คสช. พร้อมสนับสนุน รบ. เดินหน้าสร้างความปรองดอง เร่งรัดจัดระเบียบสังคมให้เข้มข้นเพื่อประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด - เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนน้ำท่วม
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ยังคงกำกับดูแลและให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องในการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์และมีความปลอดภัย โดยเฉพาะงานเร่งด่วน อาทิ การจัดระเบียบรถตู้สาธารณะ, วินจักรยานยนต์รับจ้าง, ป้องปรามการแข่งรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ, ตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ให้ปล่อยของเสียลงแหล่งน้ำสาธารณะ ตรวจสอบรถบรรทุกไม่ให้มีการบรรทุกเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
นอกจากนี้ รองเลขา คสช. ยังได้ กล่าวถึงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งมี 3 ขั้นตอนสำคัญ คือ การรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง การรวบรวมข้อคิดเห็น การหาข้อยุติร่วมกันและทำสัญญาประชาคม โดยยืนยันรัฐบาลมีความตั้งใจจริงต่อการขับเคลื่อนตามแนวทางดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้สังคมไทยมีความสงบสุขและร่วมกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
ทั้งนี้ คสช. จะใช้กลไกของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ในการช่วยสร้างการรับรู้และเผยแพร่แนวทางการสร้างความสามัคคีปรองดองให้ประชาชนและส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้รับทราบ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนตามแนวทางของแต่ละฝ่ายต่อไป
คสช.เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนน้ำท่วมภาคใต้
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยได้กำชับทุกภาคส่วน เร่งเข้าช่วยเหลือคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางของเลขาฯ คสช. คือ การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟู
พร้อมกันนี้ รองเลขาฯ คสช. ยังสั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และหน่วยงานในพื้นที่เผยแพร่ ชี้แจงมาตรการการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ อาทิ มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินที่ได้จ่ายเป็นค่าซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์ ไม่เกิน 100,000 บาท และค่าซ่อมแซมรถยนต์ไม่เกิน 30,000 บาท, มาตรการพักชำระหนี้ 6 เดือน และให้สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูกิจการ มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นของเกษตรกร ที่เป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ระยะเวลา 1 ปี, มาตรการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชนของธนาคารออมสิน, มาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตน ลดจ่ายเงินสมทบ 3 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 3 เดือน การจัดตั้งศูนย์ซ่อมสร้างเคลื่อนที่ 200 ศูนย์ ให้บริการซ่อมรถ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และงานก่อสร้าง แก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย