คลี่คลาย กะเหรี่ยงปล่อย 40 นักท่องเที่ยวไทยที่กักตัวแล้ว คลี่คลาย กะเหรี่ยงปล่อย 40 นักท่องเที่ยวไทยที่กักตัวแล้ว สนับสนุนเนื้อหา เหตุกะเหรี่ยงกักตัวนักท่องเที่ยวชาวไทย 40 คน ฝั่งชายแดนสังขละบุรี เรียกร้องปล่อยตัวผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมในจ.กาญจนบุรี ล่าสุดยอมปล่อยตัวคนไทยทั้งหมดแล้ว (21 ม.ค.) พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่าได้รับรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีเหตุชาวกะเหรี่ยง ที่บริเวณจุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-เมียนมาร์ ฝั่งอ.สังขละ จ.กาญจนบุรี ได้กักตัว นักท่องเที่ยวชาวไทยไว้ประมาณ 40 คน ที่เดินทางข้ามไปท่องเที่ยวและซื้อของในฝั่งเมียนมาร์ ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่คณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า ได้เข้าไปเจรจากับชาวกะเหรี่ยงกลุ่มดังกล่าวแล้ว โดยกลุ่มชาวกะเหรี่ยงได้ยื่นข้อเสนอว่า ต้องการให้ทางการไทย ปล่อยตัวชาวกะเหรี่ยงที่ถูกจับกุมในฝั่งไทย เมื่อ 2-3 วันก่อน แต่ทางทหารเมียนมาร์ได้ช่วยเจรจากับชาวกะเหรี่ยง จนปล่อยตัวนักท่องเที่ยวชาวไทย กลับมาทั้งหมดแล้ว และเหตุการณ์ทั่วไปเป็นปกติ   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 16:11:44 น.     Counter : 550 Pageviews.   Share Tweet

ปัญหาลูกหนี้นอกระบบรพ.หล่มสักทิศทางดีขึ้น ปัญหาลูกหนี้นอกระบบรพ.หล่มสักทิศทางดีขึ้น สนับสนุนเนื้อหา คืบหน้าแก้ปัญหา กลุ่มจนท.ลูกหนี้นอกระบบ รพ.หล่มสัก ทิศทางดีขึ้น ส่วนเจ้าหนี้ มีแนวโน้มยอมเจรจามากขึ้น   ความคืบหน้าหลังการประชุมกลุ่มลูกหนี้นายทุนเงินกู้นอกระบบ ซึ่งเป็นคณะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เพื่อหาแนวทางให้ความช่วยเหลือทางข้อกฎหมาย ล่าสุด นพ.รเมศ ว่องวิไลรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหล่มสัก กล่าวว่า จากการประชุมเมื่อวานนี้ (20ม.ค.) มีการแบ่งกลุ่มลูกหนี้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆแล้ว แต่ละกลุ่มทางอัยการคุ้มครองสิทธิและนิติกรสำนักงานสาธารณสุขได้มีการสอบข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดใช้ทางเจ้าหนี้ และมี 2 สถาบันการเงินในระบบที่จะเข้ามาช่วยรองรับ  นพ.รเมศ กล่าวว่า สำหรับในส่วนของกลุ่มเจ้าหนี้เมื่อวานนี้ ก็มีการเรียกเจรจาเช่นกัน โดยหลังเจรจาเจ้าหนี้ส่วนใหญ่เริ่มไม่มีปัญหาและมีท่าทีรอมชอมมากขึ้น จะมีก็แต่เพียงในรายที่มีการแจ้งความฟ้องร้องเท่านั้น  แต่ทั้งนี้ก็มีท่าทีอ่อนลงและมีแนวโน้มยอมเจรจามากขึ้น ซึ่งแตกต่างกับในช่วงแรกๆ โดยสรุปการแก้ไขปัญหาเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เพียงแต่ลูกหนี้ที่มีปัญหาต้องพยายามปรับหนี้เข้าสถาบันการเงินในระบบ เพราะจะเอาเงินต้นคืนเจ้าหน้าหนี้ แต่ก็มีประเด็นมีลูกหนี้บางกลุ่มก็ยังติดบัญชีดำอยู่ ก็คงต้องหารือหรือหาแนวทางใหม่ว่าจะช่วยเหลือกันได้อย่างไร    Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 16:11:26 น.     Counter : 669 Pageviews.   Share Tweet

เปิดคำให้การ 'สับ วาปี' คดีครูจอมทรัพย์ พบ พ.ศ. 56-57 ตอบไม่ตรงกัน เปิดคำให้การ 'สับ วาปี' คดีครูจอมทรัพย์ พบ พ.ศ. 56-57 ตอบไม่ตรงกัน  (21 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับคดีอดีตครู คือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร  หลังออกมาร้องทุกข์ ต่อกระทรวงยุติธรรม ว่าตกเป็นแพะในคดีขับรถยนต์ชนคนตาย เหตุเกิดเมื่อปี 2548  ในพื้นที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม  จนกระทั่งมีการต่อสู้ถึง 3 ศาล  ชั้นต้นตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน  ชั้นอุทธรณ์ยกฟ้อง ส่วนฎีกา ตัดสินจำคุกยืนตามศาลชั้นต้น เมื่อปี 2557  หลังได้รับการอภัยโทษออกมา เมื่อปี 2558 ได้ร้องทุกข์ผ่านกระทรวงยุติธรรม ให้มีการรื้อคดีพิจารณาใหม่  โดยศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้น คือ ศาลจังหวัดนครพนม รับคำร้อง นัดสืบพยาน ในวันที่ 8 -10 กุมภาพันธ์ 2560 ขณะเดียวกันทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม รวมถึง สภ.เรณูนคร ได้ออกมายืนยันหลักฐาน รวมถึงพยานเกี่ยวข้อง ว่า ในการดำเนินคดีถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และมั่นใจว่า นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี  อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร ได้กระทำผิดจริง ซึ่งขับรถยนต์ กระบะโตโยต้า ทะเบียน กค 56 สกลนคร ชนรถจักรยาน นายเหลือ พ่อบำรุง อายุ 75 ปี เสียชีวิต บริเวณถนน พระซอง-เรณูนคร ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม แต่ภายหลังได้นำตัว นายสับ วาปี อายุ 60 ปี ออกมาสารภาพว่า เป็นคนขับรถยนต์ อีซูซุ กค 56 มุกดาหาร ชนตัวจริง โดยมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และสอบพยานเพิ่มเติม  เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ออกมารับผิดแทน ซึ่งจะมีการดำเนินคดีภายหลังศาลมีการสืบพยาน เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของตำรวจยังพบเอกสารหลักฐานสำคัญ เกี่ยวข้องกับ นายสับ วาปี  อายุ 60 ปี ชาว จ.มุกดาหาร บุคคลที่อ้างว่าเป็นคนขับรถยนต์ชนตัวจริง ในเอกสารคำให้การตำรวจ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2556 ระบุว่า นายสุริยา นวนเจริญ ได้พา นายเสริฐ  รูปสะอาด อายุ 53 ปี พร้อมด้วย นายสับ วาปี อายุ 60 ปี เข้าไปพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เรณูนคร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบในการดำเนินคดี ในปี 2548  โดยมีการยืนยันในเอกสารว่ากับทางตำรวจว่า นายสับ วาปี เป็นเจ้าของรถยนต์อีซูซุ รุ่นเก่า สีเขียว ทะเบียน กค 56 มุกดาหาร แต่มีการขายให้นายเสริฐ รูปสะอาด ไปแล้ว และยืนยันว่านายเสริฐ  รูปสะอาด เป็นคนขับรถ รถคันดังกล่าวไปเกิดอุบัติเหตุชนรถจักรยาน ทำให้นายเหลือ พ่อบำรุง ที่ปั่นจักรยานเสียชีวิต และเอกสารการให้ปากคำครั้งที่ 2 ของนายสับ วาปี อายุ 60 ปี ว่า มีการบันทึกให้ปากคำตำรวจ ที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 นายสับให้การว่าเป็นคนขับรถยนต์ กระบะอีซูซุ ทะเบียน กค 56 มุกดาหาร ชนนายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548ซึ่งเป็นการให้ปากคำที่ไม่ตรงกัน โดยตำรวจยังพบหลักฐาน พยานเพิ่มอีกคือ นายอุบล ไชยบัน อายุ 65 ปี ชาว จ.มุกดาหาร ที่ออกมายืนยันว่า รถยนต์ กค 56 มุกดาหาร ได้ซื้อมาใช้งานในช่วงปี 2547 และขายไปในปี 2550  พร้อมยืนยันว่าไม่เคยมีใครขับรถไปชน ในปี 2548  แต่รถคันดังกล่าวเอกสารการครอบครอง เป็นของนายสับ วาปี ไม่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ซื้อมา เพราะสภาพรถเก่าแล้ว ซื้อขายกันธรรมดา  ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะนำไปดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง หากตรวจสอบพบว่าเป็นขบวนการรับจ้าง ออกมารับทำผิดแทนในคดีนี้   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 16:11:07 น.     Counter : 676 Pageviews.   Share Tweet

ต้าเหนิงควงเจเจเที่ยวตปท.รับฝ่ายช.ซื้อกำไลข้อมือให้ ต้าเหนิงควงเจเจเที่ยวตปท.รับฝ่ายช.ซื้อกำไลข้อมือให้ สนับสนุนเนื้อหา 'ต้าเหนิง กัญญาวีร์' ควง 'เจเจ กฤษณภูมิ' เที่ยวต่างประเทศ รับฝ่ายชายซื้อกำไลข้อมือให้ ฟุ้งรัก happy   ว่างยาวตรงกันเลยถือโอกาสควงกันไปเที่ยวซะเลย สำหรับคู่รักเด็กแนว "ต้าเหนิง กัญญาวีร์" และหนุ่มหล่อ "เจเจ กฤษณภูมิ" เป็นทริปยาวกว่า 10 วัน 2 ประเทศ ญี่ปุ่น และเกาหลี เห็นว่างงานนี้ฝ่ายชายเองมีซื้อกำไลข้อมือให้เป็นของแทนใจด้วย สวีตจริงๆ "จริงๆ เกาหลีก็เป็นทริปที่ไปกับพี่ๆ ผู้ใหญ่ที่บริษัท เหมือนไปดูงานคุยงานด้วยมากกว่า แต่ก่อนหน้าก็มีไปทริปญี่ปุ่นด้วย ใช่ค่ะ แวะไปหาเพื่อนที่โน่น เพื่อนปิดเทอมก็เลยมาเจอกัน มีอะไรหวานๆ ไหม เพื่อนหนูไปเยอะมากเลยค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาปลีกตัวมาอยู่กัน 2 คน เพราะหนูไม่เจอเพื่อนนานแล้ว เห็นว่าช้อปปิ้งกันกระจายเลย ค่ะ ก็เป็นธรรมดาเวลาเราเจอของที่ชอบ หรืออยากได้ก็ซื้อเก็บไว้ มีของอะไรแทนใจให้กันไหม ไม่ค่อยค่ะ บางทีเราก็แยกกันเดิน แต่เห็นว่าฝ่ายชายซื้อกำไลให้ อ๋อใช่ค่ะ ก็ชอบค่ะ ขอบคุณมากๆ แต่ไม่ได้ถามเหมือนกันว่าให้เนื่องในโอกาสอะไร อาจจะช่วงปีใหม่ เพราะซื้อให้ช่วงนั้น ทริปนี้ไปกี่วัน ญี่ปุ่น 10 วัน เกาหลีประมาณ 5 วันค่ะ ก่อนหน้านี้เห็นบอกไม่ค่อยมีเวลา ต่างคนต่างทำงาน ค่ะ พอดีหนูว่างเลยไปหาเพื่อน บังเอิญเขาเองก็ว่าพอดีด้วย"   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 16:10:47 น.     Counter : 540 Pageviews.   Share Tweet

หนุ่มโวยถูกมิจฉาชีพพยายามหลอกเงิน 5,000 บาท หนุ่มโวยถูกมิจฉาชีพพยายามหลอกเงิน 5,000 บาท สนับสนุนเนื้อหา หนุ่มร้องสื่อ ถูกมิจฉาชีพ อ้างเป็น "คุณตัน" เจ้าของอิชิตัน แชทเฟซหลอกได้รับรางวัล 2 ล้านบาท แลกกับสลิปบัตรเติมเงิน 5,000 บาท - ฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ทีมข่าว ไอเอ็นเอ็น ได้รับแจ้งจาก นายพลกฤษ์ สมาชิกเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า "Phollakrid Wong" เล่าว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (20 ม.ค.) ได้ถูกแก๊งมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็น นายตัน ภาสกรนที เจ้าของอิชิตัน กรุ๊ป พยายามจะหลอกลวง โดยขอเพิ่มเป็นเพื่อนเข้ามาในเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า "อิชิตัน กรุ๊ป" และแชทเข้ามาคุยโดยอ้างว่า ตนเองเป็นผู้โชคดี ได้รับรางวัลเงินสด 2 ล้านบาท จากการสุ่มเลือกทางเฟซบุ๊ค คุณตันตัวปลอมยังบอกว่าให้ไปที่ร้านเซเว่น แล้วบอกพนักงานว่าซื้อสลิปทรูมันนี่ใบละ 1,000 บาท 5 ใบ ชำระโดยการถ่ายบัตรทรูมันนี่ และเบอร์ติดต่อ ที่อยู่ บัตรเลขบัญชีธนาคารของคุณมาอย่างแน่นอนชัดเจน "จะรับสิทธิ์หรือไม่รับสิทธิ์ครับ?" โดยทางมิจฉาชีพพยายามชวนพูดคุยเพื่อให้ตนเองเลือกรับสิทธิ์ และส่งสลิปบัตรทรูมันนี่จำนวน 5,000 บาท ไปให้ แล้วจะโอนเงินจำนวน 2 ล้านมาให้ แต่ตนเองได้ส่งสลิปบัตรเติมเงินที่เสิร์ชมาจากอินเตอร์เน็ตแล้วส่งให้คุณตันตัวปลอมไป จากนั้นก็ยุติการสนทนา ทั้งนี้ นายพลกฤษ์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2559 ตนเองก็เคยถูกมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็น อิชิตัน กรุ๊ป เข้ามาหลอกลวงว่า ได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท แต่ก็ไม่ได้หลงเชื่อ ส่งสลิปไปให้และที่ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ในครั้งนี้เพื่อต้องการแจ้งเตือน ให้ประชาชนทั่วไปได้ระมัดระวังตัว ไม่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงได้ และควรตรวจสอบกับทางบริษัทที่กล่าวอ้าง ให้ชัดเจนว่าเราได้รับรางวัลจริงหรือไม่จะได้ไม่ต้องสูญเสียทรัพย์สินและเงินทองให้กับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้   Create Date : 22 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2560 16:09:09 น.     Counter : 703 Pageviews.   Share Tweet