• ฝอยปรัชญา
• เกร็ดวิทยาศาสตร์
• ละอองหมึก
• ฝุ่นนอกห้อง
• เมล็ดมิตรภาพ

สังคมที่ดี เริ่มมาจากคนในสังคมที่มีความสุข หรือคนจะมีความสุขต่อเมื่อสังคมดี ผมเชื่อว่าสังคมที่ดี เริ่มมาจากคนในสังคมที่มีความสุข ไม่ใช่คนจะมีความสุขเมื่อสังคมดี คนจะมีความสุขได้ ผมเชื่อว่าเกิดจากการ 'เข้าใจ' และ 'ยอมรับ' ครับ 'เข้าใจ' ว่าทุกอย่างๆมีเหตุมีผล แม้ว่าบางอย่างเรา 'ยัง'ไม่เข้าใจ 'เข้าใจ' ว่าเหตุที่จะกำหนดผลต่างๆในชีวิตเรามีสองส่วน ส่วนหนึ่งคือ การกระทำของเรา อีกส่วนหนึ่งคือ ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น การกระทำหรือการตัดสินใจของคนอื่น อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ หรือว่าจะถูกหวยหรือไม่ถูกฯลฯ 'เข้าใจ' ว่าเราเลือกหรือกำหนดได้เฉพาะ 'การกระทำของเรา' ว่า เมื่อไหร่เราจะทำหรือไม่ทำอะไร เช่น จะไปเที่ยวหรือจะอยู่บ้านดูแลพ่อแม่ หรือว่างวดนี้จะซื้อหวยหรือไม่ซื้อ ฯลฯ ส่วนปัจจัยภายนอกอื่นๆ เราไม่สามารถเลือกหรือควบคุมได้ แม้ว่าบางอย่างอาจจะพอคาดเดาได้ก็ตาม เช่น การพยากรณ์อากาศ หรือการเดาใจคนอื่น 'ยอมรับ' ผลที่ 'เกิดขึ้นมาแล้ว' ทั้งที่เกิดมาจากการกระทำของเรา และเกิดมาจากปัจจัยอื่นที่เราไม่สามารถเลือกได้ 'ยอมรับ' ว่า 'การกระทำหรือความพยายาม' ของเรา อาจไม่ได้ผลตามที่เราหวัง เนื่องจากปัจจัยอื่นที่เราไม่สามารถควบคุมได้ จะนับถือศาสนาอะไรก็สามารถจะ 'เข้าใจ' และ 'ยอมรับ' ได้ทั้งนั้น ผมเชื่อว่ามีคำสอนเหล่านี้อยู่ในทุกๆศาสนา ผมเชื่อว่าถ้าไม่ 'เข้าใจ' และ 'ยอมรับ' โลกแล้ว ก็น่าหาความสุขได้ยากครับ ไม่ว่าจะได้ไปอยู่ใน 'สังคมที่ดี' ขนาดไหนก็ตาม ในทางกลับกันผมเชื่อว่าคนที่มีความสุขย่อมยินดีที่จะทำดีต่อเพื่อนมนุษย์เอง โดยไม่สนใจหรือไม่ได้หวังเรื่อง บุญ หรือสวรรค์ หรือความรอดอะไรอีก ถ้าเราอยากได้สังคมที่ดี ต้องเริ่มที่ 'ตัวเรา' ครับ 6 ธค 47   Create Date : 08 มกราคม 2548     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 2:12:49 น. Counter : 604 Pageviews.   2 comment Share Tweet

นับถือศาสนาอื่นนอกจากศาสนาพุทธแล้วจะสามารถพ้นทุกข์ได้หรือ? ผมเชื่อว่าได้ครับ ตามความเข้าใจของผม... ทุกข์ส่วนมาก เกิดจาก 'ความยึดมั่น ถือมั่น' ในตัวเรา ของเรา และการ 'ไม่พอใจ' ในสิ่งที่ตนเองมี สิ่งที่ตัวเองต้องประสบ ศาสนาพุทธสอนว่า ตัวเรา 'ไม่มี' จึง 'ไม่ควรไปยึดมั่น ถือมั่นในตัวเรา ของเรา' สิ่งต่างๆในโลกมันก็ดำเนินของไปมาอย่างนั้น ตามเหตุและปัจจัยต่างๆ ไม่มีดี ไม่มีร้าย แต่เป็นเพราะเรามีความ 'ต้องการ' ให้มันเป็นไป หรือไม่เป็นไปแบบใดแบบหนึ่ง ถึงได้มี 'ดี' หรือ 'ร้าย' เราสามารถ'พยายาม'ทำสิ่งต่างๆได้ แต่ก็ต้อง'ยอมรับ'ผลที่จะออกมา ไม่ว่าจะถูกใจเราหรือไม่ ศาสนาที่เชื่อในพระเจ้า แม้จะไม่ได้เน้นบอกว่า ตัวเรา'ไม่มี' แต่ก็บอกว่าตัวเรา ของเรา ที่แท้จริงแล้ว 'ไม่ใช่ของเรา' แต่เป็นของ 'พระเจ้า' และ ตัวเรา กับ คนอื่น ต่างเป็นบุตรของพระเจ้าเหมือนๆกัน ซึ่งก็แปลว่า'ไม่ให้ยึดถือใน ตัวเรา ของเรา' สิ่งต่างๆในโลกล้วนเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่มีดี ไม่มีร้าย แต่เป็นเพราะเรามีความ 'ต้องการ' ให้มันเป็นไป หรือไม่เป็นไปแบบใดแบบหนึ่ง ถึงได้มี 'ดี' หรือ 'ร้าย' เราสามารถ'พยายาม'ทำสิ่งต่างๆได้ แต่ก็ต้อง'ยอมรับ'ผลที่จะออกมา ซึ่งจะเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ไม่ว่าจะถูกใจเราหรือไม่ ความเห็นส่วนตัวของผม หากไม่ตรงกับความคิด ความเชื่อของผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆ ก็ขออภัยด้วยครับ แต่ผมเชื่อว่า หนทางดับทุกข์ และนำความสุขมาสู่ชีวิตมนุษย์นั้น แม้จะมีหลายทาง แต่มุ่งสู่สิ่งเดียวกัน พิธีการ และระบบความเชื่อต่างๆในศาสนา เป็นเพียงภาพประกอบ หรือทิวทัศน์ในระหว่างที่เราเดินทาง ใครจะเลือกทางไหนก็สุดแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน 26 พย 47   Create Date : 08 มกราคม 2548     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 2:13:04 น. Counter : 517 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ความรักสีอะไร ผมว่าความรักถ้าจะมีสี น่าจะเป็นสีดำนะ สีดำของความตาย... ผมเชื่อว่าการจะรักคนอื่นอย่างจริงใจได้ เราต้องลดอัตตา หรือฆ่าตัว'เรา' ให้ตายก่อน ไม่งั้นจะเป็นความรักปลอมๆเพื่อเสริมอัตตาของเรา คนที่เราบอกว่าเรารัก อาจมีค่าเป็นแค่เครื่องประดับ เอาไว้อวดคนอื่น คือกลายเป็นของ'เรา' ไป บางครั้งเราอาจคิดว่าเรารักเพื่อน รักแฟน รักลูก รักสถาบัน หรือแม้แต่รักชาติ แต่ความจริงแล้วเราอาจไม่เคยรักใครจริง เรารักเพราะเรารู้สึกเป็นเจ้าของ รักเพราะเป็นเพื่อน'ของเรา' คนรัก 'ของเรา' ลูก'ของเรา' สถาบัน'ของเรา' หรือ ชาติ'ของเรา' คือคิดถึงแต่'ตัวเอง' และของของ'ตัวเอง' ไม่มี'ความรัก' ที่แท้จริง 1 พย 47   Create Date : 08 มกราคม 2548     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 2:13:20 น. Counter : 519 Pageviews.   5 comment Share Tweet

ความกล้าหาญกับความรุนแรง คนแบบไหนที่คุณคิดว่าเป็นคนกล้าหาญ? นักเรียนอาชีวะที่ยกพวกตีรันฟันแทง หรือยิงกัน โดยไม่กลัวตาย นี่เรียกว่ากล้าหาญไหม? แล้วมือระเบิดพลีชีพที่ยอมตายเพื่อฆ่าคนเยอะๆล่ะ เรียกว่ากล้าหาญไหม? ผมว่าไม่นะ... สำหรับผมแล้ว คนกล้าคือคนที่เข้าใจ และเห็นคุณค่าของชีวิต แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเองมากไปกว่าชีวิตของผู้อื่น และเมื่อถูกคุกคาม ก็ 'กล้า' พอที่ต่อสู้ด้วยวิธี 'อหิงสา' คือไม่เบียดเบียนทำร้ายใคร 'กล้า' พอที่จะยอมรับ 'ความทรมาน' หรือแม้กระทั่ง 'ความตาย' ที่เพื่อนร่วมโลกจะหยิบยื่นให้ จากความโลภ ความโกรธ หรือความหลงของเพื่อนร่วมโลก (ผมยังไม่กล้าขนาดนี้นะ) ผมคิดว่า 'คนกล้า' คือคนแบบ มหาตมะคานธี ไม่ใช่คนแบบ จอร์จ บุช หรือ บิน ลาดิน คือคนแบบพระธุดงค์ ที่เข้าป่าแบบไม่มีอาวุธ ไม่ใช่ นายพรานที่พกปืนเข้าไปด้วย และพร้อมจะทำลายทุกชีวิต หากคิดว่าตัวเองอยู่ในอันตราย ผมไม่ทราบว่า นักเรียนอาชีวะที่ตีกัน หรือมือระเบิดพลีชีพ จะเข้าใจและเห็นคุณค่าของ 'ชีวิต' หรือไม่ แต่การยอม 'เสี่ยงตาย' หรือ'ยอมตาย' เพื่อฆ่าผู้อื่น ไม่ต้องใช้ความกล้าหรอกครับ ใช้แค่ 'ความหลง' ก็พอ แค่หลงคิดว่าเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของตัวเอง 1 ชีวิตของ 'กู' เท่ากับ หลายชีวิต(10, 100, 1000, ฯลฯ) ของพวก 'มัน' ผมเชื่อว่า ที่ไหนมีความรุนแรงมาก ที่นั่นมี 'ผู้กล้า' น้อยครับ 28 ตค 47   Create Date : 27 ธันวาคม 2547     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 2:13:36 น. Counter : 452 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ความไม่เชื่อ ผมคิดว่าการ 'ไม่เชื่อ' เองก็เป็น 'ความเชื่อ' แบบหนึ่ง คนที่ 'ไม่เชื่อ' ไม่ได้แปลว่าฉลาดกว่าคนที่ 'เชื่อ' และคนที่ 'เชื่อ' ก็ไม่ได้แปลว่าฉลาดกว่าคนที่ 'ไม่เชื่อ' บางคนเชื่อว่ามีพระเจ้า บางคนไม่เชื่อ ซึ่งก็คือเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า บางคนเชื่อกฎแห่งกรรม บางคนไม่เชื่อ ซึ่งก็คือเชื่อว่าไม่มีกฎแห่งกรรมจริง บางคนเชื่อว่ามี ชาติที่แล้ว ชาตินี้ ชาติหน้า บางคนไม่เชื่อใน ซึ่งก็คือเชื่อว่า ไม่มีชาติที่แล้ว ไม่มีชาติหน้า บางคนเชื่อว่ามีสวรรค์ และนรก บางคนไม่เชื่อ ซึ่งก็คือเชื่อว่าไม่มีสวรรค์ หรือนรก บางคนเชื่อว่านิพพานมีจริง และเข้าถึงได้ทุกคน บางคนไม่เชื่อ... บางคนเชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตนอกโลก บางคนไม่เชื่อ... ฯลฯ เรื่องที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่ เราต้องเลือกเอาว่าจะ 'เชื่อ' หรือ 'ไม่เชื่อ' และควรตระหนักว่า 'ความเชื่อ' และ 'ความไม่เชื่อ' เป็นแค่เพียง 'สมมติฐาน' ที่ต้องรอการพิสูจน์ อย่างมงาย หลงคิดว่า 'ความเชื่อ' และ 'ความไม่เชื่อ' ของตัวเองนั้นถูกต้องจริงแท้แล้ว วันหนึ่ง 'ความเชื่อ' หรือ 'ความไม่เชื่อ' ของเราอาจได้รับการพิสูจน์ เราอาจจะเชื่อถูก หรือเราอาจเชื่อผิด ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เราจะได้รับข่าวนั้นเสมอ ตราบใดที่เรายังเปิดใจและรอคอยการพิสูจน์ 26 ตค 47   Create Date : 27 ธันวาคม 2547     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 2:13:55 น. Counter : 449 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• DigiTaL-KRASH!!!
• Practical x 2
• UPluto
• "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
• ศล
• gluhp
• Cryptomnesia
• กะว่าก๋า
• aston27
• ยิปซีสีน้ำเงิน
• จอมเยอะเล่า
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com