ส่วนรุ่นที่ห้องเครื่องใหญ่สุดต้องเป็น เอ็มจี6 ที่วางเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร หัวฉีดมัลติพอยต์ อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า นับว่ามีม้าในคอกน้อยกว่าคู่แข่งในตลาด แม้คอกจะใหญ่กว่าก็ตาม โดยส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Dual Clutch และยังรองรับน้ำมัน E85 ได้เหมือนกับคู่แข่งส่วนใหญ่ ปัจจุบันนอกจากเรื่องของความแรง ค่ายรถยังให้ความสำคัญกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ค่ายรถพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีกำลังแรง หรือ Engine Downsizing ชัดเจนแนวทางนี้เครื่องยนต์อีโคบูสท์ของฟอร์ด และฮอนด้ากับเครื่อง VTEC Turbo ถูกพัฒนามารองรับทิศทางดังกล่าว จะเห็นว่าตามข้อมูลในอีโคสติ๊กเกอร์ ฮอนด้า ซีวิค 1.5 VTEC Turbo มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีที่สุด 5.6 ลิตร/ 100 กม. หรือ 17.85 กม./ลิตร รองลงมาจะเป็นฟอร์ด โฟกัส อีโคบูสท์ และนิสสัน ซิลฟี 1.6 DIG Turbo ขณะที่เอ็มจี6 ที่บล็อกใหญ่สุดกินน้ำมันสูงสุดเช่นกัน 8.1 ลิตร/ 100 กม. (ดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในตารางประกอบ) ในส่วนของเทคโนโลยีและความปลอดภัยเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เรื่องนี้ฟอร์ด โฟกัส อีโคบูสท์ ค่อนข้างโดดเด่นในสิ่งที่เพิ่มเข้ามาอย่างเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างระบบช่วยจอดรถถอยเทียบข้าง และเข้าซองแบบอัตโนมัติ หรือระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ส่วนรุ่นอื่นๆ ติดตั้งมาให้ไม่แตกต่างกันมาก (ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน) โดยนิสสัน ซิลฟี อาจจะด้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ในเรื่องของเทคโนโลยีและความปลอดภัยแต่ก็ไม่มากนัก และดีกว่าเอ็มจี6 ในบางรุ่น หรือที่มีราคาต่ำกว่ามาก
|