Disrupt ที่กำลังถูกพูดถึงกันมาก สรุปรวมความตามความเข้าใจส่วนตัวได้ว่า การเกิดดการก่อนกวน ขัดขวางทำให้อะไรที่เคยดำเนินหรือเป็นมามานนั้น ผิดไปจากปกติ แล้วสิ่งนั้นก็
เข้ามาเป็น ปกติ เสียเทน
เช่น โทรศัพท์บ้านแบบหมุนๆ disrupt ไปแล้ว ด้วยโทรศัพท์แบบปุ่มกด
ระบบเพจะจเอร์ disrupt ด้วย ระบบส่งข้อความ sms
ง่ายที่สุด ก็ทีวีขาวดำ disrupt ด้วย ทีวีสี
ถ้าเข้าใจแล้ว ก็ควรจะเห็นได้ขัดเจนว่า อะไรที่ได้ถูก disrupt ไปแล้ว ก็ยากที่จะทำให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
ดังนั้น ใครที่บอกว่า เคยปลูกอะไรก็ปลูกไป ราคาไม่ดีไม่เป้นไร รัฐบาลประกันให้เองนี้ เป็นพวกที่ "ซ้ำ" จริงๆ
อยากได้ยิน เขาชูนโยบายว่า จะให้ความรู้แก่ชาวบ้าน จะยกระดับข้าราชการให้มีความรุ้ความสามารถที่จะแนะนำ ปรับเปลี่ยน ทรรศนะคติ วิธีคิด ในการประกอบอาชีพ หรือ อย่างน้อย เป็นที่ปรึกษา หาให้เขาได้ ว่า เขาต้องการความช่วยเหลืออย่างนี้ ควรไปหาจากไหน ถ้าทำได้อย่างนี้ จะมีอะไรมา disrupt ชาวบ้านก็คงจะมี "ภูมิ" พอที่จะปรับตัวให้เข้ากับความปกติใหม่ๆได้โดยไม่เดือดร้อนนัก
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เซียนหุ้นวัยเก๋าชาวอเมริกัน เคยกล่าวไว้ ทำนองว่า สินค้าที่เขาคิดว่า ไม่มีวันถูก disrupt คือ มีดโกนหนวด พิจารณาตาม ก็ถูกของเขา
ประโยชน์ใช้งานมีอยู่เท่าเดิม ไม่เคยมีฟังก์ชั่นเพิ่ม
หน้าตาก็ราวๆนั้น ไม่ได้เปลี่ยนจนจำไม่ได้
มีเครื่องโกนหวดไฟฟ้าออกมา มีดโกนหนวดก็ยังอยู่ในแทบทุกบ้าน
พูดง่ายๆ คือว่า มันก็คือ ของมันต้องมี นะ... แต่...แบบว่า
ไม่โต ไม่ตาย ไม่พัฒนา
คุณอยากเป็น "มีดโกน" จริงๆเหรอ #ไปเลือกตั้ง