Mémorial de la Shoah - พิพิธภัณฑ์ที่ระลึกชาวยิว

Mémorial de la Shoah - พิพิธภัณฑ์ที่ระลึกชาวยิว


     ก่อนไปย่านมาเรส์ (Marais) กลางกรุงปารีสวันนี้ ฉันตั้งใจแน่วแน่ อุตส่าห์ศึกษาหาข้อมูลเส้นทางอย่างละเอียดว่าต้องลงรถไฟใต้ดินหรือเมโทรสายไหน เข้าเส้นทางใด ตัดผ่านรู (rue – ถนน) อะไร หวังถือโอกาส“เก็บ” พิพิธภัณฑ์ในย่านนี้ให้ได้วันเดียวสองแห่ง คือ พิพิธภัณฑ์ที่ระลึกชาวยิว กับ พิพิธภัณฑ์บ้านวิคตอร์ ฮูโก (Victor Hugo) นักเขียนใหญ่เจ้าของผลงานเรื่อง โนตร์ ดาม เดอ ปารีส (Notre-Dame de Paris)

     ขึ้นจากสถานีแซงต์-โปล (Saint Paul) ลอยเลื่อนเดินลัดเลาะผ่านร้านรวงต่างๆที่กำลังติดป้ายลดราคากระหน่ำช่วงซัมเมอร์เซลล์ หรือที่คนฝรั่งเศสเรียกว่า ช่วง โซลด์ส์ (Soldes) สะกดใจไม่ให้ย่างก้าวเข้าไปอย่างลำบากยากเย็น

     และในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางแรกจนได้ พิพิธภัณฑ์ที่ระลึกชาวยิวที่ฉันเรียกเอาเองง่ายๆแห่งนี้มีชื่อยาวเต็มๆว่า Centre de Documentation Juive Contemporaine (CDJC -ศูนย์ข้อมูลชนชาติยิวร่วมสมัย) หรืออีกชื่อหนึ่งสั้นกว่า Mémorial de la Shoah แต่คำแปลยาวกว่า คือ ศูนย์ที่ระลึกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ตั้งอยู่ที่ถนนจอฟฟรัว ลัสนีเยร์ (Geoffroy l'Asnier) เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมฟรีตั้งแต่เดือนมกราคม 2005

     ถึงจะเข้าฟรี แต่ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าประตูทางเข้าของที่นี่ค่อนข้างเคร่งครัดกว่าพิพิธภัณฑ์ทั่วไป อาจจะเป็นเพราะเกรงสถานการณ์การก่อการร้ายที่คุกรุ่น หรือหวั่นว่าความขัดแย้งในแถบตะวันออกกลางจะลุกลามให้ใครคิดร้ายพาโลลามเลยข้ามทวีปมาสร้างความปั่นป่วน

     ลานหน้าทางเข้าอาคารที่ติดสัญลักษณ์ดวงดาวแห่งเดวิดเด่นสง่ามีกำแพงสลักชื่อชาวยิวที่ถูก “อุ้ม” ออกจากฝรั่งเศสในช่วงปี 1942 -1944 จำนวน 76,000 คน (ในนั้นมีเด็ก 11,000 คน และมีผู้รอดชีวิตจากค่ายของพวกนาซีกลับมาเพียง 2,500 คน) ชื่อเหล่านั้นเรียงไล่ตามตัวอักษรตั้งแต่เอถึงแซด ณ จุดหนึ่งมีกระถางดอกไม้เล็กๆวางอยู่ คงจะเป็นดอกไม้ของคนใกล้ชิดหรือลูกหลานของใครคนใดคนหนึ่งที่มีชื่ออยู่บนกำแพง

     เดินเข้าประตูผ่านเคาน์เตอร์ต้อนรับ พนักงานประจำศูนย์ยิ้มแย้มเข้ามาตอนรับขับสู้บอกทาง พร้อมยื่นโบรชัวร์แผนที่ให้ เธอแนะนำให้เริ่มต้นการเข้าชมที่ ลา ครีปต์ (La crypte) ซึ่งปกติจะหมายถึงห้องใต้ดินสำหรับฝังศพในโบสถ์ แต่ที่นี่เป็นห้องใต้ดินที่มีแท่นดาวแห่งเดวิดทำจากหินอ่อนสีดำ วัตถุประสงค์คือให้เป็นหลุมศพเชิงสัญลักษณ์ให้กับบรรดาคนยิวหกล้านคนที่ถูกฆ่าโดยไม่ได้รับการฝังร่างตามประเพณี โดยเป็นที่เก็บเถ้าของผู้เสียชีวิตที่เก็บรวมรวมจากค่ายสังหารต่างๆ และมีเปลวไฟอมตะ (Une flamme éternelle) หล่อเลี้ยงอยู่ใจกลางของแท่น เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้เป็นเจ้าของเถ้าถ่านเหล่านั้น

     ต่อด้วยห้องจัดแสดงนิทรรศการ เริ่มต้นด้วยประวัติเกี่ยวกับชนชาติยิว ยิวในฝรั่งเศส (มีเพลงยิวในภาษาฝรั่งเศสให้ฟังด้วย) เหตุการณ์ต่างๆช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนเริ่มมีนโยบายกีดกันเชื้อชาติรังเกียจจำกัดสิทธิของยิว การจับตัวชาวยิวส่งไปยังค่ายสังหารต่างๆ การแสดงสภาพชีวิต “ชาวค่าย”ผ่านภาพถ่าย ข้าวของที่เหลืออยู่ และมีพยานผู้รอดชีวิตจากนรกเหล่านั้นมานั่งเล่าถึงความโหดร้ายผ่านวิดีโอ รวมถึงตัวอย่างภาพยนตร์ต่างๆที่เล่าเรื่องราวเหล่านั้น

     ทั้งหมดที่กล่าวมาคล้ายเป็นการปูทางไปบทสรุปในสู่ห้องสุดท้าย ซึ่งเป็นส่วนที่น่าตื่นตะลึงกระทบใจที่สุดสำหรับฉัน นั่นคือ ห้องที่มีภาพถ่ายเด็กๆที่ถูกสังหารแปะเรียงเต็มผนังรอบด้านจรดเพดาน ประหนึ่งสะกิดให้สังวรว่า ผู้คนที่เราได้เห็นตายเป็นหมู่เป็นกลุ่มเหล่านั้นเคยมีตัวตน มีชีวิต มีใบหน้ายิ้มแย้มยามถ่ายรูปเหมือนเราท่าน ไม่ได้เป็นแค่ฝูงชนโชคร้ายอื่นไกลที่ควรจะนิ่งเฉยปล่อยให้ตายแล้วตายเลยไร้ความหมาย

     เกือบสองชั่วโมงผ่านไป ข้อมูลที่หลั่งไหลพรั่งพรูผ่านสองตาและสองหูเริ่มล้น จิตใจสลดหดหู่จากภาพความโหดร้ายที่มนุษย์สามารถลงมือกระทำต่อกันที่ได้เห็นได้ยิน ฉันจึงตัดสินใจว่า




     วันนี้สมองเต็มแล้ว ไปบ้านวิคตอร์ อูโก วันหลังก็แล้วกัน











Create Date : 23 ตุลาคม 2551
Last Update : 23 ตุลาคม 2551 11:05:46 น. 3 comments
Counter : 1227 Pageviews.

 

ชอบๆ แวะมาแปะภาพให้ชมอีกนะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:12:02:59 น.  

 
แวะมาชมค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:17:35:33 น.  

 
ชอบกุหลาบสีม่วงของคุณอุ้มสีจังเลยค่ะ


โดย: natpatcha IP: 125.24.156.46 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:23:45:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.