:: เที่ยวกระบี่ กินโรตี พิชิตวัดถ้ำเสือ เที่ยวไม่เบื่อทัวร์ 4 เกาะ กับ Samsung NX3000 ::

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวทริปกระบี่ ที่เพิ่งไปมาสัปดาห์ที่แล้วนะคะ ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะมีตั๋วโปรของ AirasiaGo 
จองที่พักได้บินฟรี ก็เลยจองไปกระบี่ดีกว่าไม่ได้ไปนานแล้ว แล้ววาก็มีภารกิจสำคัญมากกกก
ที่อยากจะไปขึ้นเครื่องแอร์เอเชียให้ได้ นั่นก็คือ ไปซื้อลิปของมิสทีน ที่มีขายบนเครื่องเท่านั้น 5555
เป็นสีแดงลิมิเตด สวยมาก เลยเหมาะเหม็ง ที่จะจองตั๋วในครั้งนี้ค่ะ (เหตุผลไร้สาระมากค่ะคุณ)



เนื่องจากเป็นทริปสั้นๆ 3 วัน 2 คืน แล้วก็กะไปชิลล์จริงๆ ทริปนี้เลย จะไม่แบกกล้องใหญ่ไปให้ปวดบ่า
เพราะทาง Samsung ให้ยืมกล้อง มาทดลองใช้หลายวันแล้ว เอาไปนู้นมานี่ก็หลายที่ ทั้งไหว้พระ 9 วัด
เที่ยวเขาใหญ่กับ กฟผ. กล้องเดียวเที่ยวทุกที่มาหลายรอบละ ติดใจ สบายคอ สบายไหล่มาก
ทริปนี้เลยเอากล้องไปกระบี่ด้วยเลยละกัน





กล้องตัวนี้คือ Samsung NX3000 ค่ะ เห็นว่ามีหลายสีอยู่ แต่วาได้มาเป็นสีน้ำตาล คือเท่ห์มากอ่ะ ชอบ 
เพราะมันไม่เลอะเทอะง่าย เหมาะกับการลุยๆดีนะ ขนาดก็ไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไป จับถนัดมือ
เป็นกล้องที่เค้าเรียกกันว่า mirrorless เปลี่ยนเลนส์ได้ มีเลนส์ติดกล้องมา เป็นช่วง 16-50mm
ที่ค่อนข้างจะเพียงพอต่อการท่องเที่ยวทั่วไปอยู่ ความละเอียด 20.3 ล้านพิกเซล หน้าจอพับขึ้นมา
ถ่าย Selfie ได้ง่ายๆ มี NFC และ Wifi ในตัวด้วย ทริปนี้วาเลยใช้กล้องเจ้าตัวนี้เป็นหลัก 
(ยกเว้นรูปตัวกล้อง ที่ใช้กล้องอื่นถ่ายนะคะ) และมี Smart Mode ให้เลือกใช้งานง่ายๆ 16 โหมดเลย





เอาล่ะ ออกเดินทางกันเลยดีกว่า วันที่ 2 วาก็ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองค่ะ ไฟล์ทราวๆ 9 โมงเช้า
รถติดมากกก จนเกือบดรอปกระเป๋าไม่ทัน โชคดีที่พยายามเช็คอินผ่านมือถือมาก่อน เหลือแต่ดรอปกระเป๋า
มาที่เคาท์เตอร์สายไป 5 นาที ก่อนปิดรับกระเป๋า เค้าประสานงานให้ ในที่สุดก็ทันจนได้





ขึ้นเครื่องไปแล้วก็ใจจดใจจ่อกับ mission แรกที่ตั้งใจไว้มาก นั่นก็คือการซื้อ Lip Tube สีลิมิเตด จากมิสทีน อิอิ
คือต้องรอเค้าขายอาหารเสร็จ ถึงจะเริ่มขายของที่ระลึก แล้วก็นั่งรอไม่หลับเลยจ้า ตั้งใจมากจริงๆ
ในที่สุดก็ได้มาครอบครอง เย่!! เค้าบังคับขาย 2 สี ราคา 200 บาท ก็ถือว่าโอเค ราคาปกติ หลับได้แล้ว!



ไม่นานนัก เครื่องก็ลดระดับลง เห็นวิวที่คุ้นตา ป่าโกงกางด้านล่าง เอาล่ะเรากำลังจะแลนดิ้งที่สนามบิน
จังหวัดกระบี่กันแล้วค่ะ วันนี้อากาศดี แต่เมฆค่อนข้างเยอะ ขอให้ฝนไม่ตกทีเถิดดดด



รับกระเป๋าเรียบร้อยก็ตรงออกไปซื้อตั๋วรถ Shuttle Bus เข้าเมืองกันดีกว่า มี 2 ราคา คือลงในตัวเมืองกระบี่เลย 90 บาท
หรือไปลงที่อ่าวนาง 150 บาท เค้าบอกว่าไปส่งได้ถึงโรงแรมเลย ลองบอกคนขับก่อนนะคะ ว่าจะลงตรงไหน 



วาจองที่พักมาเป็น อ่าวนาง มิติ รีสอร์ท อยู่แถวๆอ่าวนางซอย 11 ห่างจากทะเลนิดนึง จองตอนราวๆ ตี 1
ที่ agoda.com คือเลือกไปเลือกมา ก็จบที่อันนี้ ห้องพักน่านอน ราคาไม่แพง เรากะจะไปเที่ยวตลอดวันอยู่แล้ว
เลยเอาห้องถูกๆหน่อย เน้นเที่ยว ชิลล์ รถก็มาส่งที่หน้าโรงแรมเลยค่ะ 



มาถึงยังไม่ได้เวลาเช็คอินนะ ต้องเช็คอินบ่ายสอง แต่เค้าก็ใจดี ให้เช็คอินได้เที่ยงครึ่งเลย เพราะห้องว่าง
เราก็ถามเค้าเรื่องเช่ารถมอเตอร์ไซต์ เค้าก็ติดต่อเช่ารถให้ ได้มาเป็น สกูปปี้ ไอ วันละ 200 บาท (ถูกมาก) 
เค้าประสานงานกับร้านรถเช่าให้ สะดวกสบายมาก ที่ร้านรถเช่า เอามอเตอร์ไซต์ และสัญญาเช่า มาทำให้
ที่โรงแรมเลย เค้าบอกว่า ถ้า walk in ไปเช่าคงไม่ได้ เพราะรถเค้าหายบ่อยแล้ว ไม่ค่อยให้คนไทยเช่า
แล้วถ้าไป 2 คน ก็ยึดบัตรประชาชนไปเลยทั้ง 2 คนอีกด้วย เอาเถอะ เราไม่ได้มาขโมยรถอยู่และ 
ยืมขับ 2 วันเท่านั้นค่าาา จ่ายไป 400 บาท

แล้วด้วยความที่ไม่ได้ไปทัวร์ 4 เกาะมา 6 ปีได้แล้วมั๊ง เลยซื้อทัวร์ 4 เกาะ แบบเรือหางยาว (เพราะถูกดี) 
ในโบร์ชัวร์บอก 600 บาท แต่ทางโรงแรมลดให้เหลือ 450 บาท (ราคาเท่า 6 ปีที่แล้วเลยนะ) 
เลยตัดสินใจซื้อทัวร์ไม่ยากนัก เกาะไม่ไกลมาก แล้วมากระบี่ต้องนั่งเรือหางยาวนี่ล่ะ
เลยไม่ได้สนใจ ราคาแบบสปีดโบ๊ตเทาไหร่ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะคนละ 900 บาทเลยทีเดียว



ทุกอย่างพร้อมแล้วก็เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้อง วาได้ห้องพักแบบ mountain view ชั้น 4  ที่นี่มีลิฟท์นะคะ 
ก็ขึ้นลิฟท์ไป ห้องที่วาอยากได้จริงๆ คือห้องมุม 401 ซึ่งวันนั้น มีคนพักแล้ว มันเห็นวิวภูเขาเต็มๆ ห้องกว้างมากเลย 
ไม่เป็นไร เอาไว้วันหลัง วาได้ห้อง 410 ค่ะ เป็นห้องธรรมดา สีชมพู (ห้องจะมีหลายแบบ หลายสี)




ห้องน้ำสะอาดดี มีสายชำระ มีฝักบัวน้ำอุ่น ไม่มีอ่างอาบน้ำ

ห้องธรรมาดามากๆ เหมือนพวกเซอร์วิตอพาร์ทเมนท์ แต่ก็ดูน่านอน ดูดี อยู่สบายๆ ค่ะ ห้องจะใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นไม้ 
มี บิวท์อิน มีโต๊ะ เป็นไม้หมด เลยดูดี แต่ งง กับเก้าอี้พลาสติกสีแปร๊นมาก ทำไมไม่ทำเก้าอี้เป็นไม้ด้วย 
จะได้เข้ากันกว่านี้ ฮ่าาๆๆ แต่เอาเถอะ คืนละ 800 เอาไรมากได้เท่านี้ถือว่าดีงามค่ะ



ระเบียงห้องกว้างใช้ได้ มีราวตากผ้าให้ มีเก้าอี้พลาสติกสีแปร๊น เอาไว้นั่งชมวิว แล้ววิวก็ โอ้โห
เริ่ดอยู่ mountain view จริง คือภูเขามันใหญ่มาก ห้องแถบนี้ทั้งหมด ก็ mountain view หมดเลย



เอาล่ะ เมื่อทุกอย่างโอเค มีที่ซุกหัวนอนแล้ว 5555 แล้วก็เตรียมออกไปตามหา mission ที่ 2 ที่วาตั้งใจมากระบี่เลย 
นั่นก็คือ ขนมจีน-ไก่ทอด โกจ้อย เสริชกูเกิ้ลเจอมาว่า มีสาขาขายอยู่ในเมืองกระบี่ แต่มันปิด บ่ายโมง 
เลยรีบบึ่งไปดูทันที จากอ่าวนางเข้าเมือง ราวๆ 15  กิโลเมตรค่ะ ฝนตกไม่บอกไม่กล่าว เลยต้องแวะซื้อเสื้อกันฝน แล้วไปต่อ



มาถึงก็นั่นแหล่ะ ไม่ทัน (T.T) ร้านปิด ขายหมดไปก่อน เลยแวะไปทานที่ร้าน ขนมจีนป้าต้อม อร่อยมากกกกกกกกก
มากจนลืมถ่ายรูป เค้าปิด 13.30 ไปถึงก็ใกล้จะเก็บแล้วล่ะ ได้ไตปลาก้นหม้อมากิน อร่อยมาก รสชาติดี
แต่เผ็ดอลัง มีผักให้กินเต็มพิกัด เสียดายไก่ทอดหมดไม่งั้นคงฟินกว่านี้



เลยแวะซื้อไก่ทอดข้างทางมากินตามขนมจีนไป Smiley

mission ที่ 3 ที่ตั้งใจไว้ก็คือ โรตีหน้าห้างโวค แต่มันเริ่มขาย 6 โมงเย็นแหน่ะ เลยมีเวลาอีกหลายชั่วโมง
กว่าจะถึงเวลา ก็เลยพยายามเสริชหาที่ๆไม่เคยไปดู ก็ลงตัวที่ วัดถ้ำเสือ ที่ก่อนไป มีกระทู้ที่คนแชร์กันเยอะเลย
เค้าไปขึ้นด้านบนตอนเช้าตรู่ เห็นทะเลหมอก เห็นแสงสีสวยๆ รูปสวยมาก ก็อยากไปเห็นบ้าง
ถึงแม้จะบ่ายแล้ว แต่ก็ ลองดูค่ะ ก็มุ่งหน้าออกจากเมืองไปนิดเดียว ก็มีทางเลี้ยวซ้าย แล้วก็เข้าไปที่วัด ไม่ยากนัก



ไปถึงก็จะเห็นเป็นเจดีย์อะไรซักอย่างที่กำลังสร้างกัน มีให้ทำบุญปั๊มพระด้วยตัวเอง เอาพระไปวางไว้ด้านบนเจดีย์
ที่กำลังสร้าง วาก็เลยไปทำด้วยค่ะแปลกดี จ่ายเงินหย่อนตูไป 100 บาท (มีเงินทอนให้หยิบเอง 1 บาท แต่ไม่ได้หยิบมา) 






เริ่มแรกเค้าจะเอา ดินสีขาวๆ ที่มีส่วนผสมสำหรับทำพระผงมาแล้ววางไป บนแท่นพิมพ์พระวันเกิดของเรา 
เค้าจะถามวันเกิดแล้วพาไปอันที่เป็นวันเกิดเราค่ะ  แล้วให้เราดึงคันโยกๆ 2-3 ครั้งแรงๆ ก็จะได้ออกมาเป็นรูปพระ
ทีนี้ ให้เอาแผ่นทองที่เขียนชื่อนามสกุลเราลงไป วางลงไป แล้วปั๊มอีกที ให้แผ่นทองติดอยู่กับพระ 
แล้วเค้าก็ตัดเอาส่วนเกินออกไป ก็จะได้พระที่พิมพ์เองกับมือ ออกมา ตอนนี้ดินยังเปียกๆอยู่ เค้าบอกว่า 
แปปนึงพระก็จะแห้งและแข็งขึ้นเอง ให้เราเอาไปบูชา ไหว้พระ เป็นอันเสร็จพิธี ดีจังไม่เคยทำอะไรแบบนี้
มาก่อนเลย ชอบๆ







ปล. โหมดมาโครของกล้อง NX3000 ดีงามนะ ได้รูปชัดตื้นสวยงาม ใช้ง่ายมาก!

เสร็จแล้วก็เดินไปทำบุญสร้างระฆังใหญ่ เพื่อไปแขวนบนเจดีย์อีกเช่นกันค่ะ มีแม่ชีมายืนพูดให้เราว่าตาม 
ขอพร ดีมากๆเลย ดูจริงจังมาก แล้วก็เอาเหรียญๆแบบนี้ ค่อยๆหย่อนใส่ลงไปในราง อธิฐานขอพร
แล้วก็ทำบุญไป 100 บาท รู้สึกว่าเป็นการทำบุญที่ได้บุญทันทีเลย แบบอิ่มเอิบใจบอกไม่ถูก



เรียบร้อยจากการทำบุญ ก็ได้เวลาพิชิตบันได 1,237 ขั้นกันแล้วค่ะ ตอนที่ขึ้นไปนี่ไม่กลัว ไม่ท้อไม่อะไรทั้งนั้น 
เพราะมองไปที่เป้าหมายอย่างเดียว วารู้ตัวเองว่า อ้วน กำลังขาไม่มี เดินไม่ไหว แต่ใจสู้ซะอย่าง 
ยังไงวันนี้ก็ต้องถึงชั้นบนสุดให้ได้ ต้องไปให้เห็นกับตา ก่อนขึ้นเราไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย



คือไม่คิดว่าจะสาหัสใดใดๆ กะไปชิว คือ มีกระเป๋าสะพายข้างอันนึง ใส่พวกแว่นตา เงิน โทรศัพท์ 
ที่ชาร์ตแบต มีกระเป๋ากล้องอันนึง ขวดน้ำ ไซส์เล็ก 1 ขวด แล้วก็ ไก่ทอด 4 ชิ้นข้าวเหนียว 2 ห่อ
เป็นเสบียง 55555 ทั้งหมดนี้ สำหรับ 2 คน ที่ขึ้นไปด้วยกันนะคะ





ผ่านไป 300 ขั้น อีกคนเริ่ม งอแง ไม่ยอมไป จะลงท่าเดียว น้ำขวดเล็กแบ่งกันกินเริ่มหมด มันเหนื่อยแทบขาดใจมากกกกก
วาก็ไม่ไหวนะ พักทุกขั้นบันไดเลย ขาก็ปวด น่องก็ปวด แต่ใจสู้ เท่านั้นจริงๆ มีคนเดินตามมาบ้าง ผ่านไปบ้าง 
คนไทย ฝรั่ง เหนื่อยมากทุกคน หายใจลึกๆ ไม่พูดไม่คุย ก็ไม่ช่วยอะไร 55555555 



เหนื่อยแบบหายใจไม่ทัน แต่ก็ดันทุรังกันไปเรื่อยๆ ครึ่งทางก็ นั่งยาวววววว ตอนนี้ใจเริ่มมากันละ
ยังไงก็ไม่ลง เราไม่เร่งตัวเอง ขึ้นถึงกี่โมงก็ช่าง พักตลอดก็ไม่เป็นไร เอาให้ถึง วัดใจตัวเองให้ได้ สู้โว้ยยยย


ราวๆ ขั้นที่ 8-900 อยู่ๆก็มีหมาโกลเด้นเดินขึ้นมา เราก็ เย้ยยยยย ตกใจ มาจากไหน ซักพักก็มีพระเดินตามมา 
อ่อ ตัวนี้เป็นหมาวัด ตามพระขึ้นมาทำงาน 5555 เห็นพระเดินไปเดินมา ซ่อมไฟตามบันได นั่นนี่
ก็เข้าใจว่าพระวัดนี้ต้องแข็งแรงนะนี่ เดินกันขนาดนี้เชียว ก็แวะเล่นกับหมาหน่อยนึง แล้วหมาก็ขึ้นนำไปก่อน
โอ้โห เชื่อเค้าเลย นำไปก่อนเลย พี่จะรีบตามไป พี่จะไม่อายหมา 5555555







ช่วงหลังๆจากเจอหมาแล้วแรงฮึดก็มา ไม่นานนักก็ขึ้นไปถึงค่ะ ด้านบนสุดของบันได ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ในการเดิน 
ขึ้นไปก็เจอ ก๊อกน้ำดื่มก่อนเลย เย้! เป็นน้ำกรองที่สามารถใช้ขวดที่เรากินหมดแล้วถือขึ้นมาเนี่ยแหล่ะ 
กรอกน้ำใส่ขวดกินได้สบายใจเลย เป็นน้ำที่อร่อยที่สุดในทริปนั้น พูดเลย!







ขึ้นไปด้านบนนั้น มันที่สุดแล้วจริงๆ นอกจากจะชนะใจตัวเองได้ วิวข้างบนก็ มุมกว้างพาโนรามา อลังการ สุดยอดมาก 
มีทั้งวิวเขา สไตล์กระบี่ วิวบ้านคน วิวป่า และวิวเมือง มองเห็นเขาขนาบน้ำด้วย อากาศดี สบายใจ ดีใจที่ได้ขึ้นมาเห็นด้วยตัวเอง







ถ่ายรูป รัวๆ ไม่ยั๊งเลย หน้าโทรมมาก แต่ก็จะถ่ายล่ะนะ อุตส่าห์ขึ้นมาได้ถึงนี่ กล้อง Samsung NX3000 
มันเริ่ดตรงที่ดึงจอพับขึ้น ถ่าย Selfie ตัวเองได้เลยแบบไม่ต้องง้อใคร ปรับหน้านวลให้ด้วย 
ได้วิวกว้างครบเลย ถ่ายง่าย เหมาะกับการมาท่องเที่ยวลุยๆแบบนี้มาก







เพราะนี่ถ้าเอากล้องใหญ่มา คงแบกขึ้นบันไดคอหัก ลำพังจะเดินไม่มีกล้อง ก็จะแย่แล้วเนี่ย >.< 
อันนี้เบามาก สบายเลย เอาที่ว่างกระเป๋าใส่ไก่ทอดมากินแทน 5555

หยิบเสบียงไก่ทอดขึ้นมากินให้หายเหนื่อย มีน้องโด้ หมาวัดพันธุ์โกลเด้น ตัวเดิม
มานั่งจ้องหน้าทำตาปริบๆใส่ด้วย 5555555555 เอ้ามาๆแบ่งกันๆ



ไหว้พระ แล้วก็นั่งเล่นกินลมนานมาก ฟ้าเริ่มมืดลง ก็คิดว่าได้เวลากลับลงไปซักที กลัวเดินๆแล้วมืดกลางทาง คงไม่สนุกเท่าไหร่
ข่าวว่า มีลิงเต็มไปหมดเลย เดี๋ยวลิงมาแย่งของ ลงกันเถอะ





ขาลงแทบวิ่ง เพราะมันง่ายกว่ามาก แต่ตรงชันๆก็ระวังหน่อย แต่เร็วกว่าตรงที่ไม่ต้องพักเหนื่อยนาน 
แต่ก็เริ่มร้าวๆปวดขานิดนึงเหมือนกัน พอช่วง 3-400 ขั้นสุดท้ายก่อนถึงพื้น เจอฝูงลิงนั่งขวางบันได
แบบ ยกครอบครัวมากันเลยทีเดียว เห่ยยยยยย มันจะมาทึ้ง ดึงผมอะไรเราไหมนะ



ตอนนั้นเก็บกล้อง เก็บกระเป๋า ถุงพลาสติก ขวดน้ำ เก็บหมด แล้วค่อยๆเดินผ่านลงไปช้าๆ มีดราม่าเกิดขึ้นนิดหน่อยๆ
คือลิงตัวนึงพยายามจะดึงขวดน้ำไป แต่ก็ยื้อกันมาได้ แล้วบางตัวก็เกาะขาดึงๆ อารมณ์ ขอขนมหน่อยยย 
แต่ก็ไม่น่ากลัวมากนัก คือเดินผ่านไปเลย อย่ามามัวกลัว มันก็ไม่ได้ทำอะไร



พอลงไปข้างล่างกว่าฝูงที่นั่งอยู่แล้ว ก็เลยแอบถ่ายรูปนิดนึง ซูมเอา อยากถ่ายรูปลิงเบบี๋ มีเยอะมาก 
ตัวเล็กๆเต็มเลย กลัวแม่มันจะกัดเอามากแบบหวงลูก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไปด้วยดี ปวดขาสุดๆ 
แวะไปดูอีกบันไดนึง เป็นทางขึ้นวนอุทยาน เห็นแล้ว อะโหไม่ไหว เอาไว้ทริปหน้า บึ่งมอเตอร์ไซต์ เข้าเมือง
ไปหาโรตีกินดีกว่า





พอถึง 4 แยกมนุษย์โบราณ ห้างโวค ก็เจอโรตี เปิดขายแล้ว ไม่มีคนเลยเพราะมาตอน 6 โมงนิดๆ วันนี้ไม่มีถนนคนเดินด้วย
เลยยังไม่มีคน ก็สั่งโรตีกรอบ ของโปรดมากิน กับ ชาเย็น กาแฟเย็น เปรมปรีด์มาก โรตีกรอบร้านนี้มันแผ่นบางๆ 
กรอบๆ ทอดกำลังดี ไม่รู้สึกว่าอมน้ำมันเท่าไหร่ แล้วก็สั่งแบบเอากลับไปกินที่โรงแรมต่ออีก 1 ถุง
mission 3 complete แล้วววว



ฟ้ามืดลง ก็บึ่งมอเตอร์ไซต์กลับอ่าวนาง หลงทางเบาๆ ที่กระบี่จะมีภูเขาตั้งตระหง่านเป็นระยะๆ เป็นจุดเด่นของที่นี่เลย
ตอนกลางวันก็สวยดี แต่กลางคืนนี้ มันดูดำทะมึน หลอนไม่ใช่เล่นๆ ถนนบางเส้นมืดมาก หลอนเลย ฮ่าาาา

วันนี้ พระอาทิตย์ตกตอนกำลังกินโรตีอยู่ เลยไม่ได้เห็นแสงพระอาทิตย์ตกน้ำสวยๆเลย แต่แอบเห็นฟ้าสวยๆ ตอนระหว่างทาง
ก็ถ่ายรูปบนมอเตอร์ไซต์ กล้องนี้ถ่ายรูปกลางคืน ได้ดีงามมาก ถ่ายง่าย ชัตเตอร์ไว ไม่เบลอ แม้ไม่มีขาตั้งกล้อง อยู่บนมอเตอร์ไซต์
วิ่งไปด้วย ถ่ายได้ขนาดนี้ ยอมรับเลยนะ


ถึงที่พักก็สลบเลยค่ะ ไม่มีแรงไปหาข้าวเย็นกิน แต่กินโรตีก็อิ่มอืดอยู่ เลยไปได้ ลูกชิ้นไม้ละ 10 บาท หน้า 7-11 มากิน 5 ไม้ 
อิ่มจริงจัง แล้วก็นอนดีกว่า มีจองไปเที่ยว 4 เกาะของพรุ่งนี้ เค้านัด 9 โมง รถมารับที่รีสอร์ท เดี๋ยวค่อยไปหา
อะไรกินอีกทีเช้าเลยละกัน คร่อกกกกกกก !





เช้าอีกวัน บึ่งมอเตอร์ไซต์มาที่ปากซอย มองขวา เห็น Familymart มองซ้ายเห็น 7-11 และ ร้านไก่ทอด! 
เลยไปจอดหน้า 7-11 ก็เห็นว่ามีร้านข้าวแกงอยู่ติดกับ 7-11 เลย ขายเป็นข้าวราดแกง ที่เป็นแกงใต้
มีปลาทอด ไข่ อะไรแบบนี้ด้วย มีข้าวหมกไก่ด้วยนะ รอดแล้วมื้อนี้! แต่วาก็กินข้าวราดแกงไตปลา ของโปรดอยู่ดี 
พร้อมกับไปซื้อไก่ทอดที่หน้าร้านมากินด้วย อร่อยจัง น้ำพริกผักแถมฟรีด้วยค่ะ


อิ่มแล้วก็กลับที่พักเตรียมตัวรอรถของบาราคูดัสมารับ นั่งรออยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรม ตรงสระว่ายน้ำ 
ตรงนี้มีห้องพักริมสระ 2 ห้อง คือห้อง 101 กับ 102 อยากพักห้องนี้เหมือนกันนะ แต่เวลามีคนมาเล่นน้ำหน้าห้อง 
อาจจะรำคาณนิดนึง วิวตรงสระว่ายน้ำนี่สวยดีจังเลย




พร้อมไปเกาะแล้วฮ่ะ! (ป้ากลัวแดดเฟร่อ)


ขอ Selfie ก่อนเดินทาง มีโหมดหน้านวลให้ด้วย ดูเหมือนผิวดีแต่เกิดเลย 5555

9 โมงนิดๆ รถก็มารับไปส่งที่อ่าวนาง เช็คชื่อ รับสติ๊กเกอร์ แล้วก็ขึ้นเรือกันค่ะ วาจองแบบเรือหางยาวมา 
แต่เรือที่ได้ไปวันนี้เป็นเรือไม้ขนาดใหญ่ ในโบร์ชัวร์เขียนว่า Big Boat ก็โอเคนะ เรือใหญ่ดี จุได้หลายคน 
ไม่โคลงเคลงดี ไปแบบนิ่งๆไม่น่ากลัว แต่ข้อเสียคือ เทียบฝั่งไม่ได้ ต้องลุยน้ำลงไปเกือบถึงสะโพก
กว่าจะได้ขึ้นเรือ เรียกว่าเปียกตั้งแต่ต้นทริปเลยทีเดียว







ทัวร์ 4 เกาะวันนี้ ไกด์บอกว่า จะไปที่ไร่เลย์ก่อน ตรงหาดถ้ำพระนาง ไม่นานนักก็ไปถึงค่ะ ก้าวแรกเมื่อถึงหาดคือ 
แดดดีมาก ร้อน! แต่รู้สึกว่า ที่นี่ สวยกว่าที่เคยมาเยอะเลยแหะ หรือตอนนั้นจำไม่ค่อยได้แล้วก็ไม่รู้ 
แต่ วิว บรรยากาศ ความสะอาด มันยังโอเคทีเดียว





ที่นี่เค้าให้เวลา 50 นาที ก็เดินเล่นถ่ายรูปกันไป มาถึงก็ขอ Selfie ซักหน่อย เย่! 
ได้มุมกว้างๆข้างหลังด้วย ดีงาม







แล้วก็ลองถ่ายแบบโหมด Action Freeze (หยุดการเคลื่อนไหว) แบบลองกระโดดดู โดดทีเดียว 
ก็โอเคนะ ออกมาใช้ได้ แต่คนโดดโดดไม่ค่อยจะขึ้นนะ ท่าอุบาดจัง 5555



แล้วก็ส่ง wifi จากกล้องเข้าหามือถือ แล้วอัพโหลดเลยทันที
ทริปนี้ไม่หยิบมือถือถ่ายรูปเท่าไหร่ เพราะรูปจากกล้องดูชัดมีมิติกว่ามาก เลยใช้กล้องถ่าย
แล้ว wifi โยนเข้ามือถือ ไม่กี่ วินาทีก็มีรูปโพสอวดเพื่อนๆและ โพสลงเพจตลอดเวลาจ้าาาา



เดินเล่นไม่นานก็ครบเวลา ปีนกลับขึ้นไปบนเรือ แล้วไปที่จุดหมายต่อไปค่ะ นั่นก็คือ ทะเลแหวก
ซึ่งรวมเกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่ 3 อัน แล้วมีสันทรายเชื่อม แบบเดินหากันได้ สันทรายจะชัดก็
ขึ้นอยู่กับ น้ำขึ้นน้ำลงค่ะ คราวก่อนที่มา มันไม่แหวก เดินผ่านไม่ได้เลย ลึกเท่าอก วันนี้พอเดินได้
เป็นน้ำราวๆ ต้นขาค่ะ





เค้าให้เราทานข้าวที่นี่เลย เมื่อก่อนที่เคยมาเค้ายื่นข้าวกล่องให้กล่องนึง แห้งแล้งมาก วันนี้เค้าเปลี่ยนเป็น
กล่องพลาสติก มีข้าวอยู่ข้างใน ให้เราหยิบคนละกล่อง แล้วไปรอรับกับข้าวอีก 3 อย่าง เหมือนโรงอาหารเลย 55555
ได้มาเป็นไก่ผัดขิง ผัดผัก จืดๆทั้งคู่ ให้ฝรั่งกินได้ แล้วก็ไก่ทอดรสชาตดีค่ะ อิ่มตื้อเลยล่ะ แล้วก็ไปถ่ายรูปเล่นกัน







ไม่นานนักเค้าก็เรียกขึ้นเรือ ไปดำน้ำต่อค่ะ ไปจอดดำน้ำตรงแถวๆหัวไก่ ของเกาะไก่ อ้อมๆไปข้างหลังหน่อย
วาว่า มันไม่ค่อยมีอะไรอ่ะ คือเรือมันใหญ่ด้วย เค้าก็ปล่อยให้ลงห่างจุดที่มีประการังหน่อย ถ้าจะดูต้องว่ายห่างออกไปเอง







แต่น้ำนิ่ง แล้วก็มีฝรั่งว่ายไป เลยว่ายตามไป ก็มีปลาเยอะดีค่ะ แต่ประการังมันเฉยๆอ่ะ ไม่มีอะไรตื่นเต้น 
ที่เยอะก็คงเป็นปลาเสือ ที่เยอะมาก คงมีคนเอาอาหารให้ตลอดเวลา คนมี ปลาเลยมารุมขนาดนี้



แล้วก็ขึ้นเรือ ไปต่อที่ เกาะปอดะค่ะ เป็นเกาะสุดท้ายของทริปนี้ ทุกที่ไม่ห่างกันมาก ชิลล์ๆ สบายๆ
มาถึงก็ปล่อยฟรีสไตล์ 1 ชม. ใครใคร่ถ่ายรูปจัดไป หรือใครใคร่นอนก็ตามสบาย 
ที่นี่มีร้านค้าสวัสดิการด้วยนะ อ้อๆ ลืมบอก ที่ทะเลแหวกก็มีค่ะ Coke กระป๋องละ 60 บาท ตามนั้น
ใครอยากฟิน ซื้อติดมากินเองจะดีกว่า ที่ทัวร์ให้น้ำเปล่าคนละขวดเท่านั้นจ้า






ปกติไม่ค่อยมีรูปตัวเอง ทริปนี้ไม่พลาด Selfie ตล๊อดๆ

วาก็ไปลากเตียงผ้าใบมากางนอน(ฟรี) หลับกันยาวๆ เพลินมาก หลับใต้ต้นไม้ วิวเป็นทะเล 
เวลาผ่านไปไวมาก เค้าเรียกกลับขึ้นเรือแล้ว 



แล้วเค้าก็มาส่งที่อ่าวนางค่ะ แล้วก็แบ่งให้เราขึ้นสองแถว แยกไปส่งตามโรงแรม เป็นอันว่าจบทริปเรียบร้อย
กลับถึงโรงแรม ก็อาบน้ำแล้วบึ่งมอเตอร์ไซต์ไปหาขนมจีนกินต่อ (ขนมจีนอีกแล้วววว) คือเห็นว่า 
ไม่ไกลจากโรงแรมมาก มีร้านขนมจีนอยู่ เปิดบ่ายๆ เป็นขนมจีนแบบ ตักเอง ไม่ถึงกับ Buffet นะ
แค่หยิบขนมจีนแล้วไปตักเองเท่าที่จะพอใจ 1 ครั้ง ในราคาจานละ 40 บาท ซึ่งวาก็จัดแกงไตปลามา
เต็มจานเลย ปรากฏว่า มันเผ็ดมากกกกกกกก ทุกร้านจะให้ไม่ค่อยเยอะ เพราะแบบนี้นี่เอง 555



อิ่มแล้วก็ไปเที่ยวเล่นที่อ่าวนาง แวนซ์มอเตอร์ไซต์ไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอ ร้านอาหารข้างทาง เหมือนตลาดนัดโต้รุ่งเลย
รวมอาหารรถเข็นเพียบ แวะดูราคาก็ไม่แพงมากนะ อาหารตามสั่ง 50 บาท โรตีมีหลายร้าน อันละ 20 บาท ลูกชิ้นทอด
หมึกย่าง กุ้งทอด น้ำปั่น ผลไม้ เพียบ เพลินเลย แต่ก็อิ่มขนมจีนมาแล้ว เลยได้ โรตีกรอบ มากินนิดหน่อย 
ถ้าอร่อยจะมาซื้ออีก! (ปรากฏว่า อร่อยมว๊ากกกกก)






โรตีกรอบ ฟูๆ อร่อยใช้ได้ 20 บาท จากอ่าวนาง

กลับถึงที่พักก็หลับยาวเลยจ้า สะดุ้งตื่นมาอีกที ฟ้าจะมืดแล้ว รีบบึ่งไปดูพระอาทิตย์ตกกันดีกว่า 
ข่าวว่าพระอาทิตย์ตกฝั่งทะเลคงสวยดี แต่ลืมคิดไปว่า โรงแรมไม่ได้ติดหาด ต้องบึ่งมอเตอร์ไซต์ไปอีก 
เลยไปไม่ทัน แต่ก็ยังพอได้เห็นแสงสีสวยๆ ของท้องฟ้าหลังพระอาทิตย์ตกไปแล้วบ้าง



เห็นวิวสวยๆแบบนี้ก็เลยนึกสนุก ลองใช้โหมดของกล้องดู เป็นโหมด " Light Trace หรือ รอยแสง "
ซึ่งมันจะปรับชัตเตอร์สปีตให้ช้าลง จะได้ภาพไฟเป็นเส้นๆ นั่นแหล่ะ NX3000 เค้ามีโหมดให้เลือกได้เลย
ไม่ต้องตั้งค่าเอง สะดวกมาก  วาก็ลองใช้โหมดนี้กับการถ่ายรูปทะเล เท่าที่เรียนรู้มาถ้าชัตเตอร์สปีตช้า
มันจะทำให้ทะเลเป็นคลื่นนุ่มๆ เหมือนพวกกล้องโปรๆเค้าชอบทำกัน เข้าโหมดปุ๊บ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรทั้งนั้น กดเลย!



รูปก็ออกมาแบบนี้ เริ่ดอ่าาาาาาาาาาาาา 
( เพื่อความคมชัด ต้องถือกล้องนิ่งๆระยะนึง ควรหาที่วาง หรือใช้ขาตั้งกล้องนะคะ)  
โหมดนี้ถือว่าเป็นทีเด็ดของกล้องนี้เลยนะ ใช้ง่ายมาก ถ่ายออกมาเหมือนใช้กล้องโปรถ่ายเลย แค่ใช้ Smart mode
ถ่ายรูปกลางคืน ชัตเตอร์ไวขนาดนี้ แล้วได้ภาพคม คือ ฟิลในการจับถือ แล้วถ่าย คิดว่าอันนี้เจ๋งไม่เบาเลย



iPhone ที่ว่าถ่ายรูปกลางคืน พอรับได้ ถ่ายดี นาทีนี้หลบไปก่อนนะจ้ะ ถ่ายรูปออกมา noise กระจายยยยย แป่ววววว!!!
ปกติใช้แต่มือถือถ่ายรูปแชะๆ ง่ายๆ เวลาออกทริป ทริปนี้เลยใช้ NX3000 ถ่ายรูปตลอด แล้วแชร์ wifi เอา ดีงามกว่าเห็นๆ



ใช้โหมดนี้ นอกจากจะทำให้เป็นรอยแสงแล้ว ดวงไฟเป็นแฉกๆ เหมือนใช้ DSLR ถ่ายเลย ฮิฮิ

อ้ะ มาต่อกันที่โหมด Light Trace  "รอยแสง" อีกที ชื่อก็บอกว่ารอยแสง วาเลยเอาแสงมาเล่นหน่อยดีกว่า 
ตอนแรกพยายามไปตั้งที่ถนน แล้วกดถ่ายรูป แต่อ่าวนางหน้าโลว รถวิ่งผ่านไปน้อยมาก
ถ้าทำที่กรุงเทพ รถเยอะๆ คงสวยกว่านี้ เลยเอามาวาดไฟเล่นดีกว่า เข้าโหมด " รอยแสง "
แล้วกด ชัตเตอร์ปุ๊บ ก็เริ่มวาดรูปเลยจ้ะ แล้วก็ได้ออกมาเป็น ฟริ๊งงง!!!! อ๊ายย สนุกๆๆๆ เล่นใหญ่เลยทีนี้ 




พอดูรูปแล้วหลายๆคนคงคิดว่า ทำยากแน่เลยรูปแบบนี้ จริงๆเข้าโหมดกดถ่ายเลย จบจ้า ของเค้าดีจริงๆ :)
แล้วสามารถเขียนอะไรยาวๆได้ด้วยนะ ไม่ใช่เขียนๆวาดๆ วงกลม เส้นตรง หัวใจ ดาวแค่นั้น เพราะวาลองแล้ว ฟริ๊งงงง!!!



Smiley

สนุกกันพอแล้ว ก็ไปซื้อโรตีที่ร้านเดิม แล้วก็กลับที่พัก นอนนนนน พรุ่งนี้กะไว้ว่าจะตื่นแต่เช้าไปเที่ยวหนองทะเล
เห็นมาจากกระทู้ว่าบรรยากาศยามเช้า สวยงาม ก็เลยรีบเข้านอนค่ะ



เช้าตรู่ก็รีบตื่น ราวๆ 6 โมงออกจากที่พัก ไปที่หนองทะเล ราวๆ 6 กิโลเมตร ไปช้าเกินไป ไปถึงก็พระอาทิตย์ขึ้นสูงละ
เลยไม่ได้เห็นตอนฟ้าเป็นสีๆสวยเลย ที่นั่นมีบ้านคนเยอะไปหมดเราไปนั่งถ่ายรูปเค้าก็มองๆ เลยไม่กล้าเข้าไปข้างในอีก



ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลยลองใช้ โหมดพระอาทิตย์ตก ดู มันจะปรับโทนสีให้เป็นแบบออกส้มๆ ทำให้ดูแสงอาทิตย์
กำลังจะลับขอบฟ้า หรือกำลังจะขึ้นก็ได้แหล่ะ เหมือนมาทันตอนมันกำลังขึ้นป่ะ จริงๆขึ้นไปแล้ว แดดจ้าเลย แหะๆ



ไหนๆก็ตื่นเช้าขนาดนี้แล้ว ก็เลยบึ่งไปเที่ยวหาดใกล้ๆดู ก็ไปที่หาดคลองม่วง เงียบมาก ไม่ค่อยมีอะไรเลย
เลยคิดว่าไปหาอะไรกินดีกว่า อยากกินติ่มซำหาๆในกูเกิ้ล ก็มึนๆ เห็นเค้าว่าร้านติ่มซำมีแต่ในเมือง
แต่ตอนนั้นก็ยังเช้าอยู่ ไปในเมืองก็ได้ไปลองดู (มารู้ทีหลังว่าที่อ่าวนางมีติ่มซำเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้มีจริงป่าว)





ระหว่างทางจากคลองม่วง ไปอ่าวนาง ก็ผ่านหมู่บ้านช้าง (คิดเอาเอง) เห็นเค้าเอาช้างออกมาเดินไปเดินมา
แต่ละตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์ดูมีความสุขดีจัง เป็นบ้านหลายๆหลังรวมกันอยู่ ช้างเยอะมากเลย แอบจอดถ่ายรูปแปปนึง

ไม่นานนักบึ่งไปจนถึง ในเมืองค่ะ จิ้มมั่วๆมาได้เป็นร้านนี้ ติ่มซำ@กระบี่ แต่ที่เสริชเจอมันคือ กระบี่ ติ่มซำ นะ 





เข้าไปเค้าก็ให้ไปเลือกติ่มซำที่อยากกินในตู้แช่เย็น เค้าไม่มีป้ายราคาบอกไว้ มารู้ทีหลังคือ เข่งละ 20 บาท
ก็เลือกกันใหญ่ไม่ได้สนใจราคาเลย หลายอย่างน่ากิน หยิบๆๆ



แล้วเค้าก็เอามาเสริฟที่โต๊ะค่ะ พร้อมกับ สั่งโจ๊กไปด้วย เห็นในรูปหน้าตาดีเชียว โจ๊กไข่เยี่ยวม้า 40 บาท
จัดมาเหมือนในรูปเป๊ะ น่ากินอ่ะ สรุปหมดไป 300 บาท รวมติ่มซำรวมน้ำ รวมโจ๊ก สำหรับอาหารเช้า



อิ่มแล้วก็กะว่าเดี๋ยวแวะไปถ่ายรูปที่เขาขนาบน้ำ ปูยักษ์ แล้วก็กลับอ่าวนางเก็บของเตรียมเช็คเอาท์ค่ะ
ที่โรงแรมเช็คเอาท์ 11.30 น. ต้องคืน มอเตอร์ไซต์เวลาเดียวกัน แล้วก็กะว่าจะเรียกรถ Shuttle Bus มารับด้วยเลย





มิชชั่น คอมพลีสทุกอย่างก็กลับมาที่โรงแรมค่ะ ราวๆ 9.30 เอง คือเช้ามาก ตื่นเช้ามันดีแบบนี้นี่เอง
นอนกลิ้งเกลือกได้อีกนานกว่าจะได้เวลาเช็คเอาท์ แต่ในที่สุดก็ถึงเวลาต้องไปแล้วจริงๆค่ะ โทรหา Shuttle Bus
ได้ความว่า รถรอบ 11.30 เต็มแล้ว Smiley เลยจองรอบ 12.30 แทนก็ได้ แล้วก็ให้เค้ามารับที่โรงแรมเลย 
ปกติเค้าจะจอดที่แถวๆ Mcdonald อ่าวนางนะคะ แต่โทรไปเค้าบอกเค้าจะมารับ ดีจัง



นั่งรอไม่นาน รถก็มารับ แล้วก็มาส่งที่สนามบิน ใช้เวลาร่วมๆ 1 ชม. ค่ะ วามีบินไฟลท์ 16.00 ก็มาชิลล์
ไม่ได้รีบอะไรเลย กะมานั่งหลับรอที่สนามบินอยู่แล้วล่ะ แต่ถ้าใครมีไฟล์ทด่วนๆก็เผื่อเวลานิดนึงนะคะ
บางทีมันเลทกว่านั้นเยอะ เพราะเค้าแวะรับคนไปทั่วเลย



มาถึงสนามบิน ดูในจอ เคาท์เตอร์เช็คอินยังไม่เปิด เลยไปเช็คอินที่ตู้คีออสก์ แล้วก็ได้ปริ๊นใบออกมา งงๆ
อ้าว แล้วกัน จะแปะสติ๊กเกอร์ที่กระเป๋าเองได้ไง ไม่เคยทำ ฮ่าาา เลยเดินไปต่อแถวที่เคาท์เตอร์
แล้วบอกเค้าว่า ขอ Drop Bag หน่อยค่ะ เช็คอินมาแล้ว เค้าก็ทำให้อย่างดี ตัวโล่งแล้ว ไปหาข้าวกินดีกว่า



ลานจอดรถ หน้า Terminal 2 คือสวรรค์ค่ะ ตรงนี้มีทั้ง ข้าว ขนม เครื่องดื่ม ราคารับได้ขายอยู่
เห็นพนักงานสนามบินมากินทั้งนั้นเลย ข้อเสียคือ ร้อนมาก แต่ข้อดีคือ ไม่แพง หยวนๆกันไป



เค้าจะมีเป็นข้าวกล่อง อาหารตามสั่งค่ะ กล่องละ 45 บาท ก็เลือกๆแล้วยื่นให้เค้า เค้าจะเอาไปใส่จานให้
วันนั้นวาก็จัดข้าวหมูกระเทียมไข่ดาว 45 บาท สบายไปอีก 1 มื้อ อ่อ มาม่ากระป๋องละ 25 บาทนะคะ
กาแฟเย็นราวๆ 30-40 บาท ตามสะดวกเลย อิ่มแล้วก็เข้าไปนั่งรอที่เกตค่ะ



เกตที่นี่ มองเห็นเครื่องบินชัดเจน วิวดีงามมาก



ไม่นานนักก็ขึ้นเครื่องค่ะ วันนี้ได้นั่งเครื่อง ตัวการ์ตูน Line ด้วย น่ารักจังงงงง



อากาศดี ท้องฟ้าโปร่ง เป็นอันจบทริปนี้อย่างมีความสุขค่ะ


ทริปนี้.... แฮปปี้มาก เพราะเหมือนได้ไปเที่ยวตามใจปารถนา อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็ไปเสาะหา
เป็นอีกทริปที่เหนื่อย แต่สนุกมากค่ะ ทริปนี้จ่ายเงินเองล้วนๆ มีสปอนเซอร์ก็คือกล้องสำหรับถ่ายรูปนี่แหล่ะ
ที่ทาง Samsung ให้ยืมมา ต้องขอบคุณอย่างยิ่งใหญ่ด้วยค่ะ เพราะทริปนี้แบกกล้องเล็กแบบ NX3000 ไป
แต่ได้รูปถูกใจ เหมือนเอากล้องใหญ่ไปเลย สะดวก ถ่ายง่าย เหมาะกับผู้หญิงอย่างเรามาก
ถึงเราจะถึกๆก็เถอะ แต่กล้องก็ช่วยได้มากในเรื่องของน้ำหนักที่เบา และ ขนาดที่ไม่เกะกะ 
เหมาะกับการไปเที่ยว แล้วถ่ายรูปสวยๆ เก๋ๆ อัพโหลดอวดเพื่อน ทันที :)



ทริปนี้ไม่ค่อยได้แตะ iPhone ถ่ายรูปเท่าไหร่ ใช้กล้องแล้วเหวี่ยง wifi มาที่ iPhone แล้วโพสได้เลย
ใช้งานง่าย เข้ากันได้ทั้ง IOS และ Android ลองเอามาเชื่อมต่อดูก็ใช้งานง่ายเหมือนกันค่ะ
จริงๆมี NFC ด้วยแต่ต้องใช้กับมือถือที่รับ NFC ได้ วาไม่ค่อยเข้าใจมากนัก wifi นี่สะดวกดีค่ะ



ในเรื่องของแบตเตอรี่ ต้องบอกว่า ใช้เช้าจรดเย็นไม่มีสะเทือนนะ แบตอึดมากกกก วันนึงเอาไปปีนบันไดก็ไม่หมด
อีกวันเอาไปออกทริปทะเล ก็ไม่หมด ใช้ทั้งวันสบายๆ แต่ด้วยความที่สังเกตุเห็นตัวชาร์ตมันไม่ต่างจากมือถือมาก
ก็ได้ลองเสียบสายกับ Power bank ดูปรากฏว่า ชาร์ตได้ด้วย เออดีแหะ แบบนี้จะไปเที่ยวบุกป่าฝ่าดงที่ไหน
ก็ไม่ต้องกลัวแบตหมดเลย เพราะชาร์ตแบบนี้ได้ด้วย ถ้าจำเป็นจริงๆ 



เอาล่ะค่ะ ในที่สุด รีวิวทริปกระบี่ ควบคู่กับการรีวิวกล้อง Samsung NX3000 ไปด้วยทริปนี้ ก็จบเพียงเท่านี้ค่ะ
มีอะไรสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับทริปกระบี่ การเดินทาง การท่องเที่ยว หรือแม้แต่ กล้อง Samsung NX3000 
ก็ถามมาได้เลยนะค๊า ขอบคุณที่เข้ามาชมรีวิวของวาค่ะ พบกันใหม่ทริปหน้า... ขอบคุณ และสวัสดีค่าาา

- - - - - - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - - -
มีอะไรสอบถาม พูดคุย เพิ่มเติม ได้ที่ Fanpage นะคะ 
เผื่อวาไม่ได้ย้อนมาเช็ค comment ครบทุกหน้าค่า





Create Date : 10 กันยายน 2557
Last Update : 10 กันยายน 2557 19:27:03 น. 5 comments
Counter : 11045 Pageviews.

 
รีวิวละเอียดจังเลยค่า ติดตามต่อนะคะ

รูปจากกล้องสวยจริงไรจริง^^


โดย: Behold Mortals วันที่: 10 กันยายน 2557 เวลา:22:58:45 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 11 กันยายน 2557 เวลา:4:17:57 น.  

 
ชอบรีวิว มากเลยคร่ะ เที่ยวแบบ ชิวๆ ราคาไม่แพง ชอบๆทะเลอันดามันเหมือนกัน


โดย: วาวา IP: 113.53.89.38 วันที่: 11 กันยายน 2557 เวลา:9:12:33 น.  

 
อ่านแล้วสนุกดี อยากไปกระบี่จัง ไม่เคยไปเลย


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 11 กันยายน 2557 เวลา:14:42:07 น.  

 
สวยดี ผมคนกระบี่บางที่ที่ review ดู ยังไม่เคยไปเลยก็มี (หนองทะเล)
กลับไปต้องแวะไปชมหน่อย

ขอบคุณมากครับ ภาพสวยๆ คำบรรยาย fin fin


โดย: dinsine IP: 125.24.154.134 วันที่: 12 กันยายน 2557 เวลา:7:57:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นังนู๋วา
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 150 คน [?]








Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
10 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นังนู๋วา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.