วาเริ่มทริปด้วยการไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ ไปลงที่ ขนส่งจังหวัดตราดค่ะ ค่ารถตู้คนละ 300 บาท
ส่งถึงตลาด หรือ ขนส่ง แล้วแต่ตกลง มีหลายท่ามากๆที่อนุสาวรีย์ รอบแรก ตี 5 นะคะ
ซึ่งควรไปรอบแรกนี่แหล่ะ จะได้ไปทันลงเรือ 12.30 เผื่อเวลาไว้ดีกว่าขาด เพราะเรือมีรอบเดียว
ต่อวัน ถ้าพลาดแล้วจบเลยจ้ะ
รถออกจริงๆเกือบ 6 โมง เพราะเป็นวันธรรมดา ไปถึงตราดราวๆ 10 โมงเช้า ก็โทรหาที่เรือ
ว่าเราจะไปขึ้นเรือของ เกาะกูด เอ๊กซ์เพลส ซึ่งเค้าจะมีรถ รับ-ส่งฟรี จากขนส่ง ไปท่าเรือ
สะดวกมากๆ นั่งรถไปราวๆ 30 นาทีก็ไปถึง ท่าเรือ
⁞
ใครที่ไปแบบรวมเรือแล้ว ก็ไปติดต่อเช็คอินได้เลย หรือถ้ายังไม่ได้ซื้อตั๋วเรือมา ก็มาซื้อได้เลยเช่นกัน
วาก็ซื้อตั๋วเรือ ไป-กลับ เลยค่ะ เที่ยวละ 350 บาท ไปกลับก็ 700 บาท จะได้ตั๋วมา 2 ใบเลยเก็บดีๆ
นั่งรอซักพัก ก็มีรถสองแถวขนาดใหญ่มารับเราไปส่งที่สุดปลายสะพาน คือมันไกลมาก เดินไม่ไหว
ขึ้นไปในเรือ ก็ เลือกที่นั่งได้ตามสะดวก สำหรับวาแล้ว ที่นั่งค่อนข้างโอเค เหมือนขึ้นเครื่อง Air Asia เลยทีเดียว
ไม่เก่าเกินไป ไม่ใหม่มากนัก แต่ดูดี มีแอร์เย็นฉ่ำ มีห้องน้ำด้วยล่ะ นั่งเรือราวๆ 1 ชม. ก็ถึงค่ะ
ก่อนถึงเกาะเป็นช่วง คลื่นลมแรง วามาเที่ยวนี้ฝนตกตลอดเวลาเลยนะ คลื่นก็สูง เรือโคลงไปมาสุดๆ
ถ้าไปหน้านี้ กินยาแก้เมาเรือไปเลยดีกว่า แต่ก็ไม่แรงมากนะ พอเวียนหัว ดีกว่าตอนไปเกาะเต่าเยอะ
ที่ท่าเรือ เป็นอะไรที่เหมือนหมู่บ้านชาวประมงมาก พอเทียบเรือเสร็จปุ๊บ ลงจากเรือ ก็เห็นเจ้าหน้าที่
จาก จามส์ เฮาส์ มารอรับเราอยู่แล้วค่ะ เค้าก็พาไปขึ้นรถ แล้วแจ้งกับเราว่า จะใช้เวลาเดินทาง 40 นาที
ซึ่งมันไกลมากนะ ฝนก็ตกลงมาปรอยๆ นั่งดูสองข้างทางไปเพลินๆไม่นานนักก็ถึงโรงแรมค่ะ
ทางเข้าแอบ เป็นทางลูกรังลื่นๆ เพราะฝนตก เพราะฉะนั้น ลืมเรื่องออกไปเที่ยวรอบๆโรงแรมได้เลย
ส่วนใหญ่ เกาะกูดที่มากันก็อยู่กันแต่ในรีสอร์ทเนอะ วันนี้ก็เปิดหูเปิดตาสุดๆ ได้เห็น วิถีชาวบ้าน
ของเกาะกูดด้วยในระหว่างเดินทาง
พอมาถึงวันนั้น ล๊อบบี้เต็มไปด้วย ทีมงานของ รายการ ที่นี่หมอชิต ที่เพิ่งออกอากาศไปเมื่อวัน
อาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง เห็นในทีวีแค่ราวๆ 4-5 คน แต่ทีมงานจริงๆนี่เกือบ 20 เต็มล๊อบบี้ไปหมด
เค้าเลยให้เราเช็คอินที่ห้องอาหาร ที่อยู่ติดกันค่ะ การเช็คอินเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก
วาได้รับ Welcome Drink เป็นน้ำอะไรซักอย่างเขียวๆ อร่อยดี แต่เค้ารีบพาเราไปห้อง เพราะ
ตรงนั้นวุ่นวายมาก คณะของรายการ กำลังจะเดินทางกลับกัน
วันนี้วาได้ห้อง 406 ค่ะ อยู่เกือบริมสุดของรีสอร์ต วิวหน้าห้องมองเห็นทะเลไกลๆ หน้าห้องมี Pool อยู่ด้วย
ซึ่งก่อนไป ก็หาข้อมูล ดูรูปไปก่อนเดินทางเยอะพอสมควร รู้สึกว่า Pool คงไม่ใหญ่มาก เอาไว้นั่งแช่
แต่ไปเห็นของจริง มันค่อนข้างใหญ่ทีเดียว และน่าเล่นมากกกกกกกก แทบจะกระโดดลงน้ำก่อนเลย
เจ้าหน้าที่พามาส่งที่ห้อง และแนะนำการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆของห้อง และก็บอกว่า มีอะไรโทร
ไปได้ที่เบอร์นี้ตลอด 24 ชม. ก็พยายามเดินหา โทรศัพท์ในห้อง แต่ก็ไม่มี เบอร์ที่ให้ไว้ก็เป็นเบอร์มือถือ
เอาล่ะไปดูในห้องกันดีกว่าค่ะ
มี welcome fruit เป็นส้มค่ะ
ห้องจะเป็นรูปทรง 8 เหลี่ยม มีกระจกไปครึ่งด้าน ในส่วนที่ติดกับ Pool ส่วนด้านหลังก็จะเป็นห้องน้ำ
มีเตียงวางอยู่กลางห้อง หนานุ่ม นอนสบายดีค่ะ ด้านหลัง เป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ที่สามารถ
วางของรกๆ ของเราได้เต็มพิกัด 5555555 มีทีวีแขวนผนังอยู่ ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่นอนดูได้สบายๆ
มีลำโพงให้เอา iPhone เสียบได้ด้วยทุกรุ่น ยกเว้น iPhone 5 (-.-)
และด้านหลัง เป็นมุมของ เครื่องชงกาแฟ illy น้ำเปล่า มินิบาร์ ก็อย่ตรงนี้ค่ะ ซึ่งเป็นหน้าประตูของห้องน้ำ
น้ำเปล่าที่นี่มีมาเติมให้ตลอดจนกินไม่ทัน ที่มีอยู่ก็ 4 ขวด เย็นๆก็เอามาเติมอีก เช้าก็เติมอีก
อุดมสมบูรณ์มาก สำหรับคนที่ชอบทานน้ำเยอะๆไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ส่วนน้ำแข็ง ก็เอากระติกนี้
เดินไปขอน้ำแข็งฟรี ที่ห้องอาหารได้ตลอดเวลาค่ะ กระติกเล็กไปนะ แถมไม่มีโทรศัพท์
เลยต้องเดินไปเอาบ่อยๆ
มาดูที่ห้องน้ำกันบ้าง เปิดประตูแบบสานๆ ที่น่าจะเป็นเอกลักษณ์นึงของ จามส์ เฮาส์ เข้าไป
ก็จะเห็น ห้องน้ำที่อลังการสุดๆ ห้องน้ำจะสว่างและดูน่าใช้มากๆ ในตอนกลางวัน เพราะเค้าทำ
ช่องให้แสงเข้าได้อยู่ด้านบน ห้องน้ำแยกเป็นส่วนกลาง ส่วนชักโครก และ ส่วนอาบน้ำ ชัดเจน
และยังมีในส่วนของ อ่างอาบน้ำแบบ outdoor อีกด้วย ซึ่งเป็นอ่างปูนขนาดใหญ่
ด้านบนเปิดโล่ง ฝนตกก็จะเปียกหน่อยนะ แล้วข้อเสียก็คือ มันอยู่กลางแจ้ง เลยทำให้อ่างอาบน้ำ
ซึ่งเป็นปูน เป็นรอยเลอะๆคราบน้ำฝนขัดไม่ออก ดูไม่ค่อยน่าใช้เท่าไหร่
ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่นี่ใช้ของ THAAN ทั้งหมด กลิ่นหอมมากๆน่าใช้ทุกอันเลยค่ะ
มีซอฟเฟลให้ด้วย เพราะดึกๆจะค่อนข้างมียุงพอสมควร แล้วก็มีอุปกรณ์อื่นๆครบครันในห้องน้ำค่ะ
ชีวิตปกติตลอด 3 วัน 2 คืนที่นั่น ก็ไม่ได้ทำอะไรค่ะ นอนเล่นดูทีวี แล้วก็ไปเล่นน้ำ อีกอย่างสัญญาณ
โทรศัพท์ มีเป็นบางจุด ใช้งานโทรศัพท์ไม่ค่อยได้ อินเตอร์เน็ต wifi ก็มีสัญญาณอ่อนๆไม่ถึงห้อง
เพราะห้องวาอยู่กลางๆพอดี จะใช้ได้ที่ ล๊อบบี้ และห้องอาหารค่ะ ก็ถือว่ามาพักผ่อนกันแบบสุดๆ
ถึงเวลาก็ไปทานอาหาร เพราะเรามาเหมือนแพคเกจรวมอาหารทุกมื้อ ตอนนี้อยากอัพโซเชียลใดใด
ก็จัดการเวลานี้ได้ค่ะ วันแรกวาไปถึงเกือบๆบ่ายสอง กว่าจะถ่ายรูปห้องเสร็จ ก็บ่ายสามกว่าๆ ไปทานข้าว
เค้าบอกว่าเลยเวลา เมนูอาหารแบบแพคเกจแล้ว เลยให้เราเลือกทานเอง อะไรก็ได้ โดยเลือกเมน
เลือกของว่าง และของหวาน แล้วมื้ออื่นๆ จะจัดเซตเมนูให้ ตามปกติ วันนั้นก็เลยได้ทานข้าวกัน
แบบเลือกเอง อาหารพอทานได้ค่ะ รสชาตโอเค เนื้ออร่อยมากๆ แบบที่สั่งมาทาน เคี้ยวไปแล้ว
รู้เลยว่าเป็นเนื้อคุณภาพดีสุดๆ
เนื้อโรล (จำชื่อไม่ได้มันเป็นภาษอังกฤษ แต่อร่อยมากกกกกก)
ข้าวโรลสมุนไพร
ข้าวผัดพริกแกงเนื้อ
เนื้อผัดพริกไทยดำราดข้าว
แต่ที่กรี๊ดคือ ของหวาน เลือกมาเป็น ชอคโกแลตลาวา และ บลูเบอรี่ชีสเค้ก
อร่อยทั้ง 2 อย่างเลย ประทับใจสุดๆ เท่าที่ได้ชิมมา ของหวานอร่อยทุกวันจริงๆ
ชอคโกแลตลาวา
บลูเบอรี่ชีสเค้ก
อิ่มแล้วก็เดินเล่นริมหาดถ่ายรูปนิดหน่อยค่ะ ฝนแอบตกพรำๆ สีของทะเลเลยไม่สวยเลย
แล้วก็เป็นแบบนี้อยู่ตลอด 3 วัน 2 คืนที่นั่น ไม่มีแดดให้พอชื่นใจซักนิดเลย เค้าบอกว่าถ้าอยากไป
เที่ยวที่น้ำตกคลองเจ้า ให้ไปบอกเจ้าหน้าที่ ตอนมื้อเย็นวันนี้ แล้วพรุ่งนี้ ทางรีสอร์ต จะพาไป ฟรี
แต่เห็นฝนตกตลอดเลยไม่ได้ แสดงความจำนงว่าจะไป
ที่รีสอร์ต มีกิจกรรมให้ทำมากมายแก้เบื่อค่ะ ทั้งพายคายัค ดำน้ำดูปลาหน้าหาด แถวๆโขดหิน
วอลเล่ย์บอลชายหาด หรืออะไรก็แล้วแต่ มีอุปกรณ์ให้ยืม อยู่ริมหาด แต่ด้วยความที่คลื่นแรง
เลยไม่ได้ไปลองสนอคเกิลเลย คายัคนี่ไม่ต้องพูดถึง พายไปกลัวกลับฝั่งไม่ได้ 5555
ไม่มีอะไรดีและมีความสุข เท่ากับการเล่นน้ำที่ห้อง และนอนดูทีวี เวลาผ่านไปรวดเร็วมากๆ
ไม่นานนักฟ้าก็มืดลง ฝนก็ยังตกอยู่ แบบปรอยๆ
ช่วงหัวค่ำ จะมีแม่บ้าน ( ที่เป็นผู้ชาย ) อ่อ แล้วคนเฝ้า Front ดึกๆ เป็นผู้หญิงนะ เริ่ดไหม? 555
แม่บ้านเข้ามา Trun Down ห้องให้ โดยจะปูเตียงพร้อมนอน เอาดอกไม้วางบนหมอน
เอาน้ำเปล่ามาเพิ่ม 2 ขวด เปิดพัดลมเพดาน และหรี่ไฟสลัวๆ เปิดกลิ่นหอมระเหยหัวเตียงด้วย
บรรยากาศน่านอนมากค่าาาา
แต่เรานัดไปกินข้าว 2 ทุ่ม เพราะอิ่มตอนบ่ายๆ ก็เลยเดินไปทานข้าวกันที่ห้องอาหารเดิม
ไปถึงเค้าก็จัดเซตเมนูมาให้ทานแบบตามใจเค้า เรารอกิน ช่วงนี้เอง ถึงได้เห็นว่า มีคนพักที่นี่
เยอะพอสมควร อย่างน้อยๆก็คง 5 ห้อง ซึ่งไม่เคยเดินสวนใครเลยนะ มาเห็นกันก็ตอนนี้่
บรรยากาศมืดๆชิลล์ค่อนข้างมาก เสียงคลื่น ทานข้าว จิบเบียร์ ดูเพลินกันสุดๆ
ของเราเป็นแพคเกจรวมน้ำเปล่า อยากสั่งอะไรก็จ่ายเพิ่มเอง เห็นโต๊ะอื่นชิลล์ก็เลย
เสียตังค์เพิ่ม ขอชิลล์มั่ง 55555555 ส่วนอาหารก็เป็น set menu ที่เค้าจัดมาให้เลย
แกงเขียวหวาน
ทอดมันกุ้ง
ปลาหมึกผัดพริกไทย
น้ำตกเป็ดย่าง
คัสตาร์ทผลไม้รวม
วันนี้ของหวานเป็น คัสตาร์ทผลไม้รวม อร่อยดีค่ะไม่หวาน ผลไม้ธรรมดาๆ ก็ทำให้สดชื่นมากๆ
คือ อยู่ที่นี่เจริญอาหารสุดๆ กินอะไรก็อร่อย น้ำหนักขึ้นกันเลยทีเดียว กินแล้วก็นอน หุหุ
เช้าวันถัดมา ก็ไปทานอาหารที่ห้องอาหารด้านบนค่ะ (ที่นี่มี 2 ห้องอาหาร) อันนี้จะอยู่ใกล้ๆ ล๊อบบี้
และสระว่ายน้ำส่วนกลาง อาหารเช้ามีน้อยมากๆ มีขนมปังให้ปิ้งเองได้แบบ Buffet แล้วก็มีน้ำผลไม้
ส่วนจานเมนก็มีให้เลือกจากเมนู สามารถสั่งได้ตลอดนะคะ แต่ก็มีเมนูไม่มากนัก ไม่หลากหลาย
ก็จะมีให้เลือกพวก ABF ข้าวไข่เจียว ข้าวต้ม อะไรปะมาณนี้ ไส้กรอก เบคอน สามารถสั่งได้นะคะ
ส่วนที่เห็นไม่เิหมือนที่อื่นคือเมนู " ครัวซองส์ จามส์ เฮาส์ " ก็เลยสั่งมาลองดู เป็นครัวซองส์ที่สอดไส้
ซอสเฉพาะของที่นี่ รสชาตออกเปรี้ยวๆ ตัวครัวซองส์นุ่มมาก ส่วนตัวคิดว่าทานกับซอสมะเขือลงตัวดี
ครัวซองส์ จามส์ เฮาส์
ข้าวไข่เจียว
อาหารเช้าทานไม่เยอะ เพราะบ่ายๆ ก็ต้องไปทานอาหารอีก เลยเฉลี่ยๆกันค่ะ มีกาแฟเพิ่มอีกนิด
ก็โอเคสำหรับมือเช้าแล้ว ที่ห้องอาหารนี่ จะได้วิวสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ชมวิว แต่ฝนตกตลอด
และที่ห้องมี Pool เลยไม่ได้เดินมาเล่นน้ำที่นี่เลย
นอนเล่นไม่นาน ก็ได้เวลาอาหารเที่ยงอีกแล้ว เราก็ไปราวๆ บ่ายโมงกว่าๆ ไปถึงเค้าก็จัดเตรียม
เซตเมนูกลางวันเอาไว้ให้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าอิ่มสุดๆอีกมื้อค่ะ ^______^
ปอเปี๊ยะ
แกงเผ็ดเป็ดย่าง
ยำปลาหมึก
หมูกระเทียมพริกไทยดำ
ของหวานของมื้อนี้ เป็นไอติมชอคโกแลตรสชาตเข้มข้นสุดๆ
ไปเดินเล่นที่หาดย่อยเล็กน้อย ฝนก็ตกอีก เลยกลับไปเล่นน้ำที่ห้องดีกว่า ชีวิตดู Relax เว่อร์
ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่า กิน นอน เล่นน้ำ นอน ตื่นมาก็ กิน เป็นอะไรที่ได้พักผ่อนจริงๆ
ถ้าฝนไม่ตกมันมีกิจกรรมเยอะมาก อย่างวันนี้ถ้าแจ้งเค้าไว้ก็จะได้ไปเที่ยวน้ำตก แต่ก็ตามคาด
ฝนตก ก็เลยไม่ได้ไปไหนค่ะ แต่ฝนตกไม่หนักนะปรอยๆ เดินเล่นหน้าหาดไปมาก็เพลินดี
เดินยาวไปเรื่อยๆก็ไปได้ไกลอยู่ค่ะ แต่กลับไปเล่นน้ำที่ห้อง ดีที่สุด ฮี่ๆๆ
ตกเย็นหลังจากที่เค้ามาเทรินดาวน์ ก็ได้เวลาไปทานอาหารละ คือ วาไปทานดึกตลอด อัเก่ายังไม่ย่อย
ก็ไปราวๆ 2 ทุ่ม ก็ยังมีคนนั่งชิลล์ จิบเครื่องดื่ม รับบรรยากาศ ไอทะเลอยู่หลายโต๊ะ วันนี้เค้าแจ้งว่า
จะได้ทานเป็น เมนูซีฟู๊ด เราก็คิดว่าคงมี กุ้ง มีปลาหมึก เอามาทำอาหารใหทาน ก็เริ่มด้วยออเดริฟก่อน
ปอเปี๊ยะกุ้ง มีกุ้งมาเป็นตัวๆเลย
ผัดผัก
อันนี้อารมณ์ ปลานึ่งมะนาวค่ะ แต่มาเป็นชิ้นๆทานง่าย
และจานสุดท้ายเห็นแล้วถึงกับกรี๊ด เป็นเมนู ซีฟู๊ดเซตค่ะ
ปูนึ่ง กุ้งย่าง หมึกย่าง แล้วก็ปลาย่างด้วย
มื้อนี้อิ่มจุกที่สุดแล้วก็มีความสุขกับมื้อนี้มาก วาชอบซีฟู๊ดอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมาอลังขนาดนี้
แล้ววันนี้ สั่งน้ำมะม่วงมาเพิ่มด้วยนะเพิ่มความสดชื่นนนนนน
น้ำมะม่วงปั่น
ของหวานเป็น ชอคโกแลตมูส ที่ อร่อยเว่อร์มาก (คือมันอร่อยทุกอย่างเลยได้ข่าว ฮ่าๆๆ)
วันนี้เป็นวันที่อิ่มมากและใช้ชีวิตได้ไร้สาระสุดๆ กินเต็มที่นอนเต็มอิ่ม ก่อนเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ค่ะ
ก่อนกลับไปนอนได้ถ่ายรูปห้องอาหารตอนกลางคืนมารูปนึง พนักงานที่ห้องอาหารบริการดีมาก
ถามตลอดข้าวเพิ่มไหมคะ เติมน้ำตลอดเวลา ถามนั่นนี่ และคอยบอกว่า มื้อนี้ มื้อหน้ามีอะไรทาน
ซึ่งโดยรวมแล้วประทับใจในส่วนของห้องอาหารมากๆค่ะ
อ้อ หลังห้องอาหารมีห้องพักอยู่ 2 ห้องที่ใกล้มากๆ ถ้าใครอยากเล่น wifi ได้ในห้องเลย คงต้อง
เลือกห้องตรงนี้ ใกล้ทะเล ใกล้ wifi มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่มีห้องอาหารบังนิดนึง เวลาเล่นน้ำ
อาจจะไม่สะดวกค่ะ ต้องเลือกเอา
เดินแวะไปล๊อบบี้ เพื่อที่จะถามเวลาเช็คเอาท์ที่แน่นอน จะได้ไปลงเรือรอบ 10 โมงได้ทันเวลา
เลยได้โอกาสถ่ายรูปล๊อบบี้ตอนกลางคืนมาด้วย ซึ่งจะเล็กๆไม่ค่อยมีอะไร เพราะส่วนใหญ่
พนักงานก็จะพาไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนานอยู่แล้ว เสร็จธุระแล้วก็กลับห้องพักค่ะ
กลับมาถึงก็อาบน้ำ หันไปเห็นอ่างน้ำไม่เคยได้ใช้เลย ก็เลยเปิดน้ำแช่ซักหน่อย อ่างน้ำมีคราบๆของน้ำฝน
ไม่น่าใช้เท่าไหร่ แต่ด้วยความที่อ่างใหญ่มากๆ ล้างๆก่อนแล้วก็ไม่ได้สกปรกอะไร ก็เลยเปิดน้ำ
หย่อนตัวลงไปแช่น้ำอุ่นสักพัก สบายมากๆค่ะ แล้วก็รีบนอน เพราะต้องเช็คเอาท์ 9 โมง
เช้าวันถัดมา รีบตื่นตั้งแต่ 7 โมงเก็บของเรียบร้อย 8.30 ก็ออกไปทานอาหารเช้า วันนี้ก็ได้ขนมปังปิ้ง
กับแยมมะพร้าวโฮมเมด แล้วก็ข้าวต้มกุ้ง 9 โมงก็ไปขึ้นรถเตรียมไปที่ท่าเรือค่ะ เดินทาง 40 นาที
ไปถึงก็เดินดูรอบๆบรรยากาศดีมาก เป็นวันแรกเลยที่มีแดดอ่อนๆ แถวๆท่าเรือก็กำลังคึกคัก
ทั้งเรือประมง ทั้งร้านแถวๆนั้น แอบเห็นกระชัง ปู ปลา เต็มไปหมดเลย เค้าให้เอากระเป๋าขึ้นเรือก่อน
แล้วก็รอเวลาขึ้นเรือ ก็เลยเดินเล่นไปมา เห็นว่าตรงนั้นเป็นร้านอาหาร และมีโฮมสเตย์อยู่ด้วยค่ะ
ไม่นานนักเค้าก็ให้เราขึ้นเรือค่ะ ขึ้นไปก้เลือกที่นั่งตามอัธยาศัย วาขึ้นเรือได้ก็หลับยาวๆเลย
1 ชม. ถึงฝั่ง แล้วก็มีรถสองแถวเข้าไปส่งในเมืองด้วย บอกเค้าว่าจะไปอนุสาวรีย์ชัย เค้าก็พาไปส่ง
ที่ๆนึงเป็นเหมือนอู่ซ่อมรถ แล้วเค้าก็ติดต่อรถตู้ให้มารับ ก็กลับถึง อนุสาวรีย์ชัยราวๆ 5 โมงเย็น
ทริปนี้โดยรวม ประทับใจที่พัก จามส์ เฮาส์ เงียบสงบ เหมาแก่การพักผ่อน แต่ก็มีข้อเสียคือ wifi
ไม่ครอบคลุมถึงห้องพัก และ สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยมี นอกนั้น ถือว่าโอเคนะคะ
ถ้าใครสนใจจะไปพักที่นี่บ้าง ก็มีโปรโมชั่นมาฝากกันนะคะ
พิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่ Cham's House Koh Kood ตราด
ห้อง Ocean View Villa พร้อมอาหารเช้า เพียง 6,600 บาท (ปกติ 9,500)
ห้อง Ocean View Pool Villa พร้อมอาหารเช้า เพียง 8,700 บาท (ปกติ 12,500)
สิทธิพิเศษ
ฟรี อินเตอร์เน็ต, ลด 20% สำหรับสปา
ลด 10% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)
เช็คอิน และเช็คเอ้าท์ ก่อนหรือหลังเวลาที่กำหนด ขึ้นอยู่กับห้องพักที่ว่าง ณ ขณะนั้น
สงวนสิทธิ์เข้าพักช่วงวันหยุดต่อเนื่องและวันหยุดนักขัตฤกษ์
1 พ.ค. 31 ต.ค.56
⁞
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 150 คน [
