ชูวิทย์ ซัดแนวคิดห้ามรถ7ปีวิ่ง -จับปรับรถเสีย เอื้อตำรวจให้ขูดรีดปชช. เหตุ ใบสั่ง มีแบ่งเปอร์เซ็นต์
จากกรณีที่มีข่าวตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาถึงแนวคิดการจับปรับรถยนต์จอดเสียและเกิดอุบัติเหตุบนถนน รวมไปถึงการห้ามรถอายุเกิน 7ปีเข้าไปวิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น
ในเฟซบุ๊ก @ชูวิทย์ Im No.5 ของนายชูวิทย์ กมลวิสิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห้นถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า
ใบสั่ง แบ่งเปอร์เซ็นต์
นโยบายการ แบ่งรายได้ จากยอดใบสั่ง ที่ออกแก่ผู้ทำผิดกฎจราจร ประเทศไทยประเทศเดียวที่มีแนวปฏิบัติแบบนี้ ยิ่งเขียนมาก ยิ่งมีส่วนแบ่งมาก ถือว่าเป็น รายได้พิเศษ อย่างหนึ่งให้กับตำรวจ จึงมีสารพัดเรื่องที่ตำรวจจะตั้งเป็นข้อหา เพราะตำรวจกลายเป็น เซลล์แมน พึ่งพาเปอร์เซ็นต์จาก ใบสั่ง ที่เขียน
การแบ่งเปอร์เซ็นต์ดังกล่าว ส่งผลให้ตำรวจ ขยัน เกินกว่าหน้าที่ที่ควรจะเป็น หากใช้แนวปฏิบัติดังกล่าว ข้าราชการในทุกหน่วยงาน ต้องชักเปอร์เซ็นต์ มีรายได้เสริมจากการแบ่งเปอร์เซ็นต์ของค่าธรรมเนียมต่างๆที่ราชการเรียกเก็บด้วย
ขณะนี้ มีแนวคิดวางมาตรการ กวดขันวินัยจราจร เรียกค่าปรับจาก รถเก่า อายุเกิน 7-10 ปี ที่เข้ามาขับในกรุงเทพฯ หรือจากรถเสีย และอุบัติเหตุกีดขวางการจราจร โดยคิดเป็นนาทีละ 100 บาท หากเป็นจริง เงินคงเข้าหลวงเป็นจำนวนมาก และคงจะนำมาจัดสรรแบ่งเปอร์เซ็นต์กันอีกตามเคย
แบบนี้มันหากินบนความเดือดร้อนของประชาชนชัดๆ หากเขาทำผิดจริง ควรจะปรับเอาเงินไปเข้ากองกลาง อบรมเสริมสร้างวินัยจราจร หรือจะไปสร้างอาคารพัฒนาที่พักอาศัยให้ครอบครัวตำรวจยังจะดีเสียกว่า เพราะทุกวันนี้ที่เห็น นอกจากแจกใบสั่งแล้ว ยังมี รับตรงกับมือ อีกต่างหาก ประชาชน เสียยิบเสียยับ ส่วนตำรวจก็รับทรัพย์ทั้งทางตรง และทางอ้อม
ในรูปผมรับเรื่องร้องเรียนถึงสถานที่ ไม่ต้องไปหาผมที่สภาฯ ผมไปหาเอง มีทั้งแม่ค้า วินมอเตอร์ไซค์ รุมกันมาฟ้อง โชว์ใบเสร็จค่าปรับ บางคนมีเป็นร้อยใบ เวรกรรมแท้ๆ หาเช้ากินค่ำ ทำงานสุจริต เลี้ยงดูครอบครัวตัวเองไม่พอ ยังต้องไปเลี้ยงดูตำรวจอีก
คนไทยเรานี้ดีหนักหนา ใจกว้างเสียจริงจริ๊งงง
- Comment