เติ้งเสี่ยวผิง เคยกล่าวไว้ว่า “แมวนั้นไม่สำคัญว่าสีขาวหรือสีดำ ขอให้จับหนูได้ ก็ต้องถือว่าเป็นแมวดี” งานแต่งบ้านก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะใช้วิธีใดแล้วแต่งบ้านให้ได้ ถูกใจเจ้าของบ้าน ก็ถือว่าถูกต้องซะทุกวิธี ละครับ

Group Blog
 
All Blogs
 
สงกรานต์ 50 : ท่องแดนภารตะ : ภาค 3 เหินฟ้าสู่ ศรีนาคา ดินแดนแคชเมียร์

หลังจากใช้ชีวิต อยู่ที่ เดลี-อัครา มา 2 วัน วันนี้ก็เป็นวันที่เราจะบินลัดฟ้าสู่ เมืองศรีนาคา เมืองหลวงฤดูร้อนของ แคว้นจามู-แคชเมียร์ กันซะที
เมืองศรีนาคา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาแคชเมียร์ ที่ระดับความสูง 1,730 เมตร
เราบินออกจาก สนามบินภายในประเทศเมืองเดลี ตอนเที่ยง ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงเมือง จามู เครื่องก็จอดถ่ายผู้โดยสารประมาณ ครึ่งชั่วโมง แล้วก็ออกบินต่ออีกประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก็ถึงสนามบินศรีนาคา เมืองถูกโอบล้อมไปด้วยหุบเขาหิมะ

เราก็ได้พบกับไกด์ท้องถิ่นประจำ แคชเมียร์ นั่นก็คือ Mr.ยาซิม มารับคณะเราพร้อมด้วยรถ 4 คัน ไปยัง เรือบ้าน สุดหรู ริมทะเลสาบ DAL
ระหว่างทางจากสนามบิน พอผ่านส่วนที่เป็นแม่น้ำ-ทะเลสาบ ก็จะเริ่มเห็น เรือบ้าน เรียงรายอยู่ตลอดทาง

ความเป็นมาของ เรือบ้านทะเลสาบดาล ก็มาจาก ในสมัยที่อังกฤษยึดอินเดียได้แล้ว ก็พยายามแผ่อิธิพลขึ้นมาทางเหนือ ซึ่งขณะนั้น แคว้นแคชเมียร์ ยังเป็นรัฐอิสระอยู่ และทางแคชเมียร์ มีกฏหมายที่เข้มแข็งมาก ที่จะไม่อนุญาติให้คนต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ซึ่งกฎหมายนี้ก็ยังคงมีและใช้อยู่ จนถึงปัจจุบัน
ทำให้ คนอังกฤษ ต้องต่อบ้านเรือขึ้นมา โดยที่มีห้องต่างๆ เหมือนกับบ้านบนพื้นดิน ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องครัว, ห้องทานข้าว, ห้องนั่งเล่น, และ ดาดฟ้า-ระเบียงชมวิว

แต่ว่า เรือบ้านที่เราจะพัก ถ้าอยู่ริมถนน อย่างนี้ คงนอนกันไม่หลับแน่ เพราะการขับรถโดยบีบแตรนำของที่นี่ หนวกหูกว่าที่เดลี อีกไม่รู้กี่เท่า

รถขับเข้าซอยเล็ก ซอยน้อย แล้วก็มาโผล่ที่ บ้านเรือทะเลสาบ DAL ที่เงียบสงบ ห่างไกลจากถนน อย่างที่ต้องกาาร เราจะพักกันที่นี่ 4 คืนรวด ไม่ต้องเปลี่ยนที่พัก-ไม่ต้องจัดกระเป๋า

ทางเรือบ้านที่เราพัก ต้อนรับพวกเราด้วย การเลี้ยงน้ำชา-ของว่าง ที่กระโจมสนามหญ้า ริมทะเลสาบ

เริ่มจากการชง ชาพื้นเมือง ในกาน้ำร้อนโบร้าน-โบราณ ชงแล้วเทแจก ร้อนมั๊กมาก

ว่าแต่ สงสัยรึเปล่า ทำไมคนชงชา แต่ตัวยังกะป้อบอาย???

เฉลย - ก็เพราะว่า ที่บ้านเรือที่พักนี้ เรือแต่ละลำจะมีกับตันประจำเรือ ต้องใส่ชุดทหารเรือด้วยจะได้ขลัง เค้าจะคอยอำนวยความสะดวกทั้งหมดทุกอย่าง แขกที่มาพักต้องการอะไร ยกเว้นดาวกับเดือน ขอให้บอก แล้วจะได้เหมือนเนรมิต

บ้านเรือลำนึงจะมี 3 ห้องบ้าน 4 ห้องบ้าง จะต่อน้ำประปา กับ ไฟฟ้าจากฝั่งไปยังบ้านเรือ แต่ไฟฟ้าของที่แคชเมียร์นี้ ไม่ได้เปิดตลอดเวลา บางทีก็ตัดไฟเอาดื้อๆ ดังนั้น ทุกห้องจะมีไฟฟ้า 2 ชุด ชุดแรกจะเป็นไฟฟ้าของรัฐ ส่วนอีกชุดจะเป็นไฟปั่น จะเปิดตอนรัฐตัดไฟ ดังนั้น พวกเครื่องไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊ก เช่น กล้องถ่ายรูป กล้อง CAMCORDER ต้องวางแผนเวลาช๊าตแบตกันดีๆ

มีอยู่คืนนึง น้ำในห้องพัก ห้องนึงไม่ไหล เหล่ากับตัน ต้องเกณฑ์กันมาหาบน้ำให้แขก โอย! เหนื่อยแทน

ในรูป พ่อบ้านประจำเรือของเราคือ Mr.พาโร่ กำลังปิ้งขนมปังจากเตาถ่านให้อยู่ ยิ้มให้ที กล้องสั่นเลย อะอะ

กลับมาต่อกับการต้อนรับของเหล่ากับตัน
สิ่งที่เสริฟมาพร้อมกับ ชาพื้นเมืองที่ใส่อัลมอลล์ ก็จะเป็น แป้งอะไรไม่รู้ทอดเป็นก้อนๆ แต่เคี้ยวแล้วเหนียวๆ กรุบๆ เหมือนปาท่องโก๋แต่เนื้อแน่นกว่า กินพร้อมกับชาแล้วเข้ากันได้ดี

เรือบ้านส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรือเก่า อายุเป็นร้อยปี ตอนคนอังกฤษ ย้ายกลับประเทศ ก็จะขายให้คนพื้นเมือง เอามาเป็นที่อยู่อาศัย ริมน้ำ จนกระทั่งปัจจุบันได้ถูกจุดประกายให้เป็นจุดขาย สำหรับการท่องเที่ยวของ แคชเมียร์ไปเลย

โดยทั่วไป ห้องพักก็จะมี 2 เตียง อย่างที่ห้องจะเป็น 1 เตียงใหญ่ กับ 1 เตียงเล็ก มาพร้อมกับผ้าห่มหนามั๊ก เพราะอากาศที่นี่ตอนกลางคืนจะหนาว

ส่วนห้องอื่นๆ ด้านท้ายเรือ ก็จะเป็นห้องทานข้าว ห้องนั่งเล่น เรือบ้านแต่ละลำจะถูกตกแต่งไว้ ไม่เหมือนกัน แต่ก็จะเน้นการใช้ไม้แกะสลักลายของแคชเมียร์ หรูหราสมกับเป็นเรือผู้ดีอังกฤษ เหมาะแก่การนั่งจิบน้ำชา-อ่านหนังสือ

ปกติแล้ว บริเวณท้ายเรือจะเป็นที่นั่งเล่น รับลม และจะมีบันไดทอดลงไป เพื่อรอรับเหล่า ชิการ่า-พ่อค้าพื้นเมือง ที่พายเรือมาขายสินค้ามากมายหลายอย่าง

ทันทีที่พวกเราแยกย้ายกันเข้าเรือบ้าน พวก ชิการ่า ที่น่าจะมีญาณวิเศษสำหรับมองหานักท่องเที่ยว ก็เริ่มพายเรือกันมา

ชิการ่า ที่พายเรือมาขายสินค้าก็มีหลายต่อหลายอย่าง มีเรือขายดอกไม้-เมล็ดต้นไม้, เรือขายงาน เปเปอร์มาเช่, เรือขายเสื้อ-ถุงมือ, ฯลฯ

อย่างในรูป จะเป็น ชิการ่า เรือแท๊กซี่ สำหรับ บริการพานักท่องเที่ยวล่องไปใน ทะเลสาบ DAL ยิ่งไปกัน สองต่อสอง จะยิ่งโรแมนกะติก

ปล. แต่ถ้าไม่มีคนจ้าง พวกเค้าก็จะดำเนินชีวิตปกติของพวกเค้า จับปลากัน ซะงั้น

และก็จะมีเรืออีกประเภทนึง ที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้ เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม จะเป็นเรือถ่ายรูปพร้อมกับชุดท้องถิ่นประชำชาติแคชเมียร์

ใครสนใจก็เรียกเค้าขึ้นเรือมา เค้าก็จะนำชุดประจำชาติ กับเครื่องประดับพื้นเมืองต่างๆ เพื่อถ่ายรูปใส่ชุดประจำชาติ รูปขนาด 8"X10" ก็ 70 รูปี/รูป ถ่ายวันนี้ วันรุ่งขึ้นเค้าก็จะพายเรือเอารูปมาเก็บตังค์ เราก็ใช้บริการแปลงตัวเป็น มหาราชา-มหาราณี แห้งแคว้นแคชเมียร์ ถ่ายไป 2 รูป 140 รูปี แต่พอได้รูป
ป๊ะ ! ถ่ายเราซะหลุดโฟกัส ทั้งสองรูป อะอะ

หลังจากนั้นก็มาต่อตารางเที่ยวตามรายการ พอพวกเราได้พักล้างหน้า-ล้างตาสักพัก ใน เรือบ้านของแต่ละกลุ่ม เมื่อได้เวลา ไกด์ท้องถิ่นเราก็พาออกไปเที่ยวเลย

ที่แรกคือ สวนนิชาน เป็นสวนที่อยู่ริมฝั่งทะเลสาบ DAL มีภูเขาซาร์บาวาล อยู่เป็นฉากหลัง เป็นสวนที่จัดตามสไตย์โมกุล มีทางเดินขึ้นไป ชั้นบน รวม 4 ชั้น และมีการผันน้ำจากภูเขาให้กลายเป็นน้ำพุในสวน

สวนนี้ จะมีคนท้องถิ่นเข้ามาพรอดรักกันเยอะ เพราะสุดแสนจะโรแมนติก มองดูพระอาทิตย์ตกดิน

คนพื้นเมืองที่แคชเมียร์ จะตาคม หน้าขาวสวย ต่างจาก คนพื้นเมืองที่เดลี มาก
อย่างเด็กน่ารัก 3 คนนี้ กลายเป็น 3 ดาราให้คณะทัวร์ไทย รุมถ่ายรูปกันได้ไม่ยาก พวกเธอก็เขินซะ

ก็สงสารแต่คนอยู่ท้ายน้ำ ไม่รู้กำลังล้างหน้ากันอยู่รึเปล่า อะอะ

สิ่งที่ สวนนิชาน โดดเด่นอีกเรื่องก็คือ จะมีการลงดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล มีดอกไม้แปลกๆ เยอะแยะ ส่วนใหญ่จะไม่รู้จัก ก็ถ่ายมาประดับ Blog ซะ

--แต่ตาไกด์ท้องถิ่น ยาซิม ดันพยายามชี้ให้ดู ทุ่งดอกหญ้า ซะตื่นเต้น ดอกหญ้าที่ประเทศเราก็มีเฟ้ย--

ออกจาก สวนนิชาน เราก็เดินทางต่อไปยัง มัสยิทขาว หรือ คนท้องถิ่นเรียกว่า ไวท์มอส ระหว่างทางไกด์เราก็จอดรถที่ตลาดท้องถิ่น ปล่อยให้พวกเราเดินจากตลาด ดูวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองที่นี่ แล้วเดินลัดเลาะ ไปยังมัสยิทขาว ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ DAL อีกด้าน

ตลาดท้องถิ่น มีของขายเยอะแยะ อัธยาศัยของคนพื้นเมืองที่นี่ ค่อนข้างดี เห็นเราเป็นนักท่องเที่ยว ก็แจกของให้ชิม-ให้กิน กันอร่อยไป โดยเฉพาะ แผ่นโรตียักษ์ห่อไส้ฟักทองต้ม รสชาติเค็มๆ มันๆ อร่อยดี

เราก็เดินชมตลาด จนกระทั่งถึง มัสยิทขาว หรือ ไวท์มอส มัสยิทแห่งนี้ ค่อนข้างสำคัญสำหรับ แคว้นแคชเมียร์มาก เพราะ มัสยิทแห่งนี้จะใหญ่ที่สุดในศรีนาคา นอกจากนั้นมัสยิทแห่งนี้ก็ยังเก็บเส้นผมของคนสำคัญของชาวมุสลิมท่านนึง ที่ชื่อ โมฮัมมัส
ทุกๆ ปี จะมีการนำเส้นผมของท่าน ออกมาสวดมนต์ พื้นที่ของมัสยิทแห่งนี้ในวันนั้น จะสามารถรองรับชาวมุสลิม ที่มาสวดได้ถึง แสนคน

พวกเราก็ได้มีโอกาสเข้าไปภายในมัสยิท แต่ภายในห้ามนำกล้องทุกชนิด เข้าไป และถ้าเป็นผู้หญิง ถ้าจะให้เหมาะสม ก็ควรใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด และถ้ามีผ้าคลุมผมด้วย จะดีมาก เมื่อเข้าสู่ภายในมัสยิท จะมีประตูชั้นในอีกบาน ซึ่งจะห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้า เหล่าผู้ชายก็เข้าไปได้ ภายในโดมกลางห้องก็จะเป็น ห้องที่ถูกเขียนด้วยตัวหนังสือใน คัมภีร์อัลกอลุอ่านรอบห้อง คงต้องให้คนมุสลิมอธิบายคงเห็นภาพได้เข้าใจชัดเจนขึ้น

กลับจาก มัสยิทขาว เราก็มาทานอาหารเย็นกันที่เต้นท์สนามหญ้าของ เรือบ้าน
แต่เนื่องจาก แคว้นแคชเมียร์ จะมีการตัดไฟของหลวงได้ตลอดเวลา จึงทำให้ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากนัก เช่น ทีวี
แต่ไกด์ไทยเราก็ดี ที่ออกความคิดให้ ทุกคืนจะมีเรือบ้านของกลุ่มเราเป็นเจ้าภาพ เลี้ยงอาหารว่างตอนค่ำ หมุนเวียนกันไปยังเรือแต่ละลำ

ซึ่งก็ดี ทำให้คนในคณะเราได้ออกมานั่งคุย-แลกภาพถ่ายกันดู สร้างความสนิทสนมกัน ดีกว่าปล่อยให้ต่างคนต่าง เข้านอน ห้องใครห้องมัน

**
จบการเดินทางสู่ แคว้นแคชเมียร์
ภาคต่อไป ได้ไปเที่ยวแบบเต็มๆ วัน ซักที
**


Create Date : 23 เมษายน 2550
Last Update : 20 พฤษภาคม 2550 14:04:22 น. 4 comments
Counter : 1423 Pageviews.

 
เอ..เรือของคุณน้องปลาดาวน่าจะอยู่ไม่ไกลจากเรือของเราเท่าไหร่

ตกลงเราอาจเฉียดกันไปเฉียดกันมา
ถ้าหากว่าเห็นผู้ชายท่าทางบ้าๆ
ถือกล้องโตๆ..กดชัตเตอร์ได้ตลอดเวลา
น่าจะเป็นผม

เออ..แล้วสวนอีกสวนไม่ได้ไปเหรอครับ
ที่อยู่ตรงสามแยกหน่ะ..มองเห็นเขามีหิมะปกคลุม
จำชื่อสวนไม่ได้

แต่มีน้ำตกใหญ่ๆอยู่ด้านหน้า
อันนี้ค่อยครึ้มหน่อย

สวนอันนี้ผมว่ามันร้อนไปหน่ะ
เดินไปขาลาก..เกือบตายเหอๆ


โดย: Dr.Manta (Dr.Manta ) วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:22:26:17 น.  

 
สวยงาม แปลกตา ยังมีวิถีชีวิตเดิม ๆ ให้เห็น น่าเสียดายบ้านเราเหลือน้อยเนอะ


โดย: ต่อตระกูล วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:06:14 น.  

 
แง่มๆๆๆ
มารอดูภาคต่อไปค๊าบบ
(ของตัวเองก็ยังไม่ได้อัพต่อเล๊ยยย)

สงกาสัยคุณปลาดาวคงงานยุ่ง
ไว้ถ้าอัพเสร็จแล้วอย่าลืมสะกิดน่ะครับ
แว๊บบบ


โดย: Dr.Manta วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:24:51 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนค๊าบ


โดย: วันนี้ดีจัง IP: 124.121.49.136 วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:23:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้องปลาดาว
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 76 คน [?]




อย่าลืมตามไปเจอกันใน Web Pladaodesign.com

สินค้า ของสะสม แมคโดนัลด์ McDonald คลิ๊กเลยจร้า

mcdonald

กระดาษ แน๊พกิ้นสำหรับงานเดคูพาจ Decoupage

แน๊พกิ้น

ชิ้นงานดิบ ไม้-วัสดุสาน สำหรับงานเดคูพาจ Decoupage

แน๊พกิ้น



สำหรับ Fan FB อย่าลืมแอดเป็นเพื่อนกัน จะได้ไม่พลาดข่าวสารกันละค่ะ

Follow pladaodesign on Twitter

Friends' blogs
[Add น้องปลาดาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.