1.2
ตอนนั้นเจ้าเหนือหัวลักษมันตราธิราชเป็นองค์กษัตริย์ ที่นิยมออกรบมากกว่านั่งว่าราชการในเมือง จึงยกย่องให้พระอนุชาเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์มีตำแหน่งประดุจกษัตริย์เช่นกัน
เพื่อมิให้เกิดปัญหาการสืบราชสมบัติ และความขัดแย้งว่า พระโอรสที่เกิดจากสาวชาวลาว ไม่สมควรเป็นกษัตริย์สืบต่อมา จึงไม่ยอมรับฐานะ เพราะมเหสีเอกเท่านั้นสมควรให้กำเนิดพระโอรสที่จะเป็นองค์รัชทายาท หาใช่เด็กที่เกิดจากสาวชาวลาวที่ไร้ซึ่งยศศักดิ์เฉกเช่นเจ้าหญิง
 
            หลายเสียงที่ผ่านเข้ามา ไม่แน่ชัดสักเรื่อง
            หลายเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาแตกต่างกัน จนจับประเด็นที่ชัดเจนไม่ได้
            ที่คิดว่าแน่ ๆ ตนคงไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของพ่อและแม่ที่เลี้ยงดูมาแน่นอน
            แล้วใครล่ะจะเป็นพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิด
            อาจจะเป็นพระโอรสของเจ้าเหนือหัวลักษมันตราธิราชกับเจ้านางคนใดคนหนึ่ง ยามออกรบ
            อาจจะเป็นพระโอรสของเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์กับพระสนม แล้วโดนกีดกัน
            อาจจะเป็นพระโอรสของเจ้าเหนือหัวองค์ใดองค์หนึ่งกับแม่อิน แม่แท้ ๆ ของตน
            มีแต่คำว่า อาจจะ และอาจจะ มันไม่ชัดเจนสักประเด็น
            ในใจของสิงห์ มีแต่ความสับสนและวุ่นวายใจ
แล้วทำไมล่ะ จึงไม่ยอมรับฐานะและตำแหน่งของตน
 
            สิงห์จึงได้ชื่อว่ามีประวัติอันอึมครึม เพราะเชื่อว่า ถ้าไม่มีมูลคนคงไม่เอามาฟื้นฝอยหาตะเข็บ แล้วใครจะให้คำตอบนี้ได้
ไม่ใช่แค่ข่าวลือที่พูดกันไปพูดกันมา พอถามว่ารู้จากใคร จะโบ้ยไปเสียอย่างนั้น ไม่รู้ใครคือต้นตอที่พูดครั้งแรกด้วยซ้ำ อันข่าวลือนี่เชื่อถือไม่ได้จริง ๆ กระนั้นหรือ
           ครั้งหนึ่ง สิงห์เคยเอ่ยปากถามบิดา พระศรีธรรมาว่า “ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ให้ตอบมาตามตรง
ตนรับได้ทุกเรื่องราว” ฝ่ายบิดาได้แต่หัวเราะหึหึ บอกว่า “คนก็พูดกันไป ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก เจ้าน่ะลูกแท้ ๆ ของพ่อ”
 
           ส่วนขวัญและแก้วเพื่อนสนิท บอกว่า “พ่อของตนพูดเช่นตามคำซุบซิบว่า สิงห์นั้นแท้จริงเป็นพระโอรสลับของเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์จริง ๆ เพราะช่วงที่เจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์พาสาวสองนางจากเกาะบางปะอินเข้าวังนั้น สองสาวได้อยู่ในพระราชวังด้วยกัน จนมาเกิดเรื่องราวทะเลาะวิวาทเสียงดังของสองสาว ทำให้คนน้องต้องออกเรือนไปอยู่กับพ่อของพี่ท่าน”
 
ในใจส่วนหนึ่งสิงห์คิดว่าตนเป็นพระโอรสลับของเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์ตามเสียงซุบซิบที่อื้ออึงไปทั่ว แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานพอควร เสียงเหล่านี้ยังคงมีอยู่ มิได้จางหายไปเลย
           ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น อาจแวบ ๆ ผ่านเข้ามาให้ใจประหวัดนึกถึง
เมื่อสิงห์มีโอกาสได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์พร้อมบิดา
เสียงลือยิ่งกระหึ่มดังยิ่งขึ้น เสียงซุบซิบยิ่งกระจายไปไกล
สิงห์มีเค้าหน้าละม้ายไปทางเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์มากกว่าพระศรีธรรมาผู้บิดา
บางคนยังเอ่ยว่า สิงห์มีเค้าหน้าละม้ายไปทางเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์มากกว่าพระโอรสองค์ใด ๆ ด้วยซ้ำ
เฮ้ย อะไรจะขนาดนั้น เขายิ่งคิด ยิ่งแน่ใจ
แล้วเช่นนี้จะไม่ทำให้สิงห์แอบคิดในใจได้เช่นไร
ใจนั้นควรคิดเช่นไร พองคับอก ด้วยตนนั้นเป็นถึงพระโอรส เป็นลูกจ้าว ไม่ใช่คนสามัญธรรมดา หรือจะแฟบด้วยเป็นลูกที่แม้แต่พ่อแท้ ๆ ยังไม่ยอมรับ
ถ้าเป็นจริงตนควรมีสิทธิ์ในบัลลังก์เช่นเดียวกับบรรดาพระโอรสทั้งหลาย
ความรู้สึกนึกคิดเช่นนี้ในใจของสิงห์ผู้ชาญฉลาดเหนือเด็กทั่วไป ได้แอบคิดแผนการต่าง ๆ ไว้มากมาย และหวังว่าทุกสิ่งจะเป็นไปตามแผนอย่างมีขั้นตอน
 
สิงห์ได้แต่คิดในใจ แต่มิกล้าเอ่ยปากออกมาตรง ๆ
ด้วยรู้ว่า เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องใหญ่โตเกินกว่าจะมาพูดเล่น ๆ  อาจทำให้หัวหลุดจากบ่าได้ง่าย ๆ
ถ้าปกปิด คงต้องมีเบื้องหลังมากมาย ที่ไม่อาจเปิดเผย แล้วใยเขาต้องโง่เปิดเต็มหน้าตักด้วยตนเอง ราวกับไม่รู้ว่าผลที่ตามมา เลวร้ายเสียยิ่งกว่าดีแน่นอน
ห้ามเด็ดขาดที่จะใช้อารมณ์เหนือกว่าเหตุผล
ถ้าบังเอิญรู้ถึงพระเนตรพระกรรณแล้ว เดาทิศทางแห่งอารมณ์ของเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์ขณะนั้นมิได้ อาจระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท หาว่าจาบจ้วงเกินเหตุ เหาจะกินหัว ถือวิสาสะคิดเองเออเอง แล้วสามหาวบังอาจเกินฐานะ
ถึงสิงห์จะมิกล้าเอื้อนเอ่ยวาจาออกมาตรง ๆ ว่า ตนคือพระโอรสแห่งองค์เจ้าเหนือหัวเช่นกัน แต่การละเล่นกับเพื่อนในวัยเด็กนั้น สิงห์มักกระทำตน ราวกับตนคือองค์เจ้าเหนือหัวเสมอ ๆ
การละเล่นนี้ได้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจน ในใจคิดเช่นไร แสดงออกเช่นนั้น
           ขวัญและแก้วเพื่อนสนิทรู้อยู่แก่ใจเช่นกันว่า ในใจของสิงห์นั้นคิดเห็นเช่นไร ด้วยความอ่อนเยาว์กว่าและเคารพรักพี่ท่านเหนือสิ่งอื่นใด โดยปกติจะทำตามโดยมิเคยเอื้อนเอ่ยถามหาเหตุผลอยู่แล้ว เมื่อสั่งให้ทำการใด มักทำตามโดยไม่รีรอแม้แต่น้อย
            ในการเล่นหลายครั้ง สิงห์ชอบนั่งบนจอมปลวก แล้วทำท่าสั่งการ ราวกับตนเองใหญ่โตเสียนี่กระไร เลียนแบบเจ้านายที่ชอบชี้นิ้วสั่งบ่าวไพร่ เพื่อน ๆ ที่วิ่งเล่นด้วยกันรวมทั้งขวัญและแก้วเพื่อนสนิทจะนั่งยอง ๆ กับพื้นแล้วยกมือไหว้ประหลก ๆ รอรับคำสั่งให้เล่นเช่นไร
            ไม่เคยเลยสักครั้งที่สิงห์จะทำตัวต่ำต้อยหรือรอรับคำสั่งจากเพื่อน ๆ จนทุกคนรู้ว่า สิงห์คือหัวหน้าแก๊งที่จะคอยสั่งการและดูแลเพื่อน ๆ เสมอ
อาหาร ข้าวต้ม ขนมขบเคี้ยวนั้นไม่ต้องกังวล สิงห์จะสั่งให้บ่าวไพร่เอามาเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนฝูงให้อิ่มหนำสำราญ นี่ยิ่งทำให้ความเป็นผู้นำของสิงห์เด่นชัดขึ้น
            สิงห์รู้ว่าคนเป็นหัวหน้าต้องใจกว้าง ต้องให้ของกินเพื่อนจนพึงพอใจ เพื่อน ๆ จะทำตามคำสั่งโดยมิมีบิดพริ้วแม้แต่น้อย ความคิดเช่นนี้ส่งผลต่อมาเมื่อสิงห์เติบโตขึ้น
            ต้องใจใหญ่ ต้องมือเปิบ ต้องแจกจ่ายไม่อั้น ต้องให้เงินซื้อใจลูกน้อง
            นิสัยใจใหญ่ใจโตแจกจ่ายให้แก่ลูกน้องหรือคนที่เชื่อฟังคำสั่งตนอย่างใจเติบและเต็มที่นี้ ส่งผลให้มีคนพร้อมจะเข้ามารับใช้ใกล้ชิดสนิทสนมตั้งแต่วัยเยาว์จนเติบใหญ่ หรือแม้นตลอดชีวิต เมื่อใครก็ตามมีโอกาสเข้ามาใกล้ชิดและชิดใกล้จะรู้สึกเคารพยกย่องด้วยใจกันแทบทุกคน
            มิมีเลยที่จะเอารัดเอาเปรียบลูกน้องหรือคนสนิทแม้แต่น้อย ไม่ดูถูกเหยียดหยามหรือบริภาษด่าทออย่างสาดเสียเทเสีย ยิ่งทำให้เกิดความจงรักภักดีและพร้อมจะรับใช้
            ความรู้สึกส่วนลึก ถึงจะไม่ได้ประจักษ์ด้วยพยานหลักฐานชัดเจน แต่สิงห์แอบคิดในใจเสมอว่า แท้จริงแล้วคำเล่าลือนั้น อาจจะเป็นจริงก็ได้นะ จึงมักวาดฝันกลางวันเสมอว่า ตนนั้นแท้จริงเป็นพระโอรสของเจ้าเหนือหัวจริง ๆ เพียงแต่ ไม่แน่ชัดว่า เจ้าเหนือหัวลักษมันตราธิราชองค์พี่หรือเจ้าเหนือหัวอิศเรศรังสรรค์องค์น้องเท่านั้น
            ก้นลึกแห่งหัวใจ สั่งตนเองเสมอว่า ตนนั้นต้องทำตนให้สมเป็นพระโอรส อย่าให้มีจุดด่างดำหรือรอยด่างพร้อยให้ผู้คนตำหนิภายหลังได้
            ความรู้สึกเช่นนี้ก่อตัวเป็นจิตใต้สำนึกเสมอมาว่า จะมิมีวันทำตัวให้ต่ำต้อยหรือมีปมปัญหาเด็ดขาด มีแต่สร้างตัวสร้างตนให้สูงเด่นและเพียบพร้อม
เผื่อนะ เผื่อว่า วันหนึ่งข้างหน้าฝันนี้เกิดเป็นจริงขึ้นมา จะได้ไม่มีใครกังขาในฝีมือและความสามารถที่มีแห่งตน ให้ผู้คนตั้งแง่รังเกียจได้เป็นอันขาด
            เด็กบางคนอาจคิดน้อยใจและทำตัวสำมะเลเทเมา เพราะคิดว่า ตนเป็นลูกที่พ่อแม่ไม่ต้องการ แต่คงไม่ใช่กับสิงห์แน่นอน เพราะเขาเตรียมพร้อมเสมอที่จะก้าวและโลดแล่นไปยังหนทางข้างหน้าที่สูงส่ง เยี่ยงพระโอรสแห่งองค์เจ้าเหนือหัว
            ในใจของสิงห์แอบคิดว่า จอมปลวกนี้แหละคือบัลลังก์ที่ตนเห็นในพระราชวัง มันจะสูงเด่นเป็นสง่าเหนือใคร ๆ แล้วตนคือเจ้าเหนือหัวที่สั่งการบรรดาขุนนางอำมาตย์ทั้งหลายในท้องพระโรง ทุกคนจะเชื่อฟังตนในฐานะและตำแหน่งของเจ้าเหนือหัว
            ขวัญและแก้วรู้เรื่องเหล่านี้ดี ด้วยคลุกคลีตีโมงกันมาแต่วัยเด็ก จึงยอมทำตามทุกเรื่องราวโดยไม่คัดค้านหรือขัดแย้ง ทำให้เพื่อนคนอื่น ๆ พลอยเชื่อฟังโดยดีด้วยเช่นกัน และสิงห์มิเคยทำให้เพื่อน ๆ ผิดหวังหรือโกรธแค้นเลยแม้แต่น้อย ด้วยภาวะที่เป็นผู้นำที่ดีมาโดยตลอด
สักวันหนึ่งเถอะ ตนจะนั่งบัลลังก์จริง ๆ  สิงห์คิดสั่งการกับตนเองแต่วัยเยาว์
มันจะเป็นจริงหรือเป็นเพียงฝันลม ๆ แล้ง ๆ ใครจะไปรู้ล่ะ
แม้นว่าหนทางข้างหน้าอาจจะขมุกขมัวในสายตาของใครต่อใคร
แต่สิงห์คิดว่า เมื่อฝันสูงย่อมเกิดความทะเยอทะยานสูง สิ่งที่ได้รับย่อมสูงส่ง
ทุกสิ่งย่อมดีงาม ดีกว่าไม่คิดฝันอยากได้ใคร่ดีแล้วปล่อยให้ชีวิตตกต่ำ
คนที่ไม่มีแม้แต่ความหวัง จะเป็นเช่นไร คงปล่อยตัว ปล่อยตน ไปตามยถากรรม มีแต่ลอยไปตามน้ำ เหมือนสวะติดตามผักตบชวา หาทิศทางแน่นอนไม่เจอ
อย่างน้อยนะ น่าจะได้ตำแหน่งสูงกว่าพ่อที่เลี้ยงดูตนมา พระศรีธรรมา อาจจะก้าวไปเป็น ออกญา หรือพระยา หรือสูงส่งกว่านั้น ถ้าจังหวะมีโอกาสมา ใครจะไปรู้อนาคตในกาลข้างหน้า
มักใหญ่ใฝ่สูงเกินฐานะ ถ้ามีใจมุ่งมั่น และลิขิตฟ้า ชะตากำหนด เป็นได้ชัวร์ป๊าบ
 
ถ้าไม่มีแรงทะยานอยาก
ไขว่คว้าได้มาครอบครอง
ชีวิตคงลอยคว้างตามทะเล
ตามกระแสคลื่นไม่รู้ทิศทาง
 



Create Date : 06 กรกฎาคม 2566
Last Update : 6 กรกฎาคม 2566 9:08:00 น.
Counter : 165 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments