
อ่ะมาต่อ ไปหน้าเกทกันได้แล้ว เตรียมบิน พึ่บๆ (แหม โล่งไม่มีคนเลย)
ช้าก่อนค่ะ คุณผู้ชม ยังบินไม่ได้ค่ะ ยังไม่ได้เดินดิวตี้ฟรีเลยอ่ะ
แต่สาเหตุที่ดิฉันต้องเดินไปถึงหน้าเก ทก่อน เพราะเราเป็นประเภทป้ำ ๆ เป๋อ ๆ หลงทางซะงั้น เลยเอาชัวร์ไว้ก่อน รู้พิกัดที่ตั้งแล้ว ออกทะเล....เอ๊ย... ออกช้อปได้

แล้วก็จบการช้อปปิ้ง แบบไม่ได้อะไรติดมือกลับมาเนื่องจาก แลกเป็นเงินเยนไปหมดแล้ว จะเอามาใช้ก็กลัวไม่พอ เงินบาทมี 500 เอาไว้ตอนกลับบ้าน กินขนมไรงี้
แลก เงินตอนนั้นเรทแพงค่ะ 39 บาท ประมาณนั้น
แวะชมวิวซักหน่อย ถ่ายมุมห้องน้ำหน้าเกท (ไม่ต้องบอกก็ได้)


ลำนี้ค่ะ ที่จะพาเราไป
ไปด้วยกันนะ

สี่โมงครึ่งกว่า ๆ เขาก็เรียกขึ้นเครื่อง คนมีศักดินาอย่างเดี๊ยนก็ต้องได้ขึ้นทีหลังอยู่แล้ว เพราะซื้อตั๋วแบบ economy class (มีราคาถูกกว่านี้อีกไหมล่ะ ยืนไปก็ไปได้นะ)
ขึ้น เครื่องมา ถ้าจำไม่ผิดที่นั่งแบบ 2-3-2 เราอยู่ริมกระจกขวา ลงนั่งก้อปรากฏว่า
ติดพุง.....


คิดเข้าข้างตัวเองว่าฝรั่งยังงนั่งได้ ทำไมเราจะนั่งไม่ได้ หยิบเข็มขัดมาคาด แม่เจ้า...
สุดสายป่านกันเลยที เดียว (ดีนะยังคาดได้ ไม่งั้นอายเขาตาย)
เอาล่ะ เครื่องเคลื่อนแล้ว สจ๊วดหน้าตาดีเดินผ่านไป เอี้ยวกันจนคอแทบเคล็ด
สายการบินนี้ มีหนุ่มเข้ม ๆ ให้ดูเยอะ โดยเฉพาะสจ๊วตหล่อเชื้อสายอินเดียคมเข้มสะอาดสะอ้านเดินผ่านไปผ่านมา เอ๊ววววว... อ้าว กลับมาเรื่องเที่ยวต่อ
มาชมวิวกันนะคะ

ตรงนี้เหมือนปุยนุ่น สายไหม น่ากินนนน

อยากออกไปกลิ้งเล่น
ของกินมาแระ
มาในกล่องกระดาษ อ๊ะ ๆ อย่าดูถูก

อีกเหตุผลนึงที่เราชอบต่อเครื่องก็คือ มันจะได้กินสองรอบค่ะ

ถ้าบินตรง ออกดึก กินรอบเดียว (ไม่น่าแปลกใจเลยใช่มะ ทำไมนั่งไม่ได้)
อาหารรสชาติใช้ได้ และจากประสบการณ์การนั่งเครื่องบินที่มีน้อยครั้งและภาษาอังกฤษแบบพื้นบ้าน ทำให้ต้องตั้งใจฟังตั้งแต่แอร์ถามแถวหลังว่าจะกินอะไร เพราะถึงเราเดี๋ยวฟังไม่ออกอีก ก็เลยได้ไอ้รูปข้างบนมาค่ะ
(รู้สึกจะ ให้เลือก ปลา กับเนื้อ เย็นแล้วเลยเอาปลาดีกว่า ไม่อยากกินหนัก)
นั่งมองสจ๊วตหนุ่มหล่อเดินไปมา ไม่นานก็มาถึง กัวลาลัมเปอร์
เวลาขณะนั้น สองทุ่มจ้าาาา
ด้วยประสบการณ์อันช่ำชองอีกนั่นแหละ บอกให้ เดินตามชาวบ้านไปโลดดด


ของเราต้องไปต่อเครื่องที่เกท C ค่ะ
แล้วมันไปยัง ไงกันวะคะเนี่ย
อ้อ.... ต้องนั่งรถไฟต่อไป อ่ะตามมา
(ดีนะที่ เครื่องออกห้าทุ่ม มีเวลาเฟอะฟะ เหลือเฟือ เหอ เหอ)

มาถูกทางแล้ว

แวะฉี่ก่อน เดี๋ยวอีกหลายชั่วโมง

ในที่สุดก็มาถึงหน้าเกท
ไม่มีคนเลยค่ะ มีแต่กลุ่มที่ขึ้นเครื่องมาจากสุวรรณภูมิด้วยกัน เป็นฝรั่ง 2-3 คน
กว่า เครื่องจะออกก็ห้าทุ่ม โอ้เอ้ อยู่สามทุ่มกว่า โทรหาแม่ดีกว่า
แต่
ว่า
โทรศัพท์ ที่เปิดโรมมิ่งไว้จับสัญญาณโทรศัพท์เจ้าไหนไม่ได้ทั้งสิ้น เอาไงดีวะเนี่ย
เดิน หาโทรศัพท์หยอดเหรียญ แอ๊ ที่นี่มาเลย์นะ จะเอาเหรียญอะไรหยอด อ้อ... มีช่องบัตรเครดิตด้วย
บ้า... คนโลว์เทคอย่างเราไม่เอาด้วยหรอก ว่าแล้วควักไอโฟนขึ้นมา บอกเพื่อนให้โทรไปบอกแม่ดีกว่า
เหอะ ๆ ไม่มีอินเตอร์เน็ตให้จับแถวนี้เล้ยยยยย มีของสนามบิน ติด ๆ ดับๆ
จำ ได้ มีคนเคยบอกว่า starbuck มีเน็ตให้จับฟรี มาค่ะ เดินหา starbuck กัน
เจอแล้ว....
ที่อาคารนี้มี starbuck อยู่ตรงชั้นลอย จะไปจับสัญญาณเฉย ๆ ก็กะไรอยู่ กินกาแฟดีกว่าเนอะ
เอ่อ ไม่มีตังค์....
ในที่สุดก็ยอมใช้บัตรเครดิตจนได้ ตกราคาแก้วละ 14RM (140 บาท)

ขอบอกว่าอร่อยจริง ๆ นะ ตอนสั่งก็สั่ง tea latte อะไรสักอย่าง บวก vanilla
หลังจากกลับจากญี่ปุ่นมา ที่ไทยมีแบบนี้ไปสั่งอีก ไม่เหมือนกันนะ แต่จำไม่ได้ว่าสั่งอะไร เพราะภาษาอังกฤษง่อยเปลี้ย ชี้ ๆ เอา
เอาล่ะ พอจับสัญญาณได้ ก็บอกเพื่อนที่ออนไลน์อยู่ให้โทรไปที่บ้านทีไม่ต้องเป็นห่วงว่าตอนนี้ถึงมา เลย์แล้ว พอภาระกิจเรียบร้อยแล้วก็มานั่งเหงา ๆ
เดินชมสินค้า (ไม่มีตังค์ซื้อ) แวะถ่ายรูป
เครื่องบินลำนี้จะพาเราไปค่ะ

ขอตัดจบแค่นี้ก่อน ขึ้นกระทู้ใหม่จะได้ไม่สับสนกันนะคะ
ไปตอนต่อไปเลยจ้า
กดเลย