" เช้าวันหนึ่งในวันฝนโปรย " ...

 
          สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เมื่อวันสองวันที่ผ่านมานี้ เห็นข่าวที่ผู้หญิงจับได้ว่าสามีตัวเองคบชู้ จากข่าวคือฝ่ายผู้หญิงไปไหว้พระเก้าวัด จนเมื่อมาไหว้พระวัดที่เก้า ก็ไปเห็นรถของสามีตัวเอง จากข่าวที่มีการแชร์ๆกัน คือคลิปที่เธอกระโดดเกาะรถ แล้วมีจังหวะหนึ่งที่ฝ่ายสามีลงจากรถมาดึงผู้หญิงออกจากรถแล้วเหวี่ยงลงพื้น ถ้าใครติดตามข่าวนี้คงพอรู้ที่มาที่ไปแหละนะ พอดูข่าวนี้ก็เลยนึกไปถึงเรื่องที่เคยผ่านมาเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นมือถือใช้โทรออกรับสาย ส่งข้อความได้เท่านั้น (ถ้าถ่ายคลิปได้ตอนนั้นก็น่าจะเป็นข่าวแน่ๆ) ที่จะเล่าให้เพื่อนๆฟังคือ จขบ เคยเห็นเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้มากับตา เป็นเรื่องชาวบ้านว่างั้นเถอะ^^" .....

         เรื่องมีอยู่ว่า เช้าวันหนึ่งประมาณเกือบเจ็ดโมงเช้า วันนั้นถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นวันที่ฝนตกปรอยๆด้วยมั้ง จขบ.มายืนรอรถเมล์ที่ป้ายเพื่อไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน แต่จู่ๆ ก็มีรถเก๋งคันหนึ่ง แล่นมาด้วยความเร็วสูงพุ่งผ่านหน้าจขบไป !! และจอดเลยสะพานลอยไปนิดเดียว พร้อมกันนั้นประตูด้านคนขับก็เปิดออกมาแรงเร็ว พร้อมกับผู้ชายร่างสูงใหญ่รีบเดินอ้อมด้านหน้ารถ มาเปิดประตูรถอีกฝั้ง แล้วฉุดกระชากลากแขนของผู้หญิงที่นั่งมาด้วย ลากลงจากรถอย่างแรง

         เขาเหวี่ยงผู้หญิงกระเด็นไปกระแทกกับขอบทางที่จะเดินขึ้นสะพานลอยด้วยล่ะ ผู้หญิงน่าจะเจ็บนะ ไม่มีเสียงทะเลาะกันระหว่างทั้งคู่ แต่ผู้หญิงร้องไห้เสียงดัง เขวี้ยงรองเท้าใส่ผู้ชายและด่าหยาบคายทั้งที่ร้องไห้อยู่ เสื้อผ้าเนื้อตัวเปื้อนดินเปื้อนน้ำเลอะเทอะไปหมด ฝ่ายผู้ชายรีบเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป

         มีไทยมุงสองสามคนที่ยืนรอรถเมล์อยู่ไม่ไกลจากจขบ. รีบไปช่วยพยุงผู้หญิงคนนั้นให้ลุกขึ้น เหตุการณ์อยู่ห่างจากจขบ.ประมาณห้าเมตร ไอ้เราก็อยากไปช่วยพยุงเขานะ แต่เห็นคนช่วยแล้วก็ได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ แต่ทันใดนั้นเอง!! รถเก๋งคนเดิมก็วนกลับมาด้วยความเร็ว จอดรถใกล้ตรงทางขึ้นสะพานลอยอีกครั้ง (ไม่ไกลจากแถวนั้นมีที่กลับรถน่ะ)

         ผู้ชายคนเดิม ลงจากรถปรี่มาหาผู้หญิงที่เขาพึ่งเหวี่ยงหล่อนลงจากรถไปหยกๆ บรรดาไทยมุง (ซึ่งเราก็คือหนึ่งในนั้นก็ไม่อยากยุ่งเรื่องผัวเมีย ) เพราะผู้ชายเขาตะโกนตอนลงจากรถว่า " เรื่องผัวเมียใครก็อย่ายุ่ง " ฝ่ายผูู้หญิงก็ก่นด่าไปร้องไห้ไป ผู้ชายฉุดกระชากลากแขนฝ่ายหญิงเหวี่ยงให้เข้าไปในรถ ปิดประตูอย่างแรงเหมือนกลัวประตูรถจะไม่พัง (ไอ้เราก็คิดในใจ แล้วคุณมรึงจะเหวี่ยงเขาลงมาเพื่อ?? ถ้าจะมาเหวี่ยงกลับแบบนี้น่ะ !!!)

         แล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไปช้าๆเหมือนจะหาจังหวะขับเข้าไปเลนขวาล่ะมั้ง แต่รถออกตัวไปไม่ถึงสามเมตร ประตูฝั่งคนนั่งก็เปิดออกทั้งที่รถแล่นอยู่ ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างผู้หญิงหล่นลงมาที่พื้นถนน เราสันนิษฐานว่า ผู้หญิงน่าจะเปิดประตูลงมาเองล่ะมั้ง แล้วสามสี่คนในกลุ่มไทยมุงรีบวิ่งกรูไปช่วยพาผู้หญิงให้รีบออกมาจากถนน เพราะกลัวรถคันอื่นจะเหยียบเอา

         แต่ทันใดนั้นเอง !! รถเมล์สายที่เรารออยู่ก็มาพอดี ถ้าอยู่เผือกต่อไม่ทันเข้างานแน่ๆ^^" ก็เลยต้องขึ้นรถไปอย่างเสียดายเรื่องชาวบ้าน ดีว่ารถไม่แน่นมาก ได้นั่งที่เบาะหลังสุด เลยหันกลับไปมอง เห็นว่า ผู้หญิงคนนั้นนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป แล้วเลี้ยวเข้าไปในซอยก่อนจะถึงป้ายรถเมล์ถัดไปไม่ไกล ส่วนเหตุการณ์ต่อจากนี้เป็นไงไม่รู้ ได้แต่คาดเดาไปเองต่างๆนานา แน่นอนว่าหัวข้อที่พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในวันนั้นก็คงไม่พ้นเรื่องนี้ …

         ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่ว่ากับใคร ที่จำได้ดี เพราะไม่คิดว่าจะมีอะไรแบบนี้ให้เห็นกับตา เพราะนี่คือชีวิตจริงไม่ใช่ละคร ไม่รู้คิดไปเองมั้ย ทุกวันนี้คนหัวร้อนกันง่ายมาก มีเรื่องฆ่าแกงกันไม่เว้นแต่ละวัน โลกเทาๆใบนี้จะมีวันที่เปลี่ยนเป็นโลกที่สดใสมั้ยนะ ???.....