Group Blog
 
All blogs
 
ยินดีที่ได้รู้จัก...รัก ตอนพิเศษ ไม่อยากขัดใจ

แนะนำ

สำหรับคนที่เพิ่งได้อ่านนิยายเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ขออธิบายล่วงหน้าว่าเรื่องนี้จะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกสองคนซึ่งเป็นชายทั้งคู่ และอาจมีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน หรือคนที่ไม่นิยมเรื่องแนว Boy's Love ดังนั้นหากไม่ชอบอ่านนิยายแนวที่ไม่มีนางเอก ขอแนะนำว่าให้คลิกไปอ่านหน้า About me , เท้าพาไป หรือ พร่ำ(เพ้อ)รายสะดวก ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะคะ


++------++



ยินดีที่ได้รู้จัก...รัก ตอนพิเศษ ไม่อยากขัดใจ 


"เดี๋ยวขากลับแวะซุปเปอร์กันก่อนดีไหม? เจมส์บอกว่าคืนนี้อาจจะแวะมาไม่ใช่เหรอ?"

"He might, he might not. Can never be sure with this guy."

เสียงสนทนาระหว่างชายหนุ่มสองคนดังสลับกับเสียงหายใจรัวเร็วและเสียงสายพานของลู่วิ่งไฟฟ้า รอบตัวมีชายหนุ่มและหญิงสาวหลายคนที่รักการดูแลสุขภาพกำลังออกกำลังกายกับอุปกรณ์ต่างๆ ในฟิตเนสขนาดใหญ่ สถานที่แห่งนี้จัดเป็นคลับออกกำลังกายชื่อดังที่มีสาขาทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งความจริงแล้วณรงค์กับไรอันไม่ต้องมาถึงที่นี่ก็ได้เพราะที่คอนโดของทั้งคู่ก็มีฟิตเนสที่เปิดให้ใช้บริการฟรี แต่เนื่องจากบริษัทมีสวัสดิการสมัครสมาชิกที่ฟิตเนสแห่งนี้ให้พนักงานทุกคน บางครั้งทั้งสองจึงขับรถมาที่นี่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

ภายนอกฝาผนังกระจกบานใหญ่สามารถมองออกไปเห็นทิวทัศน์ของท้องถนนและสวนสาธารณะ แต่แม้กระจกจะติดฟิล์มสีเข้มเพียงใด ภาพท้องฟ้าที่โปร่งโล่งและเงาของอาคารที่ทอดลงบนพื้นก็บ่งบอกว่าแดดภายนอกคงแรงไม่ใช่เล่น

"คุณนี่อึดชะมัด"

ณรงค์ทักขณะเหลือบมองตัวเลขแสดงความเร็วและระยะทางบนลู่วิ่งของหนุ่มลูกครึ่ง ไรอันเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยยังเรียนอยู่ที่ออสเตรเลียก็มักลงแข่งขันวิ่งมาราธอนเป็นประจำ แม้ว่าจะไม่เคยติดอันดับต้นๆ ทว่าก็พอจะอธิบายได้ถึงที่มาของเรือนร่างแข็งแรงสมส่วน ไหนยังจะกล้ามเนื้อที่ได้มาตั้งแต่สมัยที่เรียนมวยไทยตอนเด็กอีก

โดยเฉพาะสะโพกตึงแน่นที่โค้งงอนได้รูปนั่น...ยิ่งเวลาอยู่ใต้กางเกงผ้าร่มที่เปียกเหงื่อจนแนบลู่กับสัดส่วนก็ยิ่งดึงดูดสายตาคนที่ได้เห็นในระยะใกล้อย่างเขา ถึงแม้หนุ่มลูกครึ่งจะใส่กางเกงแนบเนื้อสีดำไว้ข้างใต้อีกชั้นก็ตาม

"คุณก็เหมือนกัน"

ไรอันเหลือบมองตัวเลขบนลู่วิ่งของณรงค์ก่อนจะเอ่ยกลับ ทว่าน้ำเสียงกับแววตาเหน็บแนมชัดเจนเพราะรู้ว่าสายตาของคนข้างกายกำลังจับจ้องส่วนไหนของตัวเองอยู่ นี่ยังไม่นับที่บ่อยครั้งเขามักโดนกวนใจตอนดึกดื่นจนกว่าจะได้นอนพักจริงๆ ก็ล่วงเข้าวันใหม่อีก

ณรงค์หัวเราะพลางยื่นมือไปกดปุ่มเพื่อลดความเร็วลง จากนั้นก็เปลี่ยนจากวิ่งเหยาะๆ มาเดินเพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายหลังจากออกกำลังมานาน ครู่หนึ่งเขาก็หันไปหาไรอันที่เริ่มปรับลดความเร็วลงแล้วเช่นกัน

"เอาเกเตอเรดหน่อยมั้ย? เดี๋ยวผมลงไปซื้อมาให้"

ความจริงแล้วทั้งคู่มีกระติกน้ำพลาสติกที่นำติดตัวมาด้วย แต่ณรงค์รู้ดีว่าหลังออกกำลังกายหนักๆ แล้วไรอันจะชอบดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ที่เย็นจัดๆ จึงหันไปเสนอตัว ไรอันจึงพยักหน้า

"Get the blue one. Thanks."

ณรงค์พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปจากห้องออกกำลังกาย ไม่นานหลังจากนั้นไรอันก็เดินไปนั่งพักบนม้านั่งตัวหนึ่งริมห้องซึ่งติดกับกระจกบานใหญ่ ร่างสูงแข็งแรงยกผ้าขนหนูขึ้นซับเหงื่อซึ่งเกาะพราวเต็มหน้าผาก เรือนผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนเปียกชุ่มจนเจ้าของต้องสางมือขึ้นขยี้เพื่อระบายความร้อน จากนั้นก็ถอดเสื้อกล้ามที่ใส่อยู่ออกเพราะรำคาญเสื้อที่เปียกเหงื่อจนแนบติดตัวไปหมดแล้ววางไว้ข้างๆ

สายตาหลายคู่ชำเลืองมองมาทางหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งอยู่มุมห้องหลายหน เนื่องจากไม่เพียงใบหน้าหล่อคมและคิ้วดกเข้มที่ดูโดดเด่น ยังมีผิวกายสีงาช้างซึ่งเผยกล้ามเนื้อได้สัดส่วนกำลังดีทั่วเรือนร่าง หยาดเหงื่อที่ยังเกาะบนเนื้อตัวและไหลลงบนลำคอและแผงอกยิ่งดึงดูดคนที่ได้เห็นให้ยากจะละสายตาอย่างร้ายกาจ ไรอันรับรู้ได้ถึงการเป็นเป้าสายตาของตน แต่ก็ไม่ได้อินังขังขอบเพราะชินกับการจุดสนใจมาตั้งแต่สมัยยังเด็กที่แม่พามาเที่ยวเมืองไทยและใครต่อใครชอบเข้ามาทักทาย เขาเพียงแต่นั่งทอดสายตาไปข้างนอกขณะรอณรงค์เพื่อจะได้ไปอาบน้ำพร้อมกันและกลับ 'บ้าน' เสียที

"ขอโทษนะฮะน้อง ไม่คุ้นหน้าเลย ไม่ค่อยได้มาที่นี่เหรอ?"

What the fuck...ไรอันสบถในใจขณะเงยหน้าขึ้นมองคนถาม ผู้มาทักมีใบหน้าที่ไม่อาจเรียกได้ว่าหล่อเหลาเพราะโครงหน้าเหลี่ยมกับจมูกที่ค่อนข้างแบน หนวดหรอมแหรมเล็กน้อยเหนือริมฝีปากทำให้ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ใครเห็นก็คงยากจะลืมได้ ทว่าคำพูดเชิงเกี้ยวพาเช่นนี้ก็ใช่ว่าเขาจะเพิ่งประสบพบเจอเป็นครั้งแรก

"Excuse me?"

ไรอันจงใจไม่ให้รู้ว่าเขาเข้าใจภาษาไทยด้วยการแกล้งขมวดคิ้วแล้วถามกลับเป็นภาษาอังกฤษ เพราะอย่างไรเสียเขาก็ได้เปรียบที่โครงหน้าค่อนไปทางตะวันตกมากกว่าอยู่แล้ว คำถามของเขาทำให้อีกฝ่ายทำหน้าเหลอไปนิดหนึ่งก่อนจะรีบยิ้ม

"Oh sorry! I asked if you come often. Do you want to be a model? Fashion show, you know?"

ระหว่างอธิบายเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่งหูไป เจ้าตัวก็ใช้ภาษามือประกอบเหมือนพยายามจะช่วยให้เขาเข้าใจง่ายขึ้น ไรอันจึงค่อยเข้าใจว่าชายแปลกหน้าผู้นี้คงเป็นแมวมองในบริษัทจัดหานายแบบ แต่พอเห็นลักษณะการเคลื่อนไหวมือและได้ยินพูดประโยคยาวๆ เขาก็สรุปได้เช่นกันว่าหมอนี่คงเป็นพวกชายใจสาวที่พบเห็นได้ทั่วไปในวงการ

"Nah, I'm not interested in modeling."

ไรอันตอบพลางเท้าคางลงบนแขนข้างหนึ่งที่ชันไว้บนเข่า ขณะเดียวกันนั้นณรงค์กลับจากไปซื้อเครื่องดื่มแล้วและกำลังเดินกลับเข้ามาในฟิตเนส ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อเห็นใครก็ไม่รู้กำลังยืนคุยกับไรอันซึ่งกำลังนั่งทำหน้าเบื่อหน่าย เนื่องจากชายแปลกหน้าคนนั้นยืนหันหลังให้จึงไม่เห็นเขา ณรงค์นึกสนุกจึงเดินเข้าไปในระยะที่พอจะได้ยินบทสนทนาพลางวางถุงเครื่องดื่มลงบนพื้น จากนั้นก็ยืนพิงผนังกอดอกเพื่อรอฟังว่าทั้งคู่กำลังคุยเรื่องอะไร

หนุ่มลูกครึ่งเห็นณรงค์ตั้งแต่เดินกลับเข้ามาในฟิตเนสแล้ว แต่พอเห็นอีกฝ่ายยืนทิ้งระยะเหมือนตั้งใจมาแอบฟังแถมยังส่งยิ้มขี้เล่นให้เขาอีก ใบหน้าหล่อเหลาก็ชักจะมุ่ยขึ้นมา

"Why???? But you are so handsome. If you be a model, you will very ป๊อปปูล่าร์นะ"

น้ำเสียงของคนพูดที่พยายามตื๊อด้วยภาษาอังกฤษแบบไม่ค่อยถูกไวยากรณ์เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนไรอันกลอกตา ฝ่ายณรงค์ที่จับความได้แล้วว่าทั้งคู่กำลังถกกันเรื่องอะไรก็ได้แต่กลั้นหัวเราะ ไรอันมองข้ามไหล่คนตรงหน้าไปยังร่างสูงที่กำลังยืนขำแล้วก็หรี่ตาลง

"That bastard..."

"หือ??"

แมวมองหนุ่มใหญ่ที่น่าจะอายุมากกว่าเขาพอสมควรเอามือทาบอกอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงเหี้ยมเย็น ไรอันขมวดคิ้วมองท่าทางสาวแตกของอีกฝ่ายแล้วก็ยิ่งรำคาญมากขึ้น

"I didn't mean you. Anyway, I don't think my boyfriend would be happy if I become a model."

คราวนี้คิ้วที่กันจนบางของแมวมองหนุ่มใหญ่ยิ่งเลิกสูงจนแทบชนไรผม ไรอันตวัดเสื้อกล้ามที่ถอดออกขึ้นพาดบ่าก่อนจะเดินผ่านอีกฝ่ายซึ่งสูงกว่าไหล่เขานิดเดียวและตรงไปหาณรงค์ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

"Are you planning to just stand there and watch?"

ไรอันเอ่ยเสียงต่ำลอดไรฟัน รอยยิ้มบนมุมปากของณรงค์จึงยิ่งขยายกว้างขณะตอบด้วยเสียงเบาไม่ต่างกัน

"ถ้าคุณสนใจจะทำอาชีพเสริมผมก็ไม่ขัดนะ แฟนผมออกจะหล่อนี่นา"

ณรงค์อาจจะขี้หึง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้จักความพอดี อีกอย่างหลังจากคบกันมาได้พักใหญ่จนเขารู้แล้วว่าในใจไรอันไม่มีใครอื่น นับแต่นั้นเขากลับภูมิใจมากกว่าที่เวลาไปไหนด้วยกันแล้วได้เห็นว่าคนข้างกายดึงดูดสายตาคนรอบข้างเพียงไร เพราะตระหนักดีว่าทุกตารางนิ้วบนร่างกายของไรอันนั้นมีเพียงเขาคนเดียวที่มีสิทธิ์ได้ครอบครอง

"อ๋า คุณพี่เป็นแฟนน้องเขาเหรอคะ น้องเขาหล่อแถมหุ่นเป๊ะขนาดนี้น่าจะเป็นนายแบบนะ ลุคแบบลูกครึ่งคมๆ อย่างนี้น่ะรับรองว่าแบรนด์ไหนก็อยากแย่งกันเอาไปเป็นพรีเซนเตอร์ค่ะ คุณพี่ช่วยอธิบายกับแฟนหน่อยสิ"

พอเห็นณรงค์ซึ่งเป็นคนไทยเหมือนกัน คราวนี้แมวมองหนุ่มใหญ่จีบปากจีบคอพูดแบบไม่เก็บอาการทันที แม้จะเสียดายอยู่บ้างที่ได้รู้ว่าหนุ่มหล่อที่หมายตาไว้กลับมีแฟนหนุ่มเสียแล้ว แต่ก็ไม่ถอดใจที่จะดึงหนุ่มลูกครึ่งมาเข้าสังกัดให้ได้

ณรงค์ได้ยินคำชักชวนของอีกฝ่ายก็ได้แต่กลั้นหัวเราะสุดความสามารถ เพราะตอนนี้ใบหน้าของไรอันซึ่งจ้องเขาอยู่ดูจะกำลังหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่คนพูดซึ่งยืนห่างไปด้านหลังไม่รับรู้แม้แต่น้อย

ขืนไม่รีบตัดบทเสียก่อนล่ะแย่แน่

"อย่าดีกว่าครับ แฟนผมเป็นพวกไม่ชอบโดนบังคับ ถ้าเขาอยากเป็นนายแบบจริงๆ ก็คงไม่ปฏิเสธอย่างนี้หรอก"

ร่างสูงใหญ่ยกมือสองข้างขึ้นจับไหล่ของไรอันไว้ หนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายหันกลับไปอาละวาดคนที่มาตื๊อ สองเพื่ออวดความเป็นเอกสิทธิ์เพื่อตอกย้ำว่าคนนี้น่ะ 'ของเขา' จริงๆ

"เหรอ แหม...แต่น้องเขาหล่อจริงๆ นะ คุณพี่ล่ะเสียด๊ายเสียดาย หน้าตาแบบนี้ต้องขายดีแน่ๆ"

ไรอันไม่หันกลับไปมองคนพูดเพราะจับได้ถึงสายตาหวานเยิ้มที่จับจ้องแผ่นหลังเปลือยเปล่าของตัวเอง แต่หนุ่มลูกครึ่งก็ขบกรามกรอดจนณรงค์ชักเหงื่อตกแทนคนที่ไม่รู้ตัวว่าปากกำลังจะพาจน

"เอางี้แล้วกันครับ พี่ก็ให้นามบัตรผมไว้ ถ้าเกิดวันไหนเขาเปลี่ยนใจแล้วผมจะติดต่อไปหา"

หนุ่มลูกครึ่งตวัดสายตามองณรงค์อย่างฉุนๆ แต่คนตัวสูงกว่าได้แต่ขยิบตาให้ หลังจากรับนามบัตรมาเรียบร้อยแล้วทั้งสองก็เดินออกจากห้องออกกำลังกายเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกัน หลังจากออกมาขึ้นรถและขับออกสู่ถนนใหญ่ได้สักครู่ ไรอันก็หันไปแบมือตรงหน้าณรงค์ขณะรถติดไฟแดง

"เอามานี่"

"หือ?"

ณรงค์แกล้งทำเสียงสูงในคอเหมือนไม่เข้าใจ แต่ไรอันรู้ว่าเขารู้ จึงกดเสียงต่ำอย่างข่มขู่มากขึ้น "นามบัตรที่เพิ่งได้เมื่อกี้น่ะ เอามานี่"

"อ้อ..."

ชายหนุ่มยิ้มพลางล้วงมือลงหยิบนามบัตรในกระเป๋าเสื้อออกมาช้าๆ ราวกับต้องการจะยั่วโมโห ซึ่งก็ได้ผลเพราะไรอันรีบฉวยกระดาษสี่เหลี่ยมแผ่นเล็กๆ ใบนั้นไปฉีกจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วยัดคืนกระเป๋าเสื้อณรงค์ด้วยความหมั่นไส้

"รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ชอบเป็นนายแบบ ไปให้ความหวังเขาทำไม"

ไรอันเอ่ยอย่างมีน้ำโห แต่น้ำเสียงผ่อนคลายลงจากเมื่อครู่ก่อน อาจเพราะหลังจากฉีกกระดาษไปแล้วจึงได้ระบายอารมณ์ไปบ้างก็เป็นได้

"ก็ผมเห็นเขาอยากให้คุณเข้าสังกัดเสียขนาดนั้น อีกอย่างไม่แน่ว่าเราอาจช่วยแนะนำคนอื่นให้ก็ได้นี่นา วงการนี้เขาก็คงต้องการคนใหม่ๆ ไปสลับหน้ากับพวกเดิมๆ อยู่แล้วล่ะ"

หนุ่มลูกครึ่งเอามือเท้าคางแล้วมองไปนอกหน้าต่างเหมือนไม่อยากฟัง ณรงค์จึงได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหน้า ชายหนุ่มหรี่เสียงเพลงในรถลง จากนั้นก็ใช้วิธีงอนง้อแบบสาวน้อยด้วยการยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยข้างที่วางอยู่บนตักของอีกฝ่าย

"หายโกรธเถอะนะ ผมไม่ยุคุณแล้วก็ได้ เดี๋ยวเราไปหาซื้อของที่ซุปเปอร์แล้วกลับบ้านกันดีกว่า เจมส์เพิ่งเมสเสจมาบอกผมว่าคืนนี้จะมากินข้าวด้วย"

ณรงค์ลอบถอนหายใจเมื่อคิดถึงหนุ่มลูกครึ่งอีกคนซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของไรอัน ดูเหมือนขานั้นก็จะชอบแวะเวียนมาสืบข่าวคราวความเป็นอยู่ของพวกเขาทั้งคู่เสียจริง แต่ณรงค์ก็ให้การต้อนรับอย่างดีเพราะรู้ว่าเจมส์ต้องคอยกลับไปรายงานทั้งพ่อและแม่ของไรอันและยังภรรยาที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของไรอันอีก

หนุ่มลูกครึ่งหันกลับมาจากหน้าต่างและปรายตามองนิ้วก้อยของทั้งคู่ที่เกาะเกี่ยวกัน จากนั้นก็เหลือบตาขึ้นสบกับแววตาของณรงค์ที่กำลังยิ้มให้ ถึงแม้จะไม่ค่อยอยากยอมรับ แต่พอโดนง้อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่คุ้นหูมากเข้า ต่อให้หัวแข็งอย่างไรเขาก็ดื้อดึงได้ไม่ได้นาน

"เอาเศษกระดาษพวกนั้นมานี่ซิ"

คราวนี้ณรงค์เป็นฝ่ายแปลกใจเมื่อหนุ่มลูกครึ่งยื่นมือมาล้วงเศษนามบัตรจากกระเป๋าเสื้อของเขา แผ่นกระดาษแข็งสีดำพิมพ์อักษรสีเงินโดนฉีกจนแทบต่อให้เป็นสภาพเดิมไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าชิ้นส่วนที่ระบุหมายเลขโทรศัพท์จะยังพออ่านได้อยู่

"คุณจะทำอะไรเหรอ?"

ณรงค์ถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นไรอันกดบันทึกหมายเลขโทรศัพท์เข้าเครื่อง หนุ่มลูกครึ่งจึงยิ้มก่อนจะกอบเศษนามบัตรเหล่านั้นคืนใส่กระเป๋าเสื้อให้เขาเช่นเดิม หากเป็นคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของไรอันอาจจะเผลอตัวหลงใหลไปกับความพร่าพรายบนใบหน้าหล่อเหลาก็เป็นได้ ทว่าณรงค์คุ้นเคยกับอีกฝ่ายมากพอที่จะสังเกตเห็นประกายเจ้าเล่ห์ร้ายกาจหลังแววตาสีน้ำตาลอ่อนได้ดี

"That guy wants a model. I'll introduce him to someone I know."

ณรงค์ฟังแล้วก็เลิกคิ้ว "คุณหมายถึง? ...อ้อ เข้าใจละ"

ชายหนุ่มแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อรู้ว่าไรอันตั้งใจจะส่งใครไปแทน ก็น่าอยู่หรอกที่อีกฝ่ายจะหมั่นไส้เจมส์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ เพราะนอกจากจะชอบแวะมาเยี่ยมเยียนฝากท้องที่คอนโดของพวกเขาสองคนบ่อยๆ แล้ว ทุกครั้งที่มานั้นเจมส์ก็มักหาโอกาสยั่วโมโหไรอันอย่างเพลิดเพลินอยู่เสมอ ญาติผู้น้องคนนี้ก็เลยรอจังหวะที่จะแก้เผ็ดมานานแล้วกระมัง

ณรงค์มองไรอันที่กำลังเปิดมือถือหารูปของเจมส์ในเครื่องอย่างนึกสนุกเพื่อจะได้ส่งไปให้แมวมองคนนั้น โดยที่ดูจะไม่รู้สึกแม้แต่น้อยว่าตัวเองยังเกี่ยวนิ้วก้อยกับเขาอยู่โดยไม่คิดจะดึงออก ส่วนเขาเองก็ไม่คิดจะทักท้วงและเพียงแต่หันกลับไปมองถนนด้านหน้ายิ้มๆ เพื่อรอสัญญาณไฟเปลี่ยนสี ในหัวก็นึกไปด้วยว่าคืนนี้ควรจะทำเมนูอะไรที่คนข้างตัวชอบทานดี

พอมาคิดดูอีกที ณรงค์ก็สงสารเจมส์นิดหน่อยที่คราวนี้จะต้องเป็นฝ่ายโดนไรอันแกล้งบ้าง แต่เมื่อนึกว่าถ้าหากทำให้ฝ่ายนั้นเข็ดจนลดความถี่ในการมายุ่มย่ามกับพวกเขาลงก็คงดีเหมือนกัน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากไรอันทำอะไรแล้วมีความสุข เขาก็ไม่คิดอยากจะขัดใจเจ้าตัวทั้งนั้นแหละ...



++---End---++



A/N: ช่วงนี้เทรนด์ดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ไหนๆ คู่นี้เขาก็ชอบดูแลตัวเองกัน เลยพาไปออกกำลังที่ฟิตเนสเสียเลย เป็นไอเดียที่ปุบปับก็ได้มาเพราะนึกภาพไรอันเวลาออกกำลังจนเหงื่อไหลไคลย้อยแล้วอดใจไม่เขียนถึงไม่ได้ (คนเขียนหื่นนิ =..=) ส่วนตัวชอบความตรงไปตรงมาของไรอันมาก เขียนทีไรเหมือนได้ปลดปล่อยทุกที คงช่วยให้แฟนๆ ของคู่นี้หายคิดถึงกันได้บ้างนะคะ ^^ 


Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2556 18:17:57 น. 12 comments
Counter : 1050 Pageviews.

 
โอ๊ะ โอ ไม่คิดว่าเจมส์จะทำให้ไรอันรำคาญขนาดนี้นะเนี่ย ป่านนี้คงนั่งขนลุกแบบไม่รู้สาเหตุ


โดย: yeyong IP: 118.173.197.72 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:10:42 น.  

 
อร้ายยยยยย น่ารักได้ใจจริงๆ คุณณรงค์ขา เกี่ยวก้อยขอโทษ ชอบจัง อิๆๆ ^__^".


โดย: lek^lek IP: 49.49.188.32 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:13:58 น.  

 
ทำไมรู้สึกว่ามันสั้นๆยังไงก็ไม่รู้ ชอบตอนง้อจัง ผู้ใหญ่แอบแบ้วกะเค้าด้วย อยากอ่านต่อช่วงออกกำลังกายในร่มบ้างอ่ะ ไม่มีเหรอจ๊ะคุณริน


โดย: sunisa131 IP: 125.24.74.145 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:06:17 น.  

 
แหมมม ณรงค์นี่นอกจากขี้หึงแล้วยังขี้อวดอีกนะ ชิชิชิ อิจฉาอ่ะ แฟนหล่อ แต่เจอนิสัยแบบนี้คงมีณรงค์คนเดียวที่เอาอยู่ ฮ่าๆๆ


โดย: Niii IP: 202.12.73.65 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:48:51 น.  

 
ณรงค์ไม่หวงของบ้างหรอ ปล่อยให้ไรอันถอดเสื้อต่อหน้าคนเยอะๆ นะ


โดย: oato IP: 171.97.178.93 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:2:50:06 น.  

 
อยากแอบอยู่ข้าง ๆ เครื่องออกกำลังกายในฟิตเนสนั้นจัง ท่าทางจะฟินน่าดู 555


โดย: mickybravo IP: 202.44.45.27 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:04:01 น.  

 
เจมส์ซวยอย่างไม่ทันตั้งตัว งานเข้าจริงจังล่ะทีนี้ 555


โดย: zequs IP: 202.28.182.5 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:29:49 น.  

 
คุณ yeyong ไม่รู้จะถึงขั้นสังหรณ์ดีจนโทรมาขอเลื่อนดินเนอร์รึเปล่านะคะเนี่ย 555


*********************

คุณ lek^lek พระเอกคนนี้แกก็มีมุมแหววเนอะ ^^


*********************

คุณเล็ก ช่วงออกกำลังในร่มนั้นทิ้งไว้ให้คนอ่านจิ้นเองได้ตามชอบคับ ;p


*********************

น้องนิ นั่นสิ ถ้าเป็นคนอื่นไม่รู้จะทนไรอันไหวแค่ไหนนะเนี่ย เอิ๊กส์


*********************

คุณโอ๊ต รายนี้เขาวางใจแล้วค่ะว่าถึงแฟนอวดก็ไม่มีใครเอาไปได้น่ะ


*********************

คุณ mickybravo แหม้ คิดเหมือนกันเลยค่า


*********************

คุณขวัญ นึกภาพแล้วก็ขำตาเจมส์ค่ะ ท่าจะเข็ดไปอีกนาน


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:12:22 น.  

 


คุณนี่อึดชะมัด แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย เราก็คิดไปไกลกว่าการวิ่งสายพาน กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

สงสารเจมส์ จะรู้ตัวไม่น่ะว่าโดนแกล้ง แต่ก็ดีอย่างที่ณรงค์ จะได้ไม่มาเป็น กขค ไปอีกนาน


โดย: ภัทร IP: 124.122.65.171 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:39:27 น.  

 
พี่ภัทร คิดไปถึงไหนแล้ว คนเขียนยังคิดไม่ถึงเลยค่า 555555


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:00:18 น.  

 
ตกข่าว มาช้า

ป่านนี้เจมส์คงเข้าสังกัดโมเดลลิ่งของแมวมองคนนั้นไปแล้วมั้งนะ

ไรอันร้ายขนาดไหน แต่ก็น่ารักถูกใจณรงค์ได้ตลอดละนะ

ขอบคุณน้องรินมากนะคะ


โดย: Namtaan IP: 58.11.103.56 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:37:27 น.  

 
พี่น้ำตาล ณรงค์นี่ถึงไรอันทำอะไรแย่แค่ไหนก็เห็นเป็นดีเป็นงามไปหมดล่ะค่ะ ส่วนเจมส์ไม่รู้หนีเงื้อมมือแมวมองพ้นรึเปล่าเหมือนกัน


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:23:01:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Applebee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]






ลายปากกา



~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ~
ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิดโดยนำข้อความทั้งหมดหรือส่วนใดไปเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด!!

Friends' blogs
[Add Applebee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.