Group Blog
 
All blogs
 

ไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย อย่าปล่อยให้ผิวขาดน้ำ

หน้าร้อนแบบนี้ ปัญหาผิวที่คุณควรเป็นกังวล ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องผิวหมองคล้ำ ผ้า กระ จุดด่างดำจากแสงแดดเท่านั้น แต่ความร้อนทำให้ผิวระคายเคือง และสูญเสียความชุ่มชื้น สังเกตง่าย ๆ จากปริมาณเหงื่อที่คุณสูญเสียไปจากเซลล์ผิวหนังชั้นนอก นี่แหละค่ะทำให้เป็นปัญหาของสาว ๆ ช่วงหน้าร้อนอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผิวขาดน้ำ

Pond's Panni

ผิวขาดน้ำ ขาดอย่างไร

อาการผิวขาดน้ำนั้นใกล้เคียงกับผิวแห้งมากค่ะ แต่จะต่างกันตรงที่จะมีทั้งความมันและแห้งแบบไม่เป็นเวลา เพราะกลไกของผิวเกิดการทำงานแบบชะงัก เนื่องจากขาดสารหล่อเลี้ยงที่สำคัญ นั่นคือน้ำ ที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานหลักของผิวหนัง ต่อให้ใช้เครื่องสำอางราคาสูง แต่ถ้าขาดวินัยในการดื่มน้ำ หรือไม่หมั่นสังเกตสภาพผิวหน้าตัวเอง มุ่งแต่จะทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสอย่างเดียวแล้วละก็ จะได้ผิวที่ขาวซีด แห้ง ไม่สดใสเปล่งปลั่งนั่นเอง

           ไม่เฉพาะแต่สาว ๆ ที่ต้องทำงาน Outdoor เท่านั้นนะคะ สาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ ก็เผชิญกับอาการผิวขาดน้ำได้ เนื่องจากเครื่องปรับอากาศ เพราะเครื่องปรับอากาศจะดึงเอาความชื้นในอากาศออกไป และลดอุณหภูมิลง เพื่อให้เกิดความเย็น ซึ่งผลที่ได้คือความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศจะลดลง อากาศจึงแห้งขึ้น อาการเบื้องต้นที่แสดงว่าผิวคุณเริ่มขาดน้ำ มีดังนี้ค่ะ 

แต่งหน้าไม่ติด หรือไม่อยู่ทน

           ลงครีมบำรุงไม่ค่อยซึม ครีมรองพื้นพอลงก็เกลี่ยยากและเป็นขุย จุดนี้ต่างจากผิวแห้งเพราะต่อให้ผิวแห้งแต่การดูดซึมก็ยังเป็นไปตามปกติ ยังสามารถเกลี่ยเครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ง่าย แต่ผิวขาดน้ำ ผิวจะไม่ดูดซึมเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นได้เลย 

ผิวหน้าอิดโรย ไม่สดใส ไม่ยืดหยุ่น

           ผิวขาดน้ำทำให้ผิวดูหยาบกระด้างขึ้น เวลาสัมผัสที่บริเวณผิวหน้า จะขาดความยืดหยุ่น ตึง ขาดความนุ่มกระชับและกร้านมากขึ้น นั่นเป็นเสมือนสัญญาณ S.O.S ที่ร่างกายส่งมาให้เราได้รับรู้แล้วนะคะ สำหรับรายที่รุนแรงอาจจะมีรอยจ้ำแดง เนื่องมาจาก โครงสร้างของผิวที่ให้ความยืดหยุ่นขาดน้ำอย่างแรง



วิธีการเติมน้ำให้ผิว

สารบำรุงประเภท Hydration

           ถ้าคุณใช้เครื่องสำอางประเภท Anti-aging ที่มีส่วนผสมของวิตามิน เอ หรือเรตินอล ชนิดเข้มข้น ช่วยลดริ้วรอย หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มีส่วนผสมของ hydrogen peroxide, retinoic acid, benzoyl peroxide, hexachlorophene เป็นต้น เพราะสารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะยิ่งทำให้ผิวขาดน้ำมากขึ้น ให้หันมาเติมน้ำให้ผิวด้วยครีมหรือเจลตระกูล Hydration มากขึ้นเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ กระบวนการของเซลล์ผิวหนังก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ง่ายต่อการบำรุง หรือแต่งหน้า ลดอาการขาดน้ำของผิวไปได้ค่ะ

อย่านอนดึก 

           เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่า พักผ่อนไม่เพียงพอไม่ดีต่อร่างกาย แน่นอนว่าไม่ดีต่อผิวคุณด้วยค่ะ สำหรับสาวขี้เกียจที่ไม่ชอบดูแลบำรุงผิวพรรณ ด้วยครีมหรือเครื่องสำอางหลายขั้นตอน ให้ใช้การพักผ่อน การนอน เป็นตัวหลักในการรักษาผิวพรรณก็ได้นะคะ เพราะการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายได้มีการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่งผลให้ผิวเราได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ด้วยค่ะ แล้วถ้านอนในห้องปรับอากาศ อย่าลืมที่จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนนอนด้วยนะคะ

บำรุงผิวจากภายใน ดื่มน้ำให้มากขึ้น 

           การดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว เป็นการบำรุงจากภายในที่ทำได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ได้ประโยชน์ทั้งร่างกาย เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย เฉลี่ย 50 – 60 % ของน้ำหนักตัว วิธีคิดง่ายว่าวันนึงเราควรจะดื่มน้ำเท่าไหร่ คิดง่าย น้ำหนักตัวเป็นหน่วยกิโลกรัม ไปคูณกับ 30 จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ซึ่งมีหน่วยเป็น มิลลิลิตร (เช่น 45 กิโลกรัม x 30 = 1,350 มิลลิลิตร หรือ 1.35 ลิตรต่อวัน) ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนยังกับอะไรดี หากขาดน้ำในช่วงนี้ ไม่เพียงแค่ผิวจะไม่สวยแต่อาจจะป่วยได้ด้วยนะคะ  



Pond’s Hydra Revital

ผิวขาดน้ำนั้นแก้ง่าย ๆ ค่ะ วิธีที่เห็นจะง่าย และตรงจุดที่สุด ก็ให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่เป็นสูตร Hydration นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเป็นเวลา และก็ดื่มน้ำให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ เพื่อฟื้นฟูผิวบ้างไรบ้าง เท่านี้คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงไหมคะ เท่านี้ต่อให้จะร้อนแค่ไหน อากาศแห้งเท่าไหร่ ผิวเรา…ก็เอาอยู่ค่ะ  

  สำหรับครีมบำรุงผิวที่มีมากมายหลายยี่ห้อนั้นต่างก็มีพื้นฐานเดียวกันคือ มีคุณสมบัติป้องกันการสูญเสียน้ำ เพราะน้ำคือตัวทำให้ผิวสวย คนที่ผิวแพ้ง่าย ระคายเคือง เดี๋ยวคันเดี๋ยวแดง พวกนี้ผิวสูญเสียน้ำเยอะ ต้องรีบฟื้นฟู รู้อย่างนี้แล้วพยายามดื่มน้ำให้มากเข้าไว้จะดีที่สุด (ยกเว้นคนเป็นโรคไต หรือโรคที่แพทย์สั่งควบคุมการดื่มน้ำ) เพราะการรับน้ำเข้าสู่ร่างกายมีวิธีเดียวเท่านั้น ส่วนการทำความสะอาดก็เอาแค่พอควร จะได้ไม่เป็นการทำลายชั้นไขมัน และเปิดรูให้น้ำระเหยออก

  ส่วนเรื่องของการใช้น้ำเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง หรือที่เรียกว่าวอเตอร์เบท มีมาแต่สมัยโบราณแล้ว จุดประสงค์เราไม่ได้ต้องการน้ำจากเครื่องสำอางหรอกนะคะ แต่คนที่ผิวมันอยู่แล้ว และต้องการให้อาหารผิว จำพวกวิตามินอี วิตามินซี หรือสารแอนตี้ออกซิเดนซ์ต่าง ๆ ก็ควรใช้เครื่องสำอางในรูปวอเตอร์เบท เพื่อให้น้ำเป็นตัวนำอาหารผิวเหล่านั้นเข้าไป เป็นการหลีกเลี่ยงสาเหตุของสิวอุดตัน

ดื่มตอนไหนเวิร์คสุด : ควรจะหมั่นเติมน้ำให้ร่างกายคุณเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน โดยการจิบน้ำอยู่เรื่อย ๆ แต่ถ้าจะเอาให้คำนวณออกมาง่าย ๆ ก็แบ่งออกได้ 5 เวลาด้วยกัน



  ตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว (400 ซีซี) เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ

  ตอนสาย ๆ 2 แก้ว (เวลาประมาณ 9 โมงถึง 10 โมงเช้า) ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทํางานไประยะหนึ่งแล้ว ฉะนั้น จึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชําระของเสียเหล่านั้นออกไป

  ตอนบ่าย ๆ 2 แก้ว (เวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง)

  ตอนเย็น 2 แก้ว (เวลาประมาณ 1 ทุ่มถึง 2 ทุ่ม)

  ก่อนนอน ให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลําไส้และกระเพาะอาหาร และยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น

  ในทุก ๆ วัน ร่างกายจะต้องสูญเสียน้ำผ่านทางการหายใจและการขับถ่าย จึงเป็นสิ่งที่จําเป็นมากที่จะต้องรับน้ำเข้าไปเพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป และโดยปกติเราจะเสียน้ำจากการปัสสาวะ การหายใจและเหงื่อ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างวัน ซึ่งถ้าคุณดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร (ประมาณ 8 แก้ว) ก็จะช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำในส่วนนี้ได้ แต่ถ้าผิวแห้งขาดน้ำ เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ ดื่มน้ำอาจจะไม่ตรงจุด เพราะฉะนั้นหาครีมบำรุงที่เติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวรับรองเห็นผลทันที

  แต่สําหรับปริมาณน้ำที่ควรดื่มให้ได้ภายใน 1 วันเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองแล้ว ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ ควรดื่มให้ได้วันละ 2 ลิตร (ประมาณ 8 แก้ว) ส่วนสาว ๆ วันละ 1.5 ลิตร (ประมาณ 6 แก้ว) ปริมาณน้ำที่ดื่มหลัก ๆ ขึ้นอยู่ที่น้ำหนักตัว

  สําหรับสาว ๆ สปอร์ตี้เกิร์ล จะต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เยอะกว่าคนปกติ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของกิจกรรมที่ทําด้วย ถ้าคุณออกกําลังกายในช่วงสั้น ๆ ก็ควรจะดื่มน้ำเพิ่มเข้าไปครั้งละ 1-2 แก้วหลังจากออกกําลังกายแล้ว แต่ถ้าเป็นช่วงยาว ๆ ละก็เพิ่มขึ้นอีกสัก 2-3 แก้ว ก็น่าจะเพียงพอแล้ว




 

Create Date : 10 มีนาคม 2556    
Last Update : 10 มีนาคม 2556 14:16:38 น.
Counter : 3183 Pageviews.  

อัพเดท 10 ทรงผมสั้น สุดอินเทรนด์ ชั่วโมงนี้บ๊อบมาแรง!!



ทรงผมสั้น



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก beauty-box.jp , rasysa.com และ la-cendrillon.com

          สวัสดีจ้าสาว ๆ กลับมาพบกันอีกครั้งกับการอัพเดทเทรนด์ทรงผมสวย ๆ ที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ โดยวันนี้กระปุกดอทคอมได้รวมรวม 10 แบบทรงผมสั้น เก๋ ๆ สวย ๆ ที่สาวแซ่บแอบซ่าอย่างเราไม่ควรพลาดมาฝาก เพราะชั่วโมงนี้ไม่มีอะไรฮอตและฮิตเท่ากับ ทรงผมสั้น อีกแล้ว (ฮิ้วววววว) โดยเฉพาะ ทรงผมสั้น สไตล์บ๊อบ ที่สาว ๆ หันมาหั่นเปลี่ยนลุคกันให้รึ่ม ^^

สำหรับ ทรงผมสั้น สไตล์บ๊อบ ที่บอกว่าฮิตนักฮิตหนาเนี่ย เป็นทรงผมสั้นที่ไม่ได้สไลด์บางทั้งหัว หรือซอยรากไทร แต่จะเน้นตกแต่งที่ปลายผม เพียงแค่ตัดเอาความยาวของผมออกเท่านั้น ส่วนจะสไลด์ขึ้นสูงหรือแค่ปลายบาง ๆ ก็แล้วแต่ความชอบ ทำให้เหมาะกับสาว ๆ ทุกรูปหน้า ไม่ว่าจะหน้ากลม หน้ายาว หน้าเหลี่ยม หรือว่าหน้ารูปไข่ คุณก็สามารถตัดทรงนี้ได้ โดยเลือกความยาวและสไลด์ปลายให้เข้ากับกรอบหน้า ทั้งนี้ สามารถปรึกษาช่างทำผมมืออาชีพ ที่เอาใจใส่ลูกค้าได้ที่ร้านทำผมทั่วไปเลยค่ะ

เอาล่ะ! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดู 10 ทรงผมสั้น เก๋ ๆ ที่เรานำมาฝากกันเลย... ชอบทรงไหน หรือถูกใจแบบใด จะนำไปเป็นแบบทรงผมของตัวเองก็ได้ไม่ว่ากันนะคะ ^^


ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น

ทรงผมสั้น




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2555    
Last Update : 9 ตุลาคม 2555 12:31:53 น.
Counter : 3924 Pageviews.  

5 ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์


5 ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์

ผิวสวย



5 ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์ (Lisa)

น้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ลมีประโยชน์ในการดูแลความงามให้คุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ และนี่คือประโยชน์ที่ว่า

1. ผิวเนียนนุ่ม เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด จึงช่วยปิดรูขุมขนและทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้นได้ เราจึงขอแนะนำให้ผสมน้ำส้มสายชูลงไปในครีมทาตัวเล็กน้อย ครีมทาตัวของคุณจะมีอานุภาพเพิ่มขึ้นทันที

2. เพิ่มความเงางาม สาว ๆ ส่วนใหญ่มักจะล้างแชมพูกับคอนดิชันเนอร์กันออกไม่หมด เส้นผมจึงหนักและดูไม่เป็นเงางามเท่าที่ควร วิธีแก้คือผสมน้ำส้มสายชูห้าหยดเข้ากับน้ำสะอาดหนึ่งชาม แล้วชโลมลงบนเส้นผมให้ทั่วหลังเสร็จจากแชมพูและคอนดิชันเนอร์ จากนั้น จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด


แอปเปิ้ลไซเดอร์
3. เยียวยาผิว น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์ในการต่อต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยลดอาการคันบนผิวให้คุณได้ วิธีการคือผสมน้ำส้มสายชูลงไปในน้ำที่อาบเล็กน้อย แล้วลงไปนอนแช่ให้สบายใจ

4. ขจัดรังแค น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อรา จึงช่วยขจัดปัญหารังแคให้คุณได้ โดยผสมเข้ากับน้ำสะอาดในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน จากนั้น เทใส่กระบอกฉีดน้ำ แล้วใช้ฉีดพรมลงบนเส้นผม

5. ปรับสภาพผิว น้ำส้มสายชูช่วยปรับสมดุลให้ผิวได้ แถมยังทำหน้าที่เหมือนโทนเนอร์สำหรับคนผิวมันด้วย โดยผสมกับน้ำในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน แล้วใช้เช็ดหน้าก่อนทามอยส์เจอไรเซอร์




 

Create Date : 29 กันยายน 2555    
Last Update : 29 กันยายน 2555 13:42:53 น.
Counter : 1704 Pageviews.  

สวยเร่งด่วน 40 วิธีเพิ่มความว่องไว้ให้กิจวัตรความงามของคุณ

แต่งหน้า



สวยเร่งด่วน 40 วิธีเพิ่มความว่องไว้ให้กิจวัตรความงามของคุณ (Lisa)

หลายคนอาจรู้สึกว่าการเตรียมสวยในแต่ละวันนั้นต้องใช้เวลา แต่ตารางที่เร่งรีบก็ทำให้รู้สึกว่าไม่มีเวลาพอ ที่จะจัดการกับความสวยได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น มาดูกลเม็ดที่จะทำให้คุณสวยได้อย่างฉับไวขึ้นสำหรับการเตรียมความพร้อมในแต่ละวันกันดีกว่า

1. เมื่อคุณแปรงฟัน ก็ใช้แปรงขัดริมฝีปากเพื่อขจัดผิวที่กำลังจะหลุดลอกไปด้วยเลย จากนั้นก็ทาลิปบาล์มแบบมีสีหรือกลอสที่ผสมสารกันแดด ก็จะทำให้ริมฝีปากดูมีสีสันขึ้นพร้อมทั้งได้รับความชุ่มชื้น และการปกป้องจากแสงแดด

2. หากคุณชอบใช้แป้ง แป้งแบบอัดแข็งจะปกปิดผิวได้รวดเร็วกว่าแบบที่เป็นผง และใช้ได้ง่ายกว่าด้วย

แต่งหน้า

3. เลือกแปรงใหญ่ขนฟู ๆ ในการลงแป้งและบลัชออน จะช่วยให้เกลี่ยแป้งลงบนผิวได้ทั่วถึงและแนบเนียนขึ้น

4. จัดพื้นที่โต๊ะเครื่องแป้งหรือห้องน้ำไว้ สำหรับวางเครื่องใช้และอุปกรณ์เมคอัพทั้งหลาย เพราะมันจะประหยัดเวลาในการเลือกหยิบเครื่องสำอางที่ต้องการได้มากกว่าเวลาที่คุณนำไปอัดรวมกันในกระเป๋า

5. แทนที่จะใช้คอนชีลเลอร์พร้อมแปรง ก็ทำให้รวดเร็วขึ้นได้โดยใช้คอตตอนบัดจุ่มลงในรองพื้น และนำมาแต้มจุดที่คุณต้องการปกปิด

6. เลือกเมคอัพชนิดติดทนนาน เพื่อจะได้ไม่ต้องคอยเติมบ่อย ๆ

7. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบ 3 in 1 ที่ใช้ได้กับทั้งดวงตา แก้ม และปาก โดยเลือกสีโทนกุหลาบ หรือเบอร์รี่ที่จะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

8. หากคุณอยากได้ลุคดราม่าติกแบบสโม้กกี้ แต่ไม่มีเวลามาไล่เรียงสีอายแชโดว์ ก็ใช้ดินสอเขียนตาสีดำวาดขอบตาทั้งบนและล่างแล้วเกลี่ยให้ดูฟุ้ง ๆ ด้วยปลายคอตตอนบัต

9. อายไลเนอร์แบบดินสอนั้นเขียนได้ง่ายและเร็วกว่าแบบลิควิดหรือเนื้อเจล

แต่งหน้า

10. ในยามเช้าที่คุณต้องการให้ดวงตาสว่างใสแบบเร่งด่วน ใช้ดินสอเนื้อครีมสีนู้ดวาดลงบนขอบตาล่างด้านในหรือใช้คอตตอนบัดแตะอายแชโดว์สีสว่างและเกลี่ยไล่ที่ได้แนวขนตาล่าง

11. ก่อนปัดมาสคาร่า กลิ้งแปรงมาสคาร่าเบา ๆ บนทิชชู่ก่อนเพื่อขจัดส่วนเกินไม่ให้ไปเกาะเป็นก้อนบนขนตาคุณจนต้องเสียเวลามาจัดการอีก

12. การแต่งคิ้วให้เนียนเสมอกันทั้งสองข้าง การกรีดขอบตาบน และปัดขนตานั้นสำคัญกว่าการลงอายแชโดว์ ดังนั้น หากคุณต้องการสีสันบนเปลือกตา ก็ให้ปัดบลัชออนบนเปลือกตาด้วย หรือจะปัดทับบนคอนชีลเลอร์ที่ลงไว้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องใช้เวลาในการเกลี่ยมากนัก

13. หากคุณมีผมยาวหยักศกและอยากได้ผมเป็นลอนสวยให้สระผมตอนกลางคืน และใช้ผลิตภัณฑ์แต่งลอนผมแล้วปล่อยให้แห้งขณะคุณหลับ ตอนเช้าให้ถักเป็นเปียกต่ำ ๆ ด้านหลัง หรือถ้าอยากให้ผมดูสวยในตอนเย็น ก็ให้สระผมตอนเช้าและรวมมวยต่ำไว้ ปล่อยให้แห้งเองจากนั้น อีก 2-3 ชั่วโมงเมื่อแกะผมออกก็จะได้ลอนผมที่นุ่มสลวยแล้วล่ะ

14. เลือกอายแชโดว์โทนสีเบสิกดีกว่า สีแฟชั่นที่คุณต้องใช้เวลาแต่งตามากขึ้น

15. ใช้บลัชออนและบรอนเซอร์เนื้อครีม เป็นทั้งสีแก้มและลงเป็นอายแชโดว์ไปด้วยเลย

16. อย่าใช้มาสคาร่าปัดขนตาล่าง เพราะจะทำให้เกิดคราบเปื้อนและเสียเวลาเช็ดทำความสะอาด

17. แทนที่จะต้องคอยเติมหน้าในระหว่างวัน ฉีดสเปรย์ Finishing Mist หลังแต่งหน้าลงบนใบหน้าให้ทั่ว และซับด้วยฟองน้ำแห้ง ๆ

18. ตัดผมให้ความยาวอยู่ระหว่างคางและไหล่ เนื่องจากมันสั้นพอที่จะเป่าไดร์ได้ง่ายและเร็ว แต่ก็ยาวพอให้คุณรวบขึ้นได้เมื่อต้องการ

19. เลือกทรงผมที่คุณไม่ต้องเสียเวลามานั่งเช็ตในตอนเช้า คือทรงที่ดูเข้ากันได้กับผมตามธรรมชาติของคุณ

ทรงผม
20. หากไม่มีเวลาแต่งผมม้า ใช้ที่คาดผมหนาประมาณ 2 นิ้ว ขึ้นไปเพื่อคาดผมม้าเก็บไปเลย ผ้าคาดผมนี้ จะดูมีสไตล์เมื่ออยู่ใกล้กับไรผมเข้าไปประมาณครึ่งนิ้ว
21. หากผมดูยื้มหรือสกปรก ฉีดแฮร์สเปรย์ลงที่รากผม ซึ่งแอลกอฮอล์จะดูดซับน้ำมันส่วนเกินออกไป

22. ใช้อายแชโดว์สีสว่างแตะที่ใต้คิ้วและใกล้กับหัวตา จะช่วยสร้างความแตกต่างกับโทนสีผิวจริง ทำให้คุณไม่ต้องลงอายแชโดว์แบบไล่สีเพื่อสร้างมิติ

23. ยืดผมและกำจัดผมหยิกยุ่งในขณะเป่าผม โดยถือไดร์ในแนวตั้งและให้ปลายไดร์นั้นชี้ลง ทิศทางลมจะทำให้เกล็ดผมลีบตัวลง ทำให้ผมดูเรียบลื่น และเงางามขึ้น

24. หากสิวเริ่มจะอักเสบ อย่าใช้ยารักษาสิวทาลงทุกส่วนที่เป็นสิวโดยเฉพาะหน้าอกและหลัง แต่ให้ใช้เคลนเซอร์สำหรับผิวเป็นสิวล้างหน้าและตัวขณะอาบน้ำแล้วให้ไอน้ำช่วยรักษาผิวในระหว่างนั้น

25. จัดการให้สิวยุบเร็วขึ้นได้ ด้วยการป้ายครีมที่มีไฮโดรคอร์ดิซอล มันจะช่วยลดอาการบวมได้อย่างรวดเร็วและทำให้คุณใช้คอนชีลเลอร์กลมได้ทันที

26. เวลาออกกำลังกาย ให้รวบผมเป็นมวยและติดกิ๊บไว้ที่เหนือต้นคอ ตอนคุณวอร์มอัพผมก็จะเซ็ตตัวเป็นลอนอ่อน ๆ แล้วใช้ผ้าคาดผมไว้คอยดูดซับเหงื่อ ส่วนผมม้าสั้น ๆ ด้านหน้าก็ให้ติดกิ๊บไว้

27. ยาทาเล็บแบบใสจะช่วยลดรอยแตกด้านของยาทาเล็บ คุณจึงไม่ต้องลงสีซ้ำสองครั้ง

ทาสีเล็บ

28. ทำเล็บด้วยตัวเองแต่ไม่มีเวลาแช่เล็บ ทาแปรงขัดเล็บด้วยน้ำมันแล้วนำมาขัดเล็บได้เลย

29. เลี่ยงโทนเนอร์ คุณอาจชอบความรู้สึกหลังใช้ แต่มันไม่ได้ช่วยให้ผิวคุณดีขึ้น

30. ถ้ามีเวลาเพียงน้อยนิด เป่าผมแค่ช่วงบนและด้านหน้าของศีรษะ จากนั้น รวบเป็นมวยไว้ที่ต้นคอ ก็จะไม่มีใครรู้ว่าคุณยังเป่าผมที่เหลือไม่เสร็จ

31. เพื่อให้ไดร์ผมได้เร็วขึ้น รอจนผมใกล้แห้งแล้วใช้หวีแบบกลมหวีผมให้เรียบตรงไปทีละช่อ

32. เพื่อเพิ่มวอลลุ่มและซ่อนโคนผม ให้แสกผมซิกแซกหรือแสกไปทิศทางตรงข้าม

33. หลังจากทาบอดี้โลชั่น แฮนด์ครีมหรือครีมกันแดด ก็ให้ใช้ครีมที่หลงเหลืออยู่บนมือแตะลงบนผมเพื่อให้ผมเรียบไม่มีปอยยุ่ง

34. ใช้มูสขนาดเท่าลูกกอล์ฟลูบบนผมที่เพิ่งสระเสร็จ ไม่ว่าจะเป่าไดร์หรือปล่อยให้แห้งเอง แอลกอฮอล์ในมูสจะทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น

35. เพื่อให้ได้วอลลุ่มอย่างรวดเร็ว ก้มหัวลง พ่นสเปรย์ลงที่โคนผมแล้วยกหัวขึ้นตามเดิม จากนั้น นวดหนังศีรษะอีกครั้ง

36. เลือกสีผมที่อ่อนกว่าสีผมจริงแค่ 2-3 เฉด หากสีแรงกว่านั้นเวลาโคนผมใหม่เริ่มโผล่ก็จะยิ่งเห็นได้ชัด

ทรงผม

37. เปลี่ยนมาใช้ทินต์มอยส์เจอไรเซอร์ เพราะมอยส์เจอไรเซอร์แบบมีสีนั้นจะทำให้คุณได้บำรุงผิวและทำให้มีสีผิวเนียนกลมกลืนไปพร้อม ๆ กัน รวมทั้งปกป้องผิวจากแดดไปด้วยเลย เนื้อครีมยังเกลี่ยได้ง่ายกว่ารองพื้นด้วย

38. หากผมคุณเริ่มมีสีเทาเล็กน้อย ลองให้ช่างย้อมผมแบบกึ่งถาวร จะใช้เวลาทำน้อยกว่า และสีผมก็หลุดลอกช้า ก็จะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดนัก

39. เปลี่ยนจากสบู่ที่คุณใช้ประจำเป็นสบู่โฟมหรือสบู่อาบน้ำ ที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อเป็นการทำความสะอาดและเติมความชุ่มชื้นไปในขณะเดียวกัน

40. ไม่ต้องวุ่นวายกับการใช้สครับหรือมาส์กขัดผิวกาย ใช้ผ้าขนหนูชื้น ๆ และออกแรงกดลงบนผิวหน่อยในขณะที่อาบน้ำ เพื่อเป็นการขัดผิว




 

Create Date : 25 กันยายน 2555    
Last Update : 25 กันยายน 2555 11:10:13 น.
Counter : 1461 Pageviews.  

แต่งหน้าแบบนี้ ผู้ชายร้องยี้... คอนเฟิร์ม!!

แต่งหน้า

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           ผู้หญิงกับการแต่งหน้าดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่มาคู่กัน เพราะแต่งหน้าแล้วทำให้ดูสวยขึ้น หนุนจุดเด่น กลบจุดด้อยได้ เสริมสร้างความมั่นใจยามออกไปพบปะใคร ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย แต่บางทีการแต่งหน้าของสาว ๆ ก็ทำให้ผู้ที่ไม่นิยมใช้เครื่องสำอางอย่างคุณผู้ชายรู้สึกขัดหูขัดตาได้เช่นกัน ยิ่งถ้าได้เห็นแฟนของตัวเองแต่งหน้าแบบที่เขาไม่ชอบ ก็มีส่วนทำให้อารมณ์บูดได้เหมือนกันนะ ถ้าอย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า การแต่งหน้าแบบไหนที่คุณผู้ชายเขารู้สึกยี้กันบ้าง

1. รองพื้นหนาเตอะ

เรื่องการลงรองพื้นนี้ไม่ใช่ยิ่งหนายิ่งดี แล้วถ้ายิ่งประโคมทั้งรองพื้น คอนซีลเลอร์ และแป้งแต่งหน้าลงไป มันจะไปต่างอะไรกับแต่งหน้าเค้ก ดูหนาเตอะไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย เป็นสิ่งที่ไม่สบายสายตานักสำหรับคุณผู้ชาย แถมยังบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองด้วย

2. หน้าขาวคอดำ

ถ้าหน้าขาวสวยเนียนกริบ แต่คอยังดำคล้ำอยู่แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ถ้าไม่ลงรองพื้นบาง ๆ ให้เป็นธรรมชาติกลมกลืนไปกับผิวที่ลำคอ ก็ขอให้ลงรองพื้นเผื่อไปถึงคอด้วยเถอะนะ ขอร้อง!

3. แก้มแดงแปร๊ด

เข้าใจว่าอยากให้หน้ามีเลือดฝาด แต่ถ้าจะปัดแก้มให้แดงแปร๊ดเหมือนไปเล่นงิ้วขนาดนั้นมันก็เว่อร์เกินไป ผู้ชายเขาอยากเดินควงแฟนนะจ๊ะ ไม่ใช่นางเอกลิเก

4. คิ้วบาง ขนตาหนาเป็นแพเด้งเว่อร์  

ผู้หญิงสวยเขาว่าต้องคิ้วโก่งดั่งคันศร แต่ถ้ากันคิ้วเสียจนบางเฉียบ เขียนซะโค้งเป็นสะพาน แถมยังติดขนตาปลอมเป็นตับ ดัดซะเด้งเว่อร์ ๆ แบบนี้มันไม่ทำให้รู้สึกว่าชวนมองชวนหลงเลย (แต่จะเผลอมองเพราะคิดว่าเจอของแปลกซะมากกว่า)

5. อายแชโดว์เข้มจัด แถมไม่เข้ากับสีผิว

ถ้าไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวเพื่อไปงานปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงธีมแฟนซีก็ขอเถอะ ว่าอย่าได้แต่งตาแรง ๆ ด้วยอายแชโดว์สีเข้มจัดเลย มันไม่ได้ทำให้คุณดูสวยเหมือนนางเอกในละคร แล้วก็ยังดูเว่อร์เกินกว่าที่จะออกมาเดินข้างนอกด้วย ยิ่งถ้าเป็นอายแชโดว์โทนสีที่ไม่เข้ากับสีผิวของคุณแล้วก็ยิ่งดูเพี้ยนไปกันใหญ่

6. ปากแดงแปร๊ด

แม้สาว ๆ หลายคนจะชื่นชอบลิปสติกสีแดง นัยว่าทาแล้วดูแรงและเปรี้ยวจี๊ดดี แต่ทว่าผู้ชายส่วนใหญ่กลับไม่เห็นอย่างนั้นน่ะสิ เขามองว่าสาวที่ทาปากแดงแล้วดูสวยจริง ๆ นั้นมีอยู่ไม่ถึงหยิบมือ ส่วนใหญ่ทาแล้วก็ดูแรงแบบฟุ่มเฟือย ไม่เห็นน่ารักน่าทะนุถนอมสักนิด

7. แต่งหน้าด้วยทุก ๆ ข้อที่กล่าวมาด้านบน

ข้อสุดท้ายที่ร้ายแรงที่สุดและแน่นอนว่าคุณผู้ชายเขายี้สุด ๆ ด้วย ก็คือ การแต่งหน้าทุกส่วนของใบหน้าด้วยทุก ๆ ข้อที่กล่าวมาข้างต้น มันได้ลุคที่เหมือนกับ.. อย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ เชียว รู้แล้วก็อย่าได้ทำนะจ๊ะ

ทั้ง 7 ข้อที่รวบรวมมานี้ เป็นการแต่งหน้าที่แบบคุณผู้ชายเขาไม่โปรดปรานกันสักเท่าไหร่ และไม่ใช่แค่ผู้ชายอย่างเดียวเท่านั้น ผู้หญิงอย่างเรามองแล้วก็รู้สึกว่าเยอะและมากเกินไปเหมือนกัน น่าแปลกที่ว่าแม้จะมีเครื่องสำอางสารพัดสี แต่การแต่งหน้าแบบอ่อน ๆ เป็นธรรมชาตินี่แหละ คือสิ่งที่สวยชวนมองมากที่สุดเนอะ ^^




 

Create Date : 16 กันยายน 2555    
Last Update : 16 กันยายน 2555 12:57:20 น.
Counter : 1924 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.