<<
ตุลาคม 2566
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 ตุลาคม 2566
 

จีบอยู่ รู้ยัง - บทที่ 10 หอมหวาน

ข้าวตูคุยไปด้วย กินข้าวไปด้วย อาหารปริมาณเท่าเดิม ที่ลูกสาวกินเหลือมา 2-3 วันแล้ว มื้อนี้ลูกแม่กวาดเกลี้ยงทุกจาน ดูเถอะ นี่ขนาดหนุ่มยังพูดได้ไม่ครบถ้วน  เท่าที่เขาตั้งใจมาเลย

"อิ่มมั้ยลูก เอาอีกมั้ย"

"แม่มีกับข้าวอีกเหรอคะ"

"ไม่มีแล้ว มีแต่ขนม วันนี้มีคนเอามาให้ไง"

"อ๋อ วาฟเฟิลของเชน จะกินดีมั้ยคะ ร้อยวันพันปีไม่เคยให้ เชนชวนข้าวตูไปดูหนังด้วย เห็นว่าได้ตั๋วฟรีมา 2 ใบ"

"ตั๋วแค่ 2 ใบ ก็ต้องไปดูกัน 2 คนสิ เชนอยากจีบลูกรึเปล่า"

"ก็...มั้งคะ พูดกับช้าวตูแปลกๆ หลายทีแล้ว แต่ข้าวตูไม่อยากให้เชนจีบ อยากให้เชนเป็นเพื่อน เสียดายจัง ข้าวตูไม่ชอบวาฟเฟิลรสนี้"

"แต่ถ้าเป็นทาร์ตรสนี้ ของโปรดเลย ใช่มั้ย" แม่วางจานใส่ทาร์ตลงบนโต๊ะ  ก็จานเดียวกับที่โดนเมินเมื่อบ่าย แถมเจ้าตัวยังไปรับของจากคนอื่นมาอีก ทำเอาหนุ่มหน้าเสีย ลากลับบ้านด้วยอาการเซ็งสุดๆ

"ปอร์เช่บอกว่าเขาทำเอง แม่ว่าจริงมั้ยคะ" ข้าวตูมองขนมด้วยสายตาสงสัย

"ก็น่าจะจริงนะ ทุกทีที่สั่งมา แม่ว่า ขนมมันหน้าตาดีกว่านี้นะ" เหลือบมองลูกสาวก็เห็นยังทำหน้ายุ่ง

"แล้ว...ข้าวตูคุยอะไรกับเขา ถึงได้หน้าเหี่ยวกลับไปแบบนั้น"

"คุยอะไรเหรอคะ ก็..." ข้าวตูหยุดคิด มองแม่ แล้วก็หันไปทางอื่น "ก็ที่แม่ได้ยิน" ดูเถอะ เมื่อกี๊ยังพูดอยู่จ๋อยๆ อยู่ๆ ไม่อยากตอบซะอย่างนั้น

"ได้ยินไม่ถนัดหรอก ได้ยินแต่เสียงลูกดุปอร์เช่ ดุเอา ดุเอาน่ะ"

"ก็เขาว่าข้าวตูหน้ากลมเหมือนพระจันทร์ แล้วยังมาบอกว่า เขาหอมข้าวตูเพราะเผลอ" สาวน้อยทำเสียงสูง สีหน้ามีแววอย่างอื่นแทรกเข้ามาแทนแววยุ่งยาก

"แล้วไง ถ้าเขาบอกว่า ทำเพราะชอบ จะดีกว่านี้เหรอ" แม่ถามไปยิ้มไป เพราะเห็นสีหน้าลูกสาวเปลี่ยนไปอีก ปอร์เช่เห็นแก้มเป็นสีชมพูแบบนี้หรือเปล่า ถึงได้เผลอ

"แม่!!!!" ข้าวตูใช้เสียงทั้งยาวทั้งสูง  แม่อารมณ์ดีแปลกๆ 2-3วันก่อน ยังทำหน้าเครียดเรื่องข้าวตูอยู่เลย

"แม่คุยอะไรกับเขาก่อนขึ้นไปตามข้าวตูใช่มั้ย บอกมาเลย"

"อือ เขาบอกว่า เขาชอบข้าวตู แล้วที่เพียรมาเนี่ย เพราะเขาอยากขอคบกับข้าวตู" ข้าวตูหน้าร้อน ท้องไส้ปั่นป่วน พูดอะไรไม่ออก

"แม่ก็ไม่ไว้ใจหรอกนะ ก็เลยบอกเขาตรงๆ ว่า แม่ไม่อยากให้เขากับข้าวตู มีอะไรกันจนกว่าทั้ง 2 คนจะรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ เขาก็รับปากว่าเขาจะพยายาม" ลูกสาวหน้าแดงกว่าเดิมอีก ถามเสียงอุบอิบเบาแทบไม่ได้ยิน

"แม่เชื่อเขาเหรอ"

"ยังเชื่อเต็มร้อยไม่ได้ แต่ก็น่าจะให้โอกาสได้ อย่างน้อยเขาก็ไม่พูดว่า ทำได้แต่ๆ ถ้าพูดแบบนั้นล่ะ โกหกชัวร์" สาวน้อยยังหน้าแดงไม่หาย จ้องขนมตรงหน้าจนแทบจะทะลุ แม่เลื่อนจานมาใกล้ตัว หยิบทาร์ตมาหักเป็นชิ้นเล็กส่งเข้าปาก

"อืม ก็อร่อยดีนะ ถึงหน้าตาจะแย่ไปหน่อย ว่าไง จะกินอันไหนก่อนดี ที่เหลือจะได้เอาไปเก็บ" ข้าวตูมองแม่ หยิบทาร์ตทั้งชิ้นมาถือไว้แล้วเล็มกินไปทีละหน่อย ไม่ชายตาแลวาฟเฟิลเลยสักนิด

"ถ้าเขามาขอเอง ลูกจะตอบว่าไง"

"เขาขอกับแม่ ไม่ได้พูดกับข้าวตูนี่ ไม่ตอบหรอกค่ะ เดี๋ยวข้าวตูเอาไปกินต่อข้างบนนะคะ ไปล้างจานก่อน" พูดจบก็ลุกหนีไปเลย แม่ได้แต่ขำ คนหนึ่งไม่พูด คนหนึ่งไม่ตอบ เมื่อไหร่จะรู้เรื่องกัน แต่ก็ดีเหมือนกัน แม่ก็ไม่ได้อยากให้ลูกแม่รีบมีแฟน

ข้าวตูกินขนมหมดชิ้นแล้ว ป้าอรณีเคยบอกว่า ปอร์เช่ไม่เคยมาหัดทำขนมกับป้าอรณีเลย เคยแต่มาช่วย แต่ก็ไม่ได้บ่อย ทำไมเขาต้องพยายามทำขนมเองเอามาให้ข้าวตู อะไรที่ปอร์เช่อ้ำอึ้ง คืออะไรที่แม่บอกหรือเปล่า อาทิตย์นี้มีหนังเรื่องไหนน่าดูบ้าง ไม่ต้องรอเรื่องนั้นก็ได้ ในแอพมีโปรตั๋วคู่แถมป๊อปคอร์นด้วย

ปอร์เช่ทบทวนไปตลอดทางว่าจะพูดอะไรกับข้าวตู เรื่องมันยากตรงที่ เขายังตกลงกับตัวเองไม่ได้เลยว่า จะพูดประโยคไหน เธอเป็นแฟนผมนะ หรือ เธอคบกับผมได้มั้ย หรือ ผมอยากขอเป็นแฟนเธอ หรือ ผมอยากคบกับเธอ หรือ ให้ผมเป็นแฟนเธอได้มั้ย หรือ เธอช่วยมาคบกับผมนะ หรือ เรามาคบกันนะ โอ๊ยยยยยยยยยย

พอเดินมาถึงหน้าบ้านข้าวตู เขาก็เลยยังไม่กดออด ยืนหันหลังให้ประตู แล้วก็ลองพูดไปทีละประโยค ประโยคไหนดี

ข้าวตูเตรียมตัวเสร็จแล้ว แม่บอกให้ไปเปิดประตูรั้วเลย แม่จะได้เอารถออก ปอร์เช่ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น เข้าไปใกล้ถึงได้ยินเสียงพึมพำอะไรฟังไม่ถนัด เขาต้องกำลังจดจ่อกันอะไรที่ทำอยู่มาก ถึงได้ตกใจขนาดนั้น ตอนข้าวตูลากประตูรั้วเปิด

"เชี่ยยย เฮ้ยยย เอ่อ...ขอโทษ" ในมือเขามีกล่องใส่ขนมมาอีกแล้ว

"หลีกหน่อย แม่เราจะเอารถออก" ปอร์เช่ถอยไปอยู่หน้ารั้ว ยังถือขนมไว้อยู่ ทำไมไม่ให้เรา ถือมากินเองต้องผูกโบด้วยเหรอ

"จะไปไหนเหรอ" ปอร์เช่รู้สึกว่าตัวเองตะกุกตะกักไปหมด ตั้งแต่เห็นข้าวตูเต็มๆ ชุดกระโปรงติดกันสีชมพูอ่อนยาวกรอมเท้า ผมรวบตึงเป็นหางม้าอยู่ด้านหลัง ด้านหน้าติดกิ๊บสีเข้ากับเสื้อ ดูเหมือนข้าวตูจะแต่งหน้าอ่อนๆ ด้วย สวยจัง

"มองอะไร เราจะไปงานแต่งงานญาติ" แม่กำลังถอยรถออกจากบ้าน ตาอ้ำอึ้ง จะอ้ำอึ้งไปถึงไหน

"นึกว่าจะไปกับเชน" พูดไปแล้วก็อยากเขกหัวตัวเอง จะพูดทำไมว้า

"บ้า ไปกับเชน ไม่ต้องแต่งตัวขนาดนี้หรอก แต่ ไม่ได้ไปกับเชน  ก็เจอเชนอยู่ดี เชนเป็นญาติเจ้าบ่าว" ข้าวตูเหลือบดูแล้วก็อยากจะขำ ขนมก็ไม่ให้ พูดก็ไม่พูด แค่ได้ยินชื่อเชนก็ทำหน้าจ๋อย จะให้ข้าวตูพูดก่อนหรือไง

"เราไปละนะ กว่าจะกลับคงเย็น นายเอาขนมมาอีกทีตอนเย็นก็ได้ แต่ว่า ถ้ามาแล้วไม่กล้าพูด ไม่ต้องมาก็ได้นะ" พูดจบ ข้าวตูก็ขึ้นรถ แม่ขับออกไปช้าๆ  ข้าวตูเลยได้เห็นปอร์เช่เตะหญ้าแถวนั้นเหมือนโมโห

ก็อยากไม่พูดเอง จะมาโกรธใคร กลับไปโกรธตัวเองเลย

เสร็จจากงานแต่งงาน แม่ชวนข้าวตูไปเดินเล่นในห้าง หาข้าวเย็นกิน แล้วค่อยกลับบ้าน กำลังจะบอกแม่ว่า อยากกินเนื้อย่าง ก็นึกได้ว่าพูดอะไรไปตอนก่อนออกจากบ้าน เปลี่ยนใจบอกแม่ว่า กลับบ้านเลยดีกว่า เดี๋ยวปอร์เช่มา

"มาทำไม เมื่อเช้าคุยอะไรกัน นัดกันไว้เหรอลูก" แม่ถามยิ้มๆ ดูเหมือนลูกสาวผู้กล้าหาญของแม่ จะกลับมาแล้ว

"เปล่าค่ะ แต่เขาไม่เอาขนมให้ข้าวตู ข้าวตูก็เลยบอกให้เขามาใหม่"

"อืม...แม่ว่าจะพาไปกินเนื้อย่างเกาหลีเลยนะ ปอร์เช่มาไม่เจอใคร เดี๋ยวเขาก็มาใหม่เองแหละ"

"แม่ไม่บอกข้าวตูก่อนนี่ ข้าวตูจะได้ไม่บอกเขา นี่ข้าวตูพูดไปแล้ว"

"ไลน์ไปบอกปอร์เช่ก็ได้นี่ว่าเย็นนี้ไม่อยู่บ้าน" หันไปดูก็เจอลูกสาวเริ่มทำหน้าง้ำ

"อ่ะ อ่ะ ตามใจ กลับก็กลับ ยังไม่ทันเป็นแฟนกันเลย เห็นปอร์เช่สำคัญกว่าแม่ซะแล้ว" แม่พูดแล้วก็หัวเราะ สวนกับเสียงเรียกแม่แหลมปรี๊ด เลือดสาวฉีดจนแก้มแดงทะลุแป้งเลย

แต่เย็นนั้น ปอร์เช่ไม่มา ข้าวตูรอจนเริ่มหงุดหงิด ส่งไลน์ไปทัก็เงียบกริบ ไม่อ่านเลยด้วยซ้ำ เมื่อเช้าก็ไม่เห็นพูดอะไร ไม่เห็นพูดเลยว่าจะไม่มา ข้าวตูนั่งมองข้าวหน้าเป็ดที่ปั่นจักรยานไปซื้อมาเองจากปากซอย อุตส่าห์ยอมอดเนื้อย่าง คนบ้า แม่ยังมาแซวว่า งอนทำไม ไม่ได้นัดกัน ไปคอยเขาทำไม

ข้าวตูก็ไม่รู้ว่า คอยทำไม งอนทำไม แต่ก็คอยไปแล้ว งอนไปแล้ว พอปอร์เช่โทร.มา ข้าวตูก็อยู่ในโหมดพร้อมวีนไปแล้ว

ปอร์เช่ยกข้อมือดูนาฬิกา เกือบ 4 ทุ่มแล้ว จะโดนแม่บ่นอีกมั้ย บอกว่าจะกลับเย็นๆ เพราะคิดว่าแค่มาซ้อม แต่ครูบอกให้อยู่ช่วยกันเลือกเพลงที่จะเอาไปลงแข่งให้เสร็จวันนี้ เพราะครูมีธุระด่วน จะไม่อยู่ทั้งอาทิตย์ ล้วงมือถือออกจากเป้มาจะกดโทร.หาแม่ ก็เห็นไลน์ข้าวตูโชว์อยู่หน้าจอ กดเข้าไปดูก็แทบจะเอาหัวโขกกระจก ข้อความแจ้งเตือน ไม่ได้รับสาย ขึ้นซ้อนๆ เต็มความยาวหน้าจอ ไถขึ้นไปก็ยังเจออีก นับครบทุกอัน คือ 30!!! ข้าวตูโทร.มา 30 ครั้ง!!!!! ครั้งแรกตั้งแต่ 5 โมงกว่า ครั้งสุดท้ายคือชั่วโมงที่แล้ว ทำไมโทร.มาเยอะขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เปลี่ยนใจไลน์บอกแม่ว่ากำลังกลับ แล้วรีบโทร.หาข้าวตู

"ขอโทษนะ ผมเพิ่งเห็น มีอะไรรึเปล่า เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย"

"เป็น เป็นโกรธ โกรธมากด้วย ทำไมไม่เอาขนมมาให้ แค่เราบอกว่าไม่พูดก็ไม่ต้องมา นายก็ไม่มาเลยเหรอ ทำไมยอมแพ้ง่ายขนาดนี้" ข้าวตูพูดยาวเหยียด เสียงฉุนเฉียวจนเขาเผลอหดคอ

"ไม่ใช่นะ ผมมีซ้อม แล้วครูให้อยู่ต่อ" เขาตอบแล้วก็เริ่มงง ข้าวตูโกรธอะไร ทีแรกก็เหมือนจะโมโหที่โทร.มาแล้วเขาไม่รับ แต่ ถามว่าทำไมไม่มา ข้าวตูคอยเหรอ

"จะไม่มาทำไมไม่บอก" เสียงข้าวตูยังฟังดูฉุนเฉียวไม่ลดระดับ

"ก็...เราไม่ได้นัดกัน เธอรอผมเหรอ" เขารู้สึกว่าตัวเองเสียงเบาจนไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายได้ยิน ตรงข้ามกับเสียงหัวใจ ทำไมเต้นแรงจัง

"ก็ใช่น่ะสิ อุตส่าห์ไม่ไปกินเนื้อย่าง แล้วนายก็ไม่มา โทร.ไปก็ไม่รับ" ข้าวตูยังส่งเสียงเกรี้ยวๆ แต่ทำไมเขายิ้มก็ไม่รู้

"ขอโทษ ผมซ้อมเต้น เก็บโทรศัพท์ไว้ในล็อกเกอร์ ผมไม่รู้ว่าเธอโทร.มา พอเห็นก็รีบโทร.มาเลย"

"ดึกป่านนี้นะ เพิ่งเห็น" คำพูดยังดุ แต่เสียงเบาลงแล้ว

"ผมเพิ่งแยกกับครู กำลังนั่งรถกลับบ้าน คือ... เธอ รอ ผม ไป พูด เหรอ"

"ไม่รอจะโมโหมั้ยล่ะ เอ่อ...ไม่ใช่ คือ....ใช่ก็ได้ แต่ตอนนี้ ไม่รอแล้ว เราจะนอนแล้ว แค่นี้นะ" ฟังเหมือนข้าวตูจะไม่โกรธแล้ว แต่จู่ๆ มาตัดบท จะรอจนโกรธอีกมั้ย

"เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งวาง พรุ่งนี้ผมมีนัดซ้อม 10 โมง ผมไปหาแต่เช้าเลยได้มั้ย เธอตื่นกี่โมง" ปอร์เช่เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังกลั้นหายใจ

"ทำไมต้องมา มาแล้วเดี๋ยวก็ไม่พูดอีก พูดตอนนี้เลยก็ได้" ปอร์เช่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นไข้ หน้าร้อนจี๋ แต่มือเย็นเฉียบ

"เอ่อ คือ ผม อยาก อยากรู้ว่า ว่า ทาร์ตที่ผมทำอร่อยมั้ย" โอ๊ยยยยย เขาไม่อยากขอข้าวตูเป็นแฟนตอนอยู่ในรถแท็กซี่นะ

"โฮ่ยยยยยย ไม่ต้องรู้หรอกว่าเราตื่นกี่โมง แค่นี้นะ" พูดจบ ข้าวตูก็กดตัดสาย ไม่รอฟังอะไรแล้ว ก็ได้ ก็ได้ ข้าวตูเป็นคนเริ่ม ข้าวตูเป็นคนจบเองก็ได้ ข้าวตูอยากดูหนังแล้ว

ถึงบ้านแล้ว เขายังทะเลาะกับตัวเองไม่เสร็จเลยว่า จะเอาไงดี แล้วแม่ยังบอกว่า น้องเอาทาร์ตไปกินหมดแล้ว เพราะเขาวางไว้ไม่บอกใคร ข้าวตูไม่ยอมบอกเวลา ถ้าไปเช้ามากๆ จะโดนว่าหรือเปล่า แล้วจะพูดอะไร ข้าวตูรอฟังอะไร อยากฟังอะไร จะขอข้าวตูเป็นแฟน ใช่ที่ข้าวตูอยากฟังหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ล่ะ โอ๊ยยยยยยย อยากจะบ้า

ข้าวตูขอไปบ้านปอร์เช่ตั้งแต่ 7 โมงเช้า บอกแม่ว่า ขอไปทำให้เคลียร์ ข้าวตูไม่อยากหงุดหงิด แม่ถามว่า แน่ใจแล้วนะ แม่ดูยิ้มๆ แต่พอข้าวตูตอบว่า แน่ใจ แม่กลับเม้มปาก แล้วถามว่า ที่ปอร์เช่รับปากว่าจะพยายาม ข้าวตูจะพยายามด้วยมั้ย ข้าวตูตอบแม่ว่า ข้าวตูรู้ ข้าวตูเป็นของรักของแม่ ข้าวตูต้องพยายามแน่ๆ อยู่แล้ว แม่ถึงเต็มใจให้ออกมา

วันแรกที่ไปบ้านปอร์เช่ ข้าวตูไปด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่รู้จะไปเจออะไร แต่วันนี้ข้าวตูไปด้วยความมั่นใจ ข้าวตูจะไปเจอเขา และจะต้องได้คำตอบที่ต้องการด้วย

 

"สวัสดีค่ะ ป้าอรณี หนูมาหาปอร์เช่" ข้าวตูยกมือไหว้ป้าอรณีที่ทำหน้างงๆ

"หายโกรธปอร์เช่แล้วเหรอจ๊ะ ป้าเห็นเมื่อวานปอร์เช่เอาขนมกลับมา แล้วก็รีบออกไปซ้อม ป้ายังนึกว่าข้าวตูไม่ยอมรับ"

"แม่ มีอะไรให้เช่กินเรียกพลังมั้ย เมื่อคืนเช่นอนไม่หลับ วันนี้ต้องซ้อมทั้งวัน เดี๋ยวไม่มีแรง" เจ้าตัวดีพูดเสียงดังลั่นบ้านแข่งกับเสียงวิ่งลงบันได

"เป็นอะไร คิดถึงใคร" แม่ทำสัญญาณให้ข้าวตูนั่งรอที่โซฟา แล้วเดินไปหาลูก

"ข้าวตูโกรธเช่อีกแล้วแม่ เมื่อวานเขารีบไปงานแต่งงาน เช่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ข้าวตูบอกให้ไปตอนเย็น แล้วก็ไปเลย เช่ไม่ทันได้บอกว่า เช่ต้องไปซ้อม เช่ไม่คิดว่าเขาคอย แต่เขาคอย แม่ อันนี้เช่กินได้มั้ย"

"จะกินของน่ะ แปรงฟันรึยัง ข้าวตูกินอะไรมารึยัง ป้าทำให้กินมั้ย" ประโยคหลังเดินกลับมาถาม ก็เห็นข้าวตูพยายามกลั้นหัวเราะอยู่ ได้ยินเสียงร้องว่า ฉิบหาย อยู่ข้างหลัง ตามด้วยเสียงวิ่งขึ้นบันไดโครมๆ

ผ่านไปแค่ 10 นาที ปอร์เช่ก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย มานั่งอยู่ข้างข้าวตูตรงเก้าอี้ม้ายาวหน้าบ้าน ตรงที่นั่งคุยกันวันแรกที่เข้าวตูเอาของมาให้

"รีบเปลี่ยนเสื้อทำไม  ชุดนอนลายหมี น่ารักดีออก" ข้าวตูพูดไปขำไป ยิ่งเห็นอีกฝ่ายแก้มเริ่มแดง ก็ยิ่งขำ

"เมื่อวานเราเห็นนายพึมพำอยู่หน้าบ้านตั้งนาน จะพูดอะไรกับเรารึเปล่า" ข้าวตูถามแล้วก็มองตาตรงๆ ไม่กลัวแล้วว่าจะได้คำตอบที่ไม่ใช่ ตอนปอร์เช่หนีขึ้นไปอาบน้ำ ป้าอรณีเล่าว่าปอร์เช่ตั้งใจหัดทำขนมให้ข้าวตูจริงๆ เพราะ  เขาชอบข้าวตูมาก แรกๆ เหมือนปากแข็ง แต่ตอนนี้ น่าจะอายมากกว่า

"อ๋อ....เอ่อ...คือ ผมชอบ...ชอบขวดน้ำ ชอบรูปวาด ชอบที่เธอเชียร์ผม ชอบกลอน ชอบตอนผมเห็นเธอ คือ..แบบ..." ปอร์เช่บีบมือตัวเอง บิดไปบิดมาจนแดงหมดแล้ว ข้าวตูนั่งเอียงคอมองแล้วก็อยากจะหัวเราะ ไม่กล้าพูด ข้าวตูพูดเองก็ได้

"พอเหอะ ให้เราถามดีกว่า นายแค่ พยักหน้ากับส่ายหน้าก็พอ โอเคนะ" ข้าวตูมองแต่อีกฝ่ายยังก้มหน้า เห็นแล้วนึกอยากจะดุเหมือนที่เคยโดนดุ เป็นผู้ชายยังไง

"แม่เราบอกว่า นายไปขอกับแม่ ขอคบเราเป็นแฟน จริงป่ะ" ข้าวตูแอบกรี๊ดอยู่ในใจ เพราะปอร์เช่พยักหน้า

"แม่บอกว่า นายรับปากเรื่องจะพยายามไม่มีอะไรกับเรา นายตั้งใจจะทำจริงๆ มั้ย" ปอร์เช่พยักหน้าอีก ข้าวตูชูกำปั้น ร้องออกมาดังๆ ว่า Yes!!!

"โอเค ดีล งั้นเรามาเป็นแฟนกัน" ข้าวตูยื่นมือออกไปรอ ปอร์เช่เงยหน้า หันมามอง อ้าปากค้าง แล้วก็ "ห๊ะ อะไรนะ"

"โอ่ยยยยยย จะอายไปถึงไหนเนี่ย นายได้ยินแล้วนี่ ไปกินข้าวกัน เมื่อคืนนายบอกเราว่าต้องไปซ้อมไม่ใช่เหรอ ไม่รีบไปกินข้าว เดี๋ยวก็ไปสายหรอก

ปอร์เช่แทบไม่รู้เลยว่า ตัวเองกินอะไรเข้าไปบ้าง ทั้งๆ ที่ก้มหน้ากัมตาอยู่กับจาน ได้ยินแต่เสียงข้าวตู ปอร์เช่ไม่กินมะเขือเหรอคะป้า โง่แล้ว กินไปเลย ปอร์เช่กินนมทุกวันเลยเหรอคะ ขนมปังของนายต้องทาอะไร ฮือ ลืมบอก หนูไม่ชอบไข่ดาวไม่สุก ไม่เป็นไรค่ะ จะกลั้นใจกินให้หมดให้ได้ หนูชอบกินแพนเค้กค่ะ ปิดเทอมนี้ แม่จะให้หัดทอดเอง นายกินรึเปล่า ถ้าเราทอดเป็นแล้วจะเอามาให้นะ ราดน้ำผึ้งมั้ย หรือให้เราเอานิ้วจิ้มก็พอ

เป็นผู้หญิงยังไง มาขอผู้ชายเป็นแฟน แต่วยังกินไปคุยไป ไม่รู้จักเขินบ้างเลยหรือไง

แม่นั่งมองลูกชายถือจานเดินต้อยๆ ตามสาวเข้าไปในครัว นั่งนึกขำๆ อยู่ว่า ถ้าแม่เรียกล้างจาน ก็มีอันต้องไปดูปฏิทินก่อนว่า วันนี้เวรใคร แต่นี่ พอสาวอาสาล้างจาน ไม่ต้องเรียกสักทำ ลุกไปทำ  ไม่ต้องบอก

"นายเลิกซ้อมตอนไหน อย่าลืมโทร.หาเราด้วยนะ นี่ พอแล้วมั้ง วนจนจานจะสึกแล้ว"

"เอ่อ นี่เราเป็นแฟนกันแล้วจริงๆ เหรอ"

"จริงสิ แต่ถ้านายไม่อยากเป็น เราเลิกกันก็ได้นะ" ข้าวตูหยุดมือที่กำลังใช้ฟองน้ำถูจาน หันไปมองคนข้างๆ

"ไม่ใช่ ไม่ใช่ ผมแค่คิดว่า...ส่งจานมาสิ ถูนานขนาดนั้นจานก็สึกเหมือนกันแหละ" ปอร์เช่หันไปมองข้าวตู แล้วก็ก้มลงมองจาน

"ผมคิดมาตลอดเลยว่า อยากเรียกแฟนว่า บี๋ เบบี๋ของผม ผมเรียกเธอว่า บี๋ได้มั้ย"

"ได้สิ" ข้าวตูตอบแล้วก็ยิ้ม บี๋เหรอ คิดมาตลอดด้วย น่ารักเป็นบ้า

"แล้ว...เอ่อ...บี๋อยากเรียกผมว่าอะไรบ้างมั้ย" ข้าวตูหันไปมอง เห็นท่าทางตั้งใจรอฟัง ถ้าบอกไม่มี จะผิดหวังมั้ยนะ

"อืม เรียกว่า ทาร์ต ได้มั้ย" ปอร์เช่ทำเสียงอยู่ในคอ เหมือนสงสัย ข้าวตูส่งจานใบสุดท้ายให้ แล้วลงมือขัดอ่างล้างจาน

"ก็เรารู้จักกันเพราะทาร์ต แล้วนายก็ทำทาร์ตไปขอคบเรา" ปอร์เช่ยิ้มขำๆ พูดเบาๆ ว่า "ตลกจัง"

"ตกลงตามนี้นะ ต่อไปนี้ บี๋จะเรียกนายว่า ทาร์ต หยุดนะ อย่าทำสายตาแบบนั้นใส่บี๋ ถ้าทาร์ตหอมบี๋อีก บี๋ไม่หนีแล้วนะ บี๋จะต่อย"

ปอร์เช่มองผู้หญิงตัวบางๆ หน้ากลมๆ สูงเลยไหล่เขามานิดเดียว กำลังชูกำปั้นขู่ ขำจนต้องหัวเราะออกมาดังๆ จนข้าวตูเริ่มทำตาขุ่น

"ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ บี๋จะกลับเลยมั้ย เดี๋ยวผมต้องไปแล้ว ผมจะเดินไปส่ง"

"ไม่ต้องหรอก กลางวัน กลับเองได้ อย่าลืมบอกทุกคนนะว่า ทาร์ตมีแฟนแล้ว"

"บี๋ก็จะบอกทุกคนเหมือนกันเหรอ"

"บอกสิ บอกทุกคนเลย บอกเชนด้วย ดีมั้ย" ข้าวตูยิ้มใส่ตาอย่างนั้น น่ารักจนอยากขยับเข้าไปแตะแก้ม เขี่ยผม

"จะกลับก็กลับเถอะ อย่ามองผมแบบนี้ เดี๋ยวผมไม่ไหว"

ปอร์เช่กดวางสาย แล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างมีความสุข ถ้ารู้ว่าเป็นแฟนกันแล้วจะสบาย ไม่ต้องกั๊ก ไม่ต้องอ้ำอึ้ง เขาคงขอข้าวตูเป็นแฟนไปตั้งนานแล้ว แต่จะไปรู้ได้ยังไง ก็ไม่เคยมีแฟน

ข้าวตูส่งลิงก์จองตั๋วหนังเรื่องที่ตัวเองอยากดูมาให้ บอกให้เขาเลือกวัน เลือกรอบ เดทแรกของเรา ต้องรออีกตั้งหลายวัน เพราะเขาต้องไปซ้อมทุกวัน และข้าวตูไม่ให้เลือกรอบหลัง 6 โมง

ไม่เป็นไรหรอก ข้าวตูไม่ไปไหนด้วยหลังพระอาทิตย์ตก แต่ถ้าอยู่บ้าน ก็ไปหา ไปคุยด้วยได้ แม่ข้าวตูอนุญาตแล้ว

คืนนั้น ปอร์เช่ฝันว่า บรรจงจูบดวงจันทร์อยากดูดดื่ม  ดวงจันทร์ก็จูบตอบเขาอย่างอ่อนหวาน  แล้วหลังจากนั้น  ดวงจันทร์จำนวนนับไม่ถ้วนก็หล่นใส่หัวเขา  จนหัวปูดไปหมด




Create Date : 01 ตุลาคม 2566
Last Update : 1 ตุลาคม 2566 15:17:13 น. 1 comments
Counter : 381 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณหอมกร

 
 
 
 
สนุกมากน่ารักมากค่ะตอนนี้

 
 

โดย: หอมกร วันที่: 4 ตุลาคม 2566 เวลา:8:12:42 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com