เรื่องย่อ (มากๆ)หลิว ผู้หลงใหลในโลกของหนังสือ กับ ความพยายามที่ก้าวเข้าสู่บรรณโลก
หลิวต้องตะเกียกตะกายต่อสู้เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้อ่าน
จนทำให้หลงลืมบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญในชีวิตไป
*********************************จากเจ้าของบล็อกนิยายของอาจารย์เล่มนี้เป็นเรื่องที่เขียนมานานสัก...เอ่อ...นับจากที่พิมพ์ครั้งแรกรวมเล่มปี 2526 ซึ่งก่อนหน้านั้นก็คงลงนิตยสาร เพราะฉะนั้นนิยายเรื่องนี้ก็น่าจะมีอายุ 25 ปีแล้ว
เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของหนุ่มสาวที่ก้าวพ้นจากมหาวิทยาลัยด้วยความฝันความหวังที่จะได้เดินอยู่บนบรรณโลก โลกของนักประพันธ์ (ไส้แห้ง?)
นักเขียนสมัยก่อนต้องอาศัยความพยายาม ความอุตสาหะอย่างมากมายกว่าที่งานเขียนจะได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสารสักเรื่อง โดยมีตัวละครที่เป็นผู้เล่าเรื่องคือ หลิว
หลิวก็เหมือนกับนักศึกษาทั่วไปที่ตอนเรียนอยู่ได้ใช้ความสามารถในด้านการขีดเขียนของตนเขียนเรื่องลงวารสารของนักศึกษาที่ออกมามากมายตามความนิยมในสมัยนั้น ทำให้หลิวเกิดความฝันความหวังที่จะได้ทำงานในนิตยสารสักเล่มและได้ทำควบคู่ไปกับการเขียนนิยายด้วยใจรัก แต่เมื่อก้าวเข้ามาสู่โลกของผู้ใหญ่จริงๆ แล้ว หลิวก็ได้รับรู้ถึงความยากลำบากที่จะเขียนเรื่องสักเรื่องที่จะให้บรรณาธิการยอมรับเพื่อที่จะได้ลงตีพิมพ์ กว่าโอกาสจะมาถึง หลิวได้พยายามเขียนโดยไม่ย่อท้อ เพราะหลิวเขียนด้วยพรแสวง มิใช่ พรสวรรค์
เทียบกับ หลิว แล้ว นักเขียนยุคปัจจุบันช่างโชคดีกว่ามาก ๆ ที่มีเวทีอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการเขียนในสิ่งที่อยากเขียน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งนี้นั้นคือ ความโชคดีหรือความโชคร้าย เพราะด้วยวัฒนธรรมแบบแดกด่วนทำให้เกิดสำนักพิมพ์ที่พิมพ์งานออกมาโดยไม่ได้ผ่านการลงนิตยสารออกมามากมาย และระบบการกลั่นกรองงานของสำนักพิมพ์พวกนี้นั้นด้อยประสิทธิภาพกว่า บก. ของนิตยสารชั้นดีอย่างเห็นได้ชัด จะหาบรรณาธิการที่ใส่ใจงานเหมือนอย่าง บก.ของหลิวในเรื่อง (หรือแม้กระทั่ง บก.นิตยสารจริงๆ อย่างสตรีสารหรือสกุลไทย) หาได้ยากมาก ๆ เพราะเท่าที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ บก. ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่ให้สมกับเป็น บก. ที่แท้จริงเลย ทำตัวเหมือนแค่เป็นผู้จัดการต้นฉบับหรือผู้ประสานงานนักเขียนเท่านั้นเอง
ทำให้อายุการใช้งานของนักเขียนในปัจจุบันนี้ ดูแล้วจะไม่นานนักหรอก เมื่อถึงเวลาหนึ่ง เมื่อพ้นสมัยไปแล้วก็ต้องเลิกรา ยกเว้นจะมีดาวดวงเด่นที่สามารถแหวกขึ้นมาประดับฟ้าได้ แต่เท่าที่เห็นทุกวันนี้ยังไม่มี....
แต่ บก. ในหนังสือเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะมีแต่คนดีๆ เสมอไป
ในเมื่อมีคนดี ก็ย่อมมีคนที่ร้ายเช่นกัน ดั่งที่หลิวได้เจอ คือ เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เมื่อมีเงินเข้ามาเกี่ยวกับคนที่ไร้คุณธรรมแล้วไซร้ การโกงก็ย่อมเกิดขึ้น
หลิวได้พบกับ บก. ที่มีนิสัยขี้โกง ทำเรื่องเบิกเงินเอาเข้ากระเป๋าตัวเองไป โกงเงินนักเขียนหลายคน ทำได้ถึงการโกงเงินบริษัทโดยกุนักเขียนที่ไม่มีตัวตนเพื่อเบิกเงิน แล้วก็หอบเงินหนีไปเสวยสุข แม้กระทั่งตอนหลังก็ยังไม่ได้พบผลกรรมแต่อย่างใด ยังพยายามกลับมาเพื่อทำงานอีกครั้ง เพราะคนไทยมักคิดว่า แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอกhtmlentities(' >')>> คนนิสัยแบบนี้ แม้ปัจจุบันก็ยังได้พบเห็นอยู่ จริงไหม
ในนิยายเรื่องนี้นั้น แสดงให้เห็นถึงชีวิตการทำงานของนักเขียนที่มีหลายรูปแบบ
นักเขียนที่มีชื่อเสียงแล้วต้องเขียนนิยายให้นิตยสารหลายเล่ม จนเกิดศึกชิงต้นฉบับ หรือเมื่อเขียนเข้าหลายเรื่องในเวลาพร้อมกันก็มักจะทำให้งานออกมาไม่มีคุณภาพ
นักเขียนรุ่นเก่าที่อาศัยชื่อเสียงเดิม เขียนอะไรซ้ำซากในแนวเดิม ไม่สามารถเปลี่ยนได้เหมือนไม้แก่ที่ดัดยาก
นักเขียนดาวรุ่ง ผู้มีลีลาการเขียนที่งดงาม แต่เนื้อเรื่องวนเวียนซ้ำซากอยู่กับเรื่องบนเตียง แล้วก็บอกว่าเป็นความรักที่งดงาม(ตรงไหน?)htmlentities(' >')>> นี่ก็คุ้น ๆ เหมือนนักเขียนสมัยนี้หลายคนเหมือนกัน ฮา
นักเขียนที่มักจะก็อปงานชาวบ้าน รวมถึงก็อปเรื่องต่างประเทศ (คุ้นๆ แหม เรื่องแบบนี้มันมีมานานแล้วเนอะ) แต่ บก. ก็ยังเอาลง เพราะเป็นนักเขียนดังที่มีคนติดมากมาย ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้อ่านนั้นไม่ได้อ่านงานต่างประเทศ เขาไม่สนใจด้วยซ้ำ
นักเขียนที่มากด้วยอุดมการณ์ (พวกเขียนงานเพื่อชีวิตทั้งหลาย) แต่สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนแนวเพราะคนอ่านไม่ชอบ แต่ถ้าไม่เปลี่ยนแนว ก็ต้องเปลี่ยนอาชีพในที่สุด
และนักเขียนระดับตะเกียกตะกาย อย่างหลิว
เมื่อนักเขียนผลิตงานมากๆ เข้าจนกลายเป็นเครื่องจักรทำให้เหนื่อยหน่าย หรือเมื่อถึงเวลาหนึ่งเมื่อมาถึงทางตัน นักเขียนก็ต้องเลือกว่าจะทำอะไรต่อไป การหายไปและการเกิดใหม่ของนักเขียนจึงมีอยู่ตลอดเวลา
และนางเอกของเรา หลิว ก็ได้เลือกแล้วเช่นกัน
คัดตอนที่เจ้าของบล็อกชอบมานำเสนอสักตอนข้อต่อมาคือพล็อตเรื่อง บางคนก็เขียนมาจับต้นชนปลายไม่ถูกหรือจบลงโดยไม่มีความกลมกลืนอะไรกันเลยระหว่างตอนต้นกับตอนจบ ส่วนมากมักจะอ่อนเหตุผล ทำให้ขาดน้ำหนักไปอย่างน่าเสียดาย
หลิวจำได้บางเรื่อง เช่น ตอนต้นพระเอกกับนางเอกรักกันมากแต่มีอุปสรรคคือพ่อแม่ไม่เห็นด้วย วันหนึ่งนางเอกไปเจอพระเอกนั่งรถไปกับผู้หญิงสาวคนหนึ่งก็เกิดเสียใจสุดขีดว่าพระเอกทรยศ เลยยอมกลับมาหมั้นกับผู้ชายที่พ่อแม่สนับสนุน แต่ด้วยความโศกเศร้าตรอมตรมก็เลยอ่อนระโหยโรยแรงลงทุกวัน เอาแต่กินน้ำตาไปจนวันแต่งงานแล้วก็เลยเกิดอาการช็อคหน้ามืดไปตอนรดน้ำ พระเอกถลาเข้าประคองอธิบายให้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่รักของเพื่อนเขาเอง บังเอิญไปธุระด้วยกันโดยเขาไม่ทันบอกนางเอก
นางเอกก็เผยอยิ้ม แล้วหลับตาหัวใจวายไปอย่างมีความสุขในวงแขนคนรัก
คุณพรทิพาวิจารณ์ว่า
ยายนางเอกนี่พิลึกจริง จะถามคู่รักสักคำก็ไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วการนั่งรถไปด้วยกันมันก็ไม่ใช่ข้อคอขาดบาดตายจะต้องเลิกร้าง แฟนก็ไม่เห็นมาอธิบายให้รู้ แล้วโรคหัวใจน่ะ ต้อนต้นก็ไม่เห็นบอกว่าเป็น อยู่ๆ มาก็ตายท่าทางสวยงามเหมือนจูเลียต โรคหัวใจจริง ๆ น่ะ ถ้าไม่ปุบปับไปเลยก็ทุลักทุเลกว่านี้แยะอ่านตรงนี้แล้วฮามั่ก ๆ นึกถึงเด็กนักเขียนสมัยนี้จริง ๆ เรื่องเหตุผลไม่ต้อง เรื่องมั่วข้อมูลก็เพียบ แถมมักนึกว่าชีวิตจริงเป็นเหมือนในละครช่อง 7
*********************************แนะนำงานของอาจารย์เล่มนี้ เพราะอยากให้นักเขียนรุ่นใหม่ได้อ่านเรื่องนี้จังเลย ถ้าไปงานหนังสือก็ไปขุดหาเอานะคะ เพราะเรื่องนี้ไม่มีพิมพ์ใหม่เลย แต่ตอนงานหนังสือปีก่อน ๆ เคยเห็นที่ร้านโชคชัยเทเวศน์
จำได้ว่าชอบเรื่องนี้ค่ะ แต่รายละเอียดลืมแล้ว นอกจากหนุ่ม ๆ ชื่อเป็นตระกูลสุราทั้งหมด
โดย: พุดน้ำบุศย์ IP: 58.10.234.212 19 มีนาคม 2550 16:39:00 น.
ว่าทำไมถึงไม่ได้อ่าน
ส่วนเรื่องชีวิตนักเขียน
กร๊ากกกกกกกกก
ป.ล. อ่านความเห็นคุณพุดฯแล้วสรุปได้ว่า...เราไปก๊งกันดีกว่าค่ะ ฮา
โดย: piccy IP: 124.120.232.129 19 มีนาคม 2550 16:57:47 น.
โดย: ต.ท. IP: 58.10.80.176 19 มีนาคม 2550 17:38:42 น.
โดย: เบบูญ่า 19 มีนาคม 2550 19:22:14 น.
โดย: เมฆชรา 19 มีนาคม 2550 20:17:43 น.
แต่เคยเห็นตามร้านเหมือนกันค่ะ ในงานหนังสือก็เคยเจอเช่นกัน อายเหมือนกันเวลาเข้าไปในบู้ทโชคชัย คนขายกลัวเราเข้าผิดบู้ท .... ไม่ผิดหรอกค๊า
โดย: kornnakarn 19 มีนาคม 2550 20:34:54 น.
แต่จะเจอหรือเปล่านี่สิ เรื่องใหญ่ พิมพ์มานานขนาดนั้น แถมยังไม่มีตีพิมพ์ใหม่อีก นานขนาดว่าพิมพ์ครั้งแรกคอเล่ายังไม่เกิดเลย
โดย: คอเล่า IP: 202.44.135.35 19 มีนาคม 2550 22:58:27 น.
หนังสือบล็อกนี้ กับความเห็นเกี่ยวกับการแจ้งเกิดของนักเขียนสมัยก่อน-สมัยนี้ คิดตรงกันเลยค่ะ
โดย: ยาคูลท์ 20 มีนาคม 2550 0:33:39 น.
น่าสนๆ ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบงานของ อ.วนิตา
ในนามปากกาี้นี้ก็เถอะ ชอบแก้วเก้ามากกว่าง่ะค่ะ
โดย: Clear Ice 20 มีนาคม 2550 7:44:09 น.
โดย: Boyne Byron 20 มีนาคม 2550 9:39:07 น.
piccy - นี่ก็บอกอายุเหมือนกันว่า......ไม่ได้อ่าน
ต.ท. - ชอบทุกเรื่อง โย่!
เบบูญ่า - สนับสนุนให้ไปสอยมาอ่านค่ะ
เมฆชรา - ลิสของพี่เมฆฯ ยกเว้นเรื่องนี้ ที่เหลือเครียดหมดเลย
kornnakarn - อายุกับการอ่านไม่เกี่ยวกันเนอะ แต่...ทำไม ผสมย. ไม่กล้าเข้าบูธแจ่มใส ปริ๊นเซส เลยอ่ะ
คอเล่า - น่าจะเจอนะคะ ลองไปบูธที่ป้าๆ ชอบเข้าดูค่ะ ปกนี้เลย
ยาคูลท์ - มีคนเชียร์ให้พิมพ์ใหม่นานแล้ว แต่ยังไม่เห็นเลยค่ะ คิวคงยาวววว
Clear Ice - ไอซ์ลองอ่านดูนะคะ ถึงเรื่องจะเก่าไปสักหน่อย แต่ถ้าเป็นนักเขียนน่าจะได้อารมณ์ร่วมมากกว่านักอ่านธรรมดาอย่างพี่
Boyne Byron - ขุดมาจากกองหนังสือเก่าค่ะ
โดย: ผู้สาวเมืองยศ 20 มีนาคม 2550 10:01:23 น.
โดย: กระปุกกลิ้ง 20 มีนาคม 2550 12:21:57 น.
โดย: เคียงจันทร์ IP: 61.19.47.117 20 มีนาคม 2550 12:27:56 น.
เคียงจันทร์ - เพราะมีเรื่องแบบนี้ในห้องสมุดไงคะ นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เลยไปเอามาอ่านใหม่อีกรอบ ก็พบว่าอาจารย์เขียนเรื่องได้ร่วมสมัยดีจังค่ะ
โดย: ผู้สาวเมืองยศ 20 มีนาคม 2550 12:44:46 น.
แต่ทางโรยกรวดและก้อนหิน (ที่เขวี้ยงมาจากแทบจะทุกสารทิศ) ในห้องสมุดตอนนี้
ตามอ่านและตามเขวี้ยงอยู่ด้วยเหมือนกันค่ะ
โดย: ปป IP: 203.154.148.50 20 มีนาคม 2550 13:05:47 น.
แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องอายุ แต่เป็นเพราะขี้เกียจเบียดๆ เทานั้นเอ๊ง
โดย: kornnakarn 20 มีนาคม 2550 23:35:59 น.
งานหนังสือไปคุ้ยกระบะดูจะเจอมั้ยน้อ
อ่านตรงที่คุณผู้สาวยกมา
เออ มันก็ฮาจริงๆ ด้วยแฮะ
โดย: อันปังแนน 21 มีนาคม 2550 0:17:34 น.
โดย: int_gal IP: 202.28.62.245 21 มีนาคม 2550 2:08:15 น.
น่าอ่านจังเลย
ทำไมไม่พิมพ์ซ้ำน้า...(สงสัยเป็นเพราะตีแผ่วงการหนังสือได้อย่างสมจริงมากไปนิดกระมังคะเนี่ย
งานหนังสือคราวนี้ต้องไปหาดู
โดย: ศรีสุรางค์ 21 มีนาคม 2550 9:41:35 น.
kornnakarn - ไม่ชอบเบียดคนเหมือนกันค่ะ
อันปังแนน - มีอีกหลายที่ในเรื่องนี้ที่อ่านดู มัน "เดจาวู" เหมือนกัน
int_gal - รู้อายุอีกราย
ศรีสุรางค์ - เล่มนี้เคยพิมพ์น่าจะ 2 ครั้ง อีกครั้งกับต้นอ้อเมื่อปี 34 ตอนนี้จะเรียกว่าหนังสือขาดตลาดก็ได้ค่ะ แต่แอบเห็นโชคชัยเทเวศน์เอาหนังสือตกค้างมาขายตอนงานหนังสือเหมือนกันค่ะ (เคยซื้อที่บูธนี้เล่ม 50 บาท) ต้องลองไปดูว่ายังมีเหลือไหม
โดย: ผู้สาวเมืองยศ 21 มีนาคม 2550 11:25:39 น.
พี่เลยต้องแอบมาเยี่ยมกลับมั่ง
เรื่องทางไร้ดอกไม้ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารขวัญเรือนค่ะ
เข้าใจว่า จะเป็นเรื่องในยุคแรกๆของ ว.วินิจฉัยกุล
(ลงพิมพ์ไล่เลี่ยกับแต่ปางก่อน ในนามปากกา แก้วเก้า ด้วยค่ะ)
พี่ชอบเรื่องนี้มากตั้งแต่อ่านในนิตยสาร
โดยเฉพาะชื่อพระเอกและพี่น้อง ..เบียร์ รัม ไวน์ ..ชอบมาก
เคยตั้งใจว่า ถ้ามีลูกจะเอาชื่อแบบนี้มาตั้ง
(แต่ตอนหลัง มาใช้เป็นตระกูลเบเกอรี่มากกว่าตระกูลอัลกอฮอล์)
อืมม ทำไม พี่ถึงไม่เอาเรื่องนี้มาเล่าตอนโดน tag นะเนี่ย 555
โดย: ป้าปูเป้ IP: 58.8.169.249 21 มีนาคม 2550 20:26:40 น.
ทำให้คิดถึงตอนเรียนหนังสือกับอาจารย์ด้วย
โดย: ปอมปอมเกิร์ล IP: 24.7.188.159 22 มีนาคม 2550 15:40:01 น.
โดย: lalabel IP: 124.121.106.170 22 มีนาคม 2550 19:35:13 น.
คราวนี้คงเบี่ยงให้ไม่ขึ้นแล้วล่ะ
โดย: อิอิ IP: 58.8.144.14 22 มีนาคม 2550 19:45:04 น.
ปอมปอมเกิร์ล - เชียร์ ๆ
lalabel - ลองดูค่ะ
อิอิ - ก็เข้าข้างไหน ไม่ลงทั้ง 2 ฝ่ายนั่นแหละค่ะ เพราะดันไปรู้เบื้องหลังของทั้งคู่ ต่อหน้าก็ทำตัวนางเอ๊กนางเอก ลับหลังก็ตัวอิจฉาดี ๆ นี่เอง ยิ่งไอ้ประเภทไปลบตัวตนหนีจากกระทู้ทำบุญตัดเพื่อน มันยิ่งน่าหัวเราะ
โดย: ผู้สาวเมืองยศ 22 มีนาคม 2550 20:32:13 น.
ไม่เคยคิดจะเข้าข้างใคร เพราะตอนนั้นที่ออกไปพูดก็เพราะเห็นว่ามันเกี่ยวกับเว็บที่เข้าประจำ
พอยิ่งออกไปก็ยิ่งเห็นความทุเรศของคนที่ทำตัวเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม
อย่าให้ต้องแฉนะ
โดย: ผู้สาวเมืองยศ 22 มีนาคม 2550 20:47:28 น.
ใครมาร้าย มาหลอกด่า ประชด เราด่ากลับ
ที่สำคัญผู้สาวเมืองยศ จะออกไปทำอะไรต่าง ๆ ก็จะใช้ชื่อนี้ตลอด จะดีไม่ดีก็รับว่าเป็นตัวเอง ไม่เคยเปลี่ยนชื่อ เพราะไม่ใช่นางร้อยชื่อ
โดย: ผู้สาวเมืองยศ 22 มีนาคม 2550 23:00:32 น.
โดย: เมฆชรา 22 มีนาคม 2550 23:40:42 น.
โดย: BoOKend IP: 125.27.1.127 24 มีนาคม 2550 12:01:58 น.
โดย: คนงาม IP: 58.137.0.66 11 กันยายน 2550 11:51:46 น.