Group Blog
|
ชีวิตปีแรกที่เนเธอร์แลนด์ สวัสดีค่ะ วันนี้มาเม้าต่อนะคะ ขอเล่าชีวิตปีแรกที่เนเธอร์ เอิงย้ายมาเนเธอร์แลนด์ตอน พค 2015 ค่ะ มาตอนฤดูใบไม้ผลิ อากาศกำลังเริ่มดี ไม่หนาวมากล่ะค่ะ ย้ายมาคราวนี้ก็คือมาเพื่ออ หรือที่เราเรียกสั้นๆ ว่ามาด้วยวีซ่า MVV นะคะ ก็ทำตามขั้นตอน สอบภาษา ยื่นเอกสาร รวมเวลาเรียนด้วย ก็ประมาณ 7 เดือนค่ะ (แต่จริงๆ วีซ่าผ่านประมาณ 6 เดือนค่ะ) เมื่อได้ผลวีซ่าแล้วจะต้องน ภายใน 90 วันนะคะ และเมื่อได้รับวีซ่าแล้วก็ต โพสเอกสารยื่นวีซ่า MVV ที่ IND นะคะ https://www.facebook.com/ โพสเอกสารยื่นวีซ่าที่สถานท https://www.facebook.com/ เมื่อวีซ่าผ่านแล้วก็ซื้อตั รอบนี้เอิงซื้อตั๋วขาเดียวข ซึ่งราคาตั๋วขาเดียวนี้แพงก โดยคราวนี้คุณแฟนมารับค่ะ (มาช่วยขนของ 555) คราวนี้ก็ขนของมาจัดเต็ม แน่นเอี๊ยดเต็มพิกัดเช่นเคย เพราะคราวนี้ไปถาวรแล้ว ยังไม่มีกำหนดกลับ ก็ยิ่งใจหาย ต้องหอบหิ้วสมบัติไปมากที่ส แล้วยิ่งต้องบอกลาครอบครัวแ ก่อนเดินทางก็เลยเดินสายใช้ เมื่อเดินทางมาถึงเนเธอร์แล ก็เริ่มต้นชีิวิตจริงล่ะค่ะ เอาชื่อเข้าทะเบียนบ้านเรีย ก็สามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้แล้ว ก็อย่างที่เคยเล่าไปนะคะ https://www.facebook.com/ ที่นี่ก็เริ่มใช้ชิีวิตตามว ขอบอกก่อนว่าก่อนเอิงจะย้าย ว่าในช่วงแรกนี่เอิงยังไม่จ แล้วเอิงก็ไม่มีภาระการเงิน ก็เลยรับบทแม่บ้านฟูลไทม์ไป รวมถึงเรื่องการเรียน ก็ยังสบายใจ ชิลๆ อยู่ค่ะ เพราะมีกำหนด 3 ปี ประมาณการตัวเองแล้วว่าไม่ต (ตอนนั้นยังไม่ได้รอสอบ รอผลสอบนานแบบตอนนี้นะคะ ตอนนี้ไม่ควรชะล่าใจแล้วค่ะ คุณแฟนก็เลยบอกว่าช่วงนี้ปร ค่อยไปเรียนตอนเดือนตุลาก็ไ ชีวิตเอิงช่วงนี้เลยชิลค่ะ ชีวิตประจำวันประมาณนี้ - ตื่นเช้าประมาณ 7 โมง ส่งแฟนไปทำงาน - ส่วนใหญ่ก็จะกลับมานอนกลิ้ง - ออกกำลังกายประมาณครึ่งชั่ว - ถ้าเป็นวันจันทร์ ก็จะทำความสะอาดบ้านค่ะ ดูดฝุ่น เช็ดครัว ล้างห้องน้ำ นานๆ ครั้งถึงจะดูดฝุ่นบันได และ ชั้นสอง (เป็นพรม) และนานๆๆๆๆ ครั้งมากๆ ถึงจะเช็ดฝุ่นตามชั้นวางของ - ปกติเอิงทำความสะอาดบ้านอาท - ถ้าไม่ทำความสะอาดบ้าน ก็เล่นเนต ดูยูทูปไปเรื่อยเปื่อยค่ะ - กินข้าวเที่ยง - บ่ายๆ ก็พยายามขุดตัวเองเรียนภาษา - บางวันอากาศดีๆ ตอนบ่ายๆ ก็ไปขี่จักรยานเล่น ดูนู้นดูนี่ค่ะ - บ่ายแก่ๆ ก็เตรียมมื้อเย็น ทำมื้อเย็น - คุณแฟนถึงบ้านประมาณ 5 โมงเย็น ก็กินข้าวเย็นกัน - กินข้าวเสร็จก็นั่งดูซีรีส์ - เข้านอนประมาณ 3 ทุ่ม - ถ้าเป็นวันศุกร์เข้านอนประม - เสาร์อาทิตย์ ก็แฮปปี้ นอนตื่นสายได้ - วันเสาร์เป็นวันช้อปปิ้ง ไปซื้อของเข้าบ้าน ไปเดินร้านมือสอง ไปเที่ยวนู้นนี่ - วันอาทิตย์ส่วนใหญ่จะพักผ่อ พิเศษโดยช่วงที่มีตั๋วรถไฟร ส่วนใหญ่ก็จะไปกันวันเสาร์ค นั่งรถไฟไปเที่ยวตามเมืองต่ ไปเดินเล่น หาอะไรอร่อยๆ กิน ดูบ้านดูเมือง ชมวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างไปบ ปีนี้เน้นเที่ยวในประเทศค่ะ พอเอิงมาอยู่ก็เลยได้โอกาสไ รูปในโพสนี้ก็ถ่ายตอนไปเที่ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงพอดี ใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้ร่วงนี่สวยมากๆ ค่ะ เอิงชอบมาก ช่วง 6 เดือนแรก เลยเรียกว่าเป็นช่วงปรับตัว ก็เริ่มชำนาญเรื่องการทำอาห หาอะไรทำได้โดยไม่เบื่อค่ะ โดยเอิงดูละครไทยในยูทูปค่ะ ก็ดูเพลินเลย แบบแป๊บๆ ก็หมดวัน หมดเวลาดูล่ะ ไม่ต้องนั่งรอ 5 โมงเย็นให้คุณแฟนกลับบ้านเป ส่วนเรื่องสำคัญที่สุดในช่ว ก็คือเรื่องการอยู่กับคุณแฟ ช่วงแรกๆ ก็มีทะเลาะกันบ้างค่ะ ตามเคยก็จะเก็บกระเป๋ากลับไ คุณแฟนส่วนใหญ่ก็จะไม่พูดอะ เลยบอกว่า เออ กลับไปเลย เก็บกระเป๋าซิ เอิงนี่น้ำตาแตกเลย 555 สรุปก็ดีกัน และเอิงตั้งปณิธานว่าจะไม่บ เพราะตอนเขาจะให้ไปจริงๆ นี่มันเจ็บปวดหัวใจจริงๆ ค่ะ เลยไม่พูดเพราะเราแค่โกรธหร ผ่าน 6 เดือนล่ะ ก็ได้เวลาไปหาโรงเรียนเพื่อ เพราะที่ผ่านมาก็พยายามจะเร ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง คุณแฟนก็สอนไม่เป็น ถามเรื่องภาษานี่แทบจะตีกัน ก็เลยสรุปว่าไปหาโรงเรียนล่ เพราะบอกว่าถ้าให้คุณแฟนสอน ก็เลยหาข้อมูลโรงเรียน ไปสอบถาม ไปดูคอร์ส ดูค่าใช้จ่าย ก็มีที่ถูกใจอยู่ที่นึง ราคาไม่แพงมาก เริ่มเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่มันตุลาแล้วก็เข้าฤดูใบไ ก็คือฝนตกบ่อย และหนาวมากๆ ค่ะ (สำหรับคนมาปีแรก) คุณแฟนก็เลยบอกว่า ไว้ปีหน้า หน้าร้อนค่อยไปเรียนดีกว่า เพราะเอิงต้องไปเรียนที่เมื ถ้าเจอฝนตกบ่อยๆ เจออากาศหนาวๆ นี่คงไม่ค่อยอยากไปเรียนแน่ ก็เลยยืดเวลาเรียนไปอีก สรุปก็กลับบ้านมานอนกลิ้งต่ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็รู้จ พี่เขาก็แนะนำให้ไปเข้ากลุ่ เอิงก็เลยได้ไปเรียนภาษาที่ เป็นกลุ่มคุณครูเกษียณอายุ เป็นอาสาสมัครสอนภาษาให้ชาว น่ารักกันมากๆๆๆๆๆๆๆ เลย เป็นจิตอาสากันจริงๆ ค่ะ สอนดีมากๆ ด้วยค่ะ เริ่มตั้งแต่เริ่มต้น A-Z กันเลยค่ะ ก็เลยทำให้เอิงได้พื้นฐานภา เข้าใจเรื่องแกรมม่ามากขึ้น และที่สำคัญทำให้เอิงมีเรื่ เรียนเสร็จก็ได้ไปในเมือง ไปแวะดูร้านนู้นร้านนี้ สำรวจของ ช้อปปิ้งเล็กน้อย สนุกสนาน เป็นการฝึกภาษาด้วยการช้อปป ซึ่งชีวิตก็สนุกสนานและมีสี อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องทำงาน มันก็สบายดี แต่มันก็เฉาๆ ไปบ้างค่ะ ได้ออกไปนอกบ้าน ไปไหนมาไหนบ้าง ก็สนุกดีค่ะ ^^ ช่วงคริสตมาสปีใหม่ก็ไปบ้าน ได้ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ (ลูกๆ เพื่อนเยอะมาก) ก็สนุกสนานดีค่ะ สรุปก็ผ่านปีแรกไปอย่างเรีย เอิงได้กลับไทยครั้งแรกตอน มีค 16 หลังจากมาอยู่เนเธอร์แลนด์ไ เป็นครั้งแรกที่อยู่ห่างบ้า ได้กลับไทยก็ดีใจมากๆ ค่ะ ได้เจอครอบครัวและเพื่อนๆ ได้กินของอร่อยๆ เต็มที่ เอิงกลับไทยเกือบ 2 เดือนค่ะ ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตที่เนเ จบปีแรกที่เนเธอร์แลนด์ไปแล
พี่อ้อ นะคะ
คงเป็น บุพเพฯ เห็น ชื่อ Log in น่ารัก แถมหัวเรื่องบล็อคก็น่าสนใจ เลยแวะเข้ามาอ่าน เขียนเล่าเรื่อง ได้เพลิดเพลินเลย ค่อยๆเรียนค่อยๆรู้ไปนะคะ อย่าง"สาวไกด์ฯ" ว่าแหละค่ะ อะไรก็ตาม ห้ามหิ้วกระเป๋าออกจากบ้านเพราะความงอนเด็ดขาด และห้ามไล่ตะเพิดคุณแฟนด้วย เดี๋ยวจะเคยเป็นนิสัย แก้ไขลำบาก ส่งกำลงัใจ และจะตามอ่านค่ะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 มิถุนายน 2561 เวลา:20:28:39 น.
เคยได้ยินผู้ใหญ่เขาสอนลูกที่จะไปอยู่กับสามีว่า จะโกรธจะทะเลาะอะไรกันก็ให้อดทน อย่าเก็บกระเป๋ากลับบ้านท่าเดียว คือถ้าไม่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะเลิก ห้ามหนีกลับบ้าน เพราะเราเลือกและตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้ว
เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทนขนาดนั้น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าเพราะอะไร ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์นะคะ โดย: เพรางาย วันที่: 14 มิถุนายน 2561 เวลา:11:13:56 น.
เพื่อนๆที่แต่งงานแล้วย้ายไปอยู่ต่างแดน
เล่าให้ฟังว่าต้องปรับตัวปรับทุกอย่าง กว่าจะลงตัวใข้เวลาหลายปี ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ ไว้รออ่านปีที่สองต่อค่ะ โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 18 มิถุนายน 2561 เวลา:6:44:38 น.
|
แมวเอิง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] แมวเอิงจ้า log in เก่า ayanami_rei นะคะ blog นี้บางส่วนก็จะ copy มาจากอันเก่าค่ะ ปกติเพ่นพ่านอยู่ห้องแมว จตุจักร แว่บๆ ไปแอบดูห้องโต๊ะเครื่องแป้งบ้าง แอบไปเที่ยวตามเค้าที่ Blue Planet บ้าง ปัจจุบันทำงานอยู่ร้านหนังสือสัญชาติญี่ปุ่น แถวๆ สยามจ้า แต่ไม่รู้ภาษาญีปุ่นหรอกนะจ๊ะ ปัจจุบันกว่า เป็นแม่บ้านเนเธอร์แลนด์ค่า https://www.facebook.com/ErngInTheNetherlands/ ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมนะคะ มีอะไรสงสัยอยากถามอยากคุย ก็จิ้มได้เลยจ้า Friends Blog
| ||||
ครูจิตอาสานี่ดีจังเลยค่ะ เอาไว้แก่ตัวทำมั่งดีกว่าาา 555
สาวไทยนี่จริงๆ เลยเนาะ เราก็เป็น เอะอะจะหนีกลับ เอะอะบอกเลิก พอโดนจริงนี่ก็..น้ำตาแตก 555
เราคงเป็นชาติที่ผู้หญิงงอนเก่งที่สุดในโลกแล้วค่ะ