เยือนถิ่นมังกรน้อยไทเป...ในยามฝนพรำ
สวัสดีครับพึ่งกลับมาจากไต้หวันสดๆร้อนๆ ปกติจะมีรีวิวดองเค็ม แต่รีวิวนี้ดองแค่พอเปรี้ยวๆละกันครับ 555 เริ่มต้นจากสายการบินเช่นเคยสำหรับผู้ประหยัด (งก) อย่างผมก็ต้องใช้บริการโลว์คอสแอร์ไลน์ที่มีโปรโมชั่น นั่นคือ แอร์เอเชียโปร 0 บาทที่จองกันข้ามปีเลยทีเดียว ได้มาราคาไป-กลับ 1160 ต่อคน รวมเลือกที่นั่งแล้ว ก่อนหน้าจะไปก็กะว่าต้องไปคนเดียวซะแล้ว เพราะคนข้างกายไปด้วยได้ หลังจากพึ่งเริ่มทำงาน แต่เพราะสถานการณ์บ้านเมืองของเรา ทำให้สาวน้อยได้หยุดนั่นเลยกลายเป็นปัญหาของเราซะแล้ว 5555 จากเดิมที่กะพักโฮสเทลหาสาวหมวยคุยด้วยซะหน่อย ก็เลยแคงเซิลและเสิร์ทหาที่พักทีถูกใจ เอาใจสาวน้อยซะหน่อย เพราะเราคงไม่ได้เที่ยวอีกพักใหญ่หลังจากครบกระบวนความแล้วถึงวันเดินทางเราไปถึงสนามบินประมาณเที่ยง เนื่องจากแอร์เอเชียเลื่อนไฟต์จาก 13.30 เป็น 14.45 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินนานาชาติเถาหยวน เวลา 18.45หลังผ่าน ตม. ที่ปกติแล้วคนไทยต้องทำวีซ่า โดยเสียค่าทำวีซ่า 1800 บาท แต่เรามีวีซ่าของออสเตรเลียที่ยังไม่หมดอายุ ทำให้กรอกข้อมูลขอวีซ่าผ่านเน็ตได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าวีซ่า (ประหยัดๆ) ก็หารถบัสเข้าไทเปโดยเดินออกมาแล้วเลี้ยวขวาหาป้ายที่เป็นรถบัสจะมีหลายเคาเตอร์ เราเลือกที่เคาเตอร์แรก ราคา 125 NTD จากนั้นออกไปรอรถบัสที่หมายเลข 61 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงรถจะไปจอดที่สถานี taipei main station ที่เป็นศูนย์รวมทั้งรถไฟฟ้า รถไฟหัวจรวด รถไฟ หรือแม้แต่รถบัสต่อออกนอกเมืองไทเป เราก็เดินหาสถานีรถไฟฟ้า mrt กันซักพักนึง (แอบโง่ ) พอลงไปที่สถานีก็ซื้อบัตร easy card ที่สามารถใช้บริการรถเมล์และ mrt แถมได้ลดราคาจากปกติอีกด้วย ในส่วนของแผนที่รถไฟฟ้าลองหาดูเองนะครับ ตามเว็ปไซต์ต่างๆมีมากมายครับ เมื่อเราออกจากสถานี mrt jiannan Rd.เราก็เจอห้าง miramar และ wego เดินไปไม่ไกลประมาณ 200 เมตรก็ถึงโรงแรมที่เราพักในทริปนี้ 3 คืนนั่นคือโรงแรม ISIS Taipei Boutique Hotel อยากบอกว่าที่พักสวยมากๆครับ มีจากุซซี่ด้วย เหอๆ สบายสุดๆ ไว้ลองติดตามดูภาพละกันนะครับเนื่องจากเรายังไม่ได้กินข้าวเย็นกันเลย + ดึกมากแล้ว และสถานที่เที่วต่างๆก็น่าจะปิดหมดแล้ว เราจึงสั่งอาหารที่โรงแรมมาทานกัน อาหารที่นี่อร่อยมากครับ เสียดายแค่ว่ามีเมนูน้อยไปหน่อย ก็เป็นอันจบวันแรกเช้าวันที่ 2 เริ่มจากอาหารบุฟเฟ่ต์ซึ่งก็เหมือนโรงแรมทั่วไป แต่จะมีอาหารจีนปนมาด้วย เช่นหมี่ผัด หรือเปาะเปี๊ยะแล้วแต่ๆละวันครับ แล้วก็จะมีข้าวต้ม กับเครื่องต่างหากทุกวันครับ อาหารค่อนข้างหลากหลายดีครับ ส่วนน้ำก็มีน้ำกดแบบเป๊บซี่ที่ดูแตกต่างกว่าปกติครับ ที่เหลือก็นมและน้ำผลไม้แบบปกติ โปรแกรมวันนี้กะจะไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวในไทเปครับ เนื่องจากที่นอนสบายไปหน่อย ก็เริ่มต้นสายหน่อยประมาณ 11 โมงครับ เริ่มต้นที่พิพิธภัณฑ์ของ ดร.ซุนยัดเซ็น ที่นี่จะเห็นวัยรุ่นจำนวนมาซ้อมเต้นกัน ซึ่งน่าจะมีการประกวดแข่งขันกันบ่อยๆ และมีการจัดงานของพื้นบ้านอยู่ด้วย คงจะคล้ายๆโอทอปบ้านเรา ขณะที่ไปถึงก็เป็นเวลาผลัดเปลี่ยนเวรของทหารพอดี ต่อจากนั้นก็ไปวัดหลงซาน ผู้คนมาสักการะกันเยอะมากครับ เราก็เข้าไปเก็บบรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์จนพอใจแล้ว ก็เลยพาสาวน้อยไปช็อปปิ้งที่ห้างโซโก้ซักหน่อย หลังเดินเป็นพิธี ไม่ค่อยได้ซื้ออะไรเพราะเป็นทริปยาจกอะครับ ก็เปลี่ยนใจไปจิ่วเฟินดีกว่า เพราะถ้าแวะถ่ายรูปอย่างเดียวคงไม่ค่อยสนุก ดังนั้นเราเลยข้ามจากห้างโซโก้สีเขียวมาฝั่งตรงข้ามจะเห็นมีป้ายรถเมล์สาย 1062 จินกวาฉือ (金瓜石) ซึ่งสุดสายสามารถไปยังเหมืองทองได้ ค่ารถ 100 NTD แต่เราลงที่จิ่วเฟิน ค่ารถ 90 NTD เวลาลงก็ไม่ยากครับเพราะคนจะลงเกือบทั้งคันเลยทีเดียว สามารถใช้บัตร easy card ได้นะครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆทีจิ่วเฟิ่นจะเป็นหมู่บ้านโบราณที่อยู่บนเขา เป็นถนนสายของกินมีของกินมากมาย ด้วยความตั้งใจตอนแรกกะจะไปชิมเต้าหู้เหม็นซักหน่อย แต่เนื่องจากเป็นคนไม่ชอบเต้าหู้อยู่แล้วประกอบกับเจอกลิ่นเข้าไปก็ไม่ไหวเหมือนกันครับเลยขอผ่าน หันไปกินน้ำแข็งใสที่ใส่แป้งต้มสีต่างๆ ก็แปลกดีราคา 40 NTD รถชาติจะเปร้ยวๆเย็นๆ เข้ากับแป้งดีครับ แต่พอน้ำแข็งใสหมด ไอ้แป้งที่เหลือก็กินไม่ลงซะแล้วครับ ลองชิมน้ำมะนาวที่เป็นวุ้น ซึ่งจะเปรี้ยวก็ไม่เปรี้ยวออกแปลกๆ แต่ก็อร่อยดีครับ ตามด้วยไส้กรอกซึ่งค่อนข้างจะหวานกว่าบ้านเราแต่ก็อร่อยกว่า หลังจากเริ่มอิ่มก็ปิดท้ายด้วย หอยชักตีนมั้งครับไม่แน่ใจกับน้ำจิ้มแบบสุกี้ รสชาติพอรับได้ หันไปเห็นเห็ดย่างเริ่มไม่ไหวครับ อิ่มซะแล๊ะ สาวน้อยขอปิดท้ายด้วยไอศครีม ก็อิ่มกันไปหลังเดินชมวิวภูเขาและถนนสายของกินจนพอใจเราก็กลับด้วยรถเมล์สายเดิมมาลงที่เดิม จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังย่านซีเหมิน เมื่อขึ้นจากสถานีรถไฟฟ้าปรากฎว่าคนเยอะมากๆครับ มันเหมือนเป็นย่านช็อปปิ้ง เสื้อผ้าที่นี่จะเน้นสไตด์เจ้าหญิงซะสวนใหญ่ ก็เดินพอเหนื่อยเพราะไม่รู้จะซื้ออะไร ก็ตัดสินใจกลับโรงแรม กะจะตื่นเช้าเพื่อเดินทางไปเย่หลิ่วในวันพรุ่งนี้เช้าวันที่ 2 หลังตื่นเช้ามากินอาหารเช้า ก็พบกับข้อเสียของโรมแรมครับ คือห้องที่พักไม่มีหน้าต่าง พอลงมาปุ๊บเจอฝนตกหนักมากครับ ออกไปไหนไม่ได้เลย เพราะไม่ได้เตรียมล่มมา เลยนอนสบายอยู่บนห้อง จนบ่าย 2 ฝนก็หยุดครับ เลยต้องรีบออกมาเปลี่ยนแผนไป CKS MEMORIAL HALL ซึ่งสวยมากๆ เสียดายตอนที่ไปมีจัดงานเกี่ยวกับบาส NBA ทำให้ถ่ายรูปได้ไม่สวยเท่าที่ควรหลังจากซักพักฝนก็ตกลงมาหนักมาทีเดียว ก็เลยกลับไปตายลังที่ห้างโซโก้ เพื่อซื้อรองเท้าโอนิซึกะไทเกอร์กลับมาให้แฟนเพื่อนของสาวน้อยที่เค้าฝากซื้อ หหลังเดินจนฝนเริ่มซา ก็เย็นแล้ว เราตัดสินใจไป ตลาดไนท์มาร์เก็ตที่ซื่อหลิน ออกมาก็พบกับร้านขายเสื้อผ้ามากมาย แวะซื้อผลไม้เชื่อมน้ำตาลอร่อยดีหลังเดินซักพักฝนเจ้ากรรมก็ตามมาก่อกวนอีกจนได้ทำให้ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยกลับไปนอนโรงแรมดีกว่า เปียกซ่กเลยครับ เช้าวันสุดท้าย ก็ต้องมาลุ้นกับฝนกันอีกเพราะพยากรณ์อากาศบอกฝนจะตกแทบทุกวัน แต่วันนี้ดีท้องฟ้าแจ่มใสครับ หลังเช็คเอาท์เราก็แวะไปตึกไทเป 101 แวะกินอาหารกลางวัน ของเราเป็นข้าวห่อไข่หมูทอด ส่วนสาวน้อยก็ข้าวกับไก่ต้มของโปรด ปิดท้ายด้วยน้ำกีวีสด เนื่องจากขากลับไม่ได้เตรียม้อมูลไว้ ก็เลยรีบกลับไปเอากระเป๋าไป taipei main station คืนบัตร และสอบถามถึงรถที่ไปสนามบิน เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เดินออกทางออก m5 หรือ z แล้วเดินไปอีกหน่อยถึง จะมีตึกสำหรับรถบัสไปสนามบิน ค่ารถเท่าเดิม ใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็ถึงสนามบิน เค้าจะส่งที่ทอร์มินัล 1 ก่อน ก่อนจะวนรถมาเทอร์มินัล 2 ซึ่งแอร์เอเชียอยู่ที่นี่หลังเช็คอินเรียบร้อยก็รอเวลา จนได้เวลากลับมาถึงกรุงเทพ ประมาณ 3 ทุ่ม วันนั้นดันตรงกับเคอร์ฟิว 5 ทุ่ม หารถกลับบ้านแทบไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ เริ่มต้นกันที่ตึก บริเวณ taipei main station หลังจากเรานั่งรถบัสมาจากสนามบินวิวหลังออกจาก mrt ใกล้ที่พัก มีห้าง ตั้ง 2 ห้างแน่ะ และแล้วเราก็มาถึงโรงแรมของเรากัน ISIS Taipei Boutique Hotelบรรยากาศตอนกลางคืนสวยมากๆรูปโรงแรมแบบเต็มๆภายในโรงแรม ส่วน Lobbyจากนั้นก็มาดูภายในห้องกันครับ บริเวณเตียงนอนมีโต๊ะเขียนหนังสืออันนี้เป็นส่วนรูมเซอร์วิช เวลาเสิร์ฟอาหาร ก็รับจากตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องเปิดประตูรูปในห้องโดยรวมเข้ามาดูในส่วนของห้องน้ำกันบริเวณอ่างล้างหน้าผ้าเช็ดตัว ... คิดเอาเองส่วนของ showerอ่างอาบน้ำจากุสซี่ใหญ่มากๆ หลังเมื่อยก็นอนแช่ดูทีวีไปด้วยมีความสุข หน้าโรงแรมยามเช้า ทาสีชมพูสวยดีอาหารมื้อดึกที่โรงแรมคืนแรก น่ากิน และอร่อยมากๆส่วนรูปนี้คืออาหารเช้า มีหลากหลาย แต่ละวันเมนูก็เปลี่ยนไปเช้าวันที่ 2 ออกเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์ ดร.ซุนยัดเซ็นกระเบื้องบนพื้นทำลายแบบโมเสท อันนี้น่าจะเป็นรูปปั้น ดร.ซุนยัดเซ็นอาคารพิพิธภัณฑ์ถ่ายด้วยซักรูปมองไปเห็นตึกไทเป 101 ด้วยข้างในมีบอกกล่าวเรื่องราวความเป็นมาของไต้หวันรูปปั้นภายในพิพิธภัณฑ์ช่วงที่ไปมีการเปลี่ยนเวรทหารพอดีรูปสลักภายในพิพิธภัณฑ์ตอนที่ไปมีการจัดงานกันด้วยน่าจะคล้ายๆโอทอปบ้านเรา เป็นสินค้าทำด้วยมือ แต่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจวิวไทเป 101 ก่อนกลับต่อไปเราเดินทางไปวัดหลงซานประตูด้านในภายในวัด ตอนที่ไปคนไม่เยอะเท่าไหร่ลายแกะสลักสวยงามลวดลายเยอะ ทองอร่ามหลังคาด้านในกระถางธูปสีทองอร่ามภายในวัดมีลวดลายจีนสวยงามมากมายคนมาไหว้กันเรื่อยๆ ภายนอกมีน้ำตกจำลองและปลาคาร์ฟ เพิ่มความสวยงามให้กับวัด แต่อากาศร้อนมากๆครับต่อจากนั้นเราไปจิ่วเฟินกัน ถนนคนเดินสีแดงด้านขวาครับ ภายในคล้ายๆอัมพวา แต่ขายของกิน อ้อ ไม่ใช่ป้ายเซเว่นด้านบนนะครับ ผู้คนมากมาย ทั้งคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวเริ่มต้นด้วยน้ำแข็งใสใส่แป้งรสต่างๆ อร่อยแบบแปลกๆต่อมาด้วยน้ำวุ้นมะนาว เปรี้ยวแปลกๆอันนี้หอยปิ้งราดน้ำจิ้มสุกี้ อร่อยแบบแปลกๆ เช่นเคยสาวน้อยของกินเต็มมือทางเดินมีขึ้นเขาแบบนี้ด้วยสวยงาม ด้วยวัฒนธรรมเก่าๆเดินออกมาจนสุดจะเจอป้ายแบบนี้วิวจากด้านบนจะเห็นบ้านเรือนที่สร้างไต่ระดับกันบนเขามีร้านน่ารักๆ แบบนี้มากมายบรรยากาศปิดท้ายที่จิ่วเฟินหลังกลับมา ก็ไปต่อที่ซีเมินเติง ย่านช็อปปิ้ง คนเพียบแวะซื้อไก่ทอดโรยพริกที่ร้านนี้ก่อนกลับไปนอนวันถัดมา ออกมาเที่ยว อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คประตูสวยๆที่ทุกคนมาถ่ายรูปกันอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คด้านซ้ายและขวา จะเป็นส่วนจัดแสดง (ไม่ได้เข้าไปดู) บรรยากาศโดยรวมจากนั้นเราไปกินข้าวเย็นกันก่อนปิดท้ายทีตลาดนัดซื่อหลิน ร้านผลไม้ปั่นผลไม้ชุบน้ำตาลหวานเปรี้ยว ชื่นใจวันสุดท้ายเราไปที่ ตึกไทเป 101สัญลักษณ์ ตุ๊กตาน่ารักภายนอกมีสิ่งก่อสร้างสวยๆ น่าถ่ายรูปเห็นรถตำรวจน่ารักดีก่อนจะโซ้ยข้าวกลางวันที่ใต้ตึก อันนี้ข้าวมันไก่ของผมเป็นข้าวห่อไข่กับหมูทอด อร่อยมากๆ หมูเนื้อนุ่มก่อนจะเดินกลับมาเก็บวิวตึกไทเป 101ปิดท้ายที่สนามบิน มีคิตตี้บอกเวลาด้วยสุดท้ายแล้วครับ เป็นเกตคิดตี้ มีของเล่นเด็ก เห็นเด็กๆเล่นกันสนุกสนาน ขนาดผู้ใหญ่ก็มาถ่ายรูปกันตรึมครับ