Group Blog
 
All Blogs
 

สูตรเสน่หา -กิ่งฉัตร-

เรื่องของอลิน นางเอกสาวเจ้าบทบาท ที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง ความที่ภายนอกกับภายในแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ภาพลักษณ์ของเธอเป็นนางเอ๊กนางเอก แต่ตัวจริง หญิงสาวเป็นคนเอาแต่ใจ หลงตัวเอง และไม่มีอะไรที่เหมาะกับความเป็นนางเอกหลงเหลืออยู่เลย อลินได้พบกับอนุชา ผู้จัดรายการทางโทรทัศน์หนุ่มผู้เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ เธอใฝ่ฝันอยากได้ผู้ชายแบบนี้เป็นคู่ครองมานานแล้ว...จึงทำทุกวิถีทางให้ตัวเองได้ทำงานในรายการอาหารที่เขากำลังจะจัดให้ได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้พบกับพสุ อาจารย์สอนการทำครัว ที่ไม่มีอะไรที่ตรงสเปคของเธอแม้แต่นิดเดียว พสุทำให้อลินได้เป็นพิธีกรรายการอาหารของอนุชาและเป็นที่ปรึกษาให้เธอตลอดเวลา จนกระทั่งถึงเวลาที่อลินได้ตระหนักว่าสิ่งที่เธอใฝ่หามาตลอดอาจไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการมาทั้งชีวิต...เธอจึงต้องรีบเลือกก่อนจะสายไป

ความจริงมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กระจุ๊กกระจิ๊กเกิดขึ้นในเรื่องอีกแยะเลยล่ะครับ...แต่เล่าข้ามไปเพราะคิดว่าเอาโครงเรื่องหลักมาบอกก็พอ ไม่งั้นอ่านแล้วจะไม่สนุก

จุดเด่นของนิยายของกิ่งฉัตรคือความเป็นนิยายรักร่วมสมัยที่มีตัวเอกแบบที่เราเข้าใจ สนใจ ทำให้เรื่องสนุกและน่าสนใจมากขึ้น ตัวอลินในเรื่องเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆ และกิ่งฉัตรก็เก่งมากที่สร้างตัวละครของเธอออกมาแบบตัวละครที่คนไม่รักไม่ชอบ(แต่เป็นสไตล์น่ารักคิกขุเหมือนนางร้ายในการ์ตูน) ก่อนที่จะทำให้ตัวละครร้ายๆ ได้เรียนรู้อะไรขึ้นมานิดหนึ่ง...

ปกติผมมักจะแพ้ทางนิยายที่มีตัวละครเป็นนางเอกแบบร้ายๆ (สงสัยผมจะชอบ Femme Fatale อ่ะ) แบบเดียวกับนางเอกในนิยาย Trading Up ของ Candace Bushnell น่ะครับ ก็เลยชอบอลินไม่แพ้กัน แม้อลินจะติดเป็นร้ายตลกไปนิดก็เถอะ

แนะนำให้อ่านอย่างแรงครับผม!




 

Create Date : 12 มกราคม 2548    
Last Update : 12 มกราคม 2548 10:14:34 น.
Counter : 1101 Pageviews.  

Latter Days -C.J.Cox/T.Fabris-

นิยายแนว Gay Lit ที่ T. Fabris พัฒนาเรื่องจากบทหนังของ C.J.Cox (คนเขียนบทหนังเรื่อง Sweet Home Alabama) เรื่องราวของคริสเตียน หนุ่มหล่อเจ้าสำอางที่ใช้ชีวิตวันๆ หนึ่งหมดไปกับการทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารและสนุกสนานไปกับชีวิตวัยหนุ่มที่เต็มไปด้วยไฟ(หนักไปทางไฟราคะซะเยอะ)

อยู่มาวันหนึ่ง คริสเตียนได้เห็นอารอน มิชชันนารีนิกายมอร์มอน และเพื่อนๆ มิชชันนารีที่เพิ่งย้ายเข้ามาพักที่อพาร์ตเมนต์ซึ่งอยูถัดไปจากอพาร์ตเมนต์ของเขา คริสเตียนจึงพนันกับเพื่อนๆ ว่าเขาจะจัดการกับมิชชันนารีหนุ่มๆ พวกนี้ให้ได้ โดยเฉพาะอารอนที่เขารู้สึกว่ามีอะไรโยงใยกับเขาได้อย่างน่าประหลาด

คริสเตียนพยายามทุกวิถีทางที่จะหาทางใกล้ชิดกับอารอนจนกระทั่งสบโอกาสเหมาะ เขาค่อยๆ ตีสนิทกับอารอนระหว่างที่อารอนขนเสื้อผ้าไปซักที่ห้องซักผ้า และเริ่มรุกไล่จนในที่สุดอารอนก็ยอมรับว่าตนมีความรู้สึกกับคริสเตียนเหมือนกัน ทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่มก่อนที่ ไรเดอร์ เพื่อนมิชชันนารีของอารอนมาพบเข้า

ผลก็คืออารอนถูกส่งตัวกลับบ้าน คริสเตียนรู้สึกผิดมาก เขาตามอารอนมาที่สนามบิน ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน ก่อนจะแยกจากกันไป

อารอนต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวเคร่งศาสนาที่ยอมรับไม่ได้กับการที่ลูกชายเป็นเกย์ คริสเตียนเองก็พยายามติดต่ออารอนทุกวิถีทางแต่ครอบครัวของเขากลับกีดกันไม่ให้คริสเตียนได้คุยกับอารอน ซ้ำร้าย แม่ของอารอนบอกกับอารอนว่าที่คริสเตียนสนใจอารอนเป็นเพราะเขาพนันกับเพื่อนๆ ไว้ อารอนเป็นเพียงแค่ของเล่นชิ้นใหม่ของเขาเท่านั้น

ความจริงจากปากของแม่ทำให้อารอนเสียใจมาก เขากรีดข้อมือตัวเอง ดีที่น้องสาวของเขามาช่วยไว้ทัน พ่อแม่ของอารอนตัดสินใจส่งอารอนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกลออกไป แต่ทันทีที่อารอนได้ยินเพลงซึ่งจูลี่ เพื่อนสนิทของคริสเตียนแต่งจากชีวิตรักของคริสเตียนกับอารอน

เพลงสั้นๆ เพลงนั้นทำให้อารอนตัดสินใจได้ทันทีว่าเขาไม่ได้ตัดสินใจผิดที่หันหลังให้ครอบครัว ศาสนา ความศรัทธาเลย เพราะสิ่งที่เขาได้กลับมาคือความรักอันยิ่งใหญ่นั่นเอง

นิยายเล่มบางๆ ครับ ดัดแปลงมาจากบทหนังอีกทีหนึ่ง เรื่อราวก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก มีนัยยะในแบบเดียวกันกับ Gay Lit เรื่องอื่นๆ ก็คือการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับ การ Coming out และความรัก

จุดเด่นอย่างหนึ่งที่โดดเด่นออกมาในนิยายเรื่องนี้ก็คือรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับความเชื่อทางศาสนา และนัยยะของการหันหลังให้ศาสนา หรือแม้แต่รสนิยมทางเพศที่ขัดต่อกฎศาสนา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ Gay Lit เรื่องนี้มีสีสันมากขึ้น ทำให้เรื่องธรรมดาดูไม่ธรรมดาขึ้นมาบ้างนิดหนึ่ง

แต่หากไม่มองอะไรให้ลึกซึ้ง มันก็เรื่องรักธรรมดาเรื่องหนึ่งนี่แหละครับ เรื่องของคนสองคนที่รักกันและอานุภาพของความรักที่ดลบันดาลให้เกิดทุกสิ่งทุกอย่างได้

75% ครับ อ่านเพลิน แต่ไม่แปลกใหม่!




 

Create Date : 12 มกราคม 2548    
Last Update : 12 มกราคม 2548 10:06:36 น.
Counter : 991 Pageviews.  

The Line of Beauty -Alan Hollinghurst-

นิยายรางวัลแมนบุ๊กเกอร์ไพรซ์ปีนี้ครับ...เล่าเรื่องของนิโคลาส หรือนิค เกสต์ เด็กหนุ่มที่สบโอกาสเหมาะได้ย้ายเข้าไปอาศัยอยู่กับครอบครัวเฟดเดนซึ่งเป็นครอบครัวนักการเมืองสังกัดพรรค Tory (หรือพรรค Conservative นั่นแหละครับ) เนื่องจากเขาเป็นเพื่อนของโทไบแอส ลูกชายของครอบครัวนี้ นอกเหนือจากโทไบแอสแล้ว ครอบครัวเฟดเดนก็ประกอบไปด้วยเจอรัลด์ และราเชล พ่อแม่ของโทไบแอส และแคทรีน น้องสาวของโทไบแอสที่มีอาการทางประสาทเล็กน้อย(หรือไม่น้อยก็ไม่แน่ใจ ฮ่าๆๆ)

นิยายแบ่งเรื่องออกเป็นสามส่วน สามตอน ตอนแรกThe Love -Chord จะเป็นการเปิดปูประเด็นของเรื่อง แนะนำตัวละครหลักๆ โดยเฉพาะตัวละครนิค ซึ่งแค่เพียงไม่กี่หน้า ก็ถูกเปิดเผยความลับที่เขาเป็นเกย์ออกมาเสียแล้ว...อย่างไรก็ดีความเป็นเกย์ของนิคไม่ได้เป็นที่เปิดเผยมากนัก และแม้ว่าคนในครอบครัวเฟดเดนจะรู้สึกแปลกๆ กับนิค แต่พวกเขาก็อยากจะคิดว่านิคเป็นพวกรักสวยรักงาม(นี่คือที่มาของคำว่า Line of beauty ครับ) เหมือนหนุ่มเจ้าสำอางทั่วไปมากกว่า เรื่องราวในตอนแรกจะติดตามรายละเอียดของ นิคซึ่งบอกกล่าวเล่าขานตัวตนของเขาให้คนอ่านรู้จัก เปิดเผยความรู้สึกลุ่มหลงที่เขามีต่อสิ่งสวยงามรวมไปถึงความสวยงามและรื่นรมย์แบบผู้ดีชั้นสูงในสังคมที่ครอบครัวเฟดเดนหยิบยื่นให้เขาด้วย เรื่องมาจบลงที่ความรักระหว่างนิคกับลีโอ หนุ่มผิวสีที่เป็นความรักที่กึ่งๆ ต้องแอบๆ หลบๆ ซ่อนๆ

จากนั้นเรื่องก็กระโดดมายังตอนที่สอง To whom you beautifully belong? เวลาผ่านไป นิคเปลี่ยนตัวเองจากเด็กหนุ่มไร้ประสบการณ์มาเป็นหนุ่มเหน้าประสบการณ์ช่ำชอง และกำลังสนุกกับยาเสพติดและหนุ่มหน้าใหม่ที่ชื่อวานี วานีเป็นลูกของมหาเศรษฐีชาวเลบานอนที่หน้าฉากทำตัวเป็นหนุ่มเสเพล มีคู่หมั้นสาวแสนสวย แต่ลับหลังแล้วกลับเป็นไอ้ขี้ยา ที่มีนิสัยชอบเซ็กซ์หมู่ นิคเป็นคู่ขาลับๆ ของวานี ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเพริดอยู่กับสังคมชั้นสูงที่ครอบครัวเฟดเดนยื่นส่งมาให้ และยิ่งเขามีวานีเป็นเพื่อนสนิทด้วยแล้ว ประตูอันหนาหนักของสังคมชั้นสูงก็ยิ่งเปิดให้เขาเดินผ่านไปได้อย่างสะดวกใจ (มีอยู่ฉากหนึ่งที่นิคได้เต้นรำกับมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ด้วยครับ...) ในตอนที่สองมาจบเศร้าหน่อยด้วยการเปิดเผยให้เห็นว่าลีโอ คู่รักของนิคในตอนแรกหายไปไหน...และเขาไม่ได้หายไปไหนหรอกครับแต่หนีหน้านิคไปเพราะป่วยเป็นโรคเอดส์ต่างหาก

จากนั้นเรื่องก็รวบเข้าสู่ตอนที่สาม The End of street ซึ่งเป็นฉากปิดท้ายนี้เป็นบทสรุปโดยรวม หลังจากที่เกริ่นถึงโรคเอดส์มาแล้วสองครั้งในตอนที่สอง(นอกจากลีโอแล้วก็มีลุงของโทไบแอสและแคทรีนที่เป็นเอดส์ตาย) ในตอนนี้เรื่องก็ขมวดเข้าสู่ฉากปิดท้ายที่ความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย เริ่มจากความจริงที่ว่าวานีเป็นเกย์ และนิคเป็นคู่ขาลับๆ ของเขา แถมทั้งคู่ยังเคยร่วมเสพสังวาสมั่วยาเสพติดกันในคฤหาสน์ของครอบครัวเฟดเดนอีกด้วย ข่าวที่ว่าทำให้เจอรัลด์ และราเชล เฟดเดน(โดยเฉพาะเจอรัลด์) รับไม่ได้ เพราะข่าวอื้อฉาวทำให้ชื่อเสียงของเขาโฉ่ไปด้วยไม่แพ้กัน อย่างไรก็ดีนอกจากข่าวการเป็นเกย์ของวานีแล้ว ข่าวที่ตามมาติดๆ ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเจอรัลด์กับเลขานุการของตัวเองที่กระฉ่อนได้ไม่แพ้กัน

เรื่องมาปิดท้ายที่นิคจำต้องระเห็จออกจากคฤหาสน์ของครอบครัวเฟดเดน เขารู้ว่าวานีเป็นเอดส์ (และตรงนี้เองที่คนเขียนฉลาดมากตรงที่เลี่ยงไม่บอกว่าแล้วนิคจะเป็นอย่างไรบ้าง เราจะได้เอาไปเดากันต่อเอง...) ฉากสุดท้ายปิดฉากด้วยการให้นิคเข้ามาเก็บของใช้ส่วนตัวของเขาในคฤหาสน์และมองข้าวของสวยงามอย่างอาลัยอาวรณ์เป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับรำพึงรำพันว่าช่างสวยเสียจริงอะไรทำนองนั้นครับ....

ผมว่าเนื้อเรื่องหลักๆ ของนิยายเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากครับ เป็นเหมือนการสำรวจสังคม สภาพการณ์ และการปรากฏตัวของโรคเอดส์เสียมากกว่า นิยายเล่าเรื่องไปแบบเนิบๆ มีนัยยะเสียดสีแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะเสียดสีเรื่องการเมือง สังคมชนชั้นสูง เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ถ้าอ่านแล้วเบื่อก็อาจจะทำให้เผลอวางทิ้งไปเลยครับ เรื่องมาหักเหและสนุกมากขึ้นในส่วนที่เป็นตอนที่สองและขมวดปมตอนท้ายในตอนที่สามได้ดี แม้จะยืดยาวอยู่บ้างก็ตาม

สรุปผมให้เกรดประมาณ 75-80% เป็น So-so reading ครับ อ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้...




 

Create Date : 12 มกราคม 2548    
Last Update : 12 มกราคม 2548 9:33:09 น.
Counter : 584 Pageviews.  

P.S. -Helen Schulman-

นิยายรักร่วมสมัยที่เล่าเรื่องของหลุยส์ ม่ายสาววัย 38 ที่ใช้ชีวิตจ่อมจมอยู่กับอดีตและความรู้สึกเก่าๆ เดิมๆ จนกระทั่งเธอได้พบกับเอฟ สก๊อตต์(ย่อมาจากฟรานซิส สก๊อตต์) เด็กหนุ่มวัย 26 ที่สมัครเข้าเรียนต่อด้านศิลปะ(หลุยส์ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่คัดสรรนักศึกษาสำหรับมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย) ช่างน่าประหลาดที่ชื่อของเขาทำให้เธอนึกถึงแฟนเก่าสมัยมัธยมผู้ที่ทิ้งเธอไปหาเพื่อนสนิท และจากนั้นก็ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตายโดยไม่มีคำร่ำลาใดๆ

และอาจจะเป็นเพราะเอฟ สก๊อตต์ทำให้เธอนึกถึงแฟนเก่า ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจจะเป็นแฟนเก่าของเธอที่ยังไม่ตาย เขาอาจจะกลับชาติมาเกิดเพื่อให้โอกาสเป็นครั้งที่สอง และเพราะความอดอยากปากแห้งในเพศรสมานาน หลุยส์กับเอฟ สก๊อตต์ก็มีอะไรกันในวันแรกที่เธอได้พบกับเขา

ความสัมพันธ์ที่เธอมีกับเอฟ สก๊อตต์ทำให้หลุยส์ได้คิด แต่กว่าเธอจะพบว่าเขาไม่ใช่แฟนเก่าที่เปิดโอกาสครั้งที่สองให้เธอ ทุกอย่างก็เกือบสายเกินไป...(ระหว่างนั้นก็จะมีเรื่องแทรกแซงเข้ามาจากอดีตสามีที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย, แม่ที่เจ้ากี้เจ้าการเกินเหตุ, น้องชายที่ไม่เอาถ่านและเพื่อนซี้ขี้อิจฉาของหลุยส์เข้ามาปะปนด้วย)

ตอนที่อ่าน ความรู้สึกแรกก็คือแหวะ เนื่องจากมันเป็นรายละเอียดของการบ่นกระปอดกระแปด(ขนาดใช้บุรุษที่สามเล่าเรื่องนะครับ ถ้าเป็นบุรุษที่หนึ่งคงจะหนาวกว่านี้มีหวังขว้างทิ้งแน่ๆ) กับชีวิตที่แห้งแล้ง ไม่มีชีวิตชีวาของหลุยส์ ผสมผสานกับฉากรัก(หรือฉาก sex ก็ไม่แน่ใจ) ที่หวือหวา โจ๋งครึ่ม บรรยายแบบอึ้งๆ ช่วงครึ่งแรกนี่ผมแทบวาง...แบบว่ารับไม่ได้ แต่บอกตัวเองว่าเอาน่า...อ่านต่ออีกหน่อย ครึ่งหลัง นิยายเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างหลุยส์กับตัวละครอื่นๆ ที่ไม่ใช่แฟนเก่าที่เธอไม่เคยลืม(และบทรักระหว่างเธอกับเขาที่บรรยายตะพึดตะพือตลอดเวลา) ทำให้เรื่องมีสีสันมากขึ้น และตัวละครเอฟ สก๊อตต์ก็เป็นตัวละครหญ้าอ่อนที่น่าสนใจ และทำให้ชีวิตแห้งแล้งของหลุยส์มีร่องรอยฉูดฉาด(แบบไม่โป๊) มากขึ้น เรื่องเลยสนุกขึ้นหน่อยนึง

สรุปว่าเป็นนิยายรักร่วมสมัยครับ โป๊นิดๆ มีแง่คิดหน่อยๆ ผสมกับเรื่องฟุ้งซ่านของจิตใจผู้หญิงเกือบๆ จะเป็น Chic Lit ได้มั้ง แต่ไม่เป็นก็น่าจะดีกว่า ฮ่าๆๆๆ ที่สำคัญจบแบบ Happy Ending ครับ(เผื่อคุณปันจะสนใจ...)

ผมให้คะแนนไว้ประมาณ 75% ครับ!




 

Create Date : 12 มกราคม 2548    
Last Update : 12 มกราคม 2548 9:30:29 น.
Counter : 485 Pageviews.  

ลมพัดชายน้ำ -กฤษณา อโศกสิน-

หนังสือเล่มบางนิดเดียว (ของผมเป็นฉบับที่พิมพ์โดยดอกหญ้านะ ปัจจุบันรู้สึกว่าเพื่อนดีเอามาพิมพ์ใหม่แล้วครับ) เป็นนิยายขนาดสั้นที่กฤษณา อโศกสินแต่งให้กับนิตยสารรายสัปดาห์ ศรีสยาม ตอนที่กลับมาเปิดตัวใหม่อีกครั้ง(แต่สุดท้ายก็ปิดตัวไปในที่สุด)

เรื่องของพิธี หนุ่มวัย Thirtysomething ที่กำลังอยู่ระหว่างการว่างรัก พ่อของเขามีอาชีพเป็นหมอดู จึงมักจะทำนายทายทักเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ลูกชายเสมอ รวมทั้งเรื่องคู่ที่พ่อบอกว่าเขากำลังจะได้พบคู่แล้ว...

พิธีเหมือนหนุ่มสมัยใหม่ทั่วไปที่ไม่ได้ปักใจเชื่อเรื่องโหราศาสตร์แต่ก็ไม่ถึงขนาดไม่เชื่อ จนกระทั่งเขาได้พบกับหญิงสาวที่ถูกใจคนหนึ่งแต่คลาดกันไป ระหว่างที่ว้าวุ่นใจนั้น เขาก็พบกับหญิงสาวเพื่อนข้างบ้านที่มีชื่อว่าตาบทิพย์หรือตัวเล็ก เขาปิ๊งเธอ และอาศัยอัธยาศัยไมตรีจิตผูกมิตรกับเธออย่างรวดเร็ว(กฤษณาอาศัยความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์และดวงชะตามาสร้างและอธิบายตัวละครได้อย่างแยบยลครับเช่นกรณีนี้ก็บอกว่าพิธีเป็นคนธาตุลมและเป็นหนุ่มเมถุนที่เจ้าชู้) แต่ระหว่างนั้นเอง เขาก็ได้พบกับหญิงสาวคนแรกที่เขาถูกใจและการณ์กลับกลายเป็นว่าเธอคือลูกสาวคนโตของเพื่อนบ้าน พี่สาวของตาบทิพย์ที่ชื่อเยียรบับหรือตัวใหญ่นั้นเอง...

พิธีให้พ่อลองผูกดวงเขากับหญิงสาวทั้งคู่แต่ผลก็ไม่ได้ออกมาได้ดั่งใจ พ่อจึงสอนเขาให้รู้ว่าจริงๆ แล้วดวงชะตามีไว้เพื่อความสบายใจ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือการใช้ใจ ใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นตัวตัดสิน...

นิยายสั้นมากครับประมาณ 100 หน้าได้ แต่ว่าสนุกและอ่านเพลิน มีนัยยะบางส่วนที่พูดถึงเรื่องครอบครัว ความรักความผูกพันและการให้ความรัก เอาใจใส่ต่อคนชรา คล้ายๆ กับเรื่องตะเกียงแก้ว(ที่กฤษณา อโศกสินเขียนเหมือนกันแต่ในนามปากกา กัญญ์ชลา หรือเส้นไหมสีเงินของว.วินิจฉัยกุลทำนองนั้น)

ถ้ามองว่าเป็นเรื่องรักๆ ก็คงจะมองได้ แต่ผมว่าเป็นรักแบบผู้ใหญ่ นิยายไม่หวือหวาวี้ดวิ้ว แต่ก็อ่านแล้วอมยิ้มได้แบบไม่อายใครครับ...90% ครับเอาไปเลย...(หักไป 10 เพราะสั้นเกินเหตุ น่าจะยาวกว่านี้ได้อีก เป็นผมล่ะเอาไปเขียนต่อเป็นภาคสองท่าจะดี ฮ่าๆๆ)




 

Create Date : 12 มกราคม 2548    
Last Update : 12 มกราคม 2548 9:30:42 น.
Counter : 1441 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

Filippo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Filippo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.