Taiwan-dering : และแล้วก็ได้สัมผัสแปซิฟิคจริงๆ เสียที Finally @ the Pacific Coast









วันสุดท้ายของการทำงานในปีนี้แล้ววววค่ะ และแล้วก็ถึงเทศการแห่งการฉลอง แต่อย่าฉลองจนลืมตัวนะคะ เหลือเก็บเหลือใช้ไว้ยามจำเป็นบ้างค่ะ



บล็อคนี้ เรายังอยู่ในฮวาเหลียนกันค่ะ ยังไปไหนไม่ได้ เพราะยังมีอีกที่ที่เลขาฯ อยากนำเหนอภาพสวยๆ ค่ะ

เลขาฯ ตื่นเต้นมากกกก เพราะจะได้สัมผัสน้ำทะเลจากมหาสมุทรแปซิฟิคค่ะ ตื่นเต้ลลลลมากกกก

ไกด์สาว พอลล่าของเราก็พาเรามายังริมหาดหลังสนามบิน ตอนมาถึง ฝูงบินเอฟกำลังขึ้นซ้อมเลย เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำเอาเลขาฯ กะลิงสวิสวิ่งไปดูกันหนุกหนาน

แล้วหันหลังกลับมาก็เจอภาพสวยๆ ริมขอบมหาสมุทร โอ้ สวยจริงๆ ค่ะ ปกติไม่ค่อยชมทะเลบ้านคนอื่นว่าสวย เพราะไปที่ไหน บ้านเราก็สวยกว่า แต่ทะเลตรงนี้สวยจริงๆ ค่ะ แต่หาดทราย ยังไงก็สู้บ้านเราไม่ได้ค่ะ

ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกค่ะ







หาดที่นี่ออกจะเป็นหินกรวดดำๆ ไม่สวยอย่างหาดทรายบ้านเราค่ะ





อีกมุม



คลื่นแรงทีเดียว กะไม่ได้เลยว่าช่วงไหนเบา ช่วงไหนแรง



เหมือนๆ จะมาเบาๆ ใช่ไหมคะ คลื่น



แต่ไม่ใช่เลยค่ะ



แล้วเลขาก็พับขากางเกงจะลุยสัมผัสน้ำ



ดูคลื่นด้านหลังสิคะ



ผลคือ เปียกไปทั้งกางเกงเลยค่ะ



ยังแอ็คถ่ายรูปต่ออีกค่ะ ก็ไหนๆ ก็เปียกไปแล้วนี่ เจ้าลิงสวิส หันมาเห็นว่าหยีตัวเปียก หัวเราะลั่นเลย ก็นะ ต้องเล่นไรหนุกๆ หน่อยจิ เอากลิ่นแปซิฟิคกลับไปด้วยไง เหอๆๆๆ (ข้ออ้างนะเนี่ย)



นู๋เอ้ แอบถ่ายค่ะ แต่ชอบจัง ภาพสวยดี ได้อารมณ์มั่กๆ



นู๋เอ้ ถ่ายตัวเองบ้างอ่ะ เรียกเลขาฯ ก็ได้นะ กล้องเค้านะน่านนอ่ะ



กับสาวเกาหลีเอมิเลีย ก่อนจากกัน เพราะเทอต้องกลับเครื่องบิน แต่เรากลับรถไฟตามแพลนของทัวร์ค่ะ เรามา 3 วัน ของเทอวันเดียว มาเครื่อง กลับเครื่อง



บนรถไฟค่ะ เฮฮากันอยู่





ทอมกะแอนจากเมกาค่ะ



แล้วเราก็สลบไสลกันบนรถไฟค่ะ คุยบ้าง นอนบ้าง มองวิวข้างทางบ้างไปตามเรื่อง แต่ว่าผ่านอี้หลันด้วย แต่ด้วยความที่เราไม่สามารถพอ เลยไม่ได้แวะอี้หลันเลยยยย



ไว้ไปย่ำกรุงไทเปกันต่อนะคะ เก็บตกหลายๆ อย่าง กับกู้กง พิพิธภํณฑ์ที่เลขาฯ อยากไปมากกกก








Create Date : 28 ธันวาคม 2550
Last Update : 22 พฤษภาคม 2551 13:18:26 น.
Counter : 501 Pageviews.

2 comment
Taiwan-dering : เดินลอดท้องมังกร The Tunnel of 9 Tunes @ Tarokko George Part II




สวัสดีอีกรอบค่ะ

ใกล้จะสิ้นปีเข้าไปทุกขณะแล้ว แต่เลขาฯ ก็ยังไล่บล็อคเที่ยวไต้หวันยังไม่เสร็จเสียทีค่ะ ทำไงล่ะทีนี้ อีกหลายวันเลยอ่ะ จะเป็นมหาทริปข้ามปีของเลขาฯ อีกก็เป็นได้นะคะเนี่ย

วันนี้เรามาเที่ยวต่อที่ Tarokko Georage ค่ะ เลขาฯ เป็นคนชอบเที่ยวเขามากกว่าทะเลอยู่แล้ว รูปก็เลยถ่ายเอาๆ ไม่เกรงใจเลย ถ้าเป็นฟิล์มยังไม่รู้เลยว่า ค่าล้างออกมาจะสักเท่าไร

อุโมงค์ที่กั้นรั้วไว้ แต่มองเห็นว่า มีเส้นทางรถอีกข้างหนึ่ง



มันดูเป็นจริงเป็นจัง และไม่ธรรมชาติเลยอ่ะ
แต่คนสร้างคนมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่เราไม่อาจรู้ได้



กลับคืนสู่การชมธรรมชาติของขุนเขาอันยิ่งใหญ่



เหมือนๆ จะแบกเขาไว้ทั้งลูก (แค่เหมือน) แต่จริงๆ เราทิ้งภาระไว้ตามข้างทางบ้างก็ได้นะคะ



กลับคืนสู่ธรรมชาติบ้าง (เอ ออกจะปรัชญาเกินไปหรือป่าวเนี่ย เลขาฯ)



ถ้าได้นอนค้างสักคืน สองคืนก็คงดี แต่สมาชิกในก๊วน คงมะชอบใจเท่าไรนัก เลยต้องยอมปล่อยผ่านค่ะ





ชื่อของถ้ำ ที่แปลประมาณว่า มังกร (ก็อ่านออกได้ตัวเดียวอ่ะค่ะ หลง แปลว่า มังกร)









คงเก็บความสวยงามผ่านเลนส์มาได้ไม่หมดนะคะ แค่ผิวๆ ของธรรมชาติเอง



มาเจอ สามสาว ถ่ายรูปโพสต์ท่ากันบ้าง



ตรงไกด์บอกว่าหินก้อนข้างล่างเหมือนปลากำลังว่ายทวนน้ำขึ้นไป
มองลงไป "จริงด้วยแฮะ" เลยแชะมาเสียหน่อย



ธรรมชาติหลากมุมค่ะ











เห็นได้ชัดถึงภูเขาหินที่สลับซับซ้อน และสูงจนเป็นผาตัดชัน มองไปคล้ายๆ แกรนด์แคนยอนค่ะ



แต่มันออกจะเป็นทางที่ทางการเขาพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว เสน่ห์อาจลดน้อยลงไปบ้าง หากเทียบกับการได้ไต่ ได้ปีนเองล่ะก็ คงสนุกกว่านี้ แต่เพื่อนร่วมทริป คงเซย์บายตั้งแต่ปากทางแน่ค่ะ





ตอนนี้ ก็ขึ้นๆ ลงๆ รถตามจุดให้ชมวิววกัน ถ่ายรูปบ้าง เล่นกะเพื่อนๆ ในทัวร์บ้าง ถึงแม้จะมีคนแก่มาด้วย แต่ก็ยังคงสนุก เหมือนวัยเดียวกันค่ะ





สะพานอันนี้มีตำนานค่ะ คล้ายๆ กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ของบ้านเรา
เป็นสะพานระลึกถึงผู้เป็นแม่ที่นำอาหารมาให้ลูกช้า จนลูกโมโหหิว ทุบตีแม่จนตาย





ความเป็นมาของสะพาน





แล้วเราก็แวะพักดื่มชา ที่นำน้ำแร่ที่ไหลจากเขาด้านบนมาต้มเป็นชาต่างๆ ค่ะ
เลขาฯ สั่งชาราสเบอร์รี่มา กลิ่นแรงมาก หวานปะแล่มๆ ค่ะ



ส่วนอีก 4 คน อ้อ กลุ่มเรา 3 และสาวเกาหลีมาร่วมแจมด้วย เป็น 4 ตอนนี้เลยทำให้เรารู้ว่า เทอไม่ได้มากะหนุ่มอังกฤษค่ะ



เป็นชาอะไรจำไม่ได้ รสชาติแปลกๆ คงเพราะเป็นชาผลไม้อ่ะค่ะ ซึ่งเลขาฯ ไม่ชอบเลยอ่ะ

ตรงนี้เป็นวัดค่ะ เราหยุดกันเพื่อขึ้นไปไหว้พระข้างบน







วัดด้านบน ก็ต้องคงความเป็นจีนโบราณ แน่นอนอยู่แล้ว เก๋งจีน 7 ชั้น เราสาวๆ อยู่ด้านล่าง ส่วนลิงสวิส 2 คน ปีนขึ้นไปข้างบนเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ





เห็นไหมคะ ลิงเผือกโบกไม้โบกมืออยู่ด้านบนเก๋งจีน

เดินข้ามมาอีกฝั่ง เหมือนใกล้ แต่เล่นเอาแฮ่กไปเช่นเดียวกัน่ะ



อุโบสถของวัด เป็นเหมือนศาลาการเปรียญใหญ่ๆ เลยค่ะ ไว้ทำพิธีต่างๆ





มองกลับไปที่เก๋งจีน ที่เพิ่งจากมาสักครู่



ขาเดินลงมา เจ้าเอ้เดินนับขั้นบันไดด้วย แต่เลขาฯ จำไม่ได้ซะแล้วว่ากี่ขั้น เหอๆๆ





อากาศเริ่มร้อนค่ะ งงๆ ว่าหน้าร้อนเหรอเนี่ย



แล้วเราก็แอบใช้นักบินมาถ่ายรูปให้เราค่ะ



เก็บภาพไปเรื่อยๆ ค่ะ เพราะเราจะลงจากเขาแล้ว





กะหนุ่มนักบิน และไกด์อารมณ์ดี พอลล่าค่ะ



กับสองหนุ่มสวิส และสาวเกาหลี



แล้วเราก็เดินทางออกจาก Tarokko มุ่งหน้าไปหม่ำข้าวกันค่ะ

แต่มื้อนี้เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ อารมณ์หิว บวกอาหารอร่อย แถมมีพริกให้เรากินด้วย สุดยอดค่ะ

ไว้จะมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ




Create Date : 27 ธันวาคม 2550
Last Update : 22 พฤษภาคม 2551 13:18:51 น.
Counter : 733 Pageviews.

4 comment
Taiwan-dering : Tarokko George เยือนถิ่นแกรนด์แคนยอนเอเชีย


กลับมาแล้วววววค่ะ

มาเล่าเรื่องเที่ยวไต้หวันต่อ มะงั้น จะกลายเป็นทริปมาราธอนข้ามปีไปซะงั้น เหอๆๆๆๆๆ ก็ไปแค่ 9 วัน แต่เล่ามากี่บล็อคแล้วเนี่ย เหอๆๆๆๆๆ

วันนี้พวกเราต้องตื่นแต่เช้าลงมาหม่ำอาหารเช้า เนื่องจากโรงแรมนี้ เป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว ทัวร์ก็เลยเยอะเลย วันนี้เรารีบลงมาละ แต่ก็ยังมะทันคนอื่นเท่าไรเลย อาหารเช้าแบบจีนๆ แต่ก็มฝรั่งปะปนบ้างนิดหน่อย พอกล้อมแกล้มค่ะ

พอหม่ำเสร็จเราก็ขึ้นไปเอากระเป๋า แล้วลงมารอ เพราะไกด์นัด 7.45 น. แต่พอลงมา เขาเลื่อนเวลาค่ะ เนื่องจากต้องค่อยๆ ทยอยทัวร์กรุ๊ปอื่นๆ ออกไป

เราออกไปยืนรอข้างนอกโรงแรม เจอคุณลุงที่มะวานขึ้นรถจากหนามบินมาคันเดียวกัน เลขาฯ เลยทัก "โจว๋ส่าน" ไป เขาก็ตอบกลับมาเป็นกวางตุ้ง เหอๆๆ ฟังได้นิดเดียวเอง รู้สึกว่าตัวเองแย่มั่กมาก ที่เด็กๆ ดันแกล้งไม่สนใจพูดภาษาจีนกวางตุ้ง ทิ่งมันไปตอนเข้าเรียน ทั้งๆ ที่ตอนเด็กๆ ก่อนเข้าเรียน เลขาฯพูดได้ปร๋อเลย ตอนนี้โดนแม่ตอกย้ำทุกวัน
อ้อที่เลขาฯ ทักเขาเป็นกวางตุ้งเพราะว่าเห็นว่าเขามาจากเมกาอ่ะ อ่ะนะ

พอรถมาเราก็ขนสัมภาระขึ้นรถค่ะ รถทัวร์คันใหญ่ มีลูกทัวร์ท้องถิ่นมาเพิ่ม 2 คน ด้วย แล้วเราก็วนไปรับลิงสวิส 2 คนที่อีกโรงแรม แล้วก็มีเพิ่มมาอีก 2 คนระหว่างทางเป็นเกาหลี กะอังกฤษ ตอนแรกเรานึกว่าเขามาด้วยกัน เพราะเห็นว่าคุยกันมา แต่มะช่ายอ่ะ เหอๆๆๆ

ทัวร์ก็ย่อมเป็นทัวร์ พาไปดูโรงงานหินอ่อน ที่สกัดมาจากเขาในฮวาเหลียน ซึ่งเป็นมณฑลที่ผลิตหินอ่อนของไต้หวันค่ะ





พอเขาอธิบายเสร็จก็พาเราขึ้นรถ มุ่งสู่ทาโรโกะ ที่ๆ เลขาฯ อยากมาค่ะ

























พอขึ้นรถเลขาฯ ก็เริ่มเม้าท์ละ เพราะหนีไปถ่ายรูปด้านหลัง ก็เลยได้คุยกะลิงสวิส 2 คน เลยรู้ว่า คนนึงเป็น pilot ของ CI ส่วนอีกคนเป็นทนายค่ะ แล้วส่วนครอบครัวที่มาจากเมกา มาจากแคลิฟอร์เนีย พาพ่อกะลุงมาเที่ยวเดือนนึง แต่มะใช่แค่ไต้หวันนะคะ จะไปจีนต่อจากนี้ด้วย ดีจัง

เห็นสะพานลิบๆ นั่นไหมคะ



ซูมกันใกล้ๆ ค่ะ



แล้วก็เริ่มลงเดินมาชมผานกนางแอ่น เราก็เดินไป คุยกันไป ตอนแรกเราก็ยังมะได้คุยกะสาวเกาหลีหรอก เพราะยังคิดว่าเทอมากะหนุ่มใหญ่อังกิต อ่ะนะ เลยคุยแต่กับแอน ทอม เฟรด แล้วก็อเล็กซ์ กะไกด์สาวของเรา ง่ะ บางทีก็พยายามพูดกะพ่อของทอม





เหอๆๆ เห็นความอืดไหมคะ





ทอม โดดมาแจม เราก็แอบใช้เฟรดให้ถ่ายรูปให้ เหอๆๆๆ เริ่มหนุกค่ะ วันนี้





แล้วเราก็ต้องรีบขึ้นรถ พอลล่าบอกว่า จะต้องรีบเพราะเขามีซ่อมทาง จะปิดเปิดทางเป็นเวลาอ่ะ มะงั้นเราต้องเสียเวลาเป็นชั่วโมงค่ะ

ระหว่างรอทางเปิด



แล้วก็มาสุดทางที่จะต้องเดินตามถ่ำท้องมังกร หรือ The Tunnel of 9 Tunes











ดูวิวกันไปเรื่อยๆ นะคะ เพราะระหว่างทาง ก็คุย เล่น กันไร้สาระตลอดทาง วันนี้ถือได้ว่าสนุกค่ะ เพราะกรุ๊ปที่มารวมกัน คุยกันสนุก สนทนากันไม่เงียบเหงาเหมือนสองวันแรกกะ 2 ผัวเมียสิงคโปร์ อาจเพราะคนอื่นกำลังวัยใกล้เคียงกัน ไม่หลุดด้วยมั๊งคะ แถมเป็นทริปแบบเดินๆ หน่อยอ่ะค่ะ เหอๆๆๆ







ป้ายไรมะรู้ อ่านออกมะหมด เลยมะกล้าเดาฟามหมาย



ระหว่างในถ้ำท้องมังกร



แล้วก็โผล่ออกมาเห็นแสงตะวันใหม่















รูปชักเยอะไปแล้วอ่ะมั๊ง ไว้มาต่อกันที่บล็อคหน้านะคะ (เมื่อไรละเนี่ย) ถ่ายภาพมาเยอะมากจริงๆ ค่ะ






Create Date : 20 ธันวาคม 2550
Last Update : 22 พฤษภาคม 2551 13:19:17 น.
Counter : 763 Pageviews.

6 comment
Taiwan-dering : Lotus Pond in Kaohsiung เดินไหว้เจ้าแม่กวนอิมริมสระบัว


เหอๆๆๆๆ ขอโต๊ดก๊าบบบ หายไปหลายวันเลย งานหลวง งานราษฎร์เยอะไปหมด วันนี้เลยต้องถ่างตามาอัพบล็อคเสียหน่อย

หลังจากที่นอนโรงแรมไฮโซกันแล้ว ก็ตื่นมาไปเที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองเกาสงกันค่ะ

เริ่มต้นด้วย สระบัว หรือที่เขาเรียกปะกิตกันว่า Lotus Pond ค่ะ รอบๆ สระเต็มไปด้วยวัด และสิ่งก่อสร้างที่เป็นเทพเจ้าต่างๆ ของจีนค่ะ

นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ นะคะ ไกด์เขาให้เราเดินเอง มะได้อธิบาย โบชัวร์มี แต่ยังมะได้อ่านเลยค่ะ แม่เอาไปอ่านอ่ะ







เห็นตัวมังกรแล้วค่ะ ยาวเชียว เราจะเดินลอดท้องมังกรออกไปศาลากลางน้ำค่ะ



ภายในท้องมังกร เป็นภาพปูนปั้นลอยตามผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติแบบจีนค่ะ



เดินออกมากลางน้ำ วิวสวยดี แต่ดันมีทัวร์นักเรียนญี่ปุ่นมาลงด้วย เด็กใสๆ ทั้งนั้น แบบ ม.ต้น เพิ่งพ้นประถมกันมา เลยดูถึกๆ ตันๆ กันไปหน่อยอ่ะ





ออกจากท้องมังกร ก็เจอทางเดินยาวทอดไปศาลากลางน้ำเจ้าค่ะ แดดร้อนมั่กมาก นึกว่าอยู่เมืองไทยเลยนะเนี่ย อากาศ















เก๋งจีน สวยดีค่ะ





กลับมาวัดจีนริมฝั่ง ขึ้นไปสักการะกัน ก็ยังคงสไตล์ไต้หวัน เพราะมี 3 ชั้นแน่ะ แล้วก็มีเจ้าเยอะมาก เรียกไม่ถูกค่ะ แค่ไหว้ขอพรไปตามองค์ใหญ่ๆ อ่ะค่ะ (เป็นคนจีนที่แย่มากๆ เลยค่ะ )



ถ่ายรูปกลับไปเห็นเจ้าแม่กวนอิม องค์หย่ายยยย



ที่จุดธูปของวัดนี้ค่ะ เป็นตะเกียงแก๊ส



ลวดลายภายในวัดฮับผม



เจ้าองค์ไหนก็ไม่รู้อ่ะฮะ ขออภัยนะฮะ ลูกรู้ภาษาจีนเท่าหางอึ่งเลย



สังเกตมาหลายวัดละ เขามักทำกรงลายๆ อย่างนี้รอบๆ เสาอ่ะ ทั้งๆ ที่ข้างในก็ฉลุลวดลายฮะ



เดินไปอีกจุดนึง เหมือนกวนอูอ่ะ แต่เค้ามะรู้อ่ะ









ย้อนแสงอ่ะ ดูมืดๆ ไปหน่อย











ข้างในรูปปั้นยักษ์คับผม ตาของรูปปั้นยักษ์ กะองค์ข้างใน มะเหมือนกันอ่ะ องค์ยักำษ์ตาว๊าน หวาน แต่ตาองค์เล็ก ตาดูมากกกอ่ะ



เสาร์สลักภายในค่ะ



เสาแดงฝังอะไรไว้เหมือนกรอบพระบ้านเราเลย ต้องซูมค่ะ











viewpoint บนเขาในมหาวิทยาลัยเกาสง เห็นทะเลลิบๆ ค่ะ





แล้วไกด์ก็พาเราให้ข้ามไปเกาะฉีจิน เกาะที่เสมือนสันดอนทรายใหญเบิ้มกลางทะเล
ด้วยเกาสง เป็นเมืองอุตสาหกรรม ก็เลยต้องเมืองท่าด้วย จะเห็นท่าเรือขนสินค้าลิบๆ เลยค่ะ



ท่าเรือข้ามฝั่ง ตอนนี้อย่ฝั่งเกาะฉีจินค่ะ



ข้างใต้มีศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว เจอฝรั่งอเมริกันที่เคยมาอยู่เมืองไทย เราเข้าไป ด้นคุยภาษาไทย เขาส่งข้อมูลท่องเที่ยวของเกาะภาษาไทยให้เราเลย ทำเอาเลขาอึ้ง เพราะมะได้ยินว่า เพื่อนๆ พูดภาษาไทยกันตอนเข้าไป



เราเข้าไปถามหาว่ามีไปรษณีย์ใกล้ๆ ป่าว เพราะเราอยากส่ง postcard เต็มทีอ่ะ และแล้วในที่สุด เราก็เจอแล้วไปรษณีย์



เราเข้าไปอยู่ในไปรษณีย์นานพอควรเลย แถมได้แสตมป์ที่ระลึก 10 ปีโคนัน มาฝากหลานสาวจอมงกด้วยอ่ะ แม้จะเป็นเวอร์ไต้หวัน แต่ก็ยังดีเนอะ เหอๆๆๆ

แล้วเวลาก็เหลือน้อย เราเลยไปหาซื้อของกินง่ายๆ กินกัน แล้วรอเวลานัดกะ สองสามีภรรยาที่จะข้ามกลับไปขึ้นรถเพื่อไปสนามบินค่ะ

เอารูปตึกตรงท่าเรือข้ามฟากมาฝากอีกครั้ง





เรืออกแล้ว แชะๆ ไว้หน่อยค่ะ











เมื่อข้ามกลับมา เราก็ฮ่อไปสนามบินกันค่ะ เพื่อข้ามฝั่งประเทศไปฮวาเหลียนค่ะ





เนื่องจากเป็น budget airline ก็เลยต้องขึ้นรถไปค่ะ



ดูที่ป้ายเขาสิคะ เพราะใน boarding pass มันเขียนว่า Gate Bus เราก็งงอ่ะ ว่าหมายถึงอะไร แล้วก็อ๋อออออออ



ฟ้าปลายปีกค่ะ





แล้วแอร์ก็มาบอกว่า ห้ามใช้กล้องดิจิตอลถ่ายรูป จะไปรบกวนการบิน จิงๆ ฟังมะออกหรอกค่ะ แต่จำได้จากคู่มือผู้โดยสารบนเครื่องอ่ะ

เฮ้ออออ ของีบเอาแรงแป๊ปนะคะ ถึงฮวาเหลียน แล้วปลุกด้วยล่ะ




Create Date : 14 ธันวาคม 2550
Last Update : 22 พฤษภาคม 2551 13:16:56 น.
Counter : 1451 Pageviews.

4 comment
Taiwan-dering : ตะลุยตลาดในเกาสง กับโรงแรมไฮโซ


หายไป 2 วันอิอิ มีภารกิจสำมะคัญติดพันนิดหน่อยค่ะ

หลังจากเที่ยวเขิ่นติ้ง กรี๊ดกร๊าดกะวิวมหาสมุทรแปซิฟิคกันเต็มๆ ตาแล้ว เราก็กลับเช้าเกาสงกัน

เกาสงเป็นเมืองอุตสาหกรรมของไต้หวัน เราจะพบคนไทยได้ในเกาสงนี่แหละเยอะที่สุด ก็บรรดาแรงงานที่มาน่านแหละค่ะ แต่เขาก็อยู่ตามนิคมอุตสาหกรรมนะคะ ไมได้มาเดินเพ่นพ่านในเมือง
ตอนนี้เกาสงมีการสร้างรถ MRT 2 สาย ซึ่งคาดว่าจะเสร็จปลายปี 1 สายและอีกหนึ่งสายคงเสร็จทันงาน Baseball World Cup ที่จะจัดในปี 2009 (ผิดป่าวเนี่ย กัวจัง)
สถานีรถไฟฟ้าเท่าที่ดู อลังการมากค่ะ สวยจริงๆ เลย ไว้เสร็จแล้ว คงต้องไปลองดูว่า มันสวยขนาดไหนค่ะ

เราได้มาพักที่โรงแรม Holiday Garden ค่ะ ตอนมาถึง โรงแรมนี้เหรอ ทางเข้าเขากำลัง Renovate ค่ะ แล้วเราก็ได้พักวิงที่เขาเพิ่งปรับปรุงเลย สียังกรุ่นๆ อยู่บ้างเลย (ดันจมูกดีไปนิดนึง)

มาดูสภาพห้องกันค่ะ ใหม่กิ๊กมากเลยค่ะ







ทีวีจอแบนใหญ่เบิ้มมากเลยค่ะ



Hotel Directory









Amenites ในห้องน้ำค่ะ ครบครัน สวยหรูมากกก









อีกมุมในห้องน้ำเป็นห้องฝักบัว ข้างบนเป็นฝักบัวเหมือนกันคะ แต่ไม่ได้ถ่ายมาอ่ะ





ไฮโซมีถุงสวยให้ด้วยอ่ะ



รองเท้าก็ไฮโซ เก็บกลับมาคนละคู่ เหอๆๆๆ







ถ่ายกันทุกมุม ตรงนี้ยังทำไม่เรียบร้อยค่ะ เป็นปลั๊กอินเตอร์เน็ต แต่แบบไม่มีโต๊ะอ่ะ ทำไงดี



ช่องแอร์



กระจกหัวเตียงค่ะ ทำเก๋ค่ะ แต่ละห้องไม่เหมือนกันค่ะ



ประตูห้อง เอาไปแทงหวยไหมคะ เหอๆๆๆ



พอพักผ่อนได้สักพัก ก็ไปเดินตลาดค่ะ เลขาฯ กะไปเดินหาร้านเน็ตค่ะ ต้องเช็คงาน ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวกลับไปงานหลุดแย่เลย (แต่กลับมาก็หลุดหลายอย่างค่ะ เหอๆๆๆ)

เดินกันไปเรื่อยๆ ก็เหมือนตลาดอื่นๆ แต่ว่าเป็นล่ำเป็นสัน เป็นถนนเลยค่ะ ไม่ได้เป็นแผงลอยอย่างที่เคยเดินๆ กัน

ร้านนมค่ะ ผสมผลไม้ต่างๆ มีดารามาแปะรูปติดเต็มไปหมด เลยต้องลองค่ะ



เลขาฯ เลือกนมปั่นมะละกอ เหอๆๆ กินแล้วท้องไส้ดีทีเดียวค่ะ



อันนี้เหมือนหนมไข่ค่ะ





เครื่องมือในการทำอ่ะ





ร้านนี้ขายปู จะบอกว่าแอบแพง คงไม่ใช่ ต้องว่าแพงมากค่ะ กลับไปกินเมืองไทยดีก่า เหอๆๆๆๆ







แล้วเลขาฯ ก็ปลีกตัวไปหาร้านเน็ต ถามไปเรื่อย คนนั้นบอกทางโน้น คนโน้นบอกทางนี้ เดินขาแทบลาก เลยไปถามพนักงานแบงก์ที่กำลังจะปิด ขอบอกว่าเขาใจดีมากกกค่ะ เขาให้เข้าไปใช้ในแบงก์เลย ก็เลขาบอกว่า เลขาต้องเช็คว่ามีเงินโอนมาจากฮ่องกงเข้าเมืองไทยหรือยัง เหอๆๆๆ อาจเป็นเรื่องนี้เขาเลยให้ใช้ก็ได้ พนักงานใจดี แถมหน้าตาดีด้วย อิอิ อันนี้สำคัญค่ะ

แล้วก็เดินกลับดุ่มๆ ไปใหม่ ไปถามร้านเกม เขาก็ออกมาชี้ๆ ให้ อ่ะนะ สาวร้านเกมสาวไม่หยอกเลย เค้าเป็นปู้ชายจะตามจีบแล้ววววว

ไปนั่งร้านเน็ตสักพัก เช็คเมล์ เช็คข่าวคราว แต่ก็ไม่มีไรคืบหน้าอ่ะ เหอๆๆๆ เซ็งจิตตก เดินกลับโรงแรมดีก่า เดินคนเดียว กลัวนิดๆ แต่ก็ปลอดภัย เพราะเดินผ่านโปลิศสะเตชันด้วย เมืองเขาค่อนข้างปลอดภัยค่ะ แต่ก็อย่าวางใจนัก อาจเพราะเลขาฯ มีหน้าตาเป็นอาวุธก็เป็นได้ กร๊ากกกกกกก ว่าตัวเองได้ไงเนี่ย

พอถึงโรงแรม คนอื่นยังไม่กลับมา นมมะละกอออกฤทธิ์แล้ว เลยเข้าห้องน้ำ อาบน้ำซะเลย พอเสร็จพวกที่เหลือกลับมาพอดี ก็เลยไปนั่งหม่ำกัน แล้วก็ลงไปใช้เน็ตข้างล่าง แต่ขอบอกเน็ตเขาอ่ะมัน local ออกต่างประเทศไม่ได้เลย เส้าวุ้ยยยย ดีนะ ที่ไปเสียตังค์มาแล้ว อ่ะนะ ดีใจได้เสียตังค์อีกฉานนน

ซักรูป ในลิฟต์ ก่อนขึ้นนอน เหอๆๆๆ





ไว้มาต่อเที่ยวในเกาสงกันค่ะ



Create Date : 07 ธันวาคม 2550
Last Update : 22 พฤษภาคม 2551 13:19:46 น.
Counter : 873 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  

เลขาตัวซน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เลขาตัวซน ทำงานเป็นเลขาฯ
บวกความซนอันมีมาแต่กำเนิด
เป็นลูกสาวคนเล็ก แม้จะมีน้องชายหนึ่งหน่อ
เลยค่อนข้างเอาแต่ใจ ออกจะใจร้อนตามป๊ะป๋า
แต่ก็เป็นคนตรงและจริงใจนะ
ที่สำคัญเป็นคนรักอิสระอย่างแรง


อาจทำอะไรเหมือนเอาแต่ใจ
...แต่ไม่เคยไร้เหตุผล
ในบางเรื่องอาจไม่มีความอดทน
...แต่ไม่เคยเป็นคนอ่อนแอ
บางเวลาอาจท้อแท้
...แต่ไม่เคยยอมแพ้ต่อสิ่งใด
อาจจะเฉยชาเกินไป
...แต่ไม่เคยทรยศต่อความตั้งใจของตัวเอง
โดย เฉกชนม์




All Blog