ฝนตกไม่หยุดฉุดรั้งใบอ่อนด้วยหินภูเขาไฟปลอดภัยสบายต้นทุน
โดยปรกติทั่วไปชาวสวนมะนาวมักจะใช้ 0-52-34 (Mono Potassium phosphate), 0-42-56 (Tetra Potassium pyro Phosphate) ในการยับยั้งระงับใบอ่อนเพื่อบังคับให้มะนาวสะสมอาหาร เตรียมพร้อมในการสร้างตาดอกและส่วนใหญ่ก็จะได้ผลดีเมื่อทำกับมะนาวปีมะนาวที่ออกดอกในห้วงช่วงเดือน สิงหาคม ถึง กันยายน ซึ่งก็จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในห้วงช่วยธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งก็จัดเป็นมะนาวปีราคาไม่ได้ดีเด่เหมือนช่วงหน้าแล้ง และก็อาจจะมีดอกที่ทยอยออกไปเรื่อยๆและออกชุดใหญ่อีกครั้งในห้วงช่วงเดือนธันวาคมและเดือนมกราคมซึ่งดอกชุดนี้ก็จะไปให้ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ในห้วงช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งก็เป็นช่วงหน้าฝน ก็จะคร่อมช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนซึ่งถือว่าเป็นห้วงช่วงที่มีมะนาวมีราคาแพง การใช้ปุ๋ย 0-52-34 หรือ 0-42-56 นั้นจะสังเกตว่า แร่ธาตุไนโตรเจนจะมีค่าเท่ากับศูนย์ คือไม่มีไนโตรเจนเลยจึงทำให้มะนาวจะหยุดการเกิดยอดอ่อนและสะสมอาหารในกลุ่มคาร์โบฮัยเดรทเพิ่มมากขึ้นเรื่อยเมื่อคาร์บอนสูงกว่าไนโตเรจน จนเพียงพอ พี่น้องเกษตรกรโดยทั่วไปก็จะใช้หลักหรือเทคนิคการหยุดน้ำไปสักประมาณสองสามอาทิตย์พอครบกำหนดได้ตามที่ต้องการก็จะขึ้นน้ำพร้อมกับการฉีดพ่นปุ๋ย 13-0-46 (โพแทสเซียมไนเตรท)เพื่อเปิดตาดอกในกรณีที่มะนาวนั้นถูกบังคับหรือจัดการธาตุอาหารแบบการปุ๋ยเคมีเป็นหลักเนื่องด้วยอิทธิพลของปุ๋ย ก็จะต้องใช้ ปุ๋ยสูตร 13-0-46(Potassium Nitrate) ในการฉีดพ่นต่อเนื่องเพื่อดึงตาดอก และถ้ายังมีปริมาณไนโตรเจนหลงเหลือตกค้างอยู่หรือมีไนโตรเจนจากน้ำฝนที่หล่นร่วงมาอยู่ตลอดเวลาอันนี้ก็อาจจะต้องใช้ปุ๋ย 0-0-60 (Muriate of Potash) หรือชาวบ้านส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า โพแทสเซียมคลอไรด์เข้ามาช่วยระงับยับยั้งใบอ่อนด้วยอีกทางทั้งทางดินและทางใบ ความจริงถ้าเราหมั่นศึกษาหาความรู้ทำอาชีพเกษตรกรรมตามแนวทางเกษตรพอเพียงเกษตรทฤษฏีใหม่รับใช้แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราก็จะทราบว่าการควบคุมคอนโทรลให้เกิดการสร้างใบ เกิดการสะสมอาหาร เกิดการสร้างดอกนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งแต่เพียงปุ๋ยเคมีหรือสารเคมีเอามาบังคับทำให้พืชหรือมะนาวออกดอกได้แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นเราสามารถที่จะใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ ฮอร์โมนไข่ ออร์โมนหัวปลี(เร่งดอก), ฮอร์โมนแกนกล้วย (เพิ่มฮอร์โมนจิ๊บเบอเรลริกแอซิด),น้ำมะพร้าวอ่อนหรือสาหร่ายให้สาร ไซโตไคนิน (Cytokinin) อื่นๆอีกเยอะแยะมากมายที่ช่วยให้เราไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทองสตุ้งสตางค์ซื้อไปเสียทั้งหมด หรือแม้แต่การระงับยับยั้งใบอ่อนในช่วงที่ฝนตกชุกโดยเฉพาะในห้วงช่วงเดือนที่เซียนมะนาวทั้งหลายเขามักจะเปิดดอกให้มะนาวออกหน้าแล้งกันก็คือเดือนสิงหาคมและกันยายน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ฝนกระน่ำซัมเมอร์เซลล์ลงมาค่อนข้างมากทำให้มะนาวที่ถูกควบคุมแต่เพียงปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ ไม่ว่า 0-52-34, 0-42-56,0-0-60 ซึ่งแต่ละตัวนั้นราคาค่อนข้างเรียกได้ว่า แพงขั้นเทพเพราะจัดอยู่ในหมวดหมูที่เรียกว่าแม่ปุ๋ย ความจริงการควบคุม (Control) ไนโตรเจนที่มากับน้ำฝนหรือจากดินที่เป็นดินเหนียวแล้วมีการเติมปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกแล้วบริหารจัดการไม่เหมาะสมมีหลงเหลือตกค้างมาถึงห้วงช่วงเดือนที่จะเปิดตาดอกจึงทำให้มะนาวมีแต่ใบอ่อนไม่สามารถเกิดตาดอกได้น้น ก็สามารถใช้สารธรรมชาติอย่างฮอร์โมนไข่,น้ำตาลทราย (Sucrose),รวมถึงหินแร่ภูเขาไฟอย่าง พูมิช (Pumish), พูมิชซัลเฟอร์ (Pumish Sulpher) ด้วยการหว่านกระจายใต้โคนต้นรอบทรงพุ่มความโปรงพรุนของหินแร่ภูเขาไฟที่ผ่านความร้อนระเบิดเกิดเป็นลาวาที่ก๊าซและไอน้ำระเหยออก(C.E.C. = Catch Ion Exchange Capacity) ที่สามารถช่วยทำให้ประจุบวกของยูเรียไนโตรเจนที่อยู่ในรูปของแอมโมเนียมไอออนถูกจับตรึงด้วยหินภูเขาไฟและค่อยๆปลดปล่อยให้กับรากมะนาวอย่างสมดุล (SlowRelaese Fertilizer) ทำให้มะนาวไม่กินปุ๋ยไนโตรเจนอย่างมูมมามทำให้เหมาะสมต่อการเปิดดอกช่วยทำให้มะนาวออกได้ในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนแม้แต่การไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีสูตรดังกล่าว ก็ยังทำให้ออกดอกได้อย่างสบาย ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เรืองเกษตรปลอดสารพิษให้คิดถึงเรานะครับ โทร. 0-2986-1680 - 2 มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
Create Date : 29 กันยายน 2558 |
Last Update : 29 กันยายน 2558 17:51:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 560 Pageviews. |
|
|
|