"iPad 5" ไอแพดใหม่หวังอะไรได้บ้าง? (Cyber Talk) แอปเปิลร่อนบัตรเชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวที่จะจัดขึ้นวันที่ 22 ตุลาคม 2013 แล้ว วันนี้แอปเปิลร่อนบัตรเชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวที่จะจัดขึ้นวันที่ 22 ตุลาคม 2013 ถือเป็นการยืนยันว่าแอปเปิลจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันดังกล่าวจริง ล่าสุดสื่อมวลชนหลายสำนักพร้อมใจฟันธงว่าแท็บเล็ตไอแพดรุ่นใหม่จะถูกเปิดตัวแน่นอนในงานนี้ ท่ามกลางคำถามว่า "iPad 5" ไอแพดเจเนอเรชันใหม่จะมาพร้อมคุณสมบัติใหม่และจุดเด่นใด        เพื่อตอบคำถามนี้ นักวิเคราะห์มากมายจึงนำคุณสมบัติใหม่ที่แอปเปิลพัฒนาให้สมาร์ทโฟน iPhone 5s และ 5c ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มาประเมินว่าฟีเจอร์ใดบ้างที่มีโอกาสเป็นคุณสมบัติใหม่ในไอแพด เนื่องจากบ่อยครั้งที่ผลิตภัณฑ์เรือธงของแอปเปิลมีคุณสมบัติหลักไม่ต่างกัน ทำให้คุณสมบัติหลักของไอโฟนรุ่นใหม่ก็อาจจะเป็นคุณสมบัติของไอแพดได้ด้วย        หากไอแพดรุ่นใหม่ถูกเปิดตัวในวันที่ 22 ตุลาคมจริง ไอแพดรุ่นดังกล่าวจะถูกเรียกว่าไอแพดเจเนอเรชันที่ 5 ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเล่นที่ชาวแอปเปิลเรียกกันเองว่า iPad 5 1 ชื่อใหม่ไอแพด        ความคาดหวังแรกเรื่องไอแพดของหลายคนคือชื่อเรียก ซึ่งยังไม่แน่ว่าไอแพดอาจจะมีชื่อรุ่นธรรมดาว่า iPad 5 หรือ iPad 5x รวมถึง iPad 5s อย่างไรก็ตาม จากประวัติการตั้งชื่อเรียกไอแพดของแอปเปิลนั้นพบว่ามีการเรียกปะปนกันไปทั้งชื่อรุ่นตามเลขลำดับ และการตั้งชื่ออย่างรุ่น new iPad ทำให้ผู้สื่อข่าวสำนัก zdnet.com ตั้งข้อสังเกตว่าไม่แน่ ไอแพดอาจจะถูกตั้งชื่อให้ต่างจาก new iPad รุ่นดั้งเดิม มาเป็น new new iPad เพื่อสื่อถึงไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดก็ได้ 2 ชิปใหม่ A7        เพราะหน่วยประมวลผลหลักของไอโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด iPhone 5s ใช้ชิป A7 ระบบ 64 บิต ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลและการจัดการกราฟฟิกที่ดีกว่าชิป A6 ใน iPhone 5 มากกว่า 2 เท่าตัว ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าไอแพดรุ่นใหม่ของแอปเปิลจะมาพร้อมชิป A7 เช่นกัน แม้ว่าขณะนี้แอปพลิเคชันยังไม่ต้องการพลังจากชิป 64 บิตแบบเต็มที่ก็ตาม        นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าหาก iPad 5 มาพร้อมชิป 64 บิตจริง จะถือว่าเป็นการกดดันอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์พีซีอย่างมาก ขณะเดียวกัน zdnet ตั้งข้อสันนิษฐานด้วยว่าชิป A7 ที่ถูกใช้กับไอแพดใหม่อาจถูกดัดแปลงให้เหมาะสมกับการใช้งานบนแท็บเล็ตมากขึ้น และอาจแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในชื่อ A7X 3 พื้นที่เก็บข้อมูล        ปัจจุบัน iPad 4 และ iPad mini ถูกนำเสนอสู่ตลาดด้วยความจุข้อมูล 16GB, 32GB และ 64GB โดย iPad 4 ถูกวางตลาดในรุ่น 128GB ด้วยเช่นกัน จุดนี้สื่อมวลชนบางรายเชื่อว่าหากแอปเปิลเลือกเปิดตัว iPad รุ่นใหม่เป็น 2 รุ่น คือรุ่นท็อปและรุ่นประหยัดตามรอย iPhone 5s และ 5c ก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่ไอแพดรุ่นประหยัดจะถูกลดหน่วยความจำลง จนอาจเป็น 8GB        การลดหน่วยความจำไอแพดลงโอกาสทำให้ราคาจำหน่ายไอแพดลดลงมากกว่า 100 เหรียญสหรัฐ สังเกตจากรุ่น 16GB, 32GB และ 64GB ที่มักจะมีราคาต่างกัน 100 เหรียญสหรัฐหรือราว 3,200 บาท แม้ว่างานวิจัยหลายชิ้นจะชี้ว่าต้นทุนของแอปเปิลเพิ่มขึ้นเพียง 10 เหรียญสหรัฐเท่านั้นเมื่อพื้นที่หน่วยความจำเพิ่มขึ้นจาก 16GB เป็น 32GB หรือ 32GB เป็น 64GB 4 อ่านลายนิ้วมือ        เซียนแอปเปิลหลายคนเชื่อว่าแอปเปิลจะนำระบบอ่านลายนิ้วมือ "ทัชไอดี (Touch ID)" ที่ใช้ใน iPhone 5s มาติดให้ไอแพดรุ่นใหม่ ระบบทัชไอดีคือระบบที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถแตะนิ้วมือเพื่อใช้งานเครื่องได้โดยไม่ต้องมีการกรอกรหัสผ่าน แถมยังเป็นระบบที่ถูกวิจารณ์ว่าแอปเปิลยึดเรื่องความสะดวกสบายเป็นหลักมากกว่าประเด็นความปลอดภัย        การติดระบบทัชไอดีในไอแพดใหม่ไม่เพียงทำให้ไอแพดใหม่มีจุดเด่นแตกต่างจากไอแพดรุ่นเก่าในประวัติศาสตร์ แต่ยังทำให้ไอแพดแตกต่างจากแท็บเล็ตรุ่นอื่นในตลาดอย่างชัดเจน 5 ไอแพดใหม่หลายรุ่น        การเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ทำให้ไอแพดใหม่ถูกคาดหวังว่าจะถูกแตกไลน์ให้วางจำหน่ายในหลายรุ่นเช่นกัน หากยึดตาม iPhone 5s และ 5c จะถือว่ามีความเป็นไปได้ที่แอปเปิลจะเปิดตัวไอแพดออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นท็อปเรือธง (เทียบเท่ากับ iPhone 5s) รุ่นประหยัด (เทียบเท่ากับ iPhone 5c ซึ่งใช้คุณสมบัติดั้งเดิมของ iPad เจเนอเรชันที่ 4) และรุ่นมินิฉบับปรับปรุง (iPad mini) ซึ่งอาจมีการเพิ่มความสามารถใหม่ที่ดีกว่า เช่นการใช้หน้าจอความละเอียดสูง "เรตินา ดิสเพลย์ (Retina display)" และการเพิ่มอายุใช้งานแบตเตอรี่เป็น 10 ชั่วโมงขึ้นไป 6 บางลง        อีกสิ่งที่เชื่อว่าไอแพดรุ่นใหม่จะแตกต่างจากไอแพดรุ่นเดิมคือความบาง ที่อาจจะมีการพัฒนาให้บางลงเล็กน้อยจุดนี้เป็นผลจากการใช้หน้าจอทัชสกรีน GF2 ที่ทำให้รุ่น iPad mini สามารถลดความหนาที่มีในไอแพดรุ่นดึก โดยปัจจุบัน ความบางเฉลี่ยของไอแพดคือ 9.4 มม. 7 กล้อง iSight ใหม่        จุดขายหนึ่งของ iPhone 5s คือกล้องดิจิตอลใหม่ที่พัฒนากว่าไอโฟนดั้งเดิม โดยเฉพาะเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นกว่า 15% พร้อมกับความละเอียดพิกเซลที่พัฒนามากขึ้นจนทำให้กล้องเทคโนโลยีใหม่ของแอปเปิลสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นกว่า 33% แถมด้วยระบบแฟลชที่ใช้หลอดแอลอีดีแบบคู่ ทั้งหมดนี้ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่กล้องสุดแจ่มจะถูกติดในไอแพดใหม่เช่นกัน 8 ไอแพดสีทอง?        ในเมื่อ iPhone 5s สีทองส่งสัญญาณฮอตฮิตมากเป็นพิเศษ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แอปเปิลอาจจะคิดใช้สีทองกับไอแพดบ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีภาพหรือข่าวหลุดใดเกี่ยวกับไอแพดสีทองแม้แต่น้อย ซึ่งแปลว่าความหวังเรื่องไอแพดสีทองอาจจะยังรำไรไม่ชัดเจน 9 เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว        หน่วยประมวลผลร่วมสำหรับจับความเคลื่อนไหว M7 คืออีกความคาดหวังที่เชื่อว่าแอปเปิลจะติดลงในไอแพดรุ่นใหม่ เนื่องจาก M7 ถูกติดใน iPhone 5s เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้ดีกว่าเดิม และความสามารถด้านเกมถือเป็นความสามารถหลักในไอแพดที่แอปเปิลเน้นพัฒนามาตลอด 10 ราคา        จากประวัติการตั้งราคาขายสินค้าของแอปเปิล นักสังเกตการณ์จะรู้กันว่าแอปเปิลไม่เคยลดราคาสินค้าลง โดยสำนัก zdnet.com เชื่อว่าหากแอปเปิลเปิดตัวไอแพดออกเป็น 3 รุ่นจริง ไอแพดรุ่นท็อปเรือธงจะมีราคาจำหน่ายเริ่มที่ 499 เหรียญสหรัฐ (ราว 16,000 บาท) ขณะที่ไอแพดรุ่นประหยัดที่นำ iPad 4 มาปรับปรุง อาจถูกตั้งราคาให่เริ่มที่ 399 เหรียญ (ราว 12,800 บาท) และ iPad mini ใหม่จะเริ่มที่ 329 เหรียญสหรัฐเท่าเดิม (ราว 10,600 บาท)        ขอบคุณเนื้อหาจาก zdnet.com   Create Date : 16 ตุลาคม 2556     0 comment Last Update : 16 ตุลาคม 2556 21:41:18 น.     Counter : 992 Pageviews.   Share Tweet

ลือ “Google Gem” นาฬิกาอัจฉริยะกูเกิลแจ้งเกิดปลายตุลาคมนี้ กูเกิล (Google) จะเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะหรือสมาร์ทว็อตช์ในช่วงวันที่ 31 ตุลาคมนี้? สื่อออนไลน์ต่างประเทศพร้อมใจรายงานว่า กูเกิล (Google) จะเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ หรือสมาร์ทวอตช์ในช่วงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่รองรับนานาบริการทันใจตระกูล “กูเกิลนาว (Google Now)” เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาหรือรับข้อมูลที่ต้องการได้ขณะเดินทางโดยไม่ต้องล้วงกระเป๋าหยิบสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตขึ้นมา “จิ้ม” หน้าจอ        รายงานระบุว่า กูเกิลตั้งชื่อสมาร์ทวอตช์ของตัวเองว่า “กูเกิลเจม (Google Gem)” ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันถัดไป “คิตแคต (Android 4.4 KitKat)” ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นรายงานจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยนามที่ไม่มีการยืนยันใดๆ ทำให้ไม่แน่ชัดว่าข้อมูลเหล่านี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เรื่องของนาฬิกาอัจฉริยะ Google Gem นี้ถูกรายงานผ่านเว็บไซต์แอนดรอยด์โพลิช (Android Police) และเว็บไซต์ไนน์ทูไฟฟ์กูเกิล (9to5Google) ซึ่งยืนยันว่ากูเกิลกำลังเร่งมือพัฒนานาฬิกาอัจฉริยะของตัวเองจริง โดยย้ำว่ากูเกิลวางเป้าหมายการพัฒนานาฬิกาอัจฉริยะนี้ให้มีจุดเด่นเรื่องอายุแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถทำได้เพราะการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบบลูทูธเวอร์ชันล่าสุด Bluetooth 4.0 นั้นทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างนาฬิกากับโทรศัพท์ใช้พลังงานน้อยมาก        อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่รายงานของทั้ง 2 เว็บไซต์ระบุไว้ไม่ตรงกันคือวันที่เปิดตัว โดย 9to5Google ไม่ยืนยันว่านาฬิกาของกูเกิลจะถูกเปิดตัวในวันที่ 31 ตุลาคมพร้อมกับการเปิดตัว Android KitKat ทั้งหมดนี้ 9to5Google ระบุเพียงว่า Google Gem จะเปิดตัวเร็วๆนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่าการเปิดตัว Android 4.4 KitKat จะเป็นเวทีเปิดตัวสมาร์ทโฟนเนกซัสรุ่นใหม่ “เนกซัสไฟฟ์ (Nexus 5)” ซึ่งผลิตโดยแอลจี นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสที่เชื่อว่าแท็บเล็ตอย่างเน็กซัสเท็น (Nexus 10) ที่ผลิตโดยอัสซุส (Asus) ก็มีโอกาสที่จะถูกเปิดตัวบนเวทีนี้เช่นกัน        ข่าวลือเรื่องการพัฒนานาฬิกาอัจฉริยะของกูเกิลนี้เกิดขึ้นในวันที่ซัมซุง (Samsung) จุดพลุแบรนด์นาฬิกาอัจฉริยะของตัวเองในชื่อแกแลกซีเกียร์ (Galaxy Gear) ซึ่งซัมซุงต้องการให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดสามารถถ่ายภาพผ่านนาฬิกาได้โดยไม่ต้องล้วงกระเป๋าหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา แม้นักวิเคราะห์จะเชื่อว่าตลาดนาฬิกาอัจฉริยะจะยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะคึกคักและแพร่หลาย แต่การเปิดตลาดของซัมซุงก็ทำให้ผู้เล่นหลายรายหันมาเปิดตลาดนาฬิกาอัจฉริยะกันมากขึ้น        ปัจจุบัน โซนี่ (Sony) เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่น 2 แล้วในชื่อสมาร์ทวอตช์ทู (Smartwatch 2) ขณะที่ผู้ผลิตชิปอย่างควอลคอมม์ (Qualcomm) ก็กำลังเร่งมือพัฒนานาฬิกาที่เชื่อมต่อข้อมูลกับสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน ยังมีไมโครซอฟท์ (Microsoft) ที่ถูกร่ำลือว่ากำลังเดินโครงการสมาร์ทวอตช์อย่างจริงจังหลังจากการซื้อกิจการโนเกีย (Nokia)        ไม่เว้นแม้แต่โมโตโรล่า (Motorola) ซึ่งมีรายงานว่าได้เริ่มต้นโครงการเอ็กซ์วอตช์ (Motorola xWatch) เพื่อพัฒนาเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้คู่กับสมาร์ทโฟนดาวรุ่งอย่างโมโตเอ็กซ์ (Moto X) สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่โมโตโรล่าพัฒนาภายใต้ชายคากูเกิล ด้านผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล (Apple) ก็เชื่อว่าจะพัฒนานาฬิกาอัจฉริยะในชื่อไอวอตช์ (iWatch) แต่ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ถูกเปิดเผยในขณะนี้ //www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000129543   Create Date : 15 ตุลาคม 2556     0 comment Last Update : 15 ตุลาคม 2556 20:47:02 น.     Counter : 1380 Pageviews.   Share Tweet

Review : Samsung Galaxy Gear นาฬิกาคู่ใจคนใช้สมาร์ทโฟน Galaxy คำถามที่เกิดขึ้นและคาใจผู้บริโภคหลายรายคือคุ้มไหมที่จะเสียเงิน 8,990 บาท ในการซื้อนาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งมีหน้าจอเพียง 1.6 นิ้ว มาใช้งานดีหรือไม่ ซึ่งท้ายสุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานว่าซื้อมาเพื่อไว้ดูนาฬิกา หรือนำมาใช้งานจริง        โดยความสามารถหลักๆของ Galaxy Gear ที่นอกจากจะเป็นนาฬิกาบอกเวลาแล้ว ยังสามารถใช้ในการดูข้อมูลสายเรียกเข้า ใช้โทรศัพท์ อ่านข้อความ ดูการแจ้งเตือน พยากรณ์อากาศ บันทึกข้อมูลการเดิน และความสามารถทั่วไปอย่างนาฬิกาจับเวลา อัดเสียง ซึ่งถ้าคิดแล้วว่าหยิบมือถือขึ้นมาง่ายกว่า ก็มองข้าม Gear ไปดีกว่า... การออกแบบและสเปก ด้วยความที่ Galaxy Gear ถือเป็นนาฬิกาอัจฉริยะ ในแง่ของการออกแบบจึงจะดูออกไปในแนวล้ำสมัย ด้วยการใช้สายหนังร่วมกับขอบอะลูมิเนียมขัดเพื่อให้ดูทันสมัย แต่ก็ยังมีการใส่กรอบที่มีลายหนังคล้ายใน Note 3 มาให้เผื่อต้องการหน้าปัดนาฬิกาขนาดใหญ่สำหรับคนที่ชื่นชอบ        สำหรับขนาดของ Galaxy Gear จะอยู่ที่ 36.8 x 56.6 x 11.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 73.8 กรัม มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 6 สี คือ ดำ ขาว ส้ม ชมพู เหลือง และน้ำตาล ซึ่งสีที่เปลี่ยนแปลงไปจะมีผลที่บริเวณสาย และกรอบเท่านั้น        ส่วนบริเวณหน้าจอจะเป็นจอทัชสกรีน Super AMOLED ขนาด 1.63 นิ้ว ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล โดยมีปุ่มเปิด-ปิด อยู่ทางด้านขวา (สามารถตั้งเป็นปุ่มลัดเรียกใช้แอปฯได้จากการกดซ้ำ 2 ครั้ง) และจะมีไมโครโฟนอยู่ที่ฝั่งซ้ายและขวา อย่างละจุดด้วย        บริเวณสายที่หันออกจากผู้ใช้จะมีกล้องที่ให้มาความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์กันสั่น BSI สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 720 พิกเซลได้ต่อเนื่อง 10 วินาที แน่นอนว่าในขณะถ่ายรูปจะมีเสียงชัตเตอร์ดังออกมาด้วย เพื่อป้องกันการนำไปใช้แอบถ่าย (ตามกฏหมายของเกาหลี ทำให้ไม่สามารถตั้งปิดเสียงได้)        ส่วนจุดที่ใช้ล็อกสายข้อมือ สามารถปรับระดับได้ตามขนาดของข้อมือ และจะมีลำโพงสนทนาอยู่ เพื่อใช้ในการโทรศัพท์ และเล่นเสียงแจ้งเตือน        ตัวกรอบจะมีหน้าที่หลักๆ 2 อย่างในการใช้งานคือ เป็นแท่นชาร์จ สำหรับเสียบสายไมโครยูเอสบี และเชื่อมต่อเข้ากับตัวนาฬิกา และอีกหน้าที่หนึ่งคือในการเชื่อมต่อครั้งแรก จำเป็นต้องใส่ตัวกรอบไว้เพื่อให้ตัวสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต สำหรับซิงค์ข้อมูลกับเครื่องได้        สำหรับสเปกภายในของ Galay Gear จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล 800 MHz RAM 512 MB พื้นที่เก็บข้อมูล 4GB ใช้การเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 4.0 + BLE แบตเตอรี่ 315 mAh เบื้องต้นจะสามารถใช้งานได้กับ Galaxy Note 3 และ Galaxy Note 10.1 2014 Edition ก่อน ส่วนตระกูล Galaxy รุ่นเก่าต้องรอให้ได้รับการอัปเดตแอนดรอยด์ 4.2.2 ก่อน ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ        วิธีการเชื่อมต่อ Galaxy Gear ในที่นี้ใข้คู่กับ Note 3 ก็จะเริ่มกันที่ประกอบตัวนาฬิกาเข้ากับกรอบให้เรียบร้อย หลังจากนั้นนำ Note 3 ที่เปิดใช้งานบลูทูธ และ NFC เรียบร้อย เข้าไปสัมผัสที่หลังเครื่อง หลังจากนั้นตัว Note 3 จะทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Gear Manager มาติดตั้งไว้ในเครื่อง เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยตัวเครื่องจะทำการเชื่อมต่อกับ Gear ให้โดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นก็สามารถใช้งาน Gear ได้ทันที        ทีนี้มาดูกันที่ตัว Galaxy Gear เนื่องจากตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ในกรณีที่ผู้ใช้งานยกข้อมือขึ้นมาเพื่อใช้งานหน้าจอจะติดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ (ถ้าไม่ติดก็กดปุ่มข้างจอเอา) โดยที่หน้าหลักจะเป็นการแสดงผลนาฬิกา (สามารถเข้าไปเปลี่ยนรูปแบบนาฬิกา หรือโหลดเพิ่มเติมได้)        จากหน้าหลัก ถ้าผู้ใช้งานลากนิ้วจากบนลงล่าง จะเป็นการเรียกใช้งานโหมดกล้องขึ้นมา โดยการถ่ายภาพทำได้โดยการกดสัมผัสลงไปที่หน้าจอ ภาพก็จะถูกบันทึกไว้ในตัว Gear โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าผู้ใช้มีการตั้งให้ Gear ซิงค์ภาพกับ Note 3 แบบอัตโนมัติ รูปที่ถ่ายก็จะถูกส่งต้อผ่านบลูทูธไปยัง Note 3 ในอัลบั้ม Galaxy Gear ทันที        ถ้าลากนิ้วจากล่างขึ้นบน จะเป็นการเรียกใช้งานโหมดโทรศัพท์ ในที่นี้ก็จะให้เลือกทั้งกดเลขหมายจากปุ่ม หรือจะทำการค้นหาจากสมุดโทรศัพท์ ซึ่งเป็นการแสดงผลงรายชื่อที่อยู่ใน Note 3 มาให้เลือกกดโทรนั่นเอง        หน้าจอขณะโทรจะมีการแสดงภาพโปรไฟล์คู่สนทนา พร้อมกับชื่อและปุ่มวางสาย โดยจะมีเมนูให้เลือกเพิ่มเติมคือ ปิดเสียงไมโครโฟน เปลี่ยนการคุยสายไปที่โทรศัพท์ และเรียกใช้งานปุ่มกดขึ้นมา พร้อมกับการปรับเสียง        หรือถ้าผู้ใช้งานไม่สะดวกรับสายโทรเข้า ตัวเครื่องจะมีโหมดตัดสายทิ้งแล้วส่งข้อความสั้นกลับไปแทน แต่การส่งข้อความจะใช้การพูดเข้าไปที่ S Voice เพื่อแปลงเป็นข้อความและส่งกลับออกไปแทน        การใช้งาน S Voice บน Gear จะจำลองความสามารถจากบนสมาร์ทโฟนลงมา ทำให้ใช้งานได้เฉพาะคำสั่งง่ายๆเท่านั้น อย่างเช่นสั่งให้โทรศัพท์ ส่งข้อความ บันทึกตารางนัดหมาย แสดงข้อมูลที่นัดไว้ ตั้งนาฬิกาปลุก หรือเข้าโหมดต่างๆในเครื่อง แต่ยังไม่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลหรือฟังก์ชันอื่นๆได้เหมือนบนสมาร์ทโฟน ส่วนตัวรีโมทควบคุม จะใช้เป็นปุ่มควบคุมมัลติมีเดียบนเครื่อง Note 3 ที่เชื่อมต่ออยู่เท่านั้น        ฟังก์ชันการนับก้าวที่มีอยู่ใน Gear จะสามารถนำข้อมูลที่บันทึกไว้ไปซิงค์กับโปรแกรมอย่าง S Health เพื่อช่วยคำนวนปริมาณที่ใช้สำหรับออกกำลังกายได้ หรือถ้าไม่ต้องการซิงค์ก็สามารถตั้งเป้าหมายที่ตัว Gear ไว้ได้ว่าในแต่ละวันต้องเดินให้ครบกี่ก้าว (เมื่อครบจะมีสัญลักษณ์เหรียญทองขึ้นมาแสดง)        ส่วนฟีเจอร์อื่นๆอย่างนาฬิกาจับเวลา บันทึกเสียง ดูพยากรณ์อากาศ หรือดูรูปในอัลบั้ม ก็ใช้การสัมผัสหน้าจอเพื่อสั่งงานได้ตามปกติเลย        ทีนี้กลับมาที่หน้าจอหลัก ถ้ามีการเลื่อนปาดไปทางซ้ายหรือขวา จะเป็นการเลื่อนดูเมนูหลัก (ผู้ใช้สามารถตั้งเมนูหลักที่ใช้บ่อยได้) นอกจากนี้ก็จะมีในส่วนของหน้ารวมแอปฯ ซึ่งที่ลงมาให้ใช้งานในเบื้องต้นก็จะมี ฟังก์ชันการค้นหาอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ ดูข้อมูลในเครื่อง บันทึกการใช้งานโทรศัพท์ รายชื่อ สภาพอากาศ เสียงที่บันทึก แกลอรี่ภาพ รีโมทควบคุมมัลติมีเดีย ใช้การสั่งงานเสียง กล้องถ่ายรูป จับเวลา ตั้งเวลา นับเวลาถอยหลัง การนับก้าว และ ปฏิทิน        ซึ่งในส่วนนี้ผู้ใช้สามารถเข้าไปดูการตั้งค่า หรือดูแอปฯต่างๆที่ลงไว้ได้ใน Gear Manager บน Note 3 ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถไปดาวน์โหลดแอปฯเพิ่มเติมจากใน Samsung App Center ได้อีกด้วย        อีกฟังก์ชันที่สำคัญก็คือ การค้นหาอุปกรณ์ โดยในตัว Gear ก็จะแอปฯ สำหรับสั่งให้ตัว Note 3 ส่งเสียงออกมา ในกรณีที่จำไม่ได้ว่าลืมวางทิ้งไว้ตรงไหน (แต่เครื่องยังต้องเชื่อมต่อกันอยู่) หรือในตัว Note 3 ก็จะมีฟังก์ชันที่สั่งให้ Gear ส่งเสียงออกมาเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ระยะทางเขื่อมต่อก็ขึ้นอยู่กับระยะของบลูทูธอยู่เช่นเดิม จุดขาย        - ใช้เป็นโทรศัพท์ (ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และกล้องถ่ายรูปได้        - ไว้ใช้ดูข้อมูลเล็กๆน้อยๆกรณีที่ไม่ต้องการยกมือถือขึ้นมาดู        - มีให้เลือกหลายสี ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่        - ต้องเชื่อมต่อกับ Note 3 เพื่อใช้งานในหลายๆฟังก์ชัน        - แอปฯที่รองรับยังมีค่อนข้างน้อย ต้องรอดูต่อไปในอนาคต        - ถ่ายวิดีโอได้แค่ 10 วินาที ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป ถ้ามองถึง Galaxy Gear จริงๆ ก็เหมือนเป็น Gadget ชิ้นหนึ่งที่ซัมซุงพยายามสร้างความโดดเด่น และบอกให้โลกรู้ว่าตนเองมีนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกควบคู่ไปกับการใช้งานสมาร์ทโฟน ซึ่งถ้าคุณเป็นผู้บริโภคที่ชื่นชอบและติดตามเทคโนโลยี และใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตในตระกูล Galaxy เดิมอยู่แล้ว Gear จะกลายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ที่ช่วยให้คุณได้ใช้งานสนุกขึ้นแน่นอน        แต่กลับกันถ้าคุณไม่ได้ถือสินค้าในตระกูล Galaxy ของซัมซุง เลยสักชิ้น แล้วต้องการนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ ที่สามารถนำมาใช้งานได้ทันทีกับสมาร์ทโฟนเครื่องเดิมของคุณ ก็ยังมีตัวเลือกจากผู้ผลิตอีกหลายรายให้เลือกใช้กัน ดังนั้นกับราคาเปิดตัวมาที่ 8,990 บาท ถ้าอยากลองของใหม่แล้วมีงบประมาณ ก็ไม่เสียหาย... Company Related Links : Samsung //www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000128604   Create Date : 14 ตุลาคม 2556     0 comment Last Update : 14 ตุลาคม 2556 20:27:50 น.     Counter : 1603 Pageviews.   Share Tweet

หลุดล่าสุด หลุดภาพ Nexus 5 จาก SPIGEN เมื่อวาน 10:46 อัปโหลด ดาวน์โหลด (30.15 KB) ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่มีภาพหลุด หลุดออกมาให้ได้อัพเดทกันอยู่เรื่อยๆน่ะครับสำหรับ Nexus 5 ดดยล่าสุดได้มีภาพหลุดที่หลุดมาจากผู้ผลิต Case มือถือชื่อดังอย่าง SPIGEN Case ซึ่งทาง SPIGEN Case ได้เผลอโพสต์ภาพ Nexus 5 ลงบน Google plus พร้อมกับข้อความว่า " Nexus 5 Revolution Be ready " นั้นเอง Nexus 5 มาพร้อมหน้าจอขนาด  5 นิ้วความละเอียด 1080p ( 442ppi),  Snapdragon 800 chipset , เเรมขนาด 2GB , หน่วยความจำภายในตัว 16GB กล้องขนาด 8MP กล้องหน้า 1.2 MP , รองรับ dual-band Wi-Fi a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0, NFC ,GPS,LTE ,เเบตเตอรี่ขนาด 2,300mAh //forum.thaiandroidphone.com/forum.php?mod=viewthread&tid=47749&from=portal   Create Date : 12 ตุลาคม 2556     0 comment Last Update : 12 ตุลาคม 2556 17:38:09 น.     Counter : 893 Pageviews.   Share Tweet

โฆษณา Samsung Galaxy Gear ชุดใหม่ วันนี้ที่รอคอย... Samsung ปล่อยคลิปโฆษณาของมือถือสุดล่ำแห่งยุค Samsung Galaxy Gear ออกมาให้ชมกัน 2 คลิปด้วยกัน โดยคลิปแรกจะมีชื่อว่า Samsung Galaxy Gear: Evolution เนื้อหาจะเป็นการเกริ่นให้ถึงนวัตกรรมที่เราเคยจินตนาการในหนัง การ์ตูนต่างๆ จนมาเป็นของจริงแบบในยุคปัจจุบัน 1 ส่วนคลิปถัดไปคือ Samsung Galaxy Gear: A Long Time Coming เป็นเนื้อหาที่แสดงถึงการใช้งานในเราเคยได้ดูจากจินตนาการในหนัง การ์ตูน ซึ่งวันนี้ Samsung Galaxy Gear ได้ทำให้ทุกอย่างเป็นจริงขึ้นมาจนได้ 2 //forum.thaiandroidphone.com/forum.php?mod=viewthread&tid=47649&from=portal   Create Date : 07 ตุลาคม 2556     0 comment Last Update : 7 ตุลาคม 2556 22:09:11 น.     Counter : 833 Pageviews.   Share Tweet