ฮอร์โมนไข่ ทำง่ายใช้ทดแทน แพคโคลบิวทราโซนและโพแทสเซียมคลอเรท
ได้มีโอกาสนำเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องฮอร์โมนไข่ไปส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้ในการเกษตรตั้งแต่ปี2545 จากคำแนะนำของท่านอาจารย์สุวัฒน์ ทรัพยะประภา ซึ่งเป็นกัลยาณมิตรต่างวัยของท่านอาจารย์ดีพร้อมไชยวงศ์เกียรติ โดยทั้งสองท่านได้มีโอกาสประสบพบเจอกันในกิจกรรมทางพุทธศาสนาผมไม่แน่ใจว่าในแง่วิปัสนากรรมฐานหรือกิจกรรมด้านอื่นๆแห่งพุทธพีธีเพราะท่านอาจารย์ดีพร้อมได้เคยบอกไว้นานหลายปีถ้ามีโอกาสอาจจะต้องสอบถามท่านอาจารย์สุวัฒน์อีกครั้งให้หายคลายสงสัยเป็นแน่แท้ ส่วนจะถามท่านอาจารย์ดีพร้อมนั้นคงหาได้ไม่เพราะท่านได้จากพวกเราไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2551 โน่น โดยส่วนใหญ่ท่านอาจารย์สุวัฒน์จะให้เกียรติเรียกท่านอาจารย์ดีพร้อมว่า...อาจารย์และให้ลูกศิษย์ลูกหาของท่านเรียกท่านอาจารย์ดีพร้อมว่าอาจารย์ใหญ่อีกทีหนึ่งนี่ก็เป็นวัฒนธรรมสืบสานประเพณีที่ดีงามที่ลูกศิษย์ลูกหารุ่นต่อๆมาก็ยังให้ความเคารพนพนอบต่ออาจารย์ทั้งสองท่านอยู่ตลอดเวลาเพราะถือว่าทั้งสองท่านนั้นมีวิชาความรู้คุณูปการที่มอบให้แด่พี่น้องเกษตรกรไทยทั้งใหม่เก่าอยู่ตลอดเวลา ฮอร์โมนไข่นั้นวัตถุประสงค์เริ่มต้นเพื่อบำรุงปรุงแต่งแร่ธาตุวิตามินสารอาหารให้แก่ต้นไม้ที่ดินขาดความอุดมสมบูรณ์อีกทั้งใช้ในการเปิดตาดอกเป็นสำคัญโดยเฉพาะพืชที่มีแต่ใบไร้เม็ดไร้ผลมาเป็นระยะเวลานานด้วยแล้วเมื่อนำฮอร์โมนไข่ไปราดรดในอัตรา 20 -30 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตรทุก 3 หรือ 7 วันไม่นานวันต้นที่เหงาเฉาดอกใบก็จะเริ่มมีช่ออั้นกั้นปริ่มที่ปลายยอดไม่ช้าไม่นานก็แทงดอกออกผลออกมาให้ผู้คนได้ยลชิมลิ้มรสสมปรารถนาเนื่องด้วยในอดีตเทคโนโลยีและนวัตกรรมยังไม่ก้าวหน้ามากนัก (20 -30 ปีที่แล้ว) พืชผักผลไม้แต่ละชนิดล้วนเกิดขึ้นได้ในแต่ละท้องถิ่นลำไย เงาะ ทุเรียน จะนำไปปลูกต่างถิ่นก็ให้มีอันเป็นได้แต่ใบ ไร้ผล (ผู้เขียนเคยเห็นคุณปู่นำลำไยจากเพื่อนที่ไปมาหาสู่นำมาปลูกที่บ้านก็มีแต่ใบไม่มีลูก)นำทุเรียน หรือส้มมาปลูกภาคกลาง (จังหวัดอ่าทอง สิงห์บุรี ขัยนาท)ก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลกแหกความธรรมดาจึงน้อยนักที่ภาคกลางจะมีผลไม้อย่างอื่นๆเข้ามา นอกจากกระท้อน มะม่วง มะละกอ กล้วย อ้อย แห้ว ฯลฯ (ต้องขอออกตัวว่านี้เป็นเพียงความคิดเห็นอันคอดและแคบของผู้เขียนเพียงคนเดียวนะครับ) ฉะนั้นการที่จะทำให้พืชไร่ไม้ผลเกิดลูกติดดอกนอกฤดูก็จะมีการนำสารเคมีนานาชนิดนำมาทดลองดัดแปลงแต่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์กับสิ่งที่ตนเองต้องการโดยเฉพาะสารแพคโคลบิวทราโซน ที่ใช้ในมะม่วง และโพแทสเซียมคลอเรทในลำไยที่มักจะได้ยินชินกันทั่วในช่วงสิบกว่าปีมานี้ ทำให้สวนมะม่วงและสวนลำไยส่วนใหญ่ของประเทศที่ถูกมือปืนรับจ้างต่างถิ่นเข้ามาอาสาดูแลจัดการสวนฉีดยัดอัดแน่นสารเคมีต่างๆเหล่านี้ลงไปทั้งดิน น้ำ อากาศ ส่งผลทำให้มะม่วงและลำไยที่ได้รับสารแห่งการทรมานเหล่านี้ล้วนมีอาการคล้ายคนญวนครวญฝนเหลืองจากประเทศอเมริกาทิ้งบอมสารในกลุ่มChlorophenoxy herbicide ทำให้กิ่งก้านใบเหี่ยว ไหม้ หงิกงอ เจ้าของสวนเดิมจะกลับมาทำอีกก็หมดอาลัยตายอยากยากที่จะกู้ฟื้นคืนมาได้ จะเรียกร้องอะไรเสือปืนไวก็หลีกหนีไปไกลห่างแล้ว เพราะฉะนั้นทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษจึงพยายามที่จะชี้นำส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ฮอร์โมนไข่ทดแทนการใช้สารเคมีดังกล่าวและให้หันมาใช้ระบบการสร้างความสัมพันธุ์ของปริมาณ คาร์บอนและไนโตรเจน (C :N RATIO)ในสัดส่วนที่สมดุลเหมาะสมกับช่วงฤดูกาลมากกว่า เพราะไม่เป็นการทำลายระบบนิเวศน์และทรมานต้นไม้อีกด้วย มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreeangro.com
Create Date : 01 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 1 ตุลาคม 2555 18:04:00 น. |
|
2 comments
|
Counter : 7018 Pageviews. |
|
|
|