ประโยชน์ของหินฟอสเฟต
กลุ่มวัสดุปูนในบ้านเรานั้นมีให้เลือกใช้ค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นปูนมาร์ล ปูนเปลือกหอย ปูนแคลเซียม ปูนเผา ปูนขาว โดโลไมท์ และฟอสเฟตเหมาะต่อการนำไปใช้ในในเลือกสวนไร่นาในอดีตนั้นจะได้รับการจำแนกแจกจ่ายจากภาครัฐกันค่อนข้างมากเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงบำรุงดินโดยที่ไม่ทราบว่าถ้านำไปใช้กับดินที่มีค่าพีเอชเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชอยู่แล้วนั้นจะทำให้เกิดการสะสมด่างในดินทำให้ดินเสียกลายเป็นดินด่างขาดความเหมาะสมต่อการนำไปใช้ในการปลูกพืชหรือเร่งการเจริญเติบโตเพราะดินด่างจะจับตรึงปุ๋ยและธาตุอาหารบางตัว ปลดปล่อยไนโตรเจนสูญสลายหายไปในอากาศได้ง่ายอีกทั้งจะช่วยทำให้โมลิบดินั่ม แมกนีเซียม และซัลเฟอร์ละลายออกมามากเกินไปจนเป็นอันตรายต่อพืชทำให้ใบไหม้อีกทั้งการใช้ปูนจนเกินความจำเป็นหรือเกินความพอดีทำให้ต้องเสียต้นทุนในการแก้ไขปรับปรุงดินด่างให้กลับมาอยู่ในสภาพที่เป็นกรดอ่อนอีกซึ่งเป็นการเสียโอกาสในการเพาะปลูกเนื่องด้วยต้องใช้ระยะเวลานาน หินฟอสเฟตหรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า ร๊อคฟอสเฟตนั้นควรจะนำมาใช้ให้ตรงกับช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชเช่นใช้รองก้นหลุมปลูกเพื่อสร้างหรือกระตุ้นให้เกิดรากหาอาหารได้มากขึ้นแต่ต้องใช้เพียงเล็กน้อยพอประมาณเพียง 2-3 ช้อนแกง ในดินที่มีสภาพเป็นด่างควรใช้อย่างระมัดระวังหรือไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้เลยเพราะแทนที่จะได้ประโยชน์จากธาตุฟอสฟอรัสแต่กลับได้ความเป็นด่างสะสมในดินเข้ามาแทนอาจจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีในดินที่เป็นด่างนั้นกลุ่มวัสดุปูนต่างๆ แทบไม่จำเป็นเลยในปัจจุบันก็สามารถที่จะใช้หินแร่ภูเขาไฟในรูปแบบต่างๆ (ซีโอ-พูมิช,ซีโอ-พูมิชซัลเฟอร์)เข้ามาทดแทนได้โดยที่ไม่สร้างปัญหาเรื่องดินเป็นด่าง หรือจะใช้ขี้เถ้าจากต้นงาหรือถั่วเหลืองก็มีแร่ธาตุแคลเซียมฟอสเฟตสูงเช่นกันอันนี้ก็ต้องค่อยๆคิดค่อยๆทำกันดูนะครับ หินฟอสเฟตนั้นพืชมีความต้องการใช้มากในช่วงที่มีการออกดอก ผสมเกสรและในระยะที่เป็นผลแล้ว ถ้าในดินมีการสะสมธาตุฟอสฟอรัสและแคลเซียมน้อยพืชจะแสดงอาการขาดได้ทันทีและมีความชัดเจนค่อนข้างมาก ภาพรวมของการที่พืชต้องการใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัสก็คือในช่วงที่มีมีการเปลี่ยนผ่านเปลี่ยนถ่าย เปลี่ยนสถานการณ์การเจริญเติบโตไปในแต่ละช่วง ในไม้ผลต่างๆสามารถใส่ฟอสเฟตหรือนำไปผสมน้ำฉีดพ่นก่อนออกดอก 1 2 สัปดาห์ ในผักกินใบใส่หรือฉีดพ่นหลังจากผักมีใบจริง 2 -3ใบ ส่วนผักข้อถี่ ผักในตระกูลกะหล่ำให้ใส่หรือฉีดพ่นเริ่มห่อหรือสร้างหัว และผักที่กินผลชนิดต่างๆควรใช้ฟอสเฟตในช่วงระยะที่มีการออกดอกจะทำให้ขั้วดอกเหนียวและแข็งแรงดียิ่งขึ้น มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
Create Date : 31 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2555 17:57:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4334 Pageviews. |
|
|
|