ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
บุพเพสันนิวาส

...เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด บุพเพสันนิวาสที่ประสาทความรักภิรมย์ คู่ใครคู่เขารักยังคอยเฝ้าชม คอยภิรมย์เรื่อยไป...

เข็มนาฬิกาค่อยๆ ขยับเคลื่อนไปตามจังหวะลูกตุ้มที่สม่ำเสมอ แต่ยิ่งเข็มทั้งสองเคลื่อนใกล้กันมากขึ้นเท่าไร เวลากลับดูเหมือนจะเดินเชื่องช้าลงในห้วงดวงใจของใครหลายคน ที่กำลังยืนเฝ้ารอชมอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

ผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางมาเพื่อเฝ้าคอยช่วงเวลานี้ ที่ในหนึ่งวันจะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เข็มสั้นและยาวทั้งสองค่อยๆ เคลื่อนเข้าสัมผัสกัน และความแตกต่างที่เคยมีมาก็ผสานรวมกันเข้าเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีสั้น ไม่มียาว ไม่มีช้า ไม่มีเร็ว

เมื่อเสียงระฆังจากหอนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงวันดังไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาต่างพากันจับจ้องจนแทบจะลืมหายใจ ขบวนของเหล่าตุ๊กตาทหารค่อยๆ เคลื่อนออกมาจากจุดต่างๆ โดยรอบหอคอย ทั้งหมดถูกออกแบบมาอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อสร้างความประทับใจให้กับทุกคนไม่ว่าจะยืนดูจากตำแหน่ง หรือทิศทางใด

หลังจากนั้นก็เป็นตุ๊กตาคณะเต้นรำที่แต่งตัวด้วยสีสันฉูดฉาด พร้อมท่วงท่าเต้นรำที่สนุกสนานเร้าใจไปพร้อมกับเสียงดนตรี หลายคนพากันลืมตัวตบมือเข้าจังหวะไปด้วย

แล้วสุดท้ายช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนต่างเฝ้ารอก็มาถึง เมื่อเสียงระฆังครั้งสุดท้ายใกล้จะดังขึ้น ณ ด้านบนสุดของหอนาฬิกา ทุกคนต่างแหงนหน้าขึ้นมองราวกับนัดกันไว้ เมื่อกองทหารตุ๊กตาทั้งหมดต่างพากันยกแตรขึ้นเป่าพร้อมๆ กัน

เจ้าหญิงแห่งหอนาฬิกา ผู้จะปรากฏกายขึ้นเพียงวันละหนึ่งครั้ง ค่อยๆ เยื้องย่างออกมาอย่างสวยสง่า ผู้คนต่างยกกล้องถ่ายรูปขึ้นราวกับนัดกันไว้ สายตาของทุกคนต่างเคลื่อนติดตามไปในขณะที่เธอค่อยๆ ก้าวเดินไปรอบๆ ยอดหอคอย

เสียงระฆังตีครั้งสุดท้ายดังขึ้น และไม่มีใครอยากได้ยินเสียงนั้น ตุ๊กตาทุกตัวค่อยๆ เคลื่อนกลับเข้าไปในหอนาฬิกา บางตัวอาจจะได้ออกมาอวดโฉมอีกครั้งทุกครึ่งชั่วโมง บางตัวอาจเป็นทุกหนึ่งชั่วโมง แต่ไม่ใช่กับเจ้าหญิงแห่งหอนาฬิกา เธอค่อยๆ หายลับไปจากสายตาของทุกคน และจะไม่ปรากฏกายให้ใครได้พบเห็นอีกจนกว่าจะถึงเวลาเที่ยงในวันถัดไป

ผู้คนค่อยๆ กระจัดกระจายหายไปจากลานแห่งนี้ ในอีกครึ่ง หรือหนึ่งชั่วโมง อาจมีคนมารวมตัวกันบ้าง แต่ในวันนี้รับรองได้ว่าจะไม่มีเวลาใดที่ผู้คนจะมากได้เท่านี้อีกแล้ว

ณ มุมหนึ่งของลานแห่งนี้ มีตุ๊กตาทหารตัวหนึ่งยืนนิ่งอยู่ มันเป็นเพียงรูปปั้นประดับเท่านั้น ไม่ได้รับสิทธิที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าตุ๊กตาบนหอนาฬิกา มันไม่มีแม้แต่ข้อต่อในร่างที่จะทำให้สามารถขยับเคลื่อนไหว มันยืนอยู่ในท่าเดิม ตำแหน่งเดิม ตั้งแต่มันจำความได้

ทุกวันมันเฝ้ารอแต่ว่าเมื่อไรเวลาเที่ยงวันจะมาถึง เมื่อไรที่มันจะได้เห็นหน้าเจ้าหญิงแห่งหอนาฬิกาผู้เลอโฉมอีกครั้ง แม้เธอจะอยู่สูงจนเกินเอื้อม แม้เธอจะไม่เคยเหลียวมองลงมายังเบื้องล่างเลยสักครั้ง แต่มันก็ยังคงเฝ้ารออย่างอดทนต่อไป

ครึ่งชั่วโมงถัดมา ขบวนตุ๊กตาคณะเต้นรำปรากฏโฉมออกมาอีกครั้ง แต่มันไม่สนใจ มันไม่ใส่ใจ หัวใจมันเฝ้ารอแต่ว่าเมื่อไรเวลาเที่ยงวันจะมาถึงอีกครั้ง มันจึงไม่เคยพบเห็นว่า ตุ๊กตานักเต้นรำที่ไม่โดดเด่นตัวหนึ่งก็กำลังเฝ้ามองดูมันอยู่ด้วยสายตาแบบเดียวกัน

...ขอบน้ำขวางหน้า ขอบฟ้าขวางกั้น บุพเพยังสรรค์ประสบให้ได้พบสบรักกันได้ ห่างกันแค่ไหนเขาสูงบังกั้นไว้ รักยังได้บูชา...

เธอกำลังว่ายน้ำเล่นก่อนที่จะเห็นเงาของใครคนหนึ่งเคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ เงาร่างของเขาประทับความทรงจำเอาไว้ ในหัวใจดวงน้อยก่อนที่จะค่อยๆ เคลื่อนขึ้นไปบนฝั่ง

เธอรู้ดีว่าในตอนนี้ตัวเองไม่อาจมีชีวิตรอดหากพ้นออกจากผืนน้ำ แต่จากภายในหัวใจก็มีเสียงร่ำร้องบอกอย่างมั่นใจว่าสักวันหนึ่งเธอจะต้องสามารถขึ้นไปบนฝั่ง และได้พบกับเขาอีกครั้ง

เธอสู้ชีวิตไปอย่างอดทน ก่อนที่ขาน้อยๆ จะค่อยๆ งอกออกมา และหางของเธอค่อยๆ หดสั้นลง เวลาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว วันที่ความฝันของเธอจะกลายเป็นจริง

เธอค่อยๆ ฝึกการใช้เท้าทั้งสี่อย่างทุลักทุเล โลกเหนือผิวน้ำนั้นเป็นเหมือนกับโลกใหม่ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน น้ำหนักตัวที่ไม่เคยสัมผัสเมื่อล่องลอยอยู่ในน้ำ สัมผัสของอากาศ อุณหภูมิ และสิ่งรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย

เธอเบิกตากลมโตทั้งสองข้างอย่างลืมตัว เมื่อในวินาทีแรกที่เธอพ้นขึ้นมาจากผิวน้ำ ความฝันของเธอก็กลายเป็นความจริงเสียแล้ว เงาของเขาที่เธอเคยเห็น เงาของเขาที่เธอเฝ้าหลงไหล เขากำลังจับจ้องมองมายังเธอ และสายตาของเขาก็สะกดจนเธอได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆ ไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้แม้แต่นิดเดียว

เขาตรงเข้ามาหา ก่อนค่อยๆ ตระกองกอดเธออย่างแนบแน่น อ้อมกอดของเขาโอบจนดวงใจของเธอแทบจะละลาย เขายังคงจ้องตาเธอ และเธอก็ได้แต่จ้องตาเขา สิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้คือปากกว้างที่ชวนลุ่มหลงที่ค่อยๆ กลืนเธอเข้าไปทั้งเป็น

งูหนุ่มค่อยๆ กลืนกินกบสาวซึ่งเป็นเหยื่อที่ถูกรัดเอาไว้อย่างช้าๆ หลังจากนั้นเขาก็จะใช้เวลาที่เหลือไปกับการนอนพักผ่อน จนกว่าเธอจะถูกย่อยจนหมด

...ความรักศักดิ์ศรี รักไม่มีพรหมแดน รักไม่มีศาสนา แม้นใครบุญญาได้ครองกันมา พรหมลิขิตพาชื่นใจ...

ผู้คนมากมายต่างพากันแตกฮือเมื่อวัวกระทิงตัวหนึ่งจากหลายสิบตัวที่ถูกปล่อยวิ่งตรงมาทางนี้ มันคือหนึ่งในเทศกาลที่บ้าที่สุดงานหนึ่งของโลก ที่ทุกปีจะมีผู้เข้าร่วมงานได้รับบาดเจ็บ แต่ก็จะมีผู้คนกลับมาร่วมงานเพิ่มขึ้นทุกครั้ง

ผมกระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บนราวกั้น พร้อมๆ กับใครอีกหลายคน กระทิงตัวหนึ่งกำลังสนใจกลุ่มของเรา และพยายามพุ่งชนแผงที่กั้นนี้ หญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ผมร้องโวยวายเมื่อมือของเธอเลื่อนหลุดออกจากราว ผมหันไปคว้ามือของเธอเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่เธอจะล่วงลงไป

เจ้ากระทิงหนุ่มยังไม่ยอมตัดใจโดยง่าย มันยังคงพยายามพุ่งชนราวกันอย่างบ้าคลั่ง และผมรู้ดีว่าเราสองคนไม่อาจอยู่อย่างนี้ได้อีกนานนัก คนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ต่างพากันห่วงชีวิตตัวเอง ไม่มีใครหันมาช่วยเหลือเราเลย และในหัวของผมความคิดสองอย่างกำลังตีกันอยู่อย่างดุเดือด

'ปล่อยเธอไป เอาชีวิตรอดไว้ก่อน'

'ช่วยเธอ แกเป็นผู้ชายนะ'

มือของผมล้ามากขึ้นเรื่อยๆ และหากผมไม่ปล่อยมือในตอนนี้ พวกเราก็คงจะตกลงไปด้วยกันทั้งคู่ เธอจ้องมองผมอย่างอ้อนวอน แต่สุดท้ายผมก็ปล่อยมือ เธอร่วงหลนลงไปบนพื้นทันที หลังจากนั้นผมก็กระโดดตามลงไปแล้วใช้ร่างตัวเองบังร่างเธอเอาไว้ ผมไม่เชื่อตัวเองเลยว่าจะทำอะไรแบบนี้ได้

มันพุ่งตรงเข้ามาขวิดผมจนร่างลอยสูงขึ้นจากพื้น วันหยุดที่แสนสนุกของผมจบลงเพียงแค่นั้น ผมมารู้สึกตัวอีกครั้งในโรงพยาบาลที่แทบจะพูดคุยกับใครไม่รู้เรื่อง การเดินทางกลับของผมจะเป็นอย่างไร เงิน ตั๋วเครื่องบิน ข้าวของที่โรงแรม ของฝาก งานที่รออยู่

แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ใบหน้าที่ผมยังคงจำได้ติดตาค่อยๆ ชะโงกผ่านประตูเข้ามา หัวใจของผมเต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ บนใบหน้า ในดวงตาคู่นี้ มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมตัดสินใจกระโดดลงไป ในตอนนั้นมันยังไม่ชัดเจน มันเป็นเพียงอะไรบางอย่างที่ผมยังอธิบายไม่ได้

หัวใจผมเต้นดังตึกตัก แล้วเรื่องอื่นๆ ในชีวิตของผมก็ดูเหมือนจะไม่สำคัญอีกต่อไป

...รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ ความรักเช่นนั้นให้โทษ จะไปโกรธโทษรักไม่ได้ ไม่ใช่บุพเพสันนิวาสแน่ไซร้รักจึงได้แรมลา...

เพลง บุพเพสันนิวาส ประพันธ์โดยครูสุรัส พุกกะเวส ทำนองโดยครูเวส สุนทรจามร ขับร้องต้นฉบับโดยชาญ เย็นแข บันทึกแผ่นเสียง บริษัท กมลสุโกศล ปี พ.ศ. 2507


Create Date : 23 กรกฎาคม 2554
Last Update : 23 กรกฎาคม 2554 2:23:17 น. 1 comments
Counter : 769 Pageviews.

 
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ
เ รื่องกบน้อยกับงูนี่แอบโหดช่วงหลังนะคะ


โดย: fondakelly วันที่: 23 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:43:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.