|
ยินดีที่ได้รู้จัก...รัก ตอนพิเศษ A New Year's Lullaby
แนะนำ
สำหรับคนที่เพิ่งได้อ่านนิยายเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ขออธิบายล่วงหน้าว่าเรื่องนี้จะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกสองคนซึ่งเป็นชายทั้งคู่ และอาจมีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน หรือคนที่ไม่นิยมเรื่องแนว Boy's Love ดังนั้นหากไม่ชอบอ่านนิยายแนวที่ไม่มีนางเอก ขอแนะนำว่าให้คลิกไปอ่านหน้า About me , เท้าพาไป หรือ พร่ำ(เพ้อ)รายสะดวก ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะคะ
++------++
ยินดีที่ได้รู้จัก...รัก ตอนพิเศษ A New Year's Lullaby
เทศกาลปีใหม่เป็นเวลาที่ใครๆ ควรได้ร่วมฉลองกับครอบครัว เพราะโรงเรียน ห้างร้านและบริษัทต่างพากันปิดทำการหลายวัน เปิดโอกาสให้คนที่ต้องไปทำงานหรือเรียนในต่างถิ่นได้กลับบ้านไปใช้เวลากับคนสำคัญก่อนจะกลับมาสู่วิถีชีวิตเดิมๆ ต่อไป
และนั่นเป็นสิ่งที่ณรงค์กับไรอันวางแผนไว้เช่นกัน เนื่องจากไรอันตั้งใจจะไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่เมลเบิร์นหลังจากในที่สุดก็ได้เซ็นสัญญากับลูกค้าด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เมื่อกลางปี ทว่าเมื่อโทรคุยกับพ่อและแม่ที่ออสเตรเลีย กลับกลายเป็นว่าทั้งสองได้ซื้อแพคเกจเพื่อเดินทางไปเที่ยวยุโรปช่วงวันหยุดคริสต์มาสไว้แล้ว เขาจึงล้มเลิกแผนการกลับบ้านและรอให้สบจังหวะวันหยุดยาวครั้งต่อไปก่อน
ส่วนฝ่ายณรงค์ ตอนแรกเขาก็ตั้งใจว่าจะติดตามไรอันไปเยี่ยมบ้านตามที่พ่อของไรอันเคยชวนไว้ แต่เมื่อแผนการเดินทางไกลต้องล้มเลิก เขาจึงวางแผนจะพาไรอันไปฉลองกับครอบครัวที่กาญจนบุรีแทน แต่พอโทรไปถามพ่อก็ได้ความว่าทางนั้นนัดจะไปเที่ยวกับครอบครัวของพวกเพื่อนๆ ช่วงหยุดปีใหม่ สุดท้ายณรงค์กับไรอันจึงตกลงกันว่าจะไม่ไปไหนและเพียงแต่ฉลองกันสองคนที่กรุงเทพฯ
"I'm home."
ขณะที่ไรอันเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมกับเอ่ยประโยคนั้น เข็มนาฬิกาก็ชี้บอกเวลาห้าโมงเย็นแล้ว ณรงค์ที่กำลังม้วนสายไฟหลังจากดูดฝุ่นเสร็จจึงเดินเข้าไปช่วยรับถุงหลายใบในมือหนุ่มลูกครึ่งมาถือเอง
"หนักมั้ย? น่าจะให้ผมไปด้วยตั้งแต่แรกจะได้ไปช่วยถือ"
ณรงค์เอ่ยเมื่อรับถุงมาเปิดดู และพบว่านอกจากอาหารกับของหวานที่ไรอันขับรถไปรับมาจากร้านของเพื่อนที่โทรสั่งไว้ ยังมีไวน์ แชมเปญและเสบียงอย่างอื่นที่เจ้าตัวคงแวะซื้อระหว่างทางกลับบ้านอีก
ไรอันเหลือบมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะถอดแจ็คเก็ตออกระหว่างเดินเข้าไปในห้องนอน "If you had come with me, who would be here to clean the house?"
"ฮะๆ ก็จริง"
ณรงค์หัวเราะขณะเดินเอาถุงพวกนั้นไปวางบนเคาน์เตอร์ในครัว แต่ก็ไม่ได้คิดมากกับคำพูดของคนรัก เขาชินแล้วกับนิสัยพูดตรงๆ ไม่ประดิษฐ์ตกแต่งให้หวานหูของไรอัน อีกอย่างที่เจ้าตัวพูดก็เป็นความจริง เนื่องจากแม่บ้านของไรอันลางานกลับบ้านที่ต่างจังหวัดช่วงปีใหม่ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำความสะอาดบ้านกันเองในระหว่างนี้ บังเอิญว่าณรงค์ค่อนข้างถนัดงานพวกนี้มากกว่า เขาก็เลยรับหน้าที่พ่อบ้านเองด้วยความเต็มใจ
"คุณจะให้ผมจัดอาหารพวกนี้ใส่จานเลยมั้ย?"
ณรงค์ร้องถามจากในครัว และได้ยินเสียงตอบ "Yes!" ดังมาจากในห้องนอน ตามด้วยเสียงสายน้ำกระทบพื้นกระเบื้อง ร่างสูงใหญ่จึงชะงักมือที่กำลังหยิบกล่องอาหารออกจากถุง จากนั้นก็สาวเท้าตามเข้าไปในห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำในตัวแทน
ไรอันเป็นคนไม่ล็อคประตูเวลาอาบน้ำ ซึ่งคงจะติดนิสัยมาจากช่วงที่ใช้ชีวิตคนเดียว ยิ่งพักหลังนี้เจ้าตัวไม่แม้แต่จะงับประตูเสียด้วยซ้ำ หลายครั้งที่ณรงค์ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหนุ่มลูกครึ่งเคยชินกับการใช้ชีวิตร่วมกันแล้วเลยเห็นว่าไม่จำเป็นต้องอาย หรือว่าจริงๆ แล้วตั้งใจจะยั่วเขากันแน่
"นี่..."
"หือ?"
ไรอันซึ่งกำลังยืนเปลือยอยู่ใต้ฝักบัวเอี้ยวคอมามองเมื่อได้ยินเสียงทัก ณรงค์ที่กำลังยกแขนเท้ากรอบประตูจึงอดไม่ได้ที่จะกวาดสายตาลงมองผิวเนียนสีงาช้างที่กำลังโดนสายน้ำโลมเลีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบั้นท้ายตึงแน่นเคร่งครัดที่ทำเขาคันไม้คันมืออยู่บ่อยๆ แม้แต่เวลาที่เจ้าตัวสวมกางเกงมิดชิด พอไล่สายตากลับขึ้นสบตากับหนุ่มลูกครึ่งอีกครั้ง เขาก็ไม่มั่นใจว่าประกายท้าทายในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาหรือไม่
"ผมก็อยากอาบน้ำเหมือนกันนะ วันนี้ทำงานบ้านจนเหงื่อออกไปหมดแล้ว"
ไรอันทำเสียงหึก่อนจะหันกลับไปปั๊มแชมพูมาขยี้ผม "อยากอาบก็อาบสิ ไม่มีใครห้ามคุณนี่"
ณรงค์มองคนที่หันกลับไปอาบน้ำโดยไม่สนใจเขาอีกแล้วก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ ก็เล่นเป็นเสียอย่างนี้...แล้วเขาจะไม่มันเขี้ยวอยากจับตีก้นได้ยังไงล่ะ ถึงจะรู้ว่าขืนทำจริงคงมีหวังโดนไล่ให้นอนนอกห้องก็เถอะ
"ผมถูหลังให้"
ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปยืนซ้อนหลังร่างสูงสมส่วนพลางปั๊มสบู่จากขวดมาลูบไล้ไปบนแผ่นหลังกว้าง เมื่อไรอันหันกลับมาก็ขมวดคิ้วเนื่องจากณรงค์เข้ามาในห้องอาบน้ำทั้งที่ยังสวมเสื้อผ้าครบทุกชิ้น ตอนนี้เสื้อกับกางเกงขาสั้นที่ใส่จึงเปียกน้ำจนลู่ติดตัวไปหมด
"ไหนบอกว่าจะอาบน้ำ แล้วทำไมไม่ถอดเสื้อผ้า?"
ณรงค์ยิ้มเจ้าเล่ห์ "ผมก็หวังว่าใครบางคนจะช่วยถอดให้เป็นรางวัลที่ทำงานบ้านวันนี้น่ะ"
ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือเป็นไปเอง แต่ดูเหมือนการพยายามยั่วอีกฝ่ายเพื่อดูว่าใครจะแพ้ก่อนได้กลายเป็นกิจวัตรของทั้งคู่ไปแล้ว ช่วงแรกๆ ณรงค์นึกว่าเขาคงคิดมากไป แต่พออยู่ด้วยกันนานเข้าและเริ่มอ่านแววตาของไรอันออกมากขึ้น เขาก็เริ่มสังเกตได้ว่าเวลาไหนที่หนุ่มลูกครึ่งอยากได้เวลาส่วนตัวจริงๆ และเวลาไหนที่ตั้งใจจะเล่นตัว
"Lazy bastard."
ไรอันเอ่ยยิ้มๆ ขณะดึงชายเสื้อที่เปียกชุ่มของณรงค์ขึ้น ผ้ายืดที่อุ้มน้ำทำให้ถอดลำบากกว่าปกติเล็กน้อย ณรงค์สูดหายใจลึกเมื่อโดนปลายนิ้วของหนุ่มลูกครึ่งป่ายไปโดนยอดอก แต่ใบหน้าเยือกเย็นของคนถอดทำให้ยากจะฟันธงว่าเมื่อครู่ตั้งใจหรือไม่
กระทั่งเมื่อกางเกงถูกถอดออกและโยนไว้มุมห้องน้ำ ณรงค์จึงรั้งเอวไรอันเข้าใกล้ร่างเปลือยเปล่าของตัวเองแล้วก้มลงแนบริมฝีปากร้อนผ่าวบนต้นคอและลาดไหล่กว้าง เสียงจูบบนผิวที่เปียกเพราะสายน้ำดังสะท้อนในห้องอาบน้ำกรุกระจกสี่เหลี่ยม มือใหญ่ทั้งสองข้างลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนแน่นที่มีมัดกล้ามกำลังดี จวบจนมือข้างหนึ่งเลื่อนลงไปขยุ้มหนั่นเนื้อด้านหลังพร้อมๆ กับที่ณรงค์เลื่อนใบหน้าเข้าหาริมฝีปากของหนุ่มลูกครึ่ง ร่างสูงใหญ่ก็ขมวดคิ้วเมื่อถูกไรอันใช้ปลายนิ้วชี้แตะบนริมฝีปากของเขาเป็นเชิงห้าม
"Not now. I'm hungry."
ไรอันยิ้มจนนัยน์ตาเป็นประกายเมื่อณรงค์ทำหน้าขัดใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจเขาอีกและหันกลับไปเงยหน้ารับน้ำจากฝักบัวเพื่ออาบน้ำต่อ คนที่ยืนอยู่ด้านหลังจึงได้แต่พยายามข่มช่วงล่างที่ร้อนรุ่มและช่วยไรอันถูหลังต่อจนทั้งคู่อาบน้ำเสร็จ
ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาเคยทำผิดเรื่องของธีระจนไม่กล้าขัดใจไรอันกันเล่า...
กว่าทั้งสองจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ท้องฟ้าภายนอกก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาสลัว ไรอันเปิดเครื่องปรับอากาศก่อนจะเข้าห้องครัวไปช่วยณรงค์จัดอาหารใส่จาน ไม่นานนักบนโต๊ะก็เรียงรายไปด้วยชุดอาหารสำหรับสองคน ซึ่งประกอบด้วยสลัดผัก สเต็กซี่โครงแกะ ซุปฟักทอง ขนมปังฝรั่งเศส ไวน์แดง ส่วนของหวานเป็นเค้กมิลเฟยซึ่งณรงค์เคยเห็นผ่านๆ แต่เพิ่งจะได้ชิมเป็นครั้งแรก
ถึงแม้อาหารมื้อนี้จะมีเพียงไม่กี่อย่าง แต่ก็รสชาติดีทุกจานสมกับที่มาจากร้านโปรดของไรอัน โดยส่วนตัวแล้วณรงค์ชอบอาหารไทยรสจัดจ้านมากกว่าอาหารตะวันตก แต่เขาก็พยายามปรับตัวให้เรียนรู้รสชาติใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเพราะรู้ดีว่าไรอันทานอาหารแบบเขาไม่ค่อยได้
หลังจากทานมื้อเย็นกันจนหมดเกลี้ยงเพราะความหิว สองหนุ่มก็ย้ายที่มาดูหนังในห้องนั่งเล่นโดยดื่มไวน์กับแชมเปญไปพลางๆ เนื่องจากปีที่ผ่านมานั้นต่างคนต่างงานยุ่งจนไม่ค่อยได้เข้าโรงภาพยนตร์บ่อยนัก ทั้งสองจึงมักซื้อหรือเช่าดีวีดีเรื่องที่สนใจมานั่งดูด้วยกันในเวลาว่าง
ระหว่างที่นั่งดูหนังด้วยกันบนโซฟา มีบางครั้งที่ณรงค์จะวาดแขนอ้อมไปวางบนไหล่คนข้างตัวบ้าง บางครั้งไรอันก็วางมือลงบนขาของเขาแล้วเอนตัวมาพิงไหล่บ้าง กิริยาแสดงความสนิทสนมเหล่านั้นล้วนเป็นไปเองจากความคุ้นเคยที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่พอหนังเข้าสู่ช่วงไม่กี่นาทีสุดท้าย ณรงค์ก็ชักรู้สึกว่านั่งไม่สบายตัวขึ้นทุกที
เปล่า...ไม่ใช่ว่าหนังบีบคั้นอารมณ์หรือน่าเบื่อจนทำให้ง่วง แต่เพราะว่ายิ่งได้นั่งใกล้ไรอันนานขึ้น สูดกลิ่นแชมพูหอมๆ จากเรือนผมนุ่มสีน้ำตาลอ่อนมากขึ้นเท่าไหร่ ความอัดอั้นที่เขายังไม่ได้ระบายออกตั้งแต่ตอนอาบน้ำก็โดนก่อกวนให้ฟุ้งจนแสร้งทำเพิกเฉยไม่ได้สักทีต่างหาก!
"รัก..."
ไรอันเอียงหน้าขึ้นจากไหล่ของณรงค์พลางเลิกคิ้ว เมื่อได้เห็นผิวแก้มอมชมพูเพราะดื่มไวน์ไปมากในระยะประชิด แถมริมฝีปากสีสดยังดูฉ่ำชื้นชวนให้ลิ้มรสอีก ณรงค์ก็ชักจะควบคุมตัวเองไม่ไหว
"หนังยังไม่จบเลย"
ไรอันเอ่ยพลางยกมือขึ้นมาปิดปากณรงค์ไว้ก่อนจะทันได้จูบ เท่ากับนี่เป็นอีกครั้งที่เขาโดนปฏิเสธ ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองรอยยิ้มของคนข้างตัวอย่างไม่เข้าใจ แต่พอไรอันเบนสายตากลับไปสนใจจอโทรทัศน์อีกครั้ง ณรงค์ก็ชักจะฉุนเพราะความน้อยใจขึ้นมา
ตกลงตอนนี้เขาสำคัญน้อยกว่าหนังเรื่องนี้รึนี่...
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นแล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนโดยมีสายตาที่อ่านไม่ออกของไรอันมองตามไป ไม่นานณรงค์ก็เดินกลับออกมาด้วยสีหน้ามุ่ยนิดๆ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอย่างเดิม แต่คราวนี้วางกล่องทรงยาวสีดำผูกริบบิ้นสีแดงขลิบทองไว้บนโต๊ะด้วย
ไรอันนึกอยากจะหัวเราะให้ดังๆ เมื่อเห็นณรงค์นั่งกอดอกแล้วหันหน้าไปทางอื่นโดยแสดงออกชัดเจนว่าไม่สนใจจะดูหนังอีกแล้ว ใจหนึ่งเขาก็นึกอยากแกล้งต่ออีกหน่อยเพราะไหนๆ หนังก็ใกล้จบเต็มทีแถมกำลังสนุกเสียด้วย แต่อีกใจก็เห็นใจณรงค์เพราะวันนี้เขาก็แกล้งอีกฝ่ายมากไปจริงๆ
หนุ่มลูกครึ่งหยิบรีโมทมากดปุ่ม pause ก่อนจะใช้เข่าข้างหนึ่งกระทุ้งเข่าณรงค์เพื่อเรียกความสนใจ ณรงค์จึงหันกลับมาหาด้วยท่าทางเหมือนยังพยายามจะรักษามาดงอนอยู่ แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ให้กลืนน้ำลายไม่ได้เมื่อสังเกตเห็นว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ไรอันใส่นั้นเหมือนจะถูกปลดกระดุมลงมากกว่าตอนที่นั่งทานข้าวกันในครัว ผลคือผิวเนื้อเนียนสีอ่อนถูกเผยสู่สายตาเขามากขึ้นไปโดยปริยาย
"What is that box?"
ไรอันเท้าศอกข้างหนึ่งบนพนักโซฟาพลางบุ้ยคางไปทางกล่องบนโต๊ะ ความจริงเขาพอจะเดาได้อยู่แล้วแต่อยากให้ณรงค์พูดเองมากกว่า พอโดนถามเช่นนั้น ณรงค์ถึงเพิ่งนึกได้และดึงสายตาขึ้นมาจากแผ่นอกของหนุ่มลูกครึ่งสำเร็จ ชายหนุ่มกระแอมเมื่อเห็นรอยยิ้มของไรอันที่ราวจะแทนคำพูดว่า 'รู้นะว่ามองอะไรอยู่'
"ของขวัญปีใหม่ ผมซื้อให้คุณ"
ชายหนุ่มพบว่าเสียงตัวเองแหบแห้งจนต้องกระแอมอีกครั้งขณะหยิบกล่องนั้นมาส่งให้ไรอัน หนุ่มลูกครึ่งจึงเลิกคิ้วพลางรับกล่องนั้นไปแล้วใช้นิ้วลูบไปตามผิวกระดาษแข็งของกล่องอย่างช้าๆ ซึ่งภาพที่เห็นทำให้ณรงค์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะคลั่งซะให้ได้
กล่องที่ณรงค์ให้มามีขนาดกว้างประมาณฝ่ามือและยาวประมาณหนึ่งฟุต ตัวกล่องทำจากกระดาษแข็งเนื้อหนาสีดำอย่างดีและไม่ได้ห่อกระดาษห่อของขวัญทับ มีเพียงริบบิ้นสีแดงขลิบทองที่ผูกไว้ซึ่งทำให้รู้สึกว่าเป็นของในโอกาสพิเศษ หนุ่มลูกครึ่งเหลือบมองณรงค์ที่ยังไม่ยอมหันมาสบตาด้วย ก่อนจะค่อยลงมือแกะริบบิ้นและดึงกล่องด้านในซึ่งเป็นแบบสอดออกมาอย่างไม่รีบร้อน
"นี่มัน?"
คราวนี้ไรอันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นของด้านใน น้ำเสียงที่บอกให้รู้ว่าแปลกใจจริงๆ ทำให้ณรงค์ค่อยยิ้มออกและหันกลับมาหา
"ชอบมั้ย? พอดีผมเห็นว่าช่วงนี้คุณต้องไปตีกอล์ฟกับพวกลูกค้าบ่อยๆ ก็เลยปรึกษาเจมส์ว่าจะให้ถุงมือกอล์ฟคุณเป็นของขวัญ เขาบอกว่าที่ออสเตรเลียมีถุงมือหนังจิงโจ้ที่คุณภาพดีกว่าที่อื่น ผมเลยขอให้เขาซื้อมาให้โหลนึงเลย"
ในกล่องทรงยาวบนตักของไรอันมีถุงมือข้างซ้ายอยู่ทั้งสิ้นสิบสองอันจริงๆ ทุกอันเป็นสีดำล้วนและทำจากหนังจิงโจ้ซึ่งเป็นยี่ห้อที่เขาเองก็รู้จักดี เขาหยิบถุงมืออันหนึ่งขึ้นมาสวมลงบนมือซ้ายซึ่งขนาดพอดีเป๊ะราวกับถูกวัดมาก่อน
"อ้อ..."
"หือ?"
ณรงค์ทำเสียงในคออย่างแปลกใจเมื่อไรอันทำเสียงพึมพำเหมือนนึกอะไรได้ แต่หนุ่มลูกครึ่งเพียงแต่ยิ้มแล้วส่ายหน้า เพราะเขาเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อต้นเดือนณรงค์เคยทำทีเป็นสนใจอุปกรณ์ตีกอล์ฟของเขาแล้วถามนั่นถามนี่ คงจะอาศัยช่วงนั้นแอบดูว่าเขาใส่ถุงมือเบอร์อะไรนี่เอง
"ขอบคุณนะ That's so sweet of you."
คำชมจากปากคนรักทำให้ณรงค์ยิ้มออก และรอยยิ้มนั้นยิ่งขยายกว้างขึ้นเมื่อคนพูดขยับตัวมานั่งคร่อมตักเขาพลางยกสองมือมากอดไหล่และแนบริมฝีปากลงบนแก้มเบาๆ แต่ณรงค์ไม่พอใจกับรางวัลเพียงเท่านั้น เขาใช้สองมือรั้งเอวไรอันเข้าหามากขึ้นพลางทำปากยื่น
"ผมขอมากกว่าหอมแก้มได้มั้ย ไอ้นี่น่ะกว่าผมจะขอให้เจมส์ช่วยซื้อให้ได้ก็ลำบากเหมือนกันนะ เกือบได้มาไม่ทันวันหยุดปีใหม่ด้วยซ้ำ"
ไรอันแทบหัวเราะพรืดเมื่อโดนอ้อน แต่ก็ยิ้มและโน้มตัวลงจูบริมฝีปากของคนขอโดยไม่อิดออด ทันทีที่กลีบปากฉ่ำนุ่มและหวานไปด้วยรสไวน์สัมผัสกับริมฝีปากตนเอง ณรงค์ก็รู้สึกราวกับความกระหายหิวที่อดรนทนเก็บไว้ได้รับการตอบสนองเสียที
"อืม..."
เสียงครางแผ่วดังในลำคอของทั้งคู่ขณะที่ลมหายใจคลุกเคล้าเป็นหนึ่งเดียว ณรงค์ดูดดุนรสหวานหอมจากช่องปากและปลายลิ้นอุ่นไปพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของไรอันจนหมดแผง จากนั้นก็ควานมือทั้งสองข้างไปทั่วผิวกายตึงแน่นและกล้ามท้องน้อยๆ ที่ชวนให้สัมผัสแล้วสัมผัสอีกไม่รู้เบื่อ ฝ่ายไรอันเองก็โยกกายบนตักแกร่งราวจะปลุกเร้าอารมณ์ของณรงค์ที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่แล้วให้เดือดมากขึ้นอีก ร่างสูงสมส่วนผละจากจูบที่ชวนให้มึนเมาเพื่อดึงเสื้อยืดของณรงค์ออก แต่แล้วเมื่อได้เห็นแผงอกอันเปลือยเปล่า หนุ่มลูกครึ่งก็ชะงักไปนิดหนึ่ง
"I'll be back. ...Wait here."
ไรอันวางมือลงบนอกณรงค์แล้วเอ่ยสำทับเมื่อเห็นเขาทำหน้างุนงงและพยายามจะลุกตาม ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นขณะมองไรอันเดินหายเข้าไปในห้องนอน แม้จะไม่ค่อยชอบใจที่ถูกขัดอารมณ์หวานๆ แต่ก็นั่งรอตามที่โดนบอกแต่โดยดี ไม่นานนักหนุ่มลูกครึ่งก็เดินกลับออกมา เสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมทั้งแผงเผยโครงร่างที่ชวนให้คนเห็นหวั่นไหวไม่ว่าจะชายหรือหญิง
หนุ่มลูกครึ่งเอามือข้างหนึ่งซ่อนไว้ข้างหลังขณะเดินกลับมานั่งคร่อมตักณรงค์เหมือนเดิม แต่พอเขายื่นแขนไปเพื่อจะรั้งเจ้าตัวเข้าหา ไรอันกลับเอามืออีกข้างขึ้นมาปิดตาเขาไว้
"Close your eyes."
"เอ๊ะ?"
"เชื่อผมเถอะน่า หลับตาก่อน"
ณรงค์เม้มปากอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ยอมวางมือทั้งสองข้างลงบนขาของไรอันแล้วหลับตานิ่งตามที่โดนบอก ไรอันโบกมือตรงหน้าอีกฝ่ายเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้แอบดูจริงๆ จากนั้นจึงยื่นมือไปคล้องรอบคอของณรงค์พร้อมกับของที่หยิบมาด้วย
สัมผัสเย็นๆ รอบลำคอทำให้ณรงค์ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขาสบตากับไรอันที่กำลังยิ้มให้ก่อนจะก้มลงมองสิ่งที่ห้อยอยู่กลางอก มือใหญ่หยิบจี้รูปเขี้ยวทรงเรียวแหลมขึ้นมา น้ำหนักของจี้บอกให้รู้ว่าไม่ใช่โลหะธรรมดาทั่วไป
"สร้อยเงินของ David Yurman ผมซื้อตอนไปประชุมที่ฮ่องกงคราวก่อน เหมาะกับคุณจริงๆ ด้วย"
ไรอันเลือกจะไม่อธิบายว่า David Yurman เป็นยี่ห้อเครื่องประดับหรูของอเมริกาที่ดาราฮอลลีวู้ดหลายรายเป็นลูกค้า และราคาเครื่องประดับแต่ละชิ้นนั้นไม่ใช่ว่าใครจะยอมควักเงินซื้อง่ายๆ แต่ณรงค์กลับไม่สะกิดใจกับชื่อยี่ห้อแปลกหูมากเท่ากับที่ได้ยินว่าไรอันซื้อสร้อยเส้นนี้ให้ตั้งแต่ทริปฮ่องกงครั้งล่าสุด
การเดินทางไปประชุมที่ฮ่องกงครั้งนั้นผ่านมาสองเดือนแล้ว หมายความว่าไรอันคิดถึงเทศกาลปีใหม่และเลือกซื้อของขวัญไว้ให้เขาตั้งแต่ตอนนั้น ทั้งที่เขาเพิ่งจะเริ่มหาซื้อของขวัญให้อีกฝ่ายเมื่อต้นเดือนนี่เอง...
ทำไมเขาถึงได้ซื่อบื้ออย่างนี้นะ
"...ผมรักคุณ"
ณรงค์พูดอะไรไม่ออกนอกจากคำนั้น เขาไม่เคยเชื่อว่าตัวเองคิดผิดที่มอบหัวใจให้ไรอันทั้งที่การเริ่มต้นของทั้งคู่นั้นแสนจะลุ่มๆ ดอนๆ แถมกว่าหนุ่มลูกครึ่งจะเปิดใจให้ก็ทำเอาต้องแยกทางกันไปเป็นเดือน แต่ความเชื่อมั่นก็ทำให้เขาเลือกจะเดินตามหัวใจของตัวเองโดยย้อนกลับมาหาคนตรงหน้าอีกครั้ง และการได้ใช้ชีวิตด้วยกันทุกวันนี้คือหลักฐานสำคัญว่าเขาตัดสินใจถูกต้อง
"I know. Me too."
ไรอันตอบพร้อมกับใช้สองมือประคองหน้าเขาเอาไว้และเคลื่อนใบหน้าเข้าหา มือซ้ายยังคงสวมถุงมือที่ณรงค์ให้เป็นของขวัญโดยไม่ได้ถอดออก เช่นเดียวกับณรงค์ที่สวมสร้อยซึ่งเพิ่งได้รับเช่นกัน
ร่างสูงใหญ่ดึงเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจนพ้นเรือนร่างสมส่วน จากนั้นก็ดันตัวหนุ่มลูกครึ่งลงนอนหงายบนโซฟาและเข้าทาบทับ ชายหนุ่มพรมจูบไปทั่วลำคอและแผ่นอกขาวเนียนอย่างหิวกระหาย เมื่อริมฝีปากสัมผัสกับตุ่มเนื้อสีชมพูเข้ม เขาก็ขบเม้มแล้วดูดอย่างแรงจนหนุ่มลูกครึ่งแอ่นหลังขึ้นจากโซฟาและใช้สองมือจิกไหล่กว้างแน่น
ไรอันหอบหายใจแรงเมื่อถูกเล้าโลมอย่างไม่บันยะบันยัง ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำขณะที่ริมฝีปากเผยอเพื่อช่วยสูดอากาศเข้าปอด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ลงมองกลุ่มผมดำสนิทของคนที่กำลังคลอเคลียอยู่บนหน้าท้อง ขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ว่าความเป็นชายของตนกำลังตื่นตัวมากขึ้นทุกที สัมผัสเย็นๆ จากจี้เงินบนคอของณรงค์ที่ห้อยลงมาโดนหน้าท้องยิ่งสร้างสัมผัสอันขัดแย้งกับปลายลิ้นอุ่นจนกระตุ้นให้อารมณ์เตลิดมากขึ้นไปอีก
"Hey..."
"หืม?"
ณรงค์ขานรับในคอเมื่อไรอันใช้สองมือประคองหน้าเขาให้เงยขึ้น นัยน์ตาสองคู่จึงสบประสานก่อนที่ไรอันจะเอ่ยยิ้มๆ โดยที่แก้มเรื่อสีเลือดฝาดและนัยน์ตาฉ่ำเยิ้มเป็นประกายวาว
"สร้อยนั่นน่ะ...มีชื่อด้วยนะ"
ร่างสูงใหญ่เลิกคิ้ว เขาค่อยๆ ยันตัวขึ้นจนกระทั่งสายตาอยู่ระดับเดียวกับไรอัน นัยน์ตายั่วยวนที่มองกลับมาทำเอาณรงค์อยากจะจูบปิดปากหนุ่มลูกครึ่งให้เลิกคุยเพื่อที่ทั้งคู่จะได้เริงรักกันจนเข้าวันใหม่เสียที แต่ก็พยายามข่มใจแล้วถามเสียงแหบพร่า
"ชื่ออะไรเหรอ?"
ไรอันเหลือบตาลงมองจี้เงินรูปเขี้ยวที่ห้อยอยู่ระหว่างทั้งคู่ จากนั้นก็ใช้มือซ้ายที่ยังสวมถุงมือหนังสีดำกุมจี้นั้นไว้แล้วดึงให้ณรงค์ก้มลงหาอย่างช้าๆ ลมหายใจหอมหวานเจือกลิ่นไวน์กรุ่นจากริมฝีปากบางเมื่อเขาเอ่ยเสียงเบา
"Predator. That's what you are."
ริมฝีปากสองคู่แนบประทับ จากนั้นก็ไม่มีเสียงพูดคุยอีกภายในห้องที่เงียบสนิทนอกเหนือจากเสียงหอบครางและเสียงเรียกชื่อกันและกันอย่างเร่งเร้า เครื่องปรับอากาศดูจะไม่ช่วยให้ความเย็นใดๆ แก่ร่างทั้งสองที่บดเบียดและเคลื่อนไหวด้วยจังหวะซึ่งมีเพียงณรงค์และไรอันเท่านั้นที่บรรเลงร่วมกันได้ ความโหยหิวในเรือนร่างของกันและกันถูกเติมเต็มคราแล้วคราเล่าเสมือนว่าความหมายของชีวิตคืออ้อมแขนของคนที่กำลังกอดรัดตนอยู่เท่านั้น จวบจนเวลาล่วงผ่านสู่วันใหม่และความเหนื่อยอ่อนมีอำนาจเหนือความต้องการทางกาย ณรงค์จึงยอมปล่อยให้คนที่ต้องรองรับความต้องการซึ่งไม่สิ้นสุดของเขาได้นอนพัก กระนั้นชายหนุ่มก็ยังคงกอดเอวอีกฝ่ายไว้พร้อมกับซุกใบหน้าลงตรงซอกคอชื้นเหงื่อ เขาค่อยหลับตาลงเมื่อได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอและสูดกลิ่นกายอันคุ้นเคยเพื่อให้หัวใจที่เต้นถี่สงบลง
ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้รักคุณ...
ณรงค์คิดขณะที่ความอ่อนเพลียเริ่มซึมซ่านไปตามกล้ามเนื้อจนชวนให้อยากหลับไหล ชั่วเสี้ยววินาทีก่อนที่จะดำดิ่งสู่ห้วงนิทราและไม่รับรู้อะไรอีก เขาคล้ายจะสัมผัสได้ถึงอ้อมแขนที่โอบเอวกลับและเสียงกระซิบแผ่วเบาหวานหูชวนให้ฝันดีว่า 'สวัสดีปีใหม่ ณรงค์'
++---End---++
A/N: เป็นตอนที่ปุบปับนึกได้ว่าอยากเขียนอะไรสักอย่างสำหรับปีใหม่ พอได้ไอเดียนี้ปุ๊บก็รีบเขียนให้จบในวันเดียวเลยค่ะ (เดี๋ยวนี้แม้แต่เรื่องสั้นยังใช้เวลาเขียนนานกว่า 1 วัน ถ้าเรื่องไหนเสร็จไวกว่านั้นได้จะ amazing สุดๆ *__*) ไอเดียตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เนื่องจากคนเขียนเองก็ไม่ได้ไปไหน ใช้เวลาปีใหม่อยู่กับบ้านเหมือนกัน เลยหามุกให้สองคนนี้ได้ฉลองกันทั้งที่ไม่ได้ออกไปไหนนี่ล่ะ ระหว่างเขียนตอนนี้ไปก็รู้สึกว่าณรงค์หื่นตลอดเวลา ส่วนไรอันนี่...เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเอ็นดู สงสัยเพราะว่าพอให้อยู่กับณรงค์นานเข้า นิสัยด้านน่ารักๆ เลยได้ออกมาเยอะขึ้นล่ะมั้ง
สำหรับเครื่องประดับยี่ห้อ David Yurman นี่มีจริงนะคะ เป็นแบรนด์ระดับ hi-end ของอเมริกา ตอนเขียนเรื่องนี้ก็ทำรีเสิร์ชประมาณหนึ่งว่าถ้าสองคนนี้จะซื้อของขวัญให้กันน่าจะเป็นของแบบไหน ส่วนถุงมือกอล์ฟหนังจิงโจ้ก็มีจริงๆ เจ้านายที่บริษัทเก่าเรามีธุรกิจเสริมนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายเจ้าถุงมือนี่ด้วย ส่วนเวลาเล่นกอล์ฟนั้นคนเล่นจะใส่ถุงมือข้างเดียวคือข้างตรงข้ามกับมือที่ถนัด กรณีนี้ไรอันถนัดมือขวาก็เลยได้ถุงมือซ้าย และถุงมือนี่พอใช้ไปนานๆ มันจะมีอายุงานของมันเอง ณรงค์เลยซื้อยกโหลให้ซะเลยน่ะค่ะ ที่แน่ๆ ราคารวมกันแล้วก็ยังไม่เท่าสร้อยที่ไรอันซื้อให้ XD ความจริงสร้อยนี้มีต้นแบบจากของจริงของ David Yurman ด้วย แต่ชื่อจริงๆ ว่า Claw Amulet เรามาเปลี่ยนให้เป็น Predator จะได้รู้สึกเท่ๆ ประมาณว่า "ผู้ล่า" น่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ที่จะมีให้ณรงค์กับไรอันล่วงหน้า ขอถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่ทุกคนด้วยนะคะ ^^
Create Date : 31 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 31 ธันวาคม 2555 10:46:45 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1706 Pageviews. |
|
|
|
โดย: joy supanut cha IP: 110.49.243.176 วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:19:10:28 น. |
|
|
|
โดย: Ni IP: 113.53.144.148 วันที่: 1 มกราคม 2556 เวลา:11:55:43 น. |
|
|
|
โดย: Ni IP: 113.53.144.148 วันที่: 1 มกราคม 2556 เวลา:11:57:53 น. |
|
|
|
โดย: bellbomb (ไม่ล็อกอิน) IP: 115.67.228.167 วันที่: 1 มกราคม 2556 เวลา:18:53:20 น. |
|
|
|
โดย: oato IP: 110.168.3.121 วันที่: 1 มกราคม 2556 เวลา:20:17:52 น. |
|
|
|
โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 1 มกราคม 2556 เวลา:22:28:39 น. |
|
|
|
โดย: alley_tama IP: 58.8.154.214 วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:10:09:14 น. |
|
|
|
โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:11:39:13 น. |
|
|
|
โดย: น้ำชา สีเบจ IP: 101.109.60.175 วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:14:35:42 น. |
|
|
|
โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:15:44:47 น. |
|
|
|
โดย: กรู้ IP: 125.25.35.115 วันที่: 3 มกราคม 2556 เวลา:0:35:36 น. |
|
|
|
โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 3 มกราคม 2556 เวลา:15:33:02 น. |
|
|
|
โดย: ภัทร IP: 124.120.189.73 วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:19:05:43 น. |
|
|
|
โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:16:22:09 น. |
|
|
|
| |
|
|
สงสารน้องตี้จัง ปีใหม่จะมีใครฉลองเป็นเพื่อนไหมนะ