bloggang.com mainmenu search
Ta Moke Shwe Gu Gyi Temple
ทริป พม่า...พินอูลวิน - สวนพฤกษศาสตร์กันดอว์จี - มัณฑะเลย์
ทริปนี้เราไปกับเพจ แบกเป้ไปเที่ยว by ลำไยทัวร์

วันที่ 11 - 14 มกราคม 2567 (4 วัน 3 คืน)

เป็นครั้งแรกกับการไปเที่ยวพม่า เป็นครั้งแรกกับสายการบิน Myanmar Airways International

สายการบิน เมียนมาร์ แอร์เวย์ (Myanmar Airways International) หรือ MAI ใช้รหัสสายการบิน คือ 8M เป็นสายการบินแห่งชาติที่เป็นของรัฐบาลเพียงสายการบินเดียวของประเทศพม่า ให้บริการแบบ Full Service ไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ หลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย

คุณตอง - ลำไยทัวร์ นัดกรุ๊ปวันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ชั้น 3 ประตู 5 
ไฟลท์ 8M361 เวลา 12.35 น. โหลดกระเป๋าได้ 30 กิโล



หมอกลาพักร้อนพอดี เลยมากับแม่ด้วย



11.47 น. ขึ้นเครื่องค่ะ





เวลาที่พม่าช้ากว่าไทยครึ่งชั่วโมง บินประมาณ ชั่วโมงกว่า มีของว่างให้ด้วยค่ะ











13.17 น. ถึงสนามบินมัณฑะเลย์แล้วค่ะ





เครื่องบินลำนี้ค่ะ ที่เรานั่งมา



พม่าต้องกรอกใบ ตม. ทั้งขาเข้า ขาออก รวมทั้งระหว่างเมืองด้วยค่ะ / รับกระเป๋า



กรุ๊ปนี้ 15 คน คุณตอง (แอดมินเพจ, ไกด์) ใช้บริการรถบัส นั่งสบาย ที่นั่งเหลือเฟือค่ะ



สถานที่แรกที่พวกเราจะไปเที่ยวกัน Ta Moke Shwe Gu Gyi Temple



ถ่ายจากบนรถค่ะ






Tamote Shinbin Shwegugyi  (ตาม๊อต ชินบิน ชเวกู่จี)
 
1 ใน 9 พระเจดีย์ในศิลปะพุกาม ที่ถูกค้นพบนอกเขตพระราชอาณาจักรพุกาม วิหาร Tamote Shinbin Shwegugyi แห่งนี้ เพิ่งถูกค้นพบเมื่อปี 1993 นี้เอง โดยเมื่อแรกพบมีลักษณะเป็นเพียงเนินดินธรรมดา แต่กลับมีเศษอิฐเศษปูน กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นที่ (คล้าย ๆ กับเขาคลังนอก ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ)
เมื่อกองโบราณคดีของพม่าทำการขุดค้น ทำให้พบว่าวิหารหลังนี้มีความพิเศษตรงที่มีการสร้างซ้อนทับกันถึง 3 ยุค 3 สมัย วิหารชั้นแรกถูกสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 11 ในสมัยพระเจ้าอโนรธาแห่งพุกาม และมีการต่อเติมในส่วนของชั้นที่ 2 เมื่อราวศตวรรษที่ 12 ในสมัยพระเจ้านรปติสิทธูแห่งพุกาม และต่อมาในศตวรรษที่ 14 พระวิหารทั้งหลังก็ถูกสร้างครอบทับด้วยองค์พระเจดีย์ ในสมัยของพระเจ้าอูซะนะแห่งราชวงศ์พินยะ (เป็นหนึ่งราชวงศ์ย่อยที่มีอำนาจทั้งฝั่งพม่าและไทใหญ่)
และด้วยสภาพอากาศอันแห้งแล้งบวกกับการถูกครอบทับด้วยองค์พระเจดีย์ ทำให้ตัวพระวิหารสมัยพุกามเสมือนถูกแช่แข็งเอาไว้ โดยได้รับความเสียหายน้อยมาก ๆ ลวดลายปูนปั้นยังคงคมชัด วิจิตรละลานตาเต็มทั้งพระวิหาร ที่สุดของความ UNSEEN จริง ๆ 🇲🇲🇲🇲



ข้อมูลจากเพจลำไยทัวร์นะคะ หาเพิ่มเติมเคยมีคนเขียนกระทู้ในพันทิปด้วยค่ะ https://pantip.com/topic/37969096







เดินดูไปแบบไม่มีความรู้อะไรเลย ได้แต่พูดกับตัวเอง สวย วิจิตร สร้างได้ไง ทำได้ไง



พระพุทธรูปแกะสลักจากหิน อายุร่วมพันปีทั้งนั้น







พระพุทธรูปปางไสยาสน์





....ผนังภายนอกส่วนฐานของพระสถูป จะเห็นลวดลายปูนปั้นอันเป็นศิลปะของพุกาม ที่ตาม๊อก ชเว กูจี นี่งามเลิศประเสริฐศรี เพราะแป้งดินได้ห่อหุ้มรักษาสภาพไว้แม้เวลาจะผ่านไปหลายศตวรรษก็ตาม

กล่าวกันว่า ถ้าอยากจะชมศิลปะปูนปั้นแบบพุกามแล้ว ไม่ต้องไปที่ทุ่งเจดีย์ที่เมืองพุกาม เพราะแม้จะมีเจดีย์นับพัน ๆ องค์ แต่ไม่มีที่ใดจะสมบูรณ์พร้อมเท่าที่ตาม๊อก ชเวกูจี

































....เมื่อออกจากฐานพระสถูปมาแล้ว จึงได้พบองค์ที่น่าทึ่งที่สุด ซึ่งนับเป็น High Light ของที่นี่

พระพุทธรูปองค์นี้ อาจารย์วินหม่องเล่าว่า เมื่อได้พบนั้นส่วนพระนาภี (ท้อง) แตกอยู่ก่อนจึงรู้ว่ากลวง เมื่อส่องไฟเข้าไปข้างในได้เห็นพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง จึงค่อย ๆ ตัดหินออก พบว่าพระพุทธรูปนั้นเป็นพุทธศิลป์แบบพุกาม ซึ่งมีลักษณะกลวงเช่นกัน จึงเปิดช่องออกดู เห็นพระเศียรพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งองค์นี้เป็นพุทธศิลป์คุปตะ หรือที่พบในพม่าเรียกว่าแบบพยู





















ใบเสมา



อาคารนี้ คล้ายพิพิธภัณฑ์ค่ะ









ภาพสถูปตอนที่เห็นเป็นเนินดิน ช่วงแรกที่เจอ ปี 2537 



ชาวบ้านเป็นหมื่นคนมาช่วยกันขนย้ายซากอิฐ หินออก หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องจักรกลหนักที่อาจจะทำความเสียหายให้โบราณสถาน



















































เราใช้รถคันนี้ตลอดการเดินทางทริปนี้ค่ะ



รถสามล้อ





Create Date :08 เมษายน 2567 Last Update :8 เมษายน 2567 18:52:20 น. Counter : 698 Pageviews. Comments :0