  14. หมู่เกาะกาลาปากอส 15. อีลาโฟนิซี , หาดสีชมพู , กรีซ 16. สเวติ สเตฟาน , มอนเตเนโกร 17. ลากูน่า บีช , แคลิฟอร์เนีย 18. ลอส โรเกวซ , เวเนซุเอลา ที่มา : boredpanda.com  ,  เรียบเรียงโดย : Travel MThai     Create Date : 05 มีนาคม 2558     0 comment Last Update : 5 มีนาคม 2558 22:02:26 น.     Counter : 1298 Pageviews.   Share Tweet

เที่ยว 3 วัดดังแห่งเมืองร้อยเอ็ด ทีเด็ดแดนอีสาน ถ้าพูดถึงภาคอีสาน หลายคนคงจะนึกถึงอากาศที่ร้อน ไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้พักผ่อนมากนัก แต่ ภูมิภาคนี้ยังมีสิ่งอื่นทดแทนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน ภาคอีสานจึงถูกขนานนามว่าเป็น “แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม” ทุกสิ่งถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบวิถีชีวิต และวัดวาอาราม ที่มีความสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร travel.mthai.com ขอพาทุกท่านไปบุกแดนอีสานตอนกลาง ด้วยการพาเที่ยว 3 วัดดังแห่งเมืองร้อยเอ็ด เมื่องเกินร้อย ที่มากด้วยเสน่ห์อันเหลือล้น เที่ยว 3 วัดดังแห่งเมืองร้อยเอ็ด ทีเด็ดแดนอีสาน ก่อนที่เราจะพาคุณไปทัวร์ 3 วัดดัง ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับ Landmark สำคัญแห่งจังหวัดร้อยเอ็ดกันก่อน นั่นก็คือ “บึงพลาญชัย” ตั้งอยู่บริเวณศาลากลางเมืองร้อยเอ็ด เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด มีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางบึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆ ทำให้บรรยากาศร่มรื่น และที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่ชาวร้อยเอ็ดเคารพนับถือ นอกจากนี้ ตรงบริเวณประตูทางเข้า ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ใกล้กันก็เป็นประตูสาเกตนคร  ประตูเมืองของจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมีชื่อเดิมว่า เมืองสาเกตนคร นั่นเอง พอจะรู้จักเมืองร้อยเอ็ดกันคร่าวๆ แล้ว เราไปเริ่มที่วัดแรกกันเลยดีกว่า นั่นก็คือ 1. วัดบูรพาภิราม วัดบูรพาภิราม ตั้งอยู่ในเขตเทสบาลเมือง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี เดิมชื่อวัดหัวรอ มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือ พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความสูง 67 เมตร 85 เซนติเมตร บริเวณฐานจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ หลวงพ่อใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองร้อยเอ็ดอย่างมาก นอกจากนี้ในบริเวณวัด ยังเป็นที่ตั้งศูนย์งานพระธรรมทูต และโรงเรียนปริยัติธรรม อีกด้วย วัดบูรพาภิราม ตั้งอยู่ที่ถนนผดุงพานิช ตำบลในเมือง ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด 2. วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) “วัดป่ากุง” เป็นวัดร้างเก่าแก่มีมาตั้งแต่ปี 2313 และหลังจากพระเทพวิสุทธิมงคล “หลวงปู่ศรี มหาวีโร” พระเกจิอาจารย์ฝ่ายกัมมัฏฐาน (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) ได้เข้ามาเป็นผู้นำศรัทธาในการพัฒนาวัด จึงได้ดำเนินการขออนุญาตทางราชการจัดตั้งเป็นวัดขึ้น โดยใช้ชื่อที่ประชาชนร่วมกันสร้างว่า “วัดประชาคมวนาราม” สังกัดคณะธรรมยุตติกนิกาย ในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2508 โดยมีหลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นเจ้าอาวาสปกครองและบูรณปฏิสังขรณ์ให้เจริญรุ่งเรืองเป็นต้นมา ภาพด้านบน คือ เจดีย์มหาวีราจริยานุสรณ์ เจดีย์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ระลึกถึง หลวงปู่ศรี มหาวีโร ส่วนไฮไลท์สำคัญของวัดป่ากุง นั่นคือ มหาเจดีย์ทราย บรมพุทโธ (บุโรพุทโธ จำลอง) ส่วนที่มาของการก่อสร้างเจดีย์หินทราย เกิดขึ้นเมื่อคราวพระเดชพระคุณหลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้ไปปฏิบัติศาสนกิจ จำพรรษาที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ พ.ศ.2531 ได้ไปนมัสการเจดีย์โบโรโดร์ (บุโรพุทโธ) ที่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ได้เห็นความใหญ่โตมโหฬารงดงาม หลวงปู่เกิดความประทับใจมาก เมื่อกลับมาเมืองไทยก็ได้นำเรื่องราวที่ได้ไปพบมาเล่าให้ศิษยานุศิษย์ฟัง และดำริว่าจะสร้างไว้ที่เมืองไทย ต่อมาในปี พ.ศ.2535 หลวงปู่ได้สั่งให้พระอาจารย์มานะอตุโลนำพระอาจารย์ศักดิ์ชัย อภิวัฒโน และนายอนุวัตร บูรณะกร(เป็ด) เดินทางไปดูรูปแบบเจดีย์โบโรโดร์ เพื่อนำมาเป็นแบบอย่างในการก่อสร้าง โดยสถานที่ภายนอกและภายในขององค์เจดีย์ได้ก่อสร้างด้วยหินทรายธรรมชาติเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ให้มีภาพแกะสลักเรื่องราวพระพุทธประวัติและเรื่องพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นงานบุญประเพณีประจำจังหวัดร้อยเอ็ดที่เรียกกันว่า “บุญผะเหวด” วัดประชาคมวนาราม ตั้งอยู่ที่ ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 20 กม. 3. พระมหาเจดีย์ชัยมงคล พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตั้งอยู่ในบริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม มีเนื้อที่ 2,500 ไร่ โดยมีหลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ส่วน พระมหาเจดีย์ชัยมงคล เป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากร เป็นเจดีย์สีขาว ตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีเหลืองทองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ ตัวพระเจดีย์มีความกว้าง ความยาว และความสูง ส่วนละ 101 เมตร สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ บนยอดภูเขาเขียว เจดีย์ชั้นบนสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เอาไว้ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล มีทั้งหมด 6 ชั้น เป็นพระเจดีย์ที่มีความสวยงามอลังการ ผสมผสานด้วยศิลปะร่วมสมัย โดยวางโครงสร้างตามแบบพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม และพื้นผิวแบบพระธาตุพนม จ.นครพนม การเดินทาง ไปตามเส้นทางสายร้อยเอ็ด – อำเภอโพนทอง – อำเภอหนองพอก ระยะทาง 62 กิโลเมตร จากตัวเมืองร้อยเอ็ด ตามทางหลวงหมายเลข 2044 และ 2136 จะเห็นได้ว่า จังหวัดเล็กๆ ในแถบอีสานตอนกลาง ก็มีแหล่งท่องเที่ยวอันสุดยอดไม่แพ้ภูมิภาคอื่น ต้องลองไปเห็นด้วยตาของคุณเอง แล้วคุณจะหลงรักเมืองร้อยเอ็ดแบบไม่รู้ตัว ขอบคุณข้อมูลจาก : ททท.สำนักงานขอนแก่น , www.konroiet.com  /  เรียบเรียงโดย : Travel MThai   Create Date : 04 มีนาคม 2558     1 comment Last Update : 4 มีนาคม 2558 22:10:39 น.     Counter : 1508 Pageviews.   Share Tweet