<<
กรกฏาคม 2566
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 กรกฏาคม 2566
 

จีบอยู่ รู้ยัง - ตอนที่ 7 - ก่อนเวลา

ปอร์เช่แตะนิ้วลงที่รูปดอกไม้บนกระดาษแผ่นเล็ก ที่ข้าวตูเอามาหย่อนไว้ที่ตู้จดหมายหน้าบ้าน อีกมุมของกระดาษ มีรูปผีเสื้อหลายตัวกำลังบิน ลายมือกลมๆ เขียนมาตัวโตว่า ตั้งใจอ่านหนังสือ ทำเกรดดีๆ ให้แม่ รอก่อนนะ ปอร์เช่หยิบปากกาเมจิกสีแดง กาทับตัวเลขบนปฏิทิน ตั้งแต่วันนั้น 7 วันแล้ว สิวหายหรือยังนะ นอกจากกระดาษแผ่นนี้ก็ไม่มีอะไรเลย ดอกไม้ดอกเดียว ทำไมต้องมีผีเสื้อตั้งหลายตัว หายไปอ่านหนังสือสอบ หรือหายไปกับใคร ไม่หรอก ตัวกลม หน้ากลม แล้วยังเป็นสิว ใครจะอยากเป็นแฟนด้วย

เหนื่อยจัง

เชนบอกว่าโรงเรียนนายก็สอบ

แล้วก็มีข้อความเสียง ปอร์เช่สู้สู้

ปอร์เช่ดูนาฬิกา อ่านหนังสือดึกเหมือนกันเลย ปอร์เช่กดฟังเสียงซ้ำหลายรอบ อยากยิ้มแต่พอเห็นชื่อเชนก็หงุดหงิด ทำไมต้องถามเชน สนิทขนาดนั้นก็ไปจีบเชน.... ไม่ได้ ผีเสื้อต้องมีตัวเดียว

ปอร์เช่หยิบกล่องข้างหมอนมาเปิด หยิบการ์ด รูปวาด กระดาษแผ่นเล็ก กระดาษรูปหัวใจ สอดคั่นไว้ในหนังสือเรียนเล่มละ 1 เอาหนังสือเรียนมาตั้งกองรวมกัน ถ่ายรูปส่งกลับไปหาข้าวตู ยายซื่อบื้อ จะดูออกมั้ยนะ บอกให้รอ จะให้รออะไร ทำไมต้องรอ

พรุ่งนี้สอบวันสุดท้ายแล้ว ยังเหลืออีก 2 วิชา ข้าวตูเปิดกระเป๋าหยิบดินสอสีเหลืองกับสีแดง ที่ถูกพันไว้ด้วยกันด้วยริบบิ้นผ้าสีขาว มันถูกเอามาหย่อนไว้ในตู้จดหมายหน้าบ้าน ไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีชื่อผู้รับ มีแต่รูปดินสอเหมือนแบบนี้ ส่งมาพร้อมกับสติ๊กเกอร์คำว่า สู้ เห็นแล้วข้าวตูแทบจะกรี๊ด ดินสอใหม่ ยังไม่ได้เหลา แต่ข้าวตูก็เอาติดไปวางไว้บนโต๊ะตอนทำข้อสอบ กำลังใจจากปอร์เช่ คะแนนดีๆ จะทำให้แม่สบายใจ ถึงข้าวตูจะเถลไถลไปรักอย่างอื่นบ้าง ข้าวตูก็ยังเป็นเด็กดีของแม่อยู่

ข้าวตูอ่านหนังสือเสร็จแล้ว เก็บกำลังใจใส่กระเป๋า เช็คของที่ต้องใช้สอบอีกรอบ ปิดกระเป๋านักเรียน จันทร์เต็มดวงลอยต่ำอยู่ตรงหน้าต่าง ปอร์เช่น่าจะชอบพระจันทร์ตอนกลมๆ ไม่งั้นคงไม่มีสติ๊กเกอร์รูปดวงจันทร์กลมๆ มาส่งให้ตั้งหลายรูป ข้าวตูยกมือแตะคางตัวเอง อีกไม่กี่วันจะได้ไปเจอเขาแล้ว ถ้าเป็นสิวที่อื่นอีก ปอร์เช่จะหารูปมาแหย่อีกมั้ย

ถ้าปอร์เช่ชอบพระจันทร์ ก็คงกำลังดูอยู่เหมือนกัน ขอให้ฝันเห็นข้อสอบด้วยเถิด เพี้ยงงงงง

สอบเสร็จสักที เพื่อนชวนไปปาร์ตี้ แต่ปอร์เช่บอกเพื่อนว่า ไม่ได้ นัดแน่ไว้ กลับถึงบ้าน เจอหน้าแม่ก็รีบถาม แม่เตรียมอะไรไว้สอนข้าวตู

"ไม่ได้เตรียม เตรียมทำไม"

"ก็แม่ชวนข้าวตูมาช่วยทำขนม"

"ก็แม่ยังไม่รู้เลยว่า จะมาวันไหนข้าวตูบอกเช่รึเปล่าลูก" ยายหน้ากลม สอบเสร็จก่อนเขาตั้ง 2 วัน ไหนว่าปิดเทอมแล้วจะมา ไม่รักษาคำพูดเลย

"แม่นัดเขา เขาต้องบอกแม่สิ จะมาบอกเช่ทำไม"

"อืม นั่นสิ ข้าวตูนัดแม่ ก็ต้องบอกแม่ แล้วเช่อยากรู้ทำไม" แม่ทำตาเจ้าเล่ห์ใส่เขาอีกแล้ว บ้าชะมัด

"อ่ะ อ่ะ งั้นไปถามให้หน่อย บอกว่าแม่ฝากถาม" แม่ยังยิ้มไม่เลิก มองเขาเหมือนรู้ทัน รู้อะไรก็ไม่รู้

"แม่เป็นคนชวน แม่ก็ถามเองดิครับ"

"แม่ถาม ข้าวตูก็ไม่รู้น่ะสิว่าเช่อยากให้มา  พรุ่งนี้นะ 10 โมง ขนมปังกรอบเนยกระเทียม ของโปรดของลูก" แม่พูดรวดเดียว แล้วก็เดินกลับเข้าไปในครัว ไม่สนใจฟังเลยว่า เขาไม่ได้อยากให้มาสักหน่อย

เสียงหัวใจเต้นอยู่ในอก ดังพอๆ กับเสียงรอสาย ดัง 3 ทีไม่รับ จะวางแล้วนะ แค่ทำตามคำสั่งแม่ ไม่ได้อยากทำเองสักหน่อย

"ฮัลโหล ปอร์เช่ เราปิดเทอมแล้วนะ แต่เชนบอกว่านายสอบเสร็จหลังโรงเรียนเรา ป้าอรณีก็บอกว่า ค่อยให้นายมาบอก จะได้ช่วยกันทำขนม พรุ่งนี้ไปได้มั้ย" แค่ได้ยินเสียงคำแรก กลิ่นน้ำใบเตยก็ลอยมา ปอร์เช่เห็นเงาตัวเองในกระจก กำลังอมยิ้ม แต่พอได้ยินชื่อเชน ปอร์เช่ก็หันหลังให้กระจก อยากรู้เรื่องเขา ไปถามเชนทำไม แม่ก็อีกคน

"แม่บอกให้มาพรุ่งนี้ 10 โมง อย่าเลท มากินข้าวเที่ยงที่นี่ แค่นี้นะ"

ข้าวตูกำลังจะตอบ ปอร์เช่ก็กดตัดสายไปแล้ว ข้าวตูพูดอะไรผิดอีกเหรอเนี่ย โทร.มาชวน หรือมาออกคำสั่ง แต่ก็ช่างเถอะ แค่ป้าอรณีอยากให้ข้าวตูไปก็พอแล้ว ข้าวตูรีบไปบอกแม่ ขอไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านปอร์เช่

"ปอร์เช่โทร.มาชวนเหรอลูก"

"เสียงดุขนาดนั้น น่าจะเรียกว่า โทร.มาสั่งมากกว่าค่ะ ป้าอรณีชวนไปทำขนมตั้งแต่ที่ไปวันก่อนแล้วค่ะ แต่ข้าวตูขอไปตอนปิดเทอม" ถ้าห้ามก็คงเสียใจ ลูกสาวแม่ แค่ได้ยินเสียง พูดกันไม่กี่คำ แววตายังวิบวับขนาดนี้

"งั้น พรุ่งนี้แม่ทำกับข้าวเอาไปบ้านเขาด้วยนะ ไปกินของเขาอย่างเดียว มันน่าเกลียด"

"ขอบคุณนะคะแม่ ข้าวตูไปเก็บใบเตยก่อนนะคะ คราวที่แล้ว ต้มน้ำใบเตยไป ปอร์เช่กินหมดกระติกเลยค่ะ" พูดจบ ข้าวตูก็กึ่งกระโดดกึ่งวิ่งอย่างร่าเริงไปที่สวนหลังบ้าน

สงสัยต้องหาโอกาส เชิญทั้งแม่ทั้งลูกมากินข้าวที่นี่บ้าง ท่าทางจะฉุดไม่อยู่ ยังดีที่รู้ว่าควรทำอะไรอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ก็คงไม่มีอะไรอันตราย

ข้าวตูไปถึงบ้านปอร์เช่ตรงเวลาเป๊ะ แต่คนที่มาเปิดประตูให้ คือ ป้าอรณี ป้าบอกว่าปอร์เช่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ ทำยังกับจะไปเดินพรมแดง

"แม่ฝากหมูแดดเดียวกับน้ำพริกมาให้ค่ะ แม่บอกว่า ไปกินข้าวบ้านคนอื่น อย่าไปมือเปล่า มันน่าเกลียด"

"ข้าวตูจะอยู่กินข้าวเที่ยงที่นี่เหรอ" ป้าอรณีดูงงๆ ข้าวตูก็งงเหมือนกัน

"ค่ะ ก็ปอร์เช่บอกว่า ป้าให้มา 10 โมง มากินข้าวเที่ยงที่นี่ แม่เลยให้เอากับข้าวมา หนูเอาน้ำใบเตยมาด้วยนะคะ" ข้าวตูยกถุงใส่ขวดน้ำให้ดู

"อ้อ ตามนั้นจ้ะ มา เอาของมาไว้ในครัวก่อน" เฮ้อ ลูกชายฉัน แล้วบอกไม่อยากเจอ

ข้าวตูตามป้าอรณีมาที่โต๊ะกินข้าว ก็เห็นปอร์เช่แต่งตัวหล่อ นั่งรออยู่แล้ว

"ข้าวตูเขาเอากับข้าวมากินมื้อเที่ยงที่นี่ ตามที่ลูกบอกแล้วนะ" ป้าอรณีพูดยิ้มๆ สวนทางกับปอร์เช่ที่ทำตาดุ แต่ป้าอรณีกลับยิ่งหัวเราะ

"มา ข้าวตู นั่งนี่ ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว เอาเนยกระเทียมทาขนมปัง แบบนี้นะ บางๆ หนาไม่เอานะ ปอร์เช่บอกว่ามันฉุนเกิน ทำได้มั้ย" ข้าวตูพยักหน้ารับ ปอร์เช่ยังนั่งทำหน้านิ่ง เป็นอะไรของเขา

"เสร็จแล้วก็เรียงลงถาด เต็มถาดแล้วยกไปให้ป้าในครัวนะ จะได้เอาเข้าเตาอบ" ข้าวตูมองแถวขนมปังกับเนยกระเทียมเต็มถ้วยใหญ่ ทาบางๆ แบบนั้น เมื่อไหร่เนยจะหมดถ้วย

"เช่ ข้าวตูต้มน้ำใบเตยมาให้ แต่น้ำแข็งน่าจะไม่พอ เอากระติกไปซื้อมาเพิ่มหน่อย" ป้าอรณีสั่งเสียงธรรมดา แต่ปอร์เช่เรียก แม่ เสียงสูง

"ก็ต้องกินกันถึงมื้อเที่ยงด้วย มันก็ไม่พอไง ออกไปซื้อมาก่อน แม่เฝ้าให้ ข้าวตูไม่หายไปไหนหรอกน่า"

"ทำไมต้องกลัวหนูหายคะ กลัวไม่มีคนช่วยเหรอคะ" ข้าวตูถาม ป้าอรณีเอาแต่ยิ้ม ส่วนปอร์เช่ก็ยังทำหน้าดุเหมือนเดิม เพิ่มเติมมาคือรอยแดงๆ ที่แก้ม

ข้าวตูค่อยๆ บรรจงปาดเนยกระเทียมลงบนแผ่นขนมปัง ป้าบอกให้ปาดตรงของให้เรียบร้อย อย่าให้เนื้อกระเทียมล้นขอบ มันไม่สวย อย่าให้หนา เพราะปอร์เช่ไม่ชอบ แค่ไหนถึงจะพอดีน้าาาาา

"ทำช้าขนาดนั้น เมื่อไหร่จะได้กิน" ปอร์เช่วางแก้วน้ำใบเตยใส่น้ำแข็งไว้ทางซ้าย แล้วเดินอ้อมมานั่งข้างข้าวตู ดึงถาดมาดู

"เธอชอบกระเทียมกองๆ แบบนี้เหรอ ผมชอบให้มันติดทั่วๆ" แล้วเขาก็หยิบขนมปังมาปาดเนยลงไป

"นี่ เกลี่ยให้ทั่วๆ แบบนี้ บางๆ" ปอร์เช่ไม่ทำหน้าดุแล้ว แก้มไม่แดงแล้ว หล่อจัง

"เดี๋ยวต้องเอาไปอบให้กรอบ รอให้เย็น แล้วถึงจะแพคใส่ถุงได้ เลิกมองผม แล้วก็รีบทำ  เดี๋ยวแม่ผมไม่มีขนมไปส่ง" สายตาเขาจดอยู่กับขนมปังในมือ ยังจะเห็นอีกว่าข้าวตูกำลังมอง

"พรุ่งนี้ก็คงไม่เสร็จหรอก ทาเนยซ้ำทำไม ดูสิ ของนายยังไม่ได้สักชิ้นเลย มารีบคนอื่น" ข้าวตูหยิบขนมปังชิ้นใหม่ขึ้นมา ปอร์เช่วางชิ้นในมือลงในถาด ตักเนยโปะใส่ชิ้นในมือข้าวตู  เสียงข้าวตูวี้ดเพราะเนยเกือบตก  ตามด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนานของปอร์เช่  แต่ข้าวตูหน้าหงิก

"ใครให้เอาของกินมาเล่น นิสัยเสีย"

แม่ยืนขำกิ๊ก มองจากข้างหลังอยู่ตรงนี้ ไม่เห็นสีหน้า แต่เห็นว่า เจ้าลูกชาย เลื่อนจานกล้วยกรอบไปใกล้สาว หยิบขนมปังมาปาดเนย ถามสาวว่าดูหนังเรื่องนี้เหรือยัง ก่อนหน้านี้เห็น ดุเอา ดุเอา โดนดุกลับทีเดียว ยอมซะแล้ว

ข้าวตูกลับบ้านไปนานแล้ว ปอร์เช่ยังช่วยแม่แพคขนมไม่เสร็จเลย มันใช่งานผู้ชายที่ไหน ต้องค่อยๆ หยิบขนมชิ้นบางกรอบ แตกง่าย เรียงลงถุง วางรอไว้ให้แม่มาปิดปากถุงอีกที ข้าวตูบอกว่า งานนี้น่าจะสนุกกว่าทาเนย สนุกกว่าแกล้งเขาด้วยมั้ยนะ คิดถึงแล้วก็ขำ แก้มป่องยังกับปลาทอง ตอนเขาตักน้ำพริกให้ แล้วตักแกงจืดราดทับ ข้าวตูเลยหยิบหมูแดดเดียวใส่จานเขา แล้วตักน้ำแกงเขียวหวานราดจนชุ่ม

ข้าวตูส่งถุงขนมปังกรอบให้แม่ เล่าให้ฟังว่าป้าอรณีทำขนมเยอะมากตอนกลับมาก็ยังแพคไม่เสร็จ ขออนุญาตไปบ้านปอร์เช่อีกวันมะรืน ป้าอรณีจะทำลูกชุบ

"คุณอรณีเขาอยู่ด้วยตลอดมั้ยลูก"

"ก็อยู่นะคะ ป้าอยู่ในครัว ข้าวตูกับปอร์เช่ช่วยกันทำขนมที่โต๊ะกินข้าว ป้าอรณีทำแกงเขียวหวานให้กินด้วยค่ะ"

"ปอร์เช่ทำขนมเป็นเหรอ"

"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ป้าอรณีกวนเนยกระเทียมไว้ให้แล้ว แค่ช่วยกันเอามาทาขนมปัง ปอร์เช่คุยเก่งจังค่ะแม่ ทีแรกนึกว่าจะดุเป็นอย่างเดียว"

แม่ถามว่าคุยอะไรกัน ข้าวตูค่อยๆ นึกแล้วก็เล่า เสียงลูกสาว เล่าไปหัวเราะไป แววตาสดใส ไปอยู่ใกล้กันอย่างนั้น ถึงปอร์เช่จะดูไม่รุ่มร่าม แต่จะไว้ใจไปได้ถึงแค่ไหน  ถึงแม่เขาอยู่ด้วย แต่จะรวมหัวกับลูกชายหรือเปล่า

ร้อนใจจนต้องโทร.ไปถาม ทางนั้นบอกว่าปอร์เช่ท่าทางจะชอบข้าวตูจริงๆ เป็นแม่เหมือนกัน เข้าใจอารมณ์แม่ ถึงได้อยากให้ข้าวตูมาหา จะได้เห็นว่าสองคนนี้เขาเป็นยังไงกัน ย้ำว่าเข้าใจความเป็นห่วงของคนเป็นแม่ จะคอยดูไม่ให้เกิดเรื่องเสียหาย แม่ก็ได้แต่ขอบคุณ และภาวนาขออย่าให้มีอะไรจริงๆ ก่อนออกจากบ้าน แม่ก็เลยย้ำ ข้าวตูเป็นของรักของแม่ อย่าไปเป็นของเล่นของใครนะลูก

ป้าอรณีอัดถั่วกวนใส่ในพิมพ์จนออกมาเป็นทรงผลไม้หลายชนิด เอาออกมาเสียบไม้ แล้วปักไว้บนฐานโฟม ตอนข้าวตูไปถึง ก็เห็นมีแบบนี้อยู่หลายฐาน แล้วยังมีแผ่นโฟมว่างๆ วางอยู่บนโต๊ะใกล้กัน ป้าอรณีบอกให้ข้าวตูผสมสีใส่ถ้วยเล็ก เอาไว้ไปทาถั่วกวนรูปผลไม้ ให้มีสีสันน่ากินเหมือนของจริง ปอร์เช่มายืนดูเฉยๆ แล้วก็หายไป กลับมาอีกที มีจานใส่คุกกี้กับน้ำเก๊กฮวยมาวางข้างข้าวตู หยิบพู่กันจุ่มสีแดงทาลงบนถั่วกวนลูกกลมๆ ให้ดูเหมือนลูกเชอร์รี่ แล้วก็เอาไปปักไว้บนโฟมที่ว่าง ปอร์เช่บอกว่า ต้องรอให้สีแห้ง ถึงจะเอาไปชุบวุ้นได้

"เธอเล่าเรื่องผมให้ฟังหน่อยสิ" ข้าวตูชะงักมือที่กำลังระบายสี หันไปมองปอร์เช่ วันนี้ปล่อยผมปรกหน้าผาก น่ารักไม่ไหว

"ให้เราเล่าเรื่องนาย ให้นายฟังเนี่ยนะ ไม่สบายเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า" ข้าวตูหัวเราะลั่น แต่ปอร์เช่ไม่ขำตาม

"ก็เธอเขียนว่า ไปดูผมมาตั้งหลายงาน" ปอร์เช่ทาสีแดงลงบนถั่วกวนรูปมะม่วง

"มะม่วงพันธุ์อะไรสีแดง ไม่เห็นเคยเห็นเลย นายดูจริงจังมากเลยตอนอยู่บนเวที เท่จนลืมดูคนอื่นไปเลยแหละ......"

ข้าวตูคงชอบระบายสี แผ่นโฟมตรงหน้า มีไม้ปักอยู่หลายอันแล้ว ข้าวตูเล่าเรื่องเขาไป หัวเราะไปด้วย ยิ้มไปด้วย สลับกับถามเขาว่า สีนี้สวยมั้ย ลูกกลมๆ นี่ ระบายเป็นลูกกวาดได้มั้ย ข้าวตูกำลังสนุกกับงานตรงหน้า ไม่ได้หันมามองเขาเลย ยายหน้ากลม หัวเราะจนเหมือนมีดาวส่องประกายทะลุออกมาจากตา หัวเราะจนแก้มเป็นสีชมพู ลมพัดผมปลิวมาระข้างแก้ม ปอร์เช่เขี่ยผมออก แตะจมูกลงบนแก้มนวล

กลิ่นอะไรนะ แป้งหรือสบู่ หรือไม่ใช่ หอมเข้าไปถึงในใจ

ข้าวตูหันไปมอง หน้าปอร์เช่อยู่ใกล้จนเห็นแนวขนตา เมื่อกี๊อะไร ความรู้สึกอุ่นๆ ที่ทำให้วาบหวาม เสียวลงไปถึงท้องน้อย ปอร์เช่เหมือนจะถอย ข้าวตูนั่งตัวแข็ง ปอร์เช่ยื่นหน้าเข้ามา จมูกอยู่แค่นี้ ริมฝีปากอยู่แค่นี้ สัมผัสนั้นจะอุ่นแค่ไหน ของรักของแม่ ไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่ของเล่น  สัมผัสชื้นนุ่มอยู่ตรงมุมปาก  ไม่ใช่  ไม่ใช่แบบนี้  ความชื้นนั้นรุกล้ำเข้ามาอีก

"ออกไปนะ!!!" ข้าวตูกรี๊ด ผลักปอร์เช่เต็มแรง ของรักของแม่ ของรักของแม่ ไม่ใช่ของเล่นของใคร น้ำตาเต็มตาจนเห็นอะไรพร่าไปหมด ข้าวตูแค่ชอบ ข้าวตูไม่ได้ง่าย หันหลังวิ่งออกจากบ้าน คนบ้า คนบ้า

"เธอ ผม ข้าวตู!!!!" ปอร์เช่ตะโกนสุดเสียง แต่ข้าวตูไม่หยุดวิ่ง เขาทำได้แค่วิ่งตามไปจนเห็นข้าวตูวิ่งเข้าบ้าน อยากตามไป แต่จะไปพูดอะไร ปอร์เช่ยกมือปิดหน้าตัวเอง เมื่อกี๊ทำอะไรลงไป ทำไปได้ยังไง แล้วทำไมต้องตกใจขนาดนั้น ก็แค่จูบ ใครๆ เขาก็ทำกัน

แต่นี่ไม่ใช่ ใครๆ ถ้าข้าวตูโกรธ จะทำยังไง บ้าเอ๊ยยยย




Create Date : 23 กรกฎาคม 2566
Last Update : 23 กรกฎาคม 2566 22:01:39 น. 1 comments
Counter : 418 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณหอมกร

 
 
 
 
เป็นนิยายที่สอนใจเด็กวัยรุ่นได้ดีเชียวค่ะ
พรุ่งนี้มาโหวตนะคะ โควต้าหมดจ้า

 
 

โดย: หอมกร วันที่: 24 กรกฎาคม 2566 เวลา:10:03:43 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com