:: เสม็ด#6 // ตลุยท้ายเกาะ ::
ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากที่กลับจากแพที่เขื่อนกั้นคลื่นแล้ว วาก็มุ่งหน้าไปเสม็ดต่อเลยค่ะ ซื้อตั๋ว ไป-กลับ คนละ 100 บาทที่ท่าเรือนวลทิพย์แล้ว ก็ลงเรือกันได้เลย ไม่นานนัก เรือก็ออกจากท่าค่ะ ผ่านที่พักของเราในคืนที่ผ่านมาด้วย ลิบๆโน่น ไม่นานเกินรอ เราก็มาจนถึง เกาะเสม็ด อย่างปลอดภัยค่ะ " ท่าเรือหน้าด่าน " ถิ่นนี้ที่คุ้นเคย เอาล่ะ ไปเช่ามอเตอร์ไซต์กันดีกว่า ตอนนี้เวลาจวนเจียนจะ 4 โมงเย็นแล้ว เราเพิ่งมาถึงเกาะเสม็ด ที่ตั้งใจว่าจะมา ขอถ่ายรูปที่พักต่างๆ เอามาลงเวปที่วารวบรวมข้อมูลอยู่ กลายเป็นว่า เราคงต้องรีบหาที่พักให้ได้ก่อนดีกว่า เดินมาเรื่อยๆ ผ่าน 7-11 แล้วเลี้ยวซ้ายตรงร้านกาแฟ เราจะเจอร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ขาประจำค่ะ เลี้ยวมาปุ๊บ เราจะเจอ ร้านเช่ามอไซต์ อยู่ทางซ้ายมือ แต่สิ่งที่สะดุดตา สำหรับการมาเสม็ดในครั้งนี้ ก็คือ ร้านกาแฟสุดหรู อันนี้ นี่เอง สร้างมะไหร่หว่า สวยจังเลย ตอนแรกนึกว่าเป็นรีสอร์ต คนที่ร้านเช่ามอไซต์บอกว่า เป็นร้านกาแฟ ร้านนี้ อยู่ตรงข้าม ร้านเช่ามอไซต์พอดี พอดี ด้วยความที่เราจะไปพักถึง ลุงดำ ที่เคยมาคราวก่อนมันแบบว่า ถนนเลวร้ายมากๆ เราเลยเลือกรถแบบ Auto เพราะจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์จนเมื่อย เหมือนที่เคยทำ แล้วก็ขอล้อที่ ลุยๆหน่อย น้ำมันเต็มถัง ราคาเปิด 400 บาท แต่ไม่ได้สิ ขอต่อหน่อยเหอะ สรุปได้ที่ 350 บาท ถ้าเอาล้อปกติ ลดได้ถึง 300 บาท แต่เรา ขอลุยๆ โหดๆ เอา ล้อใหญ่มาเลยดีกว่า ปล. ATV ถามมาราคา 1200 บาท / วันค่ะ เอาล่ะค่ะ มุ่งหน้า อ่าวลุงดำกันซักที 4 โมงกว่าแล้ว... ผ่านด่านเก็บเงินค่าเข้าอุทยานไปอย่างปกติ ไม่มีคนเก็บตังค์เช่นเดิม กระเป๋าก็พะรุงพะรัง ไม่เคยมาเรียกเก็บเลย เลยทำให้เรา เช่ามอไซต์ราคาถูก กว่าปกติทุกครั้งไป นั่นคือ 350 บาท หักค่าเหยียบอุทยาน 80 บาท(2 คน) คิดซะว่าเช่ามอเตอร์ไซต์ แค่ 270 บาทเท่านั้นค่ะ พอมาถึง อ่าวลุงดำ ก็ปรี่ไปที่ แมงกระพรุนไฟค่ะ ที่พักเยอะแยะเลย บ่ายๆวันศุกร์ ก็ได้ห้องพัก ตามที่โทรมาจองไว้ คือห้องหน้าหาด สำหรับ 2 คน ได้บ้านสีส้มค่ะ อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด ที่พักสวยอลังมากๆ หน้าหาด ชอบบบบ เดินเข้าไปในบ้าน จะมี ห้องเล็กๆ นั่งมองทะเลได้ค่ะ อยู่ในแอร์ด้วย ดีจังเลย อ้อ ลืมบอก วันธรรมดา ห้องนี้ ห้องแอร์ คืนละ 1000 บาทค่ะ ที่นอนของห้องนี้สวยมากๆ อยากได้ผ้าปูแบบนี้ สีชมพูจังเลยอ่า อุ๊ย น่ารักๆ ชอบที่นอนสีสวยห้องโปร่งดีค่ะ แต่ปัญหาในตอนนั้นคือ ห้องนี้ไม่มีทีวีค่ะ แง พอดีติดละคร เลยต้องหาห้องอื่น ที่มีทีวีแทน ก็เลยไปได้ห้องสำหรับ 4 คนค่ะ เรามา 2 คนเค้าเลยลดให้ ห้องนี้ ราคาปกติ สำหรับ 4 คน วันธรรมดา 1600 บาท Long weekend 2500 บาท แต่วันนี้ อยู่ 2 คนวันธรรมดา เค้าคิด 1200 ค่ะ โอเคตกลงตามนี้ อยากนอนจะแย่แล้ว
หลังจากวางของเสร็จแล้วก็ . . ก็ออกไปหน้าด่านต่อ เย้ยยยยยยยย ไม่ได้พักเลยค่ะ ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว แล้วก็ไปซื้อของกินเล่นกระจุก กระจิก เอาเถอะ ไปก็ไป แล้วค่อยกลับมา หม่ำๆอาหารเย็น ช่วงเย็นจะมีรถน้ำ มารดถนนตลอดเวลา ก็วิ่งกันไป วิ่งกันมา ตรงช่วง อ่าววงเดือนกะหาดแสงเทียน ถนนจะเป็นทราย วิ่งแล้วแพร่ดๆ น่ากลัวมากๆ ไม่เข่าใจว่าทำไม ไม่รดน้ำตรงนี้บ้าง ส่วนที่อื่นวิ่งฉิว สบายเลยค่ะ มีกำลังใจ ขี่มอเตอร์ไซต์ขึ้นเป็นกองถนนเรียบแบบนี้ แล้วก็กลับรีสอร์ตมาหม่ำๆ อาหารเย็นค่ะ ราคาอาหารประมาณนึง (แพง เอิ๊กๆ) ตื่นเช้ามา พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ดีกว่า เหมือนจะมาแถวนี้แล้วถ่ายรูปไม่เคยทัน พระอาทิตย์ขึ้นไวเกิน 55555 เย่ๆ พระอาทิตย์ขึ้นแล้ววว วาเดินถ่ายรูปไปรอบๆค่ะ ตอนนี้ มีเพื่อนสาวตัวน้อยของเรา เดินดุ๊กดิ๊กๆ เข้ามาหาอย่างเป็นมิตร มาเล่นด้วยแล้วก็ นอนรอ ในขณะที่วาถ่ายรูปไปรอบๆ วาก็ เดินตรงต่อไป ผ่านร้าน อาปาเช่ เพื่อที่จะไปดูที่พัก ฝั่งโน้น คือ ลุงดำ บังกะโลนั่นเองค่ะ พระอาทิตย์เริ่ม ส่องแสงเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างที่เดินไป น้องหมา ก็วิ่งนำหน้าไปซะงั้น อ้อ ตามมาเป็นไกด์ซะด้วย เดินไปไหนก็ตาม แถมนั่งรอ เวลาเราหยุดถ่ายรูป เดินไปเรื่อยๆก็ไม่มีอะไร ขึ้นสะพานไม้ ดีกว่า น้องหมาก็ตามมาอย่างเคย แต่นอนรอตรงหัวสะพาน ตอนนี้ สะพานไม้ดูรกไปถนัดตา เมื่อมีที่นั่งทานอาหารผุดขึ้นเยอะแยะเลย เหมือนจะมีที่กระโดดสะพานน้อยลงมาก ไม่ก็ต้องไปโดดตรงลึกๆเลย ไม่งั้นอาจจะโดน ตอไม้ ทิ่มได้ เพราะเยอะ และ รกกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ แล้ววาก็เดินไปอีกด้านนึง ก็เจอกับ " บังกะโลต้นหาด " แถวนี้ บ้านพักจะมีลานหน้าบ้านด้วยค่ะ เหมาะมากสำหรับกิจกรรมต่างๆ ถ้ามากันหลายคน แต่เสียดายตรงนี้มีแต่หิน ไม่มีหาด หลังจากเดินไปเจอ ป้าคนดูแลก็ได้คุยกันค่ะ ว่าจะมาขอถ่ายรูปไปลงเวป ตอนนี้กะลังรวบรวมรูปอยู่ ป้าเค้าก็เลยเปิดห้องให้ดู เป็นห้องด้านหลัง ห้องอื่นเต็มหมด หลังจากคุยกับป้าคนดูแลก็ได้รู้อะไรอีกเยอะเลย เช่น ลุงดำ อายุจะ 90 ปีแล้ว ทั้งหาดนี้เป็นของลุงดำทั้งหมด แต่แบ่งให้ลูกหลาน ทำมาหากินกันไป บังกะโลต้นหาดนี่ก็เช่นกัน เป็นของลูกสาวคนโต เอ๊ะ เราจำผิดป่าวหว่า แล้วก็ที่ได้รู้อีกอย่างนึงคือ หน้องหมา หน้าตาเหงาๆตัวนี้ มีชื่อว่า " คิขุ " มาจากคำว่า คิขุอาโนเนะ เป็นหมารับแขก ไม่ค่อยเห็นหน้า จะวิ่งตามแขกเป็นระยะๆ มีฝรั่งคนนึงจะเอาไปเมืองนอก แต่มีข้อจำกัดทางด้านการเอามันขึ้นเครื่องนิดหน่อย เลยเอาไปไม่ได้ . . . เจ้า คิขุ หน้าตามันดูเหงาๆ แต่น่ารักมากจริงๆค่ะ แล้วก็มุ่งหน้าท้ายเกาะกันค่ะ ถนนดีแบบนี้ น่าจะไปสะดวกหน่อย ก็ขับไปเรื่อยๆ ผ่าน ปารดี ที่พักราคาแพงมากๆ แล้วก็ไปถึง นิมานรดี รีสอร์ทค่ะ ตรงนี้แอบเนียนลงไปดูบริเวณทั่วๆไปด้วย แอบสวยดีนะเนี่ย แต่ราคาก็ สองพันอัพตลอด มีฝั่งดำน้ำ ที่มีแต่หิน กับฝั่งหาดที่ลงเล่นน้ำได้ บรรยากาศดีใช้ได้เลยค่ะ แว๊นนนนนนนนน ไปเรื่อยๆ จนสุดทาง จะเจอที่สำหรับจอดรถ ตรงหน้าที่ทำการอุทยาน จอดรถแล้วก็เดินต่อไปค่ะ มีป้ายบอกทางให้เลือก ชมพระอาทิตย์ตก และดำน้ำ ไปไหนกันก่อนดีหว่า ? พระอาทิตย์ตกหรอ เอ่อ...มานเพิ่งจะขึ้นนี่หน่า แต่ก็ ลองไปดูซิ จะเจออารายที่นั่นน๊า เลยเลือกตรงไปก่อนค่ะ ตรงนี้มีอุทยาน แล้วก็มีที่เช่าเตนท์ด้วยนะคะ มีที่กางเตนท์ แล้วก็มีร้านค้า สวัสดิการด้วยล่ะค่ะ เราเลือกเดินไปที่ จุชมวิวท้ายเกาะ ... เพราะพรอาทิตย์ตกน้ำคงไม่ได้เห็น ตามที่ควรจะเป็นค่ะ เดินๆไปจนสุดทางก็จะเจอ ..... ทางลงไปข้างล่างอีก (-*-) แต่วาไม่ลงดีกว่า กลัวขึ้นไม่ได้ ทางแอบชัน วิวมุมสูงกก็ สวยดีค่ะ ปล. เกาะเล็กๆนั่น น่าจะเป็น เกาะจันทร์ค่ะ (คิดเอาเอง) แล้วก็แวะไปดูจุดดำน้ำชมประการัง ลงไปเจอแต่หิน ไม่ไกลนัก มีคนดำน้ำอยู่ด้วย เป็นชาวต่างชาติค่ะ เห็นอะไรมั๊ยน๊อ มีอุปกรณ์ให้เช่าได้ ตรงอุทยานนะค๊า ทาอาหารเช้าเสร็จ ก็ไปดูทีวีต่อจนเที่ยง เอาล่ะได้เวลา ไปหาที่พักใหม่แล้ว เมื่อวานตอนมืดๆ ไปจองไว้ละ ในเมืองติด 7-11 เลย วันนี้วันเสาร์ ช่วง Long weekend เลยหาที่พักยากพอสมควร เก็บของ คืนกุญแจ .. บ๊ายบาย อ่าวลุงดำ
บ๊าย บาย คิขุ ด้วยค่ะ มานก็ทำหน้าเหงาๆ มอง แล้วก็ นอนเล่นริมหาดต่อไป หลังจากที่มานเดินมาส่งเกือบถึงที่มอไซต์ นี่แกอาลัย อาวรณ์เรา หรือว่า ชินซะแล้ว ที่คนเล่นด้วยก็ต้องจากไปแบบนี้ คิดถึง คิขุจังเลย ไปถึงที่พัก สีเหลืองอร่าม ข้าง 7-11 แล้วก็เช็คอิน ค่าที่พัก 1500 บาท มีทุกอย่าง แอร์ ทีวี ตู้เย็น น้ำอุ่น ถาเป็นช่วงอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Long weekend จะราคา 1200 บาทค่ะ
อ้อ เค้าขอ มัดจำกุญแจ 500 บาทด้วยค่ะ ตอนเช็คเอาท์ก็คืนให้ ห้องน่าอยู่และสะอาดมากๆเลยค่ะ มาที่นี่ก็ไม่ได้ไปไหน นอนอืดเลยทีเดียว ทำให้ไม่มีกิจกรรมอะไรมากไปกว่านี้ รูปก็ไม่มีด้วยค่ะ ตอนกลางคืนฝนตกหนัก ก็ไม่ได้ไปหาอะไรหม่ำๆกันอยู่ดี เช้าวันต่อมาเลยแล้วกันนะ เราก็ไปเที่ยวกันก่อนเอารถไปคืน ขับรถไปเรื่อยๆ อ่าวไผ่ อ่าวทับทิม อ่าวช่อ,อ่าวลุงหวัง และอ่าววงเดือนค่ะ แล้วก็เอามอไซต์มาคืนที่หน้าด่านค่ะ แล้วเดินกลับ
รูปที่เหลือ อันตรธานหายไปอย่างน่าพิศวง คือมานโหลดไม่ได้ค่ะ ถ้าดูในกล้อง ดูได้ แต่โหลดลงมาแล้วเปิดไม่ได้ ซวยมากๆ
รีวิวนี้อาจจะขาดๆเกินๆไปบ้าง ขอโทษด้วยนะค๊า โทษกล้องได้เลยค่ะ วันกลับก็กลับกันอย่าง หงอยๆอีกแล้ว 4 วัน 3 คืนทำไงชั่งหมดไปไวเยี่ยงนี้น๊า พอถึงฝั่งก็โทรเรียกรถตู้มารับตรงหน้า 7-11 ท่าเรือนวลทิพย์ค่ะ แต่เดินมารอที่หน้า ท่ารถเชิดชัยทัวร์ ว่าไปวาไม่เคยนั่งเลยนะเนี่ย ไม่นั่งรถตู้ ก็นั่งรถ ป.2 หวานเย็นซะงั้น นั่งรถตู้หลับๆตื่นๆ แล้วก็ถึง เสาวรีย์ค่ะ หิวซกเลย วิ่งเข้า อิซูมิ ที่เคยโด่งดังในห้องก้นครัว อิ่มอ้วนสบายใจไป หลังจาก อดกิน ร้านโอเชี่ยนดรีม ตรงฝั่งเพ ตามที่ตั้งใจไว้ เพราะรถตู้มาไวมากๆ จบแล้วค่ะทริปนี้ หมดไปคนละ 4000 บาท (รวมค่าอาหารที่ เสาวรีย์ชัยแล้ว) เหมือนทริปนี้จะหมดไม่เยอะนะนี่ แต่ก็เปรมปรี เช่นทริปก่อนๆค่ะ ถ้าไม่นับ เจ้าของรีสอร์ตบางที่ๆ งี่เง่ามากๆ เวลาเราไปถามห้องพักว่าง พอแขกเต็มก็ไม่ง้อ แถมรำคาณๆเราอีก แย่ที่สุดเลย บ๊าย บาย เกาะเสม็ด แล้วเราคงได้เจอกันอีกไวไวนี้
Free TextEditor
Create Date : 20 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 15:21:19 น. |
|
6 comments
|
Counter : 3284 Pageviews. |
|
|