เติ้งเสี่ยวผิง เคยกล่าวไว้ว่า “แมวนั้นไม่สำคัญว่าสีขาวหรือสีดำ ขอให้จับหนูได้ ก็ต้องถือว่าเป็นแมวดี” งานแต่งบ้านก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะใช้วิธีใดแล้วแต่งบ้านให้ได้ ถูกใจเจ้าของบ้าน ก็ถือว่าถูกต้องซะทุกวิธี ละครับ

Group Blog
 
All Blogs
 
ท่องเที่ยวตามดาว : นมัสเต เนปาล ดินแดนหลังคาโลก ภาคต้น

เนปาล ประเทศที่เราเหล่าสมาชิกตกผลึกเลือกที่จะแวะไปเยือน หลังจากที่คัดเลือกมาหลายต่อหลายประเทศ อีกทั้งเวลาว่างที่มาลงเป๊ะในช่วงนี้ ทำให้เหลือเวลาในการเตรียมตัวก่อนบินไม่ถึงสองอาทิตย์

แต่เหล่าสมาชิกทั้ง 4 -- สาว G, สาว D, สาว J, และ ชาย P -- ก็ไม่หวั่น ทั้ง เป้หลัง เสื้อหนาว ถุงนอน และ ตั๋วเครื่องบิน ก็ถูกจัดการจัดเตรียมได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งแผนการเดินทาง ข้อมูลต่างๆ ถูกรวบรวม อย่างพร้อมมูล

การผจญภัยในต่างแดน ก็พร้อมที่จะเเริ่มต้นล่ะ



แต่ยังก่อน ก่อนที่จะได้ไป ก็ต้องมีอุปสรรคมาขัดขวางกันซะหน่อย จะได้ตื่นเต้น

หลังจากที่จองตั๋ว เรียบร้อย ดีใจกันใหญ่ เพราะ การบินไทย มีโปรโมชั่น ตั่วไป-กลับ เนปาล พอดี จากราคา 2 หมื่นกว่า ลดเหลือง แค่ 12,xxx ถูกเหลือเชื่อ แต่พอได้ตั่วมา ปรากฎว่า ชื่อผมเอง ไม่ตรงกับพาสปอร์ตซะ สะกดจาก C เป็น S ซะงั้น

ทีนี้เหล่าสมาชิกก็ต้องออกแรงแก้ปัญหากัน ทางการบินไทย แจ้งว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการ 1,000.- ออกตั๋วใหม่ แต่ทางเราไม่ยอมจ่าย ก็เลยได้ทางแก้ตรงกลางว่า ออกใบแจ้งการสะกดชื่อผิดให้ แล้วไปวัดดวงเอาเอง ก็โอเคกันตามนั้น



กำหนดบินของพวกเรา เป็นเช้าวันศุกร์ แต่ สาว J ของเราเอาพาสปอร์ตออกมาเปิด ปรากฎว่า อายุพาสปอร์ตมีอายุเหลือไม่ถึง 6 เดือน ซะงั้น ตามแผนพวกเราจะไปขอ Visa on Arrival ที่เนปาล แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องพาสปอร์ตแล้ว ความเสี่ยงคงจะสูงเรื่องวีซ่าไม่ผ่านอาจจะอดเข้าประเทศซะ
ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นอีกครั้ง มีเวลาเหลือแค่วันพฤหัส วันเดียวที่จะดำเนินการแก้ปัญหา

จะไปขอพาสปอร์ตเล่มใหม่ เช็คแล้วก็ไม่ทัน ระบบราชการไทยต้องมีเวลาให้ ก็เลยต้องไปแก้ปัญหากับทางเนปาล ว่าแล้วเช้าวันพฤหัส สาว J เราก็บึ่งไปสถานฑูตเนปาล ถ้าเค้าออกวีซ่าให้ ก็น่าจะหมดปัญหา จริงๆ แล้วทางสถานฑูตก็ต้องใช้เวลารับวีซ่าในวันรุ่งขึ้นเหมือนกัน แต่ เจ้าหน้าที่ก็ไปเร่งทำให้จนออกได้ในวันเดียว

สาวเจ้าเราเลยเปลี่ยนโหมดร้องไห้ เป็นโหมดดีใจได้



คิดว่าคงไม่มีปัญหาแล้วมั้ง หลังจากนี้ แต่ไม่หรอก ปัญหาก็ยังจะมีซะได้ ก็วันขึ้นเครื่อง หลังจากโหลดสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เหล่าสมาชิกก็มัวแต่ ช๊อป ชิม ชิว จนกระทั่ง สนามบินประกาศเรียกขึ้นเครื่องด่วน

พอวิ่งไปถึงเกท ไม่เหลือผู้โดยสารสักคน เพราะขึ้นเครื่องไปรอกันหมดแล้ว ก็คงเหลือแต่คณะเรา แถมพอขึ้นเครื่องไป เจอแขกมาแย่งที่นั่งริมหน้าต่างซะอีก บอก เห็นว่าที่นั่งว่างก็เลยย้ายมานั่ง ชิชิ



ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมงกว่า ก็มาถึงแล้ว สนามบินกาฐมาณฑุ สนามบินในหุบเขาหิมาลัย เวลาท้องถิ่นต่างจากบ้านเรา ชั่วโมงกว่าๆ

แรกสุดเลย ก็ต้องมีเงิน เนปาลรูปี ติดกระเป๋าไว้บ้าง ก็ต้องพึ่งพา Exchange ในสนามบินละครับ ถึงแม้เรทจะต่ำกว่าข้างนอก แถมจะมีหักค่าคอมอีก เพราะเราต้องใช้จ่ายเบื้องต้น อย่างน้อยก็เรื่องค่าแท๊กซี่

ไหนๆ ก็ไหนๆ สาว G ของเราคล่องมาก แถมมีฝีไม้ลายมือ กระบวนยุทธ์ พอประมือกับเหล่าแขกเนปาลได้เป็นอย่างดี ก็เลยได้เป็นตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการเงิน จัดการเรื่องเงินทั้งหมด คนอื่นๆ ก็เป็นบอดี้การ์ด กับ ช่างภาพไป อิอิ



พอพ้นประตูสนามบินออกมา เหล่าสมาชิก ก็จะเป็นเหมือนดาราซุปตาร์ จะโดนห้อมล้อมจากคนสองอาชีพ อาชีพแรกก็จะเป็นแท๊กซี่ อาชีพที่สองจะเป็นเหล่านายหน้าโรงแรม-เกสเฮาส์

เราก็อาศัยที่มีอำนาจการต่อรองสูง ยิ่งเหล่าแท๊กซี่-นายหน้ายิ่งมาก ก็จะเริ่มมีการเสนอราคา เปิดมาน่าจะมาตราฐานที่ 500 รูปี ยิ่งปฏิเสธไป ราคาที่เสนอมาก็จะยิ่งลดลง 500-400-300-250-200 จนในที่สุด สาว G เราก็เปิดไปจนถึง 150 รูปี จากสนามบินเข้าไป ทามาล-แหล่งที่พักแบกเป้ของเหล่านักท่องเที่ยว

และแล้ว ก็มีนายหน้าคนนึงยอมรับค่าโดยสารที่ 150 รูปี -เย้ ราคานี้ต่ำกว่าราคาวิ่งเปิดมิเตอร์ของแท๊กซี่ซะอีก เพียงแต่มีข้อแม้ว่าจะพาเราไปโรงแรมที่เค้าอยากจะแนะนำเราไป เราก็ โอเค



พอเราเข้าสู่ ทาเมล ได้ การเช็คโรงแรม ราคา Vs คุณภาพ ก็ถูกเอามาเปรียบเทียบกัน

เดินเช็คราคาหลายต่อหลายโรงแรม ผ่านไป 3 ชั่วโมง เป้หลังพร้อมสัมภาระ ก็ได้ที่วางซะที กับ โรงแรมที่อยู่ในรายชื่อจดโน๊ตมาจากเมืองไทย คนไทยเคยมาพักแล้วโพสบอกกันไว้ เป็นโรงแรมที่ Lonely Planet แนะนำไว้ด้วย

ทุกอย่างโอเค ยกเว้นราคา เจ้าของโรงแรมบอกว่า ราคาที่ไปลงโพสกันเป็นราคาเก่ามาก ให้ราคานั้นไม่ได้ คืนแรกในเนปาลของเราก็เลยจบลงที่ราคา US$8 ต่อห้อง นอนได้ห้องละ 2 คน



พอได้ที่พักแล้ว ก็ถึงคราวออกท่องเมืองแล้ว ย่านทาเมลเป็นแหล่งรวมของนักท่องเที่ยว เลยมีร้านรวงตลอดถนนยาว มีให้เลือกหาทุกอย่าง

Iphone ที่ สาว J กับ สาว D ใช้ ใส่ Cover ที่เป็นรูปกล้องถ่ายรูปห้อยคอ ทำเอาเป็นเป้าสายตาของทุกสายตา บางคนก็ต้องเดินเข้ามาถาม คงจะสงสัยว่าเป็นกล้อง หรือ เป็น Iphone กันแน่ เท่ค่อตเลย



กลางคืน ที่เนปาล จะหนาวมาก อุณหภูมิน่าจะเป็นเลขตัวเดียว แถมไฟฟ้าของประเทศนี้ จะมีการจ่ายไฟฟ้า และ ตัดไฟฟ้า เป็นเวลา ทุกวัน ถ้ามาตัดช่วงที่ต้องอาบน้ำ อาจต้องมีอาบน้ำเย็นเจี๊ยบ

ส่วนที่นอน อาจจะไม่ได้มาตราฐาน ความสะอาดสำหรับบางคนนัก เราก็อาจงัดเอาถุงนอนเรามาสวมนอนอีกชั้นก็ได้ จะอุ่นขึ้น กับ สะอาดขึ้น



ตื่ง ตื่ง ตื่นนนน เช้าแล้ว วันนี้เป็นวันเที่ยวจริงวันแรก
เปิดทริปด้วย วัดลิง หรือ สถูปสวะยัมภูนาถ วัดที่อยู่บนเขาสูง มีลิงพักอาศัยอยู่มากมาย ทั้งเขา วัดนี้เป็ไนสถูปที่ผสมผสานกันระหว่าง ศาสนาพุทธและฮินดู อายุน่าจะราว 2,000 ปี เชียวนิ และได้ถูกขึ้นเป็นมรดกโลก ในปี 2522 ด้วยเชียวหนา

ลิงที่วัดนี้ ค่อนข้างจะดุ ก็สมาชิกเราให้ขนมแก่เด็กชาวบ้าน เจ้าลิงจ้องตาเขม็ง พร้อมที่จะจู่โจมแย่งของกิน



ด้วยกำลังขา กับบันได 365 ขั้น จะไปเจอด่านเก็บเงินนักท่องเที่ยวด้านบน จะไม่จ่ายก็ต้องเดินลง อดชมสถูป ฮาฮา

ที่ฐานของสถูป จะเห็น ดวงตาเห็นธรรม ของพระพุทธเจ้า Wisdom Eyes ที่ฐานทั้ง 4 ทิศ ซึ่งถ้าเราเป็นชาวพุทธก็ต้องไปอธิฐานจิต อย่าพลาดละครับ ที่รอบฐานก็ยังมีกงล้ออธิฐานให้หมุนด้วย



เสร็จแล้ว ก็จับแท๊กซี่ บึ่งไปต่อ จุดหมายคือ สถูปโพธินาถ ซึ่งจะเป็นสถูปที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล ก็เป็นอีกหนึ่งมรดกโลก ล้อมรอบไปด้วย ชุมชนชาวทิเบต บริเวณนี้ จึงถูกเรียกว่าเป็น Little Tibet

สามสาว ไม่ได้ยลตามช่องประตูแต่อย่างใด แต่เป็นวิธีสักการะปฏิบัติของคนแถวนั้น เค้าสักการะกันอย่างไร เราก็ต้องปฏิบัติตาม ชิมิ



ต่อไปก็ไปดูพิธีที่สำคัญที่สุดพิธีนึงของชาวเนปาล ที่วัดปศุปฏินาถ ตามความเชื่อ เมื่อมีผู้เสียชีวิต จะต้องดำเนินพิธีศพภายใน 3 ชั่วโมง วัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพัคมาตี ซึ่งก็จะถือว่าศักดิสิทธิ์เหมือน แม่น้ำคงคา ในอินเดีย เพราะในที่สุดก็จะไหลไปรวมกับแม่น้ำคงคาทางใต้ลงไป

ด้วยเหตุนี้พิธีศพ จะมีตลอดทั้งวันทั้งคืน ศพจะถูกนำมาทำพิธีที่ริมแม่น้ำ หลังจากเผาแล้วขี้เถ้าต่างๆ ก็จะถูกเทลงแม่น้ำให้ไหลไป



วัดแห่งนี้ จะมีโยคี อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และแล้วเราก็ได้เจอตัวแบบใกล้ชิด ตอนเดินชมวัด เหล่าโยคี จะมาพร้อมแป้งสีแดง สำหรับแต้มหน้าผาก พร้อมกับด้ายสี อวยพรให้ อายุยืน สุขภาพแข็งแรง ฯลฯ ...

ปิดท้ายด้วยคำว่า "US$10" โดนแต้มหน้าผากผูกผ้า กันทั้ง 4 คน ซะด้วย

เจอมุกนี้เข้า สาว G เจ้าของกระเป๋าเงินรวม ก็เลยจำใจเปิดกระเป๋าตังค์ ควักไปให้ 100 รูปี --ตีเป็นเงินไทย 40 บาท-- บอก "For All" เหล่าโยคี เจอมุกนี้เข้าไป ถึงกับจุก 555



หลังจากนั้น ก็นั่งแท๊กซี่กลับเมือง เตรียมตัวย้ายเมืองไป เมืองโพคลา ในวันรุ่งขึ้น
จบภาคต้นเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อ ขอบคุณครับที่แวะมาชมกัน




Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 15:06:37 น. 5 comments
Counter : 1067 Pageviews.

 
น่ารักดีนะค่ะ แต่คราวหน้าต้องรีบขึ้นเครื่องนะค่ะ มันไม่งามนักที่ปล่อยให้คนเป็นร้อยรอคนอยู่แค่ไม่กี่คนเสียมารยาทค่ะ


โดย: นางงาม IP: 124.122.71.109 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:4:21:38 น.  

 
แวะมาทักทายและมาตามไปเที่ยวด้วยคนครับ


โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:05:34 น.  

 
เรื่องเวลาขึ้นเครื่อง ผมรับประกันได้ ยังอยู่ในเวลาเครื่องออกในตั๋วเครื่องบิน

เราอาจจะกะเวลาที่จะผ่านด่านตรวจ กับระยะทางที่ไปที่เกจ ผิดพลาดไปนิดละครับ


โดย: น้องปลาดาว วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:41:53 น.  

 
รออ่านต่อนะจ๊ะ


โดย: พี่ปปลา IP: 203.113.0.205 วันที่: 8 มีนาคม 2555 เวลา:16:39:54 น.  

 
เที่ยวน่าสนุกจังเลยนะคะ่ การ์ตูนน่ารักมากๆค่ะ อยากไปเที่ยวแบบนี้มั่งจัง ลงรายละเอียดเยอะๆนะค่ะ จะเข้ามาเก็บข้อมูล...


โดย: vanpa วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:17:17:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้องปลาดาว
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 76 คน [?]




อย่าลืมตามไปเจอกันใน Web Pladaodesign.com

สินค้า ของสะสม แมคโดนัลด์ McDonald คลิ๊กเลยจร้า

mcdonald

กระดาษ แน๊พกิ้นสำหรับงานเดคูพาจ Decoupage

แน๊พกิ้น

ชิ้นงานดิบ ไม้-วัสดุสาน สำหรับงานเดคูพาจ Decoupage

แน๊พกิ้น



สำหรับ Fan FB อย่าลืมแอดเป็นเพื่อนกัน จะได้ไม่พลาดข่าวสารกันละค่ะ

Follow pladaodesign on Twitter

Friends' blogs
[Add น้องปลาดาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.