|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
สีลมในปีพ.ศ.2551 กับ สยามทัศน์สัญจร - Part 2
อ่าน Part 1 ที่นี่
อ่านก่อนเที่ยว พระอาทิตย์ขึ้นที่ถนนสีลม โดย "ประทุมพร"
กำหนดการสยามทัศน์สัญจร ครั้งที่1/2551 "สีลม 2" ตอน การศึกษา ศาสนาและการแพทย์แบบตะวันตกบนถนนสีลม และ ข้อมูลประกอบการทัศนศึกษาจรของชมรมฯ
ตกบ่ายก็ตั้งต้นกันที่ห้องสมุดเนล์สัน เฮย์ ซึ่งก่อตั้งในสมัยราวปีพ.ศ. 2411 โดยภรรยาของหมอบรัดเลย์และหมอสมิธ ทำเป็นบาร์ซ่าร์เพื่อหาเงินมาซื้อหนังสือเพิ่มเติมแล้วแลกกันอ่าน โดยตั้งเป็น "The Bangkok Ladies Library Association" โดยไม่หวังผลกำไร จากนั้นห้องสมุดก็ร่อนเร่ไปอาศัยสถานที่ต่างๆ อยู่ระยะหนึ่ง ต่อมามีสุภาพสตรีชาวเดนมาร์ก ชื่อ Jennie Neilson Hays ภรรยาของหมอ T.Heyward Hays แพทย์ใหญ่ประจำการในกรมการแพทย์ทหารเรือไทย มาเป็นกรรมการอยู่ 25 ปี ด้วยความรักในการอ่านและดูแลหนังสือต่างๆ เป็นอย่างดี จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ภายหลังการเสียชีวิตของนาง ในพ.ศ.2464 สามีของเธอ จึงได้สร้างห้องสมุดขึ้นเพิ่อเป็นอนุสรณ์แด่ภรรยา
ตึกห้องสมุดเนลสัน เฮย์ หลังนี้ออกแบบโดย Mario Tamalyo ชาวอิตาเลียน ที่เข้ามารับราชการเป็นสถาปนิก สมัยรับกาลที่ 5 เป็นอาคารชั้นเดียวแบบนีโอ คลาสิค ที่ใช้เทคนิคการสร้างฐานอาคารแบบเดียวกับพระที่นั่งอนันตสมาคม มีรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบยุโรปโบราณ ประกอบด้วยหลังคาโค้งทรงกลม(Dome) หัวเสาทุกต้นสลักลวดลายสวยงาม ใต้ตัวตึกเป็นบ่อน้ำ เพื่อให้ความเย็นภายในอาคาร
มีพื้นที่ประมาณ 1ไร่เศษ มีสวนและลานด้านหน้า และมีการปลูกต้นไม้โดยรอบ เพื่อภูมิทัศน์ที่สวยงาม ในปัจจุบันนี้ยังมี coffee shop อยู่ด้านหน้า เพื่อสมาชิกและบุคคลทั่วไปได้นั่งสังสรรค์จิบกาแฟและชากับเบเกอรี่ต่างๆ ในบริเวณสวนด้านหน้าห้องสมุดอีกด้วย
ห้องสมุดเนลสัน เฮส์ ได้ให้บริการและบริหารโดยคณะกรรมการสตรี 12 คน ปัจจุบันมีหนังสือให้บริการมากกว่า 2 หมื่นเล่ม เป็นหนังสือภาษาอังกฤษทั้งหมด ทั้งเก่าและใหม่ ส่วนใหญ่เน้นไปทางด้านหนังสือสำหรับอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน จัดแบ่งหมวดหมู่ด้วยระบบดิวอี้ ให้บริการสำหรับสมาชิกไม่จำกัดชาติ ภาษา อายุ
แบ่งโซน Fiction, Non-Fiction, Reference, Children เป็นสัดส่วนดี เราชอบโซนหนังสือเด็กที่สุดเลย ...เพราะนั่งอ่านกับพื้นได้เลย ที่จริง ...ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าห้องสมุดนะ ...แต่พวกเราก็ย่ำกันเข้ามาทั้งรองเท้านั่นแหละ ...ไม่ได้สังเกตกันเลย จนเห็นสมาชิกห้องสมุดครอบครัวนึงแวะมานั่นแหละ ..
โต๊ะเก้าอี้ชุดนี้ เป็นของขวัญพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 สังเกตจากตราพระราชลัญจกรที่แกะสลักไว้ด้านบน
บางครั้งก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจและจัดขึ้นเป็นประจำ เช่นการพบปะพูดคุยกับนักเขียนชื่อดังทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และในห้องสมุดยังมีห้องจัดนิทรรศการงานศิลปะโรทันดา แกลเลอรี่ ไว้จัดแสดงผลงานศิลปะด้วย
ขณะที่เรามาเยี่ยมชมห้องสมุด ก็มีงานภาพเขียนของศิลปินชาวมาเลย์จัดแสดงอยู่ด้วย
ตู้แสดงของที่ระลึกประวัติศาสตร์ของห้องสมุด ตัวตู้รับพระราชทานจากสมเด็จพระพี่นาง รัชกาลที่ 9
ออกจากห้องสมุด ก็เดินถอยหลังย้อนลงมาเยี่ยม สโมสรอังกฤษ English Club รายการแถม เนื่องจากมีสมาชิกสโมสรรู้จักกับชาวชมรม เลยพอเข้าชมซะเลย
ตัดทะลุออกมาถนนสีลมอีกครั้งเพื่อเดินไปร้านกัลปพฤกษ์ ระหว่างทางจะพบเห็นสัญลักษณ์ของหลากหลายความเชื่อทางศาสนา
โบสถ์คริสต์ฝรั่งเศส
มัสยิดมุสลิม
วัดแขกของชาวฮินดู
เอาล่ะมาถึงร้านอาหารกัลปพฤกษ์ ซะที
ก่อนจะเข้าร้าน ก็หยุดคุยกันถึงที่ตั้งของร้านซะก่อน ร้านอาหารแห่งนี้ ตั้งอยู่บ้านที่ดินของ วังประมวญ ซึ่งเป็นวังที่ประทับของ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ต้นราชสกุลรัชนี (น.ม.ส.) พระโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
สิ่งปลูกสร้างในปัจจุบันประกอบด้วย
1. ตำหนักใหม่ เป็นที่ประทับของ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี และท่านผู้หญิงดัชรีรัช รัชนี (วรวรรณ) 2. บ้านของครอบครัว หม่อมราชวงศ์ภวรี สุชีวะ 3. บ้านของครอบครัว หม่อมราชวงศ์ดัจฉราพิมล ตุงคนาค
จากจุดเริ่มต้นที่ริมรั้วหน้าบ้าน ร้านอาหารจะตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นของแมกไม้นานาพันธุ์ ปัจจุบันแม้ตัวร้านจะปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ขนมเค้กยังอร่อย ละมุมละไมลิ้นเหมือเดิม เดิมท่านผู้หญิงดัชรีรัช รัชนี ให้บริวารในบ้านทำขนมเค้กขายหน้าบ้าน รสชาติของขนมเป็นที่ถูกปากจนรู้จักกันแพร่หลาย จากนั้นจึงเปิดร้านอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2519 ร้านกัลปพฤกษ์เลือกใช้วัตถุดิบจากมูลนิธิโครงการหลวง ประกอบอาหารและขนม เนื่องจากมั่นใจในคุณภาพ ปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการอุดหนุนผลิตผล จากมูลนิธิโครงการหลวงด้วย
ถึงร้านกัลปพฤกษ์แล้ว ไม่ซื้อเค้กกลับบ้านได้ไงล่ะ ร้านนี้นายเก่าเราชอบให้สั่งเค้กประจำ เราก็เลยได้มีโอกาสลิ้มลองบ้างบางครั้ง เที่ยวนี้ก็เลยหิ้วเค้กช็อคโกแลตนิ่มสุดโปรด เค้กลูกพรุน และเค้กแบล็คฟอร์เรส กลับไปกินที่บ้านซะด้วย ..
ซื้อของฝากกันแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อ เยื้องกับร้านเป็นที่ตั้งของ โรงเรียนอัสสัมชันคอนแวนต์ หยุดให้ศิษย์เก่าได้รำลึกความหลักกันหน่อยนึง เดิมโรงเรียนนี้ชื่อ ผดุงดรุณี ...ไม่เหลืออาคารเค้าหน้าตาเดิมๆ แล้วล่ะ
พวกเราเดินต่อไปอีกนิด จนถึงถนนศรีเวียง ตรงข้ามโรงเรียนกรุงเทพคริสต์เตียน แวะมาหยุดยืนกันอยู่หน้าบ้านสกุล "ณ สงขลา" ฟังประวัติจากหลานตา ท่านพระยาศรีธรรมาธิเบศ พยายามชะเง้อมองหาตัวบ้าน ก็ไม่เห็น ประตูรั้วไม้ปิดมิดชิดก็เลยได้แต่ภาพหน้าบ้านมาให้ชม
ฝั่งตรงข้ามกันเป็นร้านอาหาร และคงจะปรับปรุงมาจากบ้านเก่าเช่นกัน เห็นสวยดี ก็เลยถ่ายภาพมาด้วย
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ คริสตจักรสืบสัมพันธวงศ์กันซะที
ตามประวัติเล่าว่า คริสตจักรแห่งนี้ กำเนิดโดยมิชชันนารีของ อเมริกันเพรสไบทีเรียน ดร.อาเธอร์ เจ. บราวส์ เลขานุการจากอเมริกัน-เพรสไบทีเรียนมิสชั่น มีแนวคิดที่จะหาที่นมัสการพระเจ้า หรือจะหาคนที่เหมาะสำหรับจูงจิตวิญญาณของคนหนุ่มสาว จึงมอบหมายให้บุญต๋วน บุญอิต ย้ายจากพิษณุโลกมาประจำในกรุงเทพ เพื่อจะดำเนินการสร้างโบสถ์ โดยได้ทุนที่ดินและเงินสมทบทุนก่อสร้างส่วนใหญ่ จาก ท่านเจ้าคุณสารสิน สวามิภักดิ์ เพื่อสร้างโบสถ์เป็นอนุสรณ์ระลึกถึง นายสืบ บุตรชายหัวปีของท่านเจ้าคุณ
ที่นี่เพิ่งบูรณะเสร็จไม่นานนี้เอง ....สีสันก็เลยดูใหม่เอี่ยม แต่ยังคงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแบบดั่งเดิมไว้
เข้าข้างในดีกว่า
นาฬิกาหลังนี้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5
บนถนนเดียวกัน ฝั่งตรงข้าม จุดสุดท้ายที่เราเยี่ยมชมกัน คือ สโมสรสีลม
สโมสรสีลมนี้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2460 มีเครื่องหมายสโมสรเป็นรูปกังหันลม เริ่มต้นสโมสรเป็นเพียงหลังคามุงจาก กว้าง 4 เมตร ยาว 11 เมตร มีสนามเทนนิสเพียง 1 สนาม มีสมาชิก 20 คน สโมสรสีลมเป็นที่รู้จักแพร่หลายและนิยมในหมู่ Yuppies (Young Urban Professional) จึงได้มีการขยายสนมเทนนิสและขยายตัวตึก ในปี พ.ศ.2470 มีสนามเทนนิส 8 สนาม โต๊ะบิลเลียด 4 โต๊ะ และในปีนั้นได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมถ์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
สโมสรสีลมเจริญขึ้นมาเป็นลำดับ จนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2480 สโมสรสีลมเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ สิ่งของวอดวายในกองเพลิงหมด สมาชิกได้หากองทุนสร้างสโมสรขึ้นมาใหม่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากคุณวิเชียร สุวรรณทัต และคุณชุณห์ ปิณฑานนท์ แห่งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สโมสรสีลมได้สร้างขึ้นมาใหม่ซึ่งสวยงามโอ่โถง สำหรับยุคนั้น ต่อมาเมื่อมีสโมสรกีฬาเพิ่มมากขึ้น บทบาทสโมสรก็ลดลง สมาชิกลดลง สภาพความโอ่อ่า มีเกียรติ ความเป็นสถานที่พิเศษ ก็จืดจางและได้ปิดตัวลงตามกาลเวลา
ติดๆ กันก็ยังมีบ้านเก่าๆ ให้เห็นอยู่เหมือนกัน
ร่ำลาจากชาวคณะแล้ว เราก็น้องชายก็เดินออกมาทางถนนอะไรไม่รู้ เพื่อมาออกด้านสาทร เดินกันมาเรื่อยๆ ผ่านบ้านเก่าๆ ริมถนนสาทร ที่ดูโทรมเพราะฝุ่น รุงรักด้วยสายไฟฟ้า แต่ก็อดกตชัตเตอร์บันทึกไว้ไม่ได้
แล้วก็เดินข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินกลับมายังจุดเดิมคือ วัดสุวรรณฯ แยกย้ายกลับ บ้านใครบ้านมัน
ขอบคุณ ชมรมสยามทัศน์ จัดทริปดีๆ เช่นนี้โอกาสหน้า ถ้าเส้นทางไม่ไกลเกินไป คงได้ร่วมเดินทางกันอีก
ปล. ภาพชุดนี้ ไม่ผ่านการตกแต่ง ยกเว้น resize เนื่องจาก PS เดี้ยงอยู่ค่ะ
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2551 21:57:09 น. |
|
28 comments
|
Counter : 11553 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: wildbirds วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:17:24 น. |
|
โดย: มหาสำลี วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:03:57 น. |
|
โดย: The SoVo วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:35:36 น. |
|
โดย: เสือจ้ะ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:06:01 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:57:35 น. |
|
โดย: BeCoffee วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:17:41 น. |
|
โดย: ~Baan_Ohana~ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:36:56 น. |
|
โดย: นายจักรยาน สีเหลือง (บก.สยามทัศน์สาร) IP: 203.156.70.171 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:57:13 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:34:28 น. |
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:22:28 น. |
|
โดย: Jevanni วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:51:17 น. |
|
โดย: อรพิน จันทร์ประเสริฐ IP: 124.121.48.159 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:01:05 น. |
|
โดย: PinGz IP: 203.113.36.11 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:36:45 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:27:10 น. |
|
โดย: กวินทรากร วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:14:22 น. |
|
โดย: กวินทรากร วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:25:34 น. |
|
โดย: อุษณีย์ IP: 202.28.181.11 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:07:39 น. |
|
โดย: BeCoffee วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:57:45 น. |
|
โดย: บก.สยามทัศน์สาร IP: 203.209.127.240 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:27:09 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:38:46 น. |
|
โดย: งง IP: 182.52.75.63 วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:9:39:51 น. |
|
โดย: beckchez IP: 58.136.208.120 วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:39:17 น. |
|
โดย: Pa Ting IP: 180.180.26.191 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:02:50 น. |
|
โดย: เอก IP: 125.25.112.91 วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:11:44:33 น. |
|
โดย: maggy IP: 27.145.33.72 วันที่: 13 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:26:58 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
บรรยากาศโดนจังเลยค่ะ
ทำให้นึกถึงนิยายแนวๆนี้จัง