<<
กันยายน 2566
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
3 กันยายน 2566
 

จีบอยุ่ รู้ยัง - บทที่ 9 พยายาม

ข้าวตูกดดูผลการเรียนตัวเองในมือถือแบบเซ็งๆ อันที่จริง ข้าวตูควรจะดีใจที่เกรดวิชาเลขมันดีขึ้นจากที่เคยได้แค่เกรด 2 มาตลอด มาเป็นเกรด 3 แล้ว เกรดเฉลี่ยก็ดีขึ้นด้วย ข้าวตูทำได้อย่างที่สัญญากับแม่ไว้แล้ว แต่มันก็เหมือนจะจบแล้ว ข้าวตูสัญญากับแม่ แล้วพยายามทำให้ได้ ก็เพราะอยากให้แม่อนุญาตให้ไปดูปอร์เช่ เกรดดีขึ้นก็เพราะปอร์เช่ช่วยติวเลขให้ แต่ต่อไปนี้ ถ้าจะให้ปอร์เช่ติวเลขให้อีก ข้าวตูอาจจะต้องแลกด้วยอะไรที่แม่ไม่อยากให้ข้าวตูทำแน่ๆ

คิดวนไปวนมา สุดท้ายข้าวตูก็ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่เพราะแม่อย่างเดียวหรอก ที่เสียใจอยู่ตอนนี้ ก็เพราะข้าวตูรู้สึกว่าปอร์เช่แค่ฉวยโอกาส ข้าวตูอยากให้คนที่จะมาทำแบบนี้กับข้าวตู ทำด้วยความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ข้าวตูจริงๆ ไม่ใช่แบบนี้ ข้าวตูเห็นปอร์เช่เป็นคนดีมาตลอด แอบจิ้นไปหลายครั้งแล้วด้วยว่า ตอนเขาหอมแก้ม ข้าวตูจะทำท่าให้น่ารักจนเขาอยากหอมแก้มซ้ำเลย แต่ความฝันสลายไปหมดแล้ว

ข้าวตูได้ยินเสียงประตูบ้านเปิดแล้วปิด ปอร์เช่น่าจะกลับไปแล้ว ข้าวตูไม่อยากคุยกับเขาเลย ข้าวตูไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไงดี ถ้าต้องพูดกัน  ข้าวตูรู้สึกว่าเขาไว้ใจไม่ได้ แล้วคำพูดเขา มีอะไรที่ข้าวตูควรเชื่อได้อีก

"ลงไปข้างล่างมั้ยลูก ปอร์เช่กลับไปแล้ว"

ข้าวตูเดินตามแม่ลงมาเงียบๆ ชักเริ่มจะสงสารเด็ก 2 คนนี้ หนุ่มก็มา 3 หนแล้ว สาวก็หนีเข้าห้องทุกที ผ่านมาก็หลายวันแล้ว ถ้าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรให้กัน คงไม่ต่างคนต่างเหี่ยวแบบนี้ นึกอยากช่วยให้ลูกสาวแม่กลับมาร่าเริงเหมือนเดิม แต่จะกลายเป็นส่งเนื้อเข้าปากเสือหรือเปล่า ตั้งแต่วันที่ปอร์เช่มาขอโทษถึงที่บ้าน ก็ยังไม่เคยได้คุยกันจริงจังเลย มาที่บ้าน ก็ถามหาแต่ข้าวตู พอบอกตรงๆ ว่า ข้าวตูยังไม่อยากคุยด้วย ก็เดินคอตกกลับไปทุกที ถ้าจะให้ข้าวตูคุยกับเขาได้ แม่คงต้องเปิดใจคุยกับเขาก่อน

ถ้าเขายังมีใจอยากจะมาง้อข้าวตูอยู่ แม่ก็คงต้องลองดูสักตั้ง

"แม่ถามหน่อยได้มั้ย ข้าวตูหนีทำไมลูก ไม่อยากรู้เหรอ ทำไมเขาทำแบบนั้นกับลูก"

ข้าวตูส่ายหน้า ไม่อยากรู้หรอก ไม่อยากได้ยินเขาบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจ แค่เผลอเพราะข้าวตูไปอยู่ใกล้เขาเอง

ปอร์เช่ค่อยๆ บรรจงวางทาร์ตผลไม้รวมลงกล่อง กว่าจะทำให้ตัวเองพอใจจะเอาไปให้ข้าวตูได้ เขาต้องลงมือทำเป็นครั้งที่ 4 แล้ว  ทั้งที่แม่ก็ช่วยดูช่วยสอน  แต่มันก็ยังออกมา  แห้งไป  แข็งไป  รสชาติไม่ได้  จนเขาอยากจะท้อ  เห็นแม่ทำมันดูง่ายๆ  พอมาทำเองกลายเป็นคนละเรื่อง  แต่แม่บอกว่า  แม่ข้าวตูสั่งทาร์ตผลไม้มาหลายครั้ง  น่าจะเป็นขนมที่ข้าวตูชอบ  เขาอยากให้ข้าวตูกลับมาชอบเขาเหมือนเดิม  เขาเลยต้องพยายาม  จนมันสำเร็จแล้ว  ไม่สวยเท่าที่แม่ทำ  แต่รสชาติมันก็อร่อยใช้ได้แล้ว  หวังว่าข้าวตูจะรับ  จะชอบ  จะยอมคุยด้วย

แม่ถามเขาว่าทำไมต้องพยายามขนาดนี้  ข้าวตูหวงตัวแบบนั้น เขาชอบจริงๆ เหรอ หลังจากคิดมาหลายวัน เขาก็ตอบแม่แบบมั่นใจมากๆ ได้แล้วว่า ชอบจริง หวงตัวก็ดี ไม่ต้องกลัวว่าข้าวตูจะปล่อยให้ใครมายุ่งด้วย

เขาถือขนมกล่องนั้นไปกดออดบ้านข้าวตู แม่ข้าวตูมาเปิดประตูให้ตามเคย และเขาก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมว่า ข้าวตูหนีขึ้นข้างบนไปแล้ว แต่วันนี้เขาจะไม่ยอมกลับไปเฉยๆ แล้ว เขาขอเข้าบ้าน บอกแม่ข้าวตูว่า เขาทำขนมเอง ตั้งใจทำมาขอโทษข้าวตู ที่เขาทำเกินเลยไป ปอร์เช่สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามระงับความตื่นเต้น นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ตัวเองเป็นคนยุคไหน เคยเห็นแต่ในหนังพีเรียด ที่ทำกันแบบนี้ นี่ถ้าเพื่อนรู้ เขาคงโดนล้อ 7 วันไม่จบ

"ผมอยากขอคุยกับข้าวตู คือ...ผมอยากขอ...ขอคบข้าวตูเป็น...เป็นแฟน" เขาเห็นมือตัวเองสั่น เสียงก็แหบหายไปเฉยๆ

วันนี้ปอร์เช่ดูจริงจังกว่าทุกครั้งที่มา เอาเถอะ หนุ่มพากเพียรมาขอแล้ว แม่ก็ตั้งใจจะลองคุยดูอยู่แล้ว ก็เลยอนุญาตให้เข้าบ้าน เรียกให้ไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว จะได้มองหน้ากันได้ตรงๆ ซักถามกันได้ถนัด

"ปอร์เช่รู้จักข้าวตูตั้งแต่เมื่อไหร่ นานหรือยัง"

"ไม่นานครับ เพิ่งรู้จักตอนแม่ให้เอาขนมมาส่งที่นี่ วันนั้นผมแขนเจ็บจนไปซ้อมเต้นไม่ได้ ข้าวตูก็พูดเหมือนรู้ว่าผมเป็นอะไร"

"ปอร์เช่ก็เลยสนใจข้าวตู?"

"ก็...ครับ"

"ข้าวตูมีอะไรน่าสนใจ ลูกสาวน้าไม่ใช่คนสวยนะ"

"ไม่สวย แต่น่ารัก มั่นใจ แล้วก็เป็นตัวเองมากๆ แล้วผมก็...ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับคนอื่น"

คนตอบบีบมือตัวเองแน่น แต่ไม่หลบตา คำพูดก็คงพอจะเชื่อได้

"น้าสอนข้าวตูเองให้ระวังตัว รักษาตัวเอาไว้ให้คนที่เขามีความรู้สึกด้วย และเห็นค่าในตัวเขาจริงๆ วันนั้นเขาถึงได้หนีออกมา น้าขอพูดตรงๆ นะ น้ารู้ว่าข้าวตูก็ชอบปอร์เช่มาก ถ้าเขารู้ว่าปอร์เช่ชอบเขา ทำแบบนั้นกับเขาอีก เขาอาจจะยอมมีอะไรกับปอร์เช่ก็ได้ แต่น้าไม่อยากให้มี"

"ผมไม่ได้อยากคบข้าวตูเพราะเรื่องนั้นอยู่แล้วนะครับ วันนั้นผมไม่ได้ตั้งใจจะทำจริงๆ"

."ไม่ได้ตั้งใจจะไม่ทำด้วย ใช่มัั้ย"

"ก็...ไม่ได้คิดอะไรเลยครับ ผมเผลอจริงๆ"

"แล้วถ้าน้าจะขอว่า อย่าเผลอ ขอให้ตั้งใจว่า จะต้องไม่มีอะไรกับข้าวตู จนกว่าทั้ง 2 คน จะดูแลรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้จริงๆ คิดว่าทำได้มั้ย"

หนุ่มขมวดคิ้ว หน้าเครียด คงไม่ได้เตรียมใจจะมาเจอคำถามนี้ ก็สมัยนี้แล้ว ใครๆ เขาก็มีกันเป็นเรื่องธรรมดา ถุงยางที่ไหนก็มีขาย แค่ป้องกันก็จบแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ลูกสาวแม่ แม่อยากให้ความสัมพันธ์นั้น เกิดขึ้นจากความรัก ไม่ใช่ความล่อลวงของธรรมชาติ

"เอ่อ..ไม่รู้ครับ แต่ว่า ถ้าไม่ให้มีอะไรกับข้าวตู แล้วผมอดไม่ได้ ไปมีอะไรกับคนอื่น มันจะกลายเป็นว่า ผมนอกใจข้าวตูมั้ยครับ" สีหน้าคนถาม บอกความยุ่งยากใจอยู่พอแรง  ไม่ได้นึกไว้ก่อนด้วยว่าจะเจอคำถามนี้  แม่ก็ไม่เคยเป็นผู้ชาย คำว่า อดไม่ได้ นี่ มันมีพลังงานขนาดไหน

"ถ้าปอร์เช่เป็นพ่อของลูกสาว และแฟนเขากำลังถามคำถามนี้กับปอรืเช่ ปอร์เช่จะตอบเขาว่ายังไง" หนุ่มทำหน้าเหมือนโดนต่อยจนมึน นิ่งไปครู่ใหญ่ ถึงได้ตอบ

"ครับ เข้าใจแล้ว แต่ผมไม่อยากโกหก ผมไม่รู้จะทำได้แค่ไหน แต่ก็จะพยายามนะครับ  ทั้งไม่มีอะไรกับข้าวตู  และกับคนอื่นด้วยครับ" สีหน้าคนตอบไม่ได้ดูหนักใจน้อยลงเลย แต่เขาบอกแล้วว่า เขาจะพยายาม ก็ลองให้เขาได้พยายามดูสักหน่อยก็แล้วกัน

"ข้าวตู ปอร์เช่ทำขนมมาให้ ลงไปกินมั้ย"

"เขากลับไปแล้วเหรอคะ ไม่เห็นได้ยินเสียงประตูเลย"

"ยังหรอก เขาขอรอเจอข้าวตู ลงไปคุยกับเขาสักหน่อยดีกว่านะ ถ้าลูกไม่อยากเจอเขาแล้ว ก็บอกไปตรงๆ เขาจะได้ไม่ต้องมาอีก"

ข้าวตูยังนั่งนิ่ง ดูหน้าก็รู้ ถ้าความจริงไม่น่ารัก ก็ไม่ได้อยากรู้

"ไปรู้ให้เคลียร์ ดีกว่าคิดไปเองนะลูก" ถ้าบอกว่าปอร์เช่มาขออะไร ข้าวตูคงรีบวิ่งไปหา ไม่ทำหน้าเศร้าอยู่แบบนี้ แต่อย่าเลย ปล่อยให้ไปคุยกันเองอีกว่า

ข้าวตูนั่งอยู่ตรงหน้าปอร์เช่แล้ว แม่เอาขนมใส่จานมาให้ แล้วก็บอกว่า คุยกันดีๆ แม่อยู่แถวนี้

"ลองชิมหน่อยนะ ผมทำเอง ทำอยู่ตั้งหลายครั้งนะ กว่าผมจะว่ามันโอเค" ข้าวตูมองคนพูดนิ่ง ตรงข้ามกับความรู้สึกในใจที่สลับกันโผล่ขึ้นมาเหมือนตัว Pop Up ทั้งอาย โกรธ ดีใจ เสียใจ อยากรู้ ไม่อยากรู้

"คือ ผมขอโทษ วันนั้นผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมแค่..." ปอร์เช่พูดไม่ทั้นจบ ข้าวตูก็ดีดตัวถอยเต็มแรง จนเก้าอี้ครูดกับพื้นเสียงดังลั่น

"นายไม่ได้หอมเราทีเดียวนะ นายจะจูบเราด้วย ถ้าเราไม่ลุกหนี นายจะไม่ตั้งใจทำอะไรเราต่ออีกมั้ย" ข้าวตูยืนกำหมัด น้ำตาคลอ

"เธอ ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะ ผมตั้งใจ..." ปอร์เช่รีบตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน แต่ข้าวตูก็สวนมาอีกแล้ว

"ตั้งใจอะไร ตั้งใจมาขอโทษ แล้วให้เรากลับไปให้นายเผลอใส่อีกเหรอ"  ข้าวตูถอยหลังห่างออกไปอีก  ข้าวตูไม่ฟังเขาเลย  ไม่สนใจทาร์ตที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวที่กั้นกลางระหว่างเราด้วย

"โอ๊ยยยย ไม่ใช่ เธอฟังผมก่อนได้มั้ย"

"ไม่ใช่อะไร นายไม่ชอบเรา นายไม่มีสิทธิ์มาทำกับเราแบบนั้น" เสียงข้าวตูยังดัง น้ำตายังเต็มตา

"โอ๊ยยยย ไม่ใช่ ยายซื่อบื้อ ผมเผลอก็เพราะผมชอบเธอไง ทำไมไม่รู้อะไรเลย" ปอร์เช่นึกอยากโดดข้ามโต๊ะไปจับตัวไว้จริงๆ ถ้าไม่ฟังแล้วยังเดินหนีไปอีก เมื่อไหร่จะรู้เรื่อง

"นายว่าเราเหรอ  ใครจะไปรู้  ก็นายไม่เคยพูด"  ข้าวตูยังไม่ลดดีกรีความดังของเสียงลงเลย

"ก็ผมทำอะไรไปตั้งเยอะแยะแล้ว  ทำไมเธอไม่เห็น"  ปอร์เช่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะหงุดหงิด  ทำไมต้องให้พูด  รู้เองไม่ได้หรือไง  ปอร์เช่มองข้าวตูก็เห็นคำตอบชัดเจน  ไม่มีทางเลือก

"ผมไม่เคยให้ดินสอใคร ไม่เคยติวเลขให้ใคร ไม่เคยไปส่งใครที่บ้าน ไม่เคยชวนใครมากินข้าวที่บ้านด้วย" ข้าวตูเช็ดน้ำตาแล้วมองเขา เขาบอกตัวเองให้รีบๆ พูด ก่อนข้าวตูจะหนีไปอีก

"สติ๊กเกอร์รูปจันทร์เต็มดวง ผมก็หามาไว้ส่งให้เธอคนเดียว"

"นาย bully เราเหรอ นายว่าหน้าเรากลมเหมือนพระจันทร์เหรอ" เสียงข้าวตูกลับมาขุ่นอีกแล้ว

"ไม่ ไม่  ไม่ใช่นะ ไม่ได้จะล้อ แต่ดวงจันทร์สวยที่สุดตอนเต็มดวงนะ แล้วผมก็เห็นเธอสวยแบบนั้น" ปอร์เช่พูดจบแล้วก็ถอนหายใจ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคิดเลยว่า ตัวเองจะพูดอะไรได้เสี่ยวขนาดนี้

"พระจันทร์เป็นสิวเนี่ยนะ สวย!!" เสียงข้าวตูยังเดือด

"ก็สวยแบบเธอ ไม่ทาแป้ง ไม่แต่งหน้า ไม่ทาปาก เป็นสิวบ้าง ก็...ก็น่ารักดี" ปอร์เช่เพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังก้มหน้าพูดอยู่กับทาร์ต เงยหน้าขึ้นมาเหลือบมอง ก็เห็นข้าวตูยังยืนอยู่ที่เดิม แก้มเป็นสีชมพูจัด

"ผมไม่เคยชอบใครแบบนี้ ผมก็...ไม่รู้ว่าควรทำไง ผมขอโทษนะ" เขาเลื่อนจานใส่ทาร์ตไปใกล้ข้าวตู

"ผมขอให้แม่ช่วยสอน แม่บอกว่าแม่เธอสั่งบ่อย เธอน่าจะชอบ ผมทำเอง ยังไม่ดีเท่าที่แม่ทำ แต่ผมตั้งใจทำมาให้จริงๆ"

."ทำมาให้ทำไม" สมองข้าวตูทำงานช้ามากตอนนี้ มันเพิ่งกรองเอาคำว่า ชอบเธอ เธอสวย น่ารัก ไม่เคยชอบใคร มาอยู่ตะกร้าเดียวกัน

"ก็เอามาขอโทษ แล้วก็...แล้วก็...."

"ข้าวตู๊...อยู่มั้ย" เสียงมอเตอร์ไซค์ เสียงออด และเสียงเรียก ดังขึ้นพร้อมกันมาจากหน้าบ้าน ข้าวตูมองปอร์เช่ รอฟังแต่เขาไม่พูดต่อ ตาบ้าเอ๊ยยยย

"เราเอาของที่ยืมไปทำรายงานมาคืน อ่ะ นี่ ค่ายืมของ" เชนส่งถุงใบใหญ่มาให้พร้อมกับถุงกระดาษใบเล็กพิมพ์ชื่อวาฟเฟิลยี่ห้อดัง

"เราได้ตั๋วหนังฟรีมา 2 ใบ ว่างวันไหนบอกเรานะ ไปด้วยกัน อาทิตย์หน้ามั้ย เรื่องที่ข้าวตูอยากดูเข้าพอดี บอกเวลาเราอีกทีนะ ไปละ" ข้าวตูมองตามหลังไปงงๆ วันนี้เจอแต่คนพูดจาแปลกๆ ปิดประตูแล้วเดินกลับเข้ามาในบ้าน บอกแม่ว่าเชนเอาขนมมาให้ แล้วก็เลยเดินขึ้นห้อง

คนบ้า จะพูดอะไรก็ไม่พูด แล้วจะมาทำไม

ปอร์เช่นอนมองหน้าจอแชทไลน์ด้วยความเซ็ง อยากส่งข้อความไปหา ก็ไม่รู้จะคุยอะไร จะบอกในไลน์ว่าขอเป็นแฟน ก็ไม่รู้ข้าวตูจะยังไง คิดไปคิดมาก็โมโหตัวเอง ทำไมแค่พูด มันยากขนาดนี้ เชนรู้จักบ้านข้าวตู ตั๋วหนังมี 2 ใบ แล้วยังหนังที่ข้าวตุอยากดูอีก แม่ข้าวตูบอกว่า ข้าวตูคงงง คงไม่เคยมีใครบอกว่าชอบที่ข้าวตูเป็นสิว

ปอร์เช่ลงไปรื้อของออกมาทำขนม พรุ่งนี้เขาจะไปหาข้าวตูอีก พรุ่งนี้เขาจะพูด พรุ่งนี้เขาต้องกล้าพูด แม่ข้าวตูบอกว่า ข้าวตูไม่เคยชอบใครมากท่าเขา แฟนคนแรกของข้าวตู ต้องเป็นเขา ข้าวตูจะไปดูหนังกับเชนไม่ได้




Create Date : 03 กันยายน 2566
Last Update : 3 กันยายน 2566 13:00:05 น. 1 comments
Counter : 377 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว

 
 
 
 
กำลังสนุกเชียวค่ะ แต่งได้น่ารักมาก

 
 

โดย: หอมกร วันที่: 3 กันยายน 2566 เวลา:15:43:58 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com