ความหมายของคำ"ชมัยมรุเชฐ"
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ระบุว่า
"ชไม" เป็นคำเขมร มีความหมายว่า "ทั้งคู่, ทั้งสอง"
"มรุ" มีความหมาย ๒ ประการ คือ "ทะเลทราย, ที่กันดารน้ำ"และ "เทวดาพวกหนึ่ง"
"เชฐ" พจนานุกรมฯ สะกดว่า "เชษฐ" และให้ความหมายว่า เป็นคำนาม หมายถึง"พี่ผู้เป็นใหญ่" เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง "เจริญที่สุด"
จึงมีความหมายว่า "พี่ชายผู้เป็นเทพ ๒ พระองค์" แต่เป็นไปได้ที่อาจมีความหมายอีกทางหนึ่งหากคำว่า มรุ แผลงมาจากคำว่า มร แปลว่า ตาย จึงอาจแปลความได้ว่า "สะพานที่สร้างให้พี่ชายผู้ล่วงลับทั้งสอง"
วัตถุประสงค์ในการสร้างสะพานแห่งนี้
สะพานนี้สร้างขึ้น โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ครั้งเจริญพระชนมายุ ๑๗ พรรษา เสมอพระเชษฐา ๒ พระองค์ คือ
๑) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร และ
๒) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าสมมติวงศ์วโรทัย กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าวไลยลงกรณ์ทรงมีศรัทธาสร้างสะพานเป็นสาธารณทานเพื่อทรงอุทิศส่วนพระกุศลถวายพระเชษฐาทั้ง ๒ พระองค์ซึ่งสวรรคตและสิ้นพระชนม์ โดยได้ทรงพระราชศรัทธาบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าให้สร้างสะพานที่ คลองเปรมประชากรระหว่างถนนพิษณุโลกตัดกับถนนนครปฐม โดยโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหมื่นเสมอใจราชเป็นพนักงานก่อสร้าง ครั้นสร้างเสร็จทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า ชมัยมรุเชฐ
โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และสมเด็จฯ เจ้าฟ้าวไลยลงกรณ์ ทรงเปิดสะพานเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๕
(จากซ้าย)เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระมารดา และกรมหลวงสงขลานครินทร์ พระอนุชา
ทั้ง ๓ พระองค์ทรงเป็นทูลกระหม่อมลุง ทูลกระหม่อมป้าของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ และ ๙
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร เป็นพระราชธิดาลำดับที่ ๔๓ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ประสูติเมื่อวันพุธที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๗
ทรงเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหิดลอดุยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ หรือเป็นสมเด็จพระราชปิตุจฉา(ป้า) ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน
ราชกิจจานุเบกษาระบุการสร้างสะพานชมัยมรุเชฐ
สะพานชมัยมรุเชฐ
ตั้งอยู่ ณ จุดที่ถนนพิษณุโลกตัดข้ามคลองเปรมประชากร บริเวณแยกพานิชยการเขตดุสิต ใกล้กับทำเนียบรัฐบาลและวัดเบญจมบพิตร กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๒ ตอนที่ ๖๑ วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ปัจจุบันสะพานชมัยมรุเชฐถูกต่อเติมขยายออกไปจนหมดสภาพดั้งเดิมคงเหลือเพียงป้ายโลหะชื่อสะพานที่ยังเป็นของเดิม
ที่มา : //www.trueplookpanya.com