|
แอ่วใกล้บ้าน :สองเฒ่าเหล้าตอง (001)
หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตของชาวบ้านผู้ยังคงทำนาข้าวอยู่ วันคืนดูจะเร่งรีบก้าวผ่านศักราชเก่าเข้าสู่ต้นเดือนที่สองของช่วงต้นปีใหม่อย่างรวดเร็ว เด็กนักเรียนนักศึกษาเตรียมตัวดูหนังสือหนังหาเพื่อสอบไล่ให้ผ่านชั้นผ่านวิชาการกันอย่างหมกหมุ่น นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาชิมรสชาติแห่งวิถีชีวิตวัฒนธรรมล้านนาแบบว่าตลาดเชียงใหม่กันมืดฟ้ามัวดิน ตามปฏิทินท่องเที่ยวไทยรักไทย โดยถ้วนทั่ว
แม้กระนั้นบรรยากาศสองข้างทางทุกสายที่พุ่งเข้าหาชุมชนพื้นบ้านล้านนาแห่งหนึ่งซึ่งยังไม่ถูกแปรรูปเป็นสินค้าตัวหนึ่งในตลาดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ย่อมทำให้ใครทุกคนบนเส้นทางสู่หมู่บ้านแห่งนี้พบกับสีสันสวยงามตื่นตาตื่นใจไม่เจือปนอุตริทัศน์ ได้เช่นเดียวกันกับผมและเพื่อนร่วมทางผู้เป็นคนตาดีมิได้ตาบอด
ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ตามเส้นทางสายลำพูนออกไปราวสิบกว่ากิโลเมตร เมื่อเลี้ยวหัวรถเปลี่ยนทิศทางแยกลงสู่ทางเข้ากลุ่มชุมชนหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่หนาแน่นบริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง คนไม่คุ้นเคยเส้นทางจะพบว่ามีถนนตรอกซอกซอยแยกย่อยมากมาย ทะลุถึงกันยุ่งเหยิงสับสนไม่รู้หนเหนือหนใต้ ยากต่อการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางตามที่ตนต้องการ แต่กลับเป็นเรื่องง่ายต่อการหลงทางดั่งได้เข้าสู่เข้าวงกตฉะนั้น
วันนี้พี่หนานเย็นคู่หูของผมทำตัวเงียบสงบเสงี่ยมบ่อู้บ่ปาก ผิดจากวันก่อน ๆ ผมคิดเอาเองว่าแกคงสำรวมตนด้วยว่าเราเข้าใกล้วัดใกล้วาจุดหมายปลายทางเข้าไปทุกทีแล้ว ส่วนในห้วงนึกคิดของผมขณะควบคุมแฮนด์รถจักรยานยนต์คู่ชีพอยู่ก็ยังคงทำงานเป็นปกติวิสัย
ธงชัย ธงชีวิต? ธงจิต ธงวิญญาณ? ธงกิน ธงทาน? ธงงานบุญ งานปอย?
คำถามมากมายผุดพรายขึ้นเป็นลูกโซ่ภายใต้กรอบกลไกแห่งสายพานสมองซีกซ้ายสลับไปมากับสมองซีกขวาของผม กระบวนการตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่การค้นหาคำตอบ ซึ่งก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ความรู้ที่ได้ก็มีถูกบ้าง มีไม่ถูกบ้าง ซึ่งความจริงก็คือไม่มีใครตัดสินลงไปได้เด็ดขาดดอกว่าคำตอบหรือความรู้ที่มนุษย์หามาได้นั้นอันใดถูกอันใดผิด การถกเถียงปัญหาเรื่องความดี ความงาน ความจริง มักจะวนเวียนอยู่เช่นนั้นเอง
กระบวนการเหล่านี้ทำงานเองโดยอัตโนมัติ
มันคงเป็นทักษะนิสัยที่ถูกสร้างขึ้นและสั่งสมผ่านประสบการณ์มานานหลายสิบปี ภายใต้เนื้อนาและดินฟ้าอากาศของโลกการศึกษาอบรมตามแนวทางร่วมสมัย มิใช่คุณสมบัติติดตัวตนผมมาแต่ชาติปางก่อนอย่างแน่นอน
ตุงไจ ตุงชีวิตนำพาเราไปสู่สิ่งใดกัน
ตุงชีวิตจะปรากฏขึ้นเมื่อเวลาใด
ตุงชีวิตจะมีได้ในสถานที่ใด
ตุงชีวิตแต่ละตัวตนหรือหมู่เหล่าของตุงมีความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างไร
ตุงชีวิตมีที่มา ที่ไป ที่อยู่ ที่เป็น ประการใด
ใครสร้างตุงชีวิต สร้างทำไม เพื่ออะไร อย่างไร
ตุงชีวิตบอกอะไร บอกใคร เมื่อไร
..
ปฏิกิริยาส่วนสมองของผมต่อตุงชีวิต เต็มไปด้วยคำถาม คำถาม คำถามและคำถาม ยามอับจนคำตอบ
ผมต้องละทิ้งมันเสียทั้งหมด แล้วผมก็พบความรู้สึกราบเรียบสั้นกระชับ หากทว่าชัดเจนแจ้งกระจ่าง
.
ตุงชีวิต ขึ้นเป็นหมู่ หมู่ตุงชีวิตล้วนหลากหลายรูปพรรณสัณฐานและพื้นเพเผ่าพงศ์วงศ์วาน อันยังผลให้ผู้เป็นเจ้าของก็ดี ผู้คนมาร่วมกินร่วมทานก็ดีและผู้พบเห็นก็ดี ต่างเบิกบานสำราญใจ
แวะส่องทางสักตองสองตอง ดีก่ พี่หนาน? ผมเอ่ยชวนขึ้นโดยไม่มีสะล้อซอซึง
สนุกเมืองฟ้า มีเมฆฟ้ากับฝน สนุกเมืองคน กินเหล้าเมาเหล้า สนุกในคุ้มเจ้า มีปี่พาทย์กลองมโหรีทอง สนุกตุ๊พระ มีแต่ฆ้องกับกลอง สนุกงัวควาย มีแต่หนองกับหญ้า สนุกสูกับข้า
แล้วพี่หนานเย็นก็ยั้งปากหยุดเสียงฮ่ำของแกไว้เพียงเท่านั้น ความเงียบแทรกอยู่ในเสียงเครื่องยนต์ได้เพียงอึดใจเดียว คำอู้เมืองปนคำเว้าลาวของผมก็ถามขึ้นอย่างใคร่ฮู้ใคร่หัน สนุกสูกับข้า แล้วมันจังใดล่ะหาพี่หนาน?
คำตอบลอยมากับสุ้มเสียงเน้นสูง ม่วนคิงกับฮา น้อยหา หนานหือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
.
เราแตกเสียงหัวเราะออกเต็มห้องโดยสารเปิดโล่งโจ้งแนบชิดธรรมชาติอย่างเบิกบานสำราญใจยิ่ง พี่หนานเย็นหมายว่าหากเรียกใช้เรียกหาคนเป็นน้อยเขามักจะรีบมาในทันใด ส่วนคนเป็นหนานส่วนใหญ่มักจะอืดอาดอุ้ยอ้ายมากพิธีรีตองเป็นธรรมดาของคนเคยอยู่ในกรอบวัดวามานานปี ตั้งแต่วัยเด็ก-หนุ่มถึงวัยผู้ใหญ่
ถึงปากทางเข้าวัดสถานที่จะจัดให้มีงานปอยหลวงในอีกสี่ห้าวันข้างหน้า ผมเลี้ยวรถเครื่องชิดขอบนอกไหล่ทางซึ่งคับแคบเต็มทน อันเป็นสภาพถนนหนทางปกติที่คุ้นชินกันอยู่ในหมู่บ้านทั่วไปในหมู่บ้านเมืองเหนือ รี่เข้าไปจอดยังหน้าเพิงหมาแหงนห่างออกไปจากถนนหลักสักสามสิบห้าเมตร
ตูบน้อยหลังนี้ สภาพเสาคานกระดานฝาทรุดโทรม ตองตึงมุงหลังคาดูเก่าดำคร่ำครา บุคลากรหญิงชายในเพิงร้านค้าทั้งคู่ก็ดูแก่หง่อมซอมซ่อ แต่กลับมีแขกคนชาวบ้านมาใช้บริการกันพลุกพล่าน บ้างลุกบ้างนั่ง บ้างยืนรอ บ้างเดินเหิรไปมา เสียงปากจาอู้คุยคำเมืองสำเนียงเชียงใหม่ดังลั่นสนั่นล้นออกนอกชายคา
ใครผ่านไปผ่านมาย่อมสังเกตเห็นอักษรสีขาว ลายมือโย้เย้อย่างเด็กอนุบาลเพิ่งหัดเขียนหนังสือ อวดยี่ห้อบนแผ่นป้ายฟากไม้ไผ่สาน อวดศักดิ์ศรีหุ้นส่วนกิจการค้า
ว่าตัวข้านี้แหละเหยคือ
สองเฒ่าเหล้าตอง ยินดีต้อนฮับ ลูกค้าสามัญชน
หมายเหตุ: ต้องขออภัยท่านที่ไม่รู้ภาษาถิ่น คำพื้นเมืองเหนือ เช่น ตุง น้อย หนาน เป็นต้น จะค่อย ๆ อธิบายในตอนต่อ ๆ ไป
Posted by a_somjai on 7 February 2006 at 09.39 am. | เที่ยวใกล้บ้าน, วิถีชีวิตพื้นบ้าน, ไทย, ภาคเหนือ, เชียงใหม่ |
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2549 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2549 3:13:24 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1041 Pageviews. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:10:36:33 น. |
|
|
|
โดย: a_somjai วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:01:57 น. |
|
|
|
โดย: samranjai วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:15:16 น. |
|
|
|
โดย: Batgirl 2001 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:18:49 น. |
|
|
|
โดย: นายเบียร์ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:3:09:47 น. |
|
|
|
โดย: a_somjai วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:8:12:46 น. |
|
|
|
โดย: แม่น้องธัย IP: 68.47.106.39 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:52:04 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:32:53 น. |
|
|
|
โดย: นู๋อิ่ม IP: 203.114.99.104 วันที่: 31 สิงหาคม 2549 เวลา:0:24:43 น. |
|
|
|
| |
|
|
อยากได้ซักสองตองเจ้า